Silver Overlord - ตอนที่ 196
196 – ผูกสัมพันธ์กับผู้บัญชาการทหาร
ลูกค้ารายใหญ่ของครอบครัวเอี้ยนลี่เฉียงคือผู้บัญชาการหยิงหยางกงเกี่ยซาน ผู้บัญชาการสูงสุดของทหาร 2,000 นายที่ประจําการอยู่ในมณฑลหวงหลง
ค่ายทหารที่กงเกี่ยซานบัญชาการนั้นรู้จักกันในชื่อค่ายกงซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มกองกําลังติดอาวุธภายใต้สังกัดของสํานักงานผู้ว่าการมณฑลทหารแคว้นผิงซี
ตามระเบียบการทหารของจักรวรรดิฮั่น ตําแหน่งของกองกําลังที่สูงกว่ากองพันสามารถตั้งชื่อตามหัวหน้าเจ้าหน้าที่ได้
เฉียนซูเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กและยศทหารของเขาคือผู้บัญชาการเฟยหยาง กงเกี่ยซานเป็นแม่ทัพใหญ่ของค่ายกงแม้ว่าพวกเขาจะมียศเดียวกัน แต่ยศทหารของเขาก็ยังสูงกว่าของเฉียนในระดับหนึ่ง
ในเขตเช่นเมืองหวงหลงทั้งเฉียนซูและกงเกี่ยซานามารถนับเป็นบุคคลสําคัญที่ตําแหน่งสูงสุดในกองทัพได้ พวกเขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่เฉียนซูได้รับมีดคูกรีที่เอี้ยนลี่เฉียงมอบให้กงเกี่ยซานก็สังเกตเห็นทันที
กงเกี่ยซานลองใช้และสนใจมันอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเขาถามว่ามีดคูกรมาจากไหน เขาก็สั่งมีดหลายร้อยเล่มจากร้านตีเหล็กตระกูลเจี้ยนโดยไม่ลังเลเลยสักนิด
เกี่ยวกับการมาถึงของกงเกี่ยซานไม่ว่าจะเป็นเฉียนซูหรือเอี้ยนลี่เฉียงก็ไม่มีใครกล้าละเลยเขา ช่วงเวลาที่กงเกี่ยซานมาถึงทางเข้าของย่านโรงตีเหล็กบนม้าแรดแรดของเขา
เฉียนซู เอี้ยนเต่ชาง และ เอี้ยนลี่เฉียงต่างก็รอการมาถึงของเขาเพื่อต้อนรับเขาที่ทางเข้าประตูด้วยความเคารพ
กงเกี่ยซานมีรูปร่างที่แข็งแรงและสูงสองเมตร ร่างกายของเขากว้างเป็นสองเท่าของเอี้ยนลี่เฉียง ดังนั้นเมื่อเขาขี่ม้าแรดแรด เขาจึงดูเหมือนภูเขาที่กําลังเคลื่อนที่อย่างแท้จริง
ด้วยโครงสร้างที่เขามี เคราสีดําหนาและเกราะเกล็ดอ่อนบนร่างกายของเขา จะไม่มีใครกล้าที่จะดูถูกเขาอย่างแน่นอน เพียงชําเลืองมองครั้งเดียวใครๆก็สามารถบอกได้ว่าคนผู้นี้คือผู้ที่มีพละกําลังมากมายมหาศาล
สิ่งที่สามารถบรรทุกเขามาได้มีเพียงมาแรดขนาดใหญ่เท่านั้น หากเป็นม้าธรรมดา ม้าตัวนั้นจะไม่สามารถประคองร่างของตัวเองอยู่ได้อย่างแน่นอน
ทหารราวสิบคนบนม้าแรดของพวกเขายืนอยู่ในแนวราบสองแถวหลังกงเกี่ยซาน ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ใกล้ชิดของเขาห้าคนสะพายคันธนูไว้บนหลังในขณะที่คนอื่นๆถือดาบ เกราะของพวกเขาสว่างและชัดเจน พวกเขามีลักษณะที่แข็งแกร่งมาก
