Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ตอนที่ 24 ผู้ช่วยที่ได้รับเลือก
ตงป๋อเสวี่ยอิงมองเห็นเตาไฟขนาดใหญ่สีแดงเพลิงแล้วก็รับสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันน่าหวาดหวั่นที่ถาโถมเข้ามาปะทะใบหน้า ม่านตาก็หดเล็กลงอย่างไม่รู้ตัว “สมบัติลับขั้นจักรวาลหรือ นอกจากนี้ยังเกรงว่าจะสูงส่งเป็นอย่างยิ่งในบรรดาสมบัติลับขั้นจักรวาลด้วย” ในที่สุดวิสัยทัศน์ของตนก็มีขีดจำกัด แต่นี่ก็เป็นสมบัติล้ำค่าที่แกร่งกล้าที่สุดที่ตนเคยพบเห็นมา มูลค่าสูงกว่า ‘มุกวารีดำ’ สิบสองเม็ดก่อนหน้านี้อยู่มากโข
“นี่คือ ‘เตาสามขาเพลิงโลกันตร์’” น้ำเสียงแหบแห้งเสียงหนึ่งดังขึ้น
ตงป๋อเสวี่ยอิงหันหน้าไปมอง บริเวณส่วนลึกของโถงทางเดินไกลออกไปก็มีบุรุษชุดดำร่างกายง่อนแง่นคนหนึ่งเดินเข้ามา นัยน์ตาเยียบเย็นของบุรุษร่างง่อนแง่นผู้นี้จ้องมองเตาไฟใหญ่นั้นแล้วเอ่ยต่อไปว่า “ไม่รู้ที่มาที่ไป เป็นสิ่งที่เจ้านายของข้า ‘จักรพรรดิเก้าเมฆา’ ได้รับมาโดยบังเอิญตอนสมัยโลกทิพย์โบราณดั้งเดิม แม้กระทั่งตัวตายและตกต่ำ เจ้านายของข้าก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านความเร้นลับที่แท้จริงของ ‘เตาสามขาเพลิงโลกันตร์’ ได้ แม้กระทั่งชื่อของเตาไฟใหญ่นี้ก็ยังได้รู้มาจากจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้น มัน… ก็คือเหตุผลหลักที่เจ้านายของข้าตกต่ำ”
“หืม” ตงป๋อเสวี่ยอิงตกตะลึง เตาไฟใหญ่นี้คือเหตุผลหลักที่ทำให้จักรพรรดิเก้าเมฆาตกต่ำอย่างนั้นหรือ
“ตั้งแต่ที่จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ล่วงรู้ว่าเจ้านายบ้านข้ามีเตาไฟใหญ่นี้อยู่ก็มาถามหา เขาเอ่ยปากมา เจ้านายบ้านข้าจึงได้รู้ชื่อที่แท้จริงของเตาไฟใหญ่นี้ เห็นได้ชัดว่าจอมเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นรู้ความเป็นมาของเตาไฟใหญ่นี้ ทั้งยังรู้ความเร้นลับของเตาไฟใหญ่นี้อีกด้วย” บุรุษชุดดำร่างกายง่อนแง่นลอบพูดด้วยรอยยิ้มหยัน “น่าเสียดายนัก จอมเทพศักดิ์สิทธิ์โอหังเกินไป! เป็นถึงผู้แกร่งกล้าที่สุดผู้มิอาจโต้แย้งได้ของโลกทิพย์โบราณดั้งเดิมในตอนนั้น เงื่อนไขที่เขาให้เจ้านายบ้านข้าก็ต่ำเกินไปมาก เจ้านายบ้านข้าจะยอมรับปากได้อย่างไรกันเล่า”
“ดังนั้นจอมเทพศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นปฏิปักษ์กับเจ้านายบ้านข้าครั้งแล้วครั้งเล่า”
