Silver Overlord - ตอนที่ 170
170 – แฝงตัวลงมือ
หยานลี่เฉียงถอดเสื้อผ้าทั้งหมดในห้องของเขาออก เขาสวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวและแข วนลูกดอกที่ห่อด้วยผ้าน้ํามันกันน้ําไว้บนร่างกายด้วยเชือกเส้นเล็ก
เขาหยิบมีดสั้นขึ้นมาอีกเล่ม และหลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครสนใจเอี้ยนลี่เฉียงก็เปิดหน้าต่างห ลังห้องของเขาอย่างเงียบๆและปืนออกไปข้างนอก
หน้าต่างสูงจากพื้นดินกว่าสองวาและใต้หน้าต่างนั้นมีเขื่อนหินกว้างหนึ่งจ้าง ถัดจากเขื่อนคือ ทะเลสาบแห่งความยืนยาว หากยืนอยู่ใต้หน้าต่าง จะได้ยินเสียงคนกินและดื่มจากร้านอา หารใกล้เคียง
เอี้ยนลี่เฉียงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วไถลลงไปในน้ําโดยไม่มีคลื่น เหมือนกับปลาไหล จากนั้นเขา ก็พุ่งตัวลงไปใต้น้ําและเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเป้าหมายอยู่ที่ศาลาซึ่งมีไฟสลัวอยู่ในระยะไกล
ในชีวิตก่อนหน้านี้ กีฬาโปรดอย่างหนึ่งของเอี้ยนลี่เฉียงคือการว่ายน้ําและดําน้ําตื้น แม้ว่ามา ตรฐานการว่ายน้ําและดําน้ําตื้นของเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับการแข่งขันระดับมืออาชีพ แต่ในก ลุ่มมือสมัครเล่น เขาก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุด
ในชีวิตก่อนหน้านี้เจี้ยนลี่เฉียงสามารถแหวกว่ายได้ไกลกว่าสี่สิบเมตรด้วยลมหายใจเดียว อ ย่างไรก็ตามวันนี้เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงเงยศีรษะขึ้นเหนือน้ําเพื่อหายใจ เขาก็ห่างออกไปจากที่เดิมสอง ร้อยเมตรแล้ว
หลังจากการฝึกฝน ขาและแขนอันทรงพลังของเขาทําให้เขาเคลื่อนไหวเร็วขึ้นในน้ํา และหลัง จากสวรรค์ประทานพร 3 ครั้งปอดของเขาทําให้เขารู้สึกเหมือนปลาอยู่ในน้ํา
ระยะเวลาที่เขาสามารถอยู่ใต้น้ําได้ในแต่ละลมหายใจทําให้แม้แต่เอี้ยนลี่เฉียงเองก็ยังประห ลาดใจ
ลมกลางคืนพัดผ่านทะเลสาบทําให้เกิดคลื่นลูกเล็กๆ อย่างไรก็ตาม คลื่นเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระ ทบต่อเอี้ยนลี่เฉียงแต่อย่างใด
อันที่จริงเนื่องจากคลื่นเหล่านี้เอี้ยนลี่เฉียงจึงมีโอกาสน้อยที่จะถูกมองเห็นเมื่อเขาเง ยศีรษะขึ้นเหนือน้ําเพื่อเปลี่ยนลมหายใจ ในคืนเช่นนี้
เว้นแต่จะมีใครอยู่ในรัศมีสิบเมตร ถ้าใครเห็นหัวของเอี้ยนลี่เฉียงโผล่ขึ้นมาจากทะเลสาบ พวก เขาจะไม่คิดว่าเป็นคน แต่พวกเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าหัวของเขาเป็นปลาหรือเต่าในทะเลสาบแทน
หลังจากใช้เวลาประมาณสิบนาที เอี้ยนลี่เฉียงก็ขึ้นมาหายใจได้ไม่ถึงสิบครั้งและก็ข้ามทะเลส าบมาถึงน่านน้ําของสวนพลัมแล้ว
ภายในสวนพลัมใกล้ทะเลสาบแห่งความยืนยาว มีห้องใต้หลังคาสูงสี่ชั้น ในเวลานี้ห้องใต้หลัง คาสว่างไสวและเต็มไปด้วยผู้คน