เมื่อเห็นกองทหารเหล่านี้มาถึง เอี้ยนลี่เฉียงก็หันไปมองเฉียนซูอย่างมีความหมาย โดยคิดกับตัวเองว่ามันเป็นสิ่งที่ลุงเฉียนได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
ผู้บัญชาการกงคนนี้เป็นคนอวดดีและหยิ่งทะนงจริงๆ คนระดับผู้บัญชาการอย่างเขามีเหตุผลอะไรที่จะต้องนําผู้ติดตามมาอย่างเต็มยศขนาดนี้
ตามปกติแล้วเพียงผู้ติดตาม 4-5 คนเท่านั้นก็พอ แต่ผู้บัญชาการกงคนนี้กลับนําทหารติดเกราะเบาติดตามเขามาด้วยมากกว่า 10 คน ราวกับว่าเขาจะกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้บัญชาการของเมืองนี้
เฉียนซูยิ้มเบาๆขณะที่สบตากับเอี้ยนลี่เฉียง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! พี่เฉียน! สินค้ามาถึงแล้วหรือ? ข้ารอพวกมันอย่างใจจดใจจ่อมานานแล้ว..” กงเกี่ยซานหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ แม้ว่ารูปร่างของเขาจะสูงและแข็งแรง แต่เขาก็คล่องตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
ก่อนที่ก็บหน้าม้าแรดจะหยุดลงเขาก็ใช้ฝ่ามือกดที่ด้านหลังม้าอย่างนุ่มนวล และร่างกายทั้งหมดของเขาได้กระโจนลงจากหลังม้าแรดอย่างแผ่วเบา
“ใช่ พวกมันเพิ่งมาถึง เราจะกล้าปล่อยให้ท่านกงรอได้อย่างไร ฮ่าฮ่าฮ่า..” เฉียนซูส่งเสียงหัวเราะอย่างอบอุ่น จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่เอี้ยนเต่อชาง
“ขอแนะนําคนผู้หนึ่งให้ท่านกงรู้จัก นี่คือศิษย์พี่ของข้าเอี้ยนเต่อชาง มีดพวกนี้ล้วนถูกตีขึ้นที่ร้านช่างตีเหล็กของเขา”
อาจเป็นครั้งแรกที่เอี้ยนเต่ชางได้รับการแนะนําให้กับคนใหญ่คนโตรู้จักดังนั้นเขาจึงรู้สึกอายเล็กน้อย
“เอี้ยนเต่ชางทักทายท่านกง…”
“มีดโค้งเอี้ยน ที่ผู้จัดการเอี้ยนสร้างขึ้นนั้นไม่ธรรมดาและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่เลว ไม่เลวเลย…” กงเกี่ยซานหัวเราะขณะแลกเปลี่ยนคําทักทายตามแบบแผนกับเอี้ยนเต่อชาง.
เอี้ยนลี่เฉียงยืนอยู่ข้างเอี้ยนเต่อชาง อาจเป็นเพราะเลี้ยนลี่เฉียงยังเด็กเกินไปกงเกี่ยซานจึงเพียงชําเลืองมองเขาเล็กน้อยขณะพูดคุยกับเอี้ยนเต่อชาง จากนั้นเขาก็ปฏิบัติต่อเอี้ยนลี่เฉียงราวกับบุคคลล่องหน
“อะแฮ่ม…อะแฮ่ม… ท่านกง นี่คือเอี้ยนลี่เฉียง ลูกชายของผู้จัดการเอี้ยน และหลานชายของข้าด้วย” เฉียนซูแนะนํา
“คํานับท่านกง…” เอี้ยนลี่เฉียงก้าวออกไปแสดงความเคารพต่อกงเกี่ยซาน