“ท้ายที่สุดการต่อสู้ในครั้งนั้น…จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ระเบิดพลังยุทธ์ที่มีอยู่ทั้งหมดออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังจงใจเป็นปฏิปักษ์กับเจ้านายบ้านข้า ทำให้เจ้านายบ้านข้าถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง ถึงแม้ว่าจะหลบหนีแต่ก็ตกต่ำไปอย่างรวดเร็วยิ่ง” น้ำเสียงแหบพร่าของบุรุษชุดดำแฝงไว้ด้วยความชิงชัง “เสียดาย ช่างน่าเสียดายนัก จอมเทพศักดิ์สิทธิ์อยากได้เตาไฟใหญ่มาครอบครองมาโดยตลอด แต่ตลอดมาก็ไม่เคยได้สักที”
ตงป๋อเสวี่ยอิงฟังจนหัวใจขมวดแน่น
จอมเทพศักดิ์สิทธิ์…
ถึงแม้จะดูเหมือนว่าบรรดาสิ่งมีชีวิตขั้นสุดยอดต่างก็มีความแค้นกับเขากันทั้งสิ้น แต่เขาก็ยังคงเป็นผู้ที่เปล่งประกายจับตาที่สุดเช่นเดิม ยืนอยู่ตรงจุดสูงสุดแล้วมองลงมายังสิ่งมีชีวิตขั้นสุดยอดอื่นๆ ทั้งหมด!
เขาผูกขาด ‘โลกทิพย์โบราณ’ ที่แข็งแกร่งที่สุดในมหาโลกทิพย์ทั้งห้า ลำพังแค่พละกำลังของตัวเองก็ทำให้อีกสามโลกทิพย์อื่นๆ ร่วมมือด้วยได้แล้ว สำหรับจอมมารดานั้นแม้ว่าจะก่อตั้ง ‘ลัทธิจอมมารดา’ ขึ้นมาเช่นกัน พูดถึงพลังยุทธ์ก็จัดอยู่ในสามลำดับแรกได้ แต่กลับไม่สามารถเทียบกับจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ได้เลย
จอมเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตขั้นสุดยอดอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง
“ความแค้นของจอมเทพศักดิ์สิทธิ์และจักรพรรดิเก้าเมฆา ก็เพราะจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ต้องการเตาสามขาเพลิงโลกันตร์ชิ้นนี้น่ะหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบพึมพำ “บอกความลับอันยิ่งใหญ่เช่นนี้กับเด็กขั้นรวมเป็นหนึ่งเช่นข้าคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ”
สำหรับบรรพชนเทียนอวี๋และจอมกระบี่แห่งวังทวีสูญของตนนั้น พูดถึงพลังยุทธ์แล้วต่างก็อ่อนแอกว่าจักรพรรดิเก้าเมฆา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจอมเทพศักดิ์สิทธิ์เลย
อ้างอิงจากข้อมูลที่ตนได้รับมา
พลังยุทธ์ของสิ่งมีชีวิตขั้นสุดยอดแบ่งออกเป็นหลายระดับชั้น
จอมเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นชั้นที่หนึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างไร้ซึ่งข้อกังขา
ถัดมาคือจอมมารดา บรรพชนโลกา บรรพชนทิพย์ ราชันย์มีด และท่านบรรพชนคีรีมาร ระดับนี้เพียงไม่กี่คน นับว่าเป็นชั้นที่สอง และจักรพรรดิเก้าเมฆาที่ตกต่ำลงมาก็เป็นชั้นที่สองนี้ด้วย
เทพจักรวาลคนอื่นๆ อีกมากมาย เช่นบรรพชนเทียนอวี๋ จอมกระบี่ บรรพชนห้วงอากาศ บรรพชนกู่ และบรรพชนกฎฉุนอี ซึ่งเป็นเทพจักรวาลส่วนใหญ่ ต่างก็เป็นชั้นที่สาม!