จากภายในห้องใต้หลังคา มีเสียงเครื่องดนตรีแบบดั้งเดิมและเสียงที่กลมกล่อมของหญิงสาวที่ ร้องรําด้วยความสนุกสนาน บางครั้งก็มีเสียงโห่ร้องมาจากทั่วทั้งห้อง
นี่คือสถานที่ที่พลุกพล่านที่สุดในสวนพลัม โรงละครพลัมเป็นสถานที่ในเมืองผิงซีที่นักแสดง ผู้ เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียง รวมถึงกลุ่มบรรดาผู้คนที่ใช้ชีวิตยามราตรีออกมาชุมนุมกัน
ในยุคที่ขาดความบันเทิง การชมการแสดงละครได้กลายเป็นกิจกรรมสันทนาการที่ยิ่งใหญ่ที่ สุดสําหรับคนจํานวนมาก การแสดงและละครภายในโรงละครพลัมทําให้แม้แต่คนที่รวยที่สุดใน เมืองผิงซีก็ยังรีบซื้อตั๋ว โรงละครแน่นทุกคืนแทบไม่มีที่นั่งว่าง
“โอ้ ผู้จัดการหลี่ ท่านได้เก็บที่นั่งสํารองไว้ให้ข้าหรือไม่ ข้ามาที่นี่ทันทีโดยไม่ได้ทานแม้แต่อา หารเย็น จากที่ได้ยินเสียงร้องนั้นอี้เหลียนน้อยออกมาแล้วใช่ไหม…” ชายร่างใหญ่เดิ นตรงไปยังทางเข้าขณะที่ยัดซาลาเปาที่เหลืออยู่ครึ่งก้อนเข้าปากอย่างเร่งรีบ
“นางอยู่บนเวทีแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นต้องรีบแล้ว…” ชายคนนั้นพูด ไม่สนใจแม้แต่จะกินซาลาเปาในมือต่อ เขารีบโยน ซาลาเปาที่เหลือลงทะเลสาบที่อยู่ด้านข้างก่อนจะเช็ดปากแล้วเดินเข้าไปในโรงละคร
ขณะที่เอี้ยนลี่เฉียงกําลังฟังการสนทนาข้างต้น ซาลาเปาขนาดครึ่งฝ่ามือก็ตกลงไปในน้ําห่าง จากที่ที่เขาอยู่ไม่ถึงครึ่งเมตร หยดน้ํากระเซ็นขึ้น และบางส่วนถึงกับกระเด็นมาโดนใบหน้าของ เอี้ยนลี่เฉียง
ในเวลานี้เอี้ยนลี่เฉียงมาถึงใต้ท่าเรือถัดจากโรงละครแล้ว ถัดจากเขาเป็นเสาค้ํายันที่ยืนอยู่ใน น้ํา ส่วนสะพานของท่าเรือทอดยาวข้ามแม่น้ํา ตําแหน่งปัจจุบันของเขาเป็นจุดบอดสําหรับทุกคน ที่ยืนอยู่ด้านบน
เอี้ยนลี่เฉียงอยู่ในน้ํา ไม่เคลื่อนไหว ไม่แม้แต่หายใจ จนกระทั่งเขารู้ว่าสิ่งที่ถูกโยนลงไปในน้ํา นั้นเป็นเพียงซาลาเปาครึ่งก้อน เขาถอนหายใจออกมาหลังจากที่รู้ว่าไม่มีใครค้นพบเขาไอ้เวร!
เอี้ยนลี่เฉียงรอจนกระทั่งไม่มีเสียงจากด้านบนอีกต่อไป ก่อนที่เขาจะเดินตามโค้งของท่าเรือ จมดิ่งลงไปในน้ําและว่ายน้ําไปยังเกาะเล็กๆห่างจากโรงละครพลัมประมาณหนึ่งร้อยเมตร
เกาะเล็กๆนั้นมีขนาดไม่ใหญ่นัก บนเกาะมีศาลาที่ปลูกไม้เลื้อยเพียงแห่งเดียวเท่านั้นในตอนก ลางคืนสถานที่แห่งนี้เงียบสงบอย่างไม่น่าเชื่อ
เอี้ยนลี่เฉียงยังคงอยู่ใต้ท่าเรือในน้ํา ไม่ขยับเขยื้อนรออย่างเงียบๆ
สู่เปยซินและหวังฮ่าวเฟยติดต่อกันมาประมาณครึ่งปีแล้ว ภายในกรอบเวลานี้ ในฐานะผู้หญิง ที่กําลังมีความรัก ตราบใดที่นางอยู่ในเมืองผิงซี สู่เปยซินจะมาที่สวนพลัมในวันที่เจ็ด สิบสี่ ยี่สิบ เอ็ด และยี่สิบแปดของเดือน นางจะใช้ข้ออ้างในการไปโรงละครเพื่อไปพบกับหวังฮ่าวเฟยอย่างลับๆ
นี่คือสิ่งที่เอี้ยนลี่เฉียงค้นพบหลังจาก “การตายครั้งสุดท้าย” ของเขา