แม้ว่าสถานะของกงเกี่ยซานจะสูงกว่าคนอื่นๆในเมืองนี้ แต่เอี้ยนลี่เฉียงได้ผ่านอะไรมามากมายในเมืองผิงซี แม้กระทั่งสังหารลูกชายของผู้ว่าการแคว้นเขาก็ยังทํามาแล้ว
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะให้เกียรติผู้บังคับบัญชาหยิงหยางเขาก็ไม่ได้ถ่อมตัวมากเกินไป ดังนั้นเมื่อเขาแสดงความเคารพต่อกงเกี่ยซานในเวลานี้ ก็เป็นท่าทางการเคารพผู้ที่มีอาวุโสกว่า 1 ขั้นเท่านั้น
ท่าทางของเอี้ยนลี่เฉียงทําให้กงเกี่ยซานเหลือบมองเขาอย่างจริงจังสองครั้ง หลังจากนั้น เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
“เดี๋ยวก่อนเอี้ยนลี่เฉียง… ข้าคิดว่าข้าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน…” หลังจากครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง กงเกี่ยซานจู่ๆก็ตบมือเข้าหากันแล้วตะโกนออกมาว่า
“ใช่แล้ว! ชายหนุ่มในข่าวลือที่ได้รับคําสอนของเทพในความฝัน! เขาเป็นคนที่ถ่ายทอดความรู้ในการรมยาบนสะดือเพื่อช่วยผู้คนที่จมน้ําตายในมณฑลหวงหลงเมื่อไม่กี่เดือนก่อน! ชายหนุ่มคนดังคนนั้นเอง!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เยี่ยมมากที่ท่านกงยังจําได้!” เฉียนซูยิ้ม “หลานชายของข้าค่อนข้างเก่ง เขาอยู่ที่เมืองหวงหลง เมื่อสองสามเดือนก่อน
หลังจากที่เขากลับไปมณฑลชิงไห่เขาก็คว้าอันดับหนึ่งในการสอบเข้าเรียนต่อของสถาบันศิลปะการต่อสู้แคว้นผิงซีประจํามณฑลชิงไห่
ตอนนี้เขาเป็นนักเรียนที่สถาบันศิลปะการต่อสู้ของแคว้นผิงซีตามความเป็นจริงเมื่อสองวันก่อนลี่เฉียงค้นพบว่าครอบครัวของเขากําลังส่งมอบสินค้าให้กับท่านกง ดังนั้นเขาจึงรีบมาที่นี่เพื่อมาแสดงความเคารพท่านกงโดยเฉพาะ ถ้ามีโอกาสในอนาคตท่านกงต้องดูแลหลานชายของข้าด้วย…”
ถ้าเพียงแค่เด็กหนุ่มธรรมดามาต้อนรับเขา กงเกี่ยซานก็คงไม่ใส่ใจ
แต่นี่เป็นชายหนุ่มที่มีข่าวลือว่าได้รับคําสอนแปลกๆจากเทพในฝันอีกทั้งยังมาที่นี่เพื่อมาต้อนรับเขาด้วย นี่จึงเป็นความรู้สึกที่เป็นเกียรติจริงๆ
หลังจากที่เขาฟังเฉียนซูกล่าว กงเกี่ยซานก็ให้ความสําคัญกับเอี้ยนลี่เฉียงทันทีและดวงตาของเขาก็ดูจริงใจ และเป็นมิตรขึ้นเป็นสิบเท่าลี่เฉียงยังเด็กมากแต่กลับสามารถแสดงศักยภาพเช่นนี้ เขาจะมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน ลี่เฉียง หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากลุงในอนาคตเจ้าเอ่ยปากได้อย่างเต็มที่”ขอบคุณท่านกง.. “ฮ่าฮ่าฮ่า ไปกันเถอะ! ไปกันเถอะ! เข้าไปข้างในและดูสินค้ากัน.. “กงเกี่ยซานหัวเราะขณะเดินไปที่ย่านโรงตีเหล็กพร้อมทหารของเขา