ในบรรดานี้มีอยู่คนหนึ่งที่ค่อนข้างพิเศษก็คือประมุขหอหมื่นโลกา! เพราะมีร่างแยกจำนวนนับไม่ถ้วน ผู้ใดก็มิอาจสังหารเขาได้ ผู้ใดก็ล้วนมิอยากเป็นปฏิปักษ์ต่อเขา นับได้ว่าเป็นเทพจักรวาลที่พิเศษที่สุด
“รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงบอกเรื่องเหล่านี้กับเจ้า” บุรุษชุดดำร่างกายง่อนแง่น นัยน์ตาอันเย็นชาจ้องมองตงป๋อเสวี่ยอิง ในน้ำเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยแววอาฆาตแค้น “ก็เพราะผู้ที่เจ้านายชิงชังที่สุดก็คือจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ว่าจะสิ้นชีพ เขาก็จะต้องจัดการจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ให้จงได้”
ตงป๋อเสวี่ยอิงมองออกได้อย่างรางๆ ว่าบุรุษชุดดำผู้นี้คงจะเป็นสิ่งมีชีวิตหุ่นเชิด
สิ่งมีชีวิตหุ่นเชิดยังเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นถึงเพียงนี้ ก็สามารถมองเห็นความเกลียดชังที่จักรพรรดิเก้าเมฆา เจ้านายของมันมีต่อจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ได้เลย
“เจ้านายสิ้นชีพเสียแล้ว ก็ต้องการคนรุ่นหลังมาช่วยเหลือเขา” บุรุษชุดดำพูด “และเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย”
“ข้าน่ะหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงตกใจ “ให้ข้าไปจัดการจอมเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ ผู้อาวุโส ท่านยกยอข้าเกินไปแล้วกระมัง”
นั่นคือจอมเทพศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ!
ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตขั้นสุดยอดทั้งหมดจะมีความแค้นกับเขา แต่เขาก็ยังเป็นบุคคลที่อยู่อย่างเจิดจรัสที่สุด ต่อให้มีความมั่นใจในตนเองมากยิ่งกว่านี้ หรือแม้กระทั่งเคยคิดว่าต้องมีสักวันหนึ่งที่ตนจะสามารถกลายเป็นสิ่งมีชีวิตขั้นสุดยอดได้ แต่ก็ไม่กล้าคิดว่าตนจะมีปัญญาจัดการจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ได้! แม้กระทั่งจอมมารดา ประมุขโลก และบรรพชนทิพย์ พวกเขาหลายคนนั้นก็ยังทำมิได้เลย
“เจ้าคนเดียวย่อมทำมิได้แน่นอนอยู่แล้ว เจ้าเป็นเพียงแค่หนึ่งในหลายคนเท่านั้นเอง”
บุรุษชุดดำหัวเราะเย้ยหยันเสียงแหบแห้ง “ขุมทรัพย์ที่เจ้านายเหลือทิ้งเอาไว้ใน เจ้าคิดว่าเพื่ออะไรกันเล่า เพื่อกระจายสมบัติล้ำค่าจำนวนนับไม่ถ้วนออกไปจริงๆ น่ะหรือ เจ้าผิดแล้วล่ะ! เจดีย์เทพขุมทรัพย์ชั้นที่หนึ่งชั้นที่สองล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าที่ธรรมดายิ่งนัก สำหรับเจ้านายแล้วมิอาจนับเป็นประเด็นได้เลย มีไว้ก็เพื่อดึงดูดผู้แกร่งกล้าจากโลกภายนอกเท่านั้นเอง”