วันนี้เป็นวันที่เจ็ดของเดือนโดยบังเอิญ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน และถ้าหวังฮ่าวเฟยยังไม่ รู้ว่าหลู่เปยซินถูกห้ามไม่ให้ออกไปโดยตระกูลลู่ หวังฮ่าวเฟยจะต้องมาที่นี่เพื่อพบกับหลู่เปยซินใน คืนนี้อย่างแน่นอน นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของเขา
เอี้ยนลี่เฉียงไม่รู้จริงๆ ว่าหวังฮ่าวเฟยจะมาจริงๆหรือไม่ แต่ไม่ว่าด้วยวิธีใด มันก็ยังคงเป็นโอก าสและคุ้มค่าที่จะลองถ้ามันไม่สําเร็จ เขาก็จะทําแผนอื่นต่อ
หลังจากผ่านไปประมาณสามสิบนาที เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นเหนือศีรษะของเอี้ยนลี่เฉียงเมื่อได้ฟัง แล้ว เขาก็พบว่ามีคนอยู่ข้างหน้าหนึ่งคน ข้างหลังสองคน รวมทั้งหมดสามคน
“เอาล่ะ พวกเจ้ารอที่นี่ ถ้าสมาชิกคนอื่นๆของตระกูลลู่ตามมาด้วยพวกเจ้าต้องทําตามแผน เดิม”
เสียงนี้เป็นเสียงที่เอี้ยนลี่เฉียงจดจําได้แม้แต่ในความฝัน มันเป็นเสียงของหวังฮ่าเฟยคนนั้น
เมื่อได้ยินเสียงนี้เอี้ยนลี่เฉียงซึ่งยังคงอยู่ในน้ําก็พบว่าร่างกายของตัวเองร้อนรุ่มขึ้นต้องการจะก ระโดดออกไปสังหารฝ่ายตรงข้ามทันที
“นายน้อยไม่ต้องเป็นห่วง เรารู้ว่าต้องทําอย่างไร!” ผู้คุ้มกันทั้งสองตอบด้วยน้ําเสียงที่หยาบก ระด้าง
“วันนี้เราจะไม่ปล่อยให้ใครของตระกูลสู่เข้าสู่ที่นี่อย่างแน่นอน”
“ข้าจะไปเตรียมตัวอยู่ที่เรือลําเล็กๆ เมื่อนางลงไปที่เรือนางจะไม่สามารถหลุดมือของท่านไป ได้”
“ดี ถ้าคืนนี้ไม่มีอะไรผิดพลาดมันจะเป็นคืนสุดท้ายที่พวกเราต้องทําเช่นนี้และพ่อของข้า จะตอบแทนเจ้าอย่างดี”
“ขอบคุณนายน้อย!”
“ไปเถอะเรียกคนมาจัดการต้นไม้ที่นี่และเปลี่ยนเป็นไม้จันทร์หอมแทน ผู้หญิงคนนั้นไม่ชอบ กลิ่นอื่น”
“ตกลง”
เสียงฝีเท้าของผู้คุ้มกันทั้งสองจางหายไปในขณะที่หวังฮ่าวเฟยก้าวขึ้นไปบนเกาะ
เอี้ยนลี่เฉียงสูดลมหายใจอย่างเงียบๆ เมื่อเขาได้ยินการสนทนานี้ในน้ําจากเบื้องล่าง เมื่อได้ฟัง ความหมายของหวังฮ่าวเฟยนั่นแสดงว่าเขาจะเตรียมกับตากไว้ในคืนนี้
หวังฮ่าวเฟยจะพบกับหลู่เปยซินที่นี่และจงใจล่อคนจากตระกูลลู่เข้ามา ภายใต้สถานการณ์ เหล่านั้นลู่เปยซินจะต้องกังวลอย่างแน่นอนและนางไม่ต้องการเผชิญหน้ากับพวกเขาที่นี่
จากนั้นหวังฮ่าวจะจัดเรือลําเล็กเพื่อนําลู่เปยซินออกจากที่นี่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นางพบกับ ใครก็ตามจากตระกูลสู่ ถ้าลู่เปยซินขึ้นเรือนางก็จะตกลงไปในหลุมพรางและไม่สามารถรอดมือของ เขาไปได้
โชคดีที่นายผู้เฒ่าลู่ไม่อนุญาตให้นางออกมา ไม่เช่นนั้นก็ไม่ทราบว่าคืนนี้ชะตากรรมของนางจะ เลวร้ายมากแค่ไหน
ไม่ถึงนาทีต่อมา ขณะที่เอี้ยนลี่เฉียงยังอยู่ในน้ําเขาก็ได้ยินเสียงคู่ฉินที่นุ่มนวลจากศาลา ไม้เลื้อยบนเกาะเล็กๆนั้น เมื่อฟังเสียงภู่ฉิน ดวงตาของเอี้ยนลี่เฉียงก็เย็นลงเรื่อยๆ