เอี้ยนเต่อชางได้ส่งมอบ มีดโค้งเอี้ยนกว่าร้อยเล่มมาที่นี่ นอกจากมีดหนึ่งร้อยเล่มที่กงเกี่ยซานสั่งแล้ว ยังมีอีกสองสามเล่มที่มีลักษณะสวยงามเป็นพิเศษถูกมอบมาเป็นของขวัญอีกด้วย
เอี้ยนเต่อชางใช้พวกมันเป็นของขวัญและมอบของขวัญให้โจวหย่งและคนอื่นๆที่คอยให้ความช่วยเหลือตระกูลเอี้ยน เมื่อได้รับมีดคูกรีของเอี้ยนเต่อชาง โจวหย่งและคนอื่นๆต่างก็แสดงความดีใจออกมา
มีดคูกรีหนึ่งร้อยเล่มบรรจุอยู่ในลังไม่เรียบง่าย มีดกรีแต่ละอันถูกหุ้มด้วยฝึกหนังที่ดูงดงาม ลังไม้เหล่านั้นถูกวางไว้ในห้องรับแขกที่เฉียนซูพักอยู่ ทั้งสี่เดินตรงไปยังห้องพักของเฉียนซู
เมื่อพวกเขามาถึงกงเกี่ยซานสุ่มเปิดลังไม้และหยิบมีดคูกออกมา เขาเอามีดออกจากฝัก ตรวจดูคุณภาพ และชั่งน้ําหนักมีดในมือ
เขาพยักหน้าหลังจากกวัดแกว่งมีดขึ้นไปในอากาศ จากนั้นเขาก็เอามีดกกรีเข้าฝึกแล้วพูดว่า”ไม่เลว ไม่เลว! ฝีมือปราณีตอีกทั้งยังทําด้วยเหล็กคุณภาพดี… “ไม่ต้องสงสัยเลย มีดที่ท่านกงต้องการทั้งหมดถูกสร้างขึ้นภายใต้การดูแลของศิษย์พี่ของข้า พวกเราเกิดมาจากอาจารย์เดียวกัน ดังนั้นฝีมือของเขาต้องไม่ได้กว่าข้าอย่างแน่นอน!“เฉียนซูแสดงความคิดเห็นที่ด้านข้าง” มีดพวกนี้ราคาเท่าไหร่?“กงเกี่ยซานพอใจอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นเขาจึงต้องการจ่ายทันที
เอี้ยนเต่ชางต้องการพูดราคา แต่เอี้ยนลี่เฉียงก็เหลือบมองให้พ่อของเขาหยุดพูดแล้วเขาจึงชิงกล่าวออกไปว่า
“ท่านพ่อบอกว่า มีดของพวกเราได้รับการเหลียวแลจากท่านกงก็นับเป็นเกียรติอย่างมากแล้ว ดังนั้นมีดทั้ง 100 เล่มนี้พวกเราจึงมอบให้เป็นของขวัญแก่ท่านกงโดยไม่คิดมูลค่าแม้แต่เหรียญทองแดงเดียว”
ทันทีที่เอี้ยนลี่เฉียงพูดจบ เอี้ยนเต่อชางก็นิ่งเงียบ ในทางกลับกันเฉียนซูและกงเกี่ยซานกลับตกตะลึงกับคําพูดของเขา
“จะไปได้อย่างไร? ราคาของมีดหนึ่งร้อยเล่มนี้ไม่ใช่เงินเพียงเล็กน้อย..” กงเกี่ยซานตอบทันที
“ทุกคนบอกว่ามันยากที่จะหาคนรู้ใจในโลกนี้ได้ มีดเหล่านี้ขอมอบให้เป็นของขวัญแก่ท่านกง เงินจํานวนเล็กน้อยนี้ไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อพบคนรู้ใจอย่างท่านกง?”
“ดี ดี ดี..” กงเกี่ยซานระเบิดเสียงหัวเราะและพูดว่า “ดี สามครั้ง “ตั้งแต่ที่ลี่เฉียงพูดแบบนี้ ข้าก็ต้องขอยอมรับน้ําใจของเจ้าแล้ว”
หลังจากที่ยกยอกันไปกันมาอยู่นานในที่สุด กงเกี่ยซานก็ถามออกไปด้วยความสงสัยว่า
“ไม่ทราบว่าผู้จัดการเอี้ยนมีแรงบันดาลใจอะไรถึงได้สร้างมีดที่งดงามแบบนี้ขึ้นมาได้?”