“ส่วนเจดีย์เทพขุมทรัพย์ชั้นที่สามต่างหากเล่าที่เป็นกุญแจสำคัญ อันที่จริงแล้วชั้นที่สามที่มีขุมทรัพย์สิบหกแห่งล้วนต้องถูกส่งมาที่นี่ ที่มิติที่ชั้นที่สามนี้ตั้งอยู่” บุรุษชุดดำเอ่ยอย่างสบายๆ “เป็นเพียงแค่โถงตำหนักสิบหกแห่งของวังในการบำเพ็ญแห่งนี้ของเจ้านายเท่านั้นเอง”
“สมบัติล้ำค่าภายในโถงตำหนักสิบหกแห่งนั้นล้วนล้ำค่าเป็นที่สุด”
“ถึงแม้ว่าขั้นอลวนธรรมดาทั่วไปจะสามารถเข้ามาได้ แต่ว่าโดยทั่วไปแล้วล้วนไม่สามารถนำไปได้! ถ้าไม่เป็นขั้นอลวนที่มีพลังยุทธ์กล้าแกร่งเป็นที่สุด ก็เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในด้านใดด้านหนึ่ง” บุรุษชุดดำพูด “พวกเขาสามารถฉกฉวบเอาสมบัติล้ำค่าในชั้นที่สามไปได้ ก็คือ ‘ผู้ช่วย’ ที่ถูกเจ้านายเลือก สำหรับเจ้าน่ะหรือ ก็คือหนึ่งในบรรดาผู้ช่วยอย่างไรเล่า”
ตงป๋อเสวี่ยอิงฉงนสงสัย “ก่อนหน้านี้ภายในโถงตำหนัก ข้ามิได้ฉกฉวยเอาสมบัติล้ำค่าไปเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ก็มีคุณสมบัติถูกเลือกเป็น ‘ผู้ช่วย’ ได้ด้วยหรือ”
“ข้าต้องใจในศักยภาพของเจ้า” บุรุษชุดดำมองตงป๋อเสวี่ยอิงพลางฉีกยิ้ม แต่ว่ารอยยิ้มช่างชวนให้คนขนลุกยิ่งนัก “ขุมทรัพย์ของเจ้านายข้าอยู่มานานปีถึงเพียงนี้ เจ้าเป็นผู้ที่ข้าเห็นว่ามีศักยภาพในการหยั่งรู้สูงที่สุดในบรรดาผู้ที่เข้ามาเลยทีเดียว! ขั้นอลวนเหล่านั้น บำเพ็ญมาเป็นเวลาเนิ่นนานก็ย่อมเป็นการยากที่จะยกระดับอีก มีบางคนที่กระทั่งสมบัติล้ำค่าในชั้นที่สามก็ยังไม่สามารถเอาไปได้ พลังยุทธ์ต่ำต้อยเกินไป ไม่มีคุณสมบัติพอจะมาเป็นผู้ช่วยหรอก ขั้นอลวนที่สามารถฉกฉวยเอาสมบัติล้ำค่าไปได้จึงจะพอมีประโยชน์อยู่บ้าง”
“สำหรับเจ้านั้นมีศักยภาพในการหยั่งรู้สูงเป็นที่สุด ดังนั้นข้าจึงเลือกเจ้ามาเป็นผู้ช่วย”
บุรุษชุดดำเอ่ยอย่างเย็นชา “ผู้ช่วยที่ได้รับเลือกทั้งหมด เงื่อนไขที่มอบให้พวกเจ้าล้วนเหมือนกันหมด”
“สังหาร ‘ผู้วิเศษ’ ของสำนักทิพย์โบราณได้คนหนึ่งก็จะได้รับสมบัติล้ำค่ามูลค่าหนึ่งหมื่นศิลาปฐมโลกาจากข้า เช่นนี้ยิ่งสังหารได้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้รับสมบัติล้ำค่ามากเท่านั้น”
“สังหาร ‘ผู้วิเศษ’ ของสำนักทิพย์โบราณได้ห้าสิบคน หรือเทพจักรวาลของสำนักทิพย์โบราณ ก็จะยกสมบัติล้ำค่าที่เจ้านายเหลือทิ้งเอาไว้ทั้งหมดให้กับเจ้า”
ตงป๋อเสวี่ยอิงสะดุ้ง
จนปัญญา
สังหารผู้วิเศษหรือ แล้วผู้วิเศษเป็นใครกัน นั่นคือยักษ์ใหญ่ขั้นอลวนเชียวนะ!
เช่นโลกทิพย์ทะเลสัตตดารา ที่วังทวีสูญมียักษ์ใหญ่ขั้นอลวนสิบสองท่าน ส่วนบรรพคีรีมารและแดนทิพย์เหยากวงก็มียักษ์ใหญ่ขั้นอลวนอยู่ไม่น้อย ยังมียักษ์ใหญ่ขั้นอลวนมากมายที่มิปรารถนาจะหลบภัยในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คำนวณดูแล้วยักษ์ใหญ่ขั้นอลวนทั่วทั้งโลกทิพย์ทะเลสัตตดาราทั้งหมดก็มีอยู่หลายสิบคนปลายๆ ไม่ถึงร้อยคน
“ห้าสิบคน สำหรับสำนักทิพย์โบราณก็นับได้ว่าเป็นความสูญเสียอันใหญ่หลวงแล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยเบาๆ “สำหรับเทพจักรวาลน่ะหรือ จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ล่วงเกินสิ่งมีชีวิตขั้นสุดยอดไปมากมายเหลือเกิน มีเทพจักรวาลเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สวามิภักดิ์กับเขา”
ถ้าหากสามารถกำจัดเทพจักรวาลผู้นี้ได้ ก็นับได้ว่าตัดแขนจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ไปข้างหนึ่งแล้ว
“ข้าสังหารผู้วิเศษไม่ไหวหรอก” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด
“ตอนนี้สังหารไม่ได้ แต่ในอนาคตต้องได้แน่” บุรุษชุดดำพูด “อ้างอิงจากการตัดสินของโลกภายนอกของพวกเจ้า เจ้าก็สามารถสังหาร ‘พลังยุทธ์ระดับชั้นที่ห้าของเจดีย์ดาว’ ของสำนักทิพย์โบราณได้ สิบคนก็เทียบได้กับผู้วิเศษคนหนึ่ง! ถ้าหากสังหารชั้นที่สี่ของเจดีย์ดาวร้อยคนก็เทียบได้กับผู้วิเศษคนหนึ่ง ชดเชยในด้านจำนวนได้ ก็จะได้รับหลายล้านศิลาปฐมโลกาได้เช่นเดียวกัน”
“ยิ่งฆ่ามากก็ยิ่งได้มาก”
นัยน์ตาของบุรุษชุดดำแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่ง “ถ้าหากในท้ายที่สุดแล้วจะสามารถสังหารผู้วิเศษห้าสิบคน หรือสามารถกำจัดเทพจักรวาลผู้นั้นได้ ก็สามารถยกเตาสามขาเพลิงโลกันตร์นี้และสมบัติล้ำค่าอื่นๆ ที่มีอยู่ทั้งหมดให้กับเจ้าได้”
“ท่านเชื่อว่าข้าจะสามารถช่วยเหลือจักรพรรดิเก้าเมฆาได้อย่างแน่นอนเลยหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงถาม
“เคล็ดวิชาลับตรวจพบว่าเจ้ามิใช่สาวกของสำนักทิพย์โบราณ” บุรุษชุดดำเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “ตอนนี้หากมิใช่คนของสำนักทิพย์โบราณ ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นศัตรูกับจอมเทพศักดิ์สิทธิ์กันทั้งสิ้น! นอกจากนี้ ข้าเพียงแค่นำเอาสมบัติล้ำค่ามาให้เจ้าไปจัดการธุระให้เท่านั้น ก็เป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมดี”
“ได้”
ในใจของตงป๋อเสวี่ยอิงก็เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
สมบัติล้ำค่าของขุมทรัพย์ชั้นที่สามย่อมได้มายากอย่างแน่นอน! เพราะว่าถ้าหากสามารถฉกชิงไปได้โดยง่าย เช่นนั้นจะเอาสมบัติล้ำค่าอันใดไปชักจูงบรรดา ‘ผู้ช่วย’ กันเล่า
…………………………………….