Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ตอนที่ 10 ความบังเอิญ
“หนีเร็ว”
“ผาจอมมารหรือ”
“หนี หนีเอาชีวิตรอดสิ…”
ทั่วทั้งเมืองต้านวายุตกอยู่ในความตื่นตระหนกอย่างสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าหัวหน้าทั้งสองของผาจอมมารจะมีอำนาจกล้าแกร่ง ทว่ากฎเกณฑ์ของมหาโลกทิพย์ทั้งห้านั้นก็กดดันอย่างร้ายกาจเกินไป ระยะทางห่างไกล ผู้แกร่งกล้าโดยทั่วไปก็ย่อมเห็นไม่ชัดอยู่แล้ว ก็ย่อมไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น แต่เจ้าเมืองกลับอาศัยการถ่ายเสียงของค่ายกล ส่งเสียงก้องสะท้อนไปทั่วทุกหนแห่ง ทำให้พวกเขาล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ผาจอมมาร มีชื่อเสียงโด่งดังเหลือเกิน
ในบรรดาผู้บำเพ็ญจำนวนนับไม่ถ้วนที่หนีกระจัดกระจาย ตงป๋อเสวี่ยอิงอยู่ท่ามกลางรัศมีสีทองที่แผ่ปกคลุมท้องฟ้าทั่วเมือง แต่กลับยืนอยู่บนถนนห่างจากหัวหน้าทั้งสองของผาจอมมารไปเพียงหมื่นลี้เท่านั้น สายตาของเขาจับอยู๋บนร่างของ ‘จอมมารดำ’ ที่นำหน้าอยู่ผู้นั้น จากนั้นจิตใจก็วูบไหว โลกอนธการมาจากความไร้ซึ่งสรรพสิ่งแล้วห่อหุ้มจอมมารดำผู้นั้นเอาไว้โดยสมบูรณ์
……
จอมมารดำและจ้าวทะเลสาบชี่หูย่อมมิได้เห็นผู้อื่นในเมืองต้านวายุแห่งนี้อยู่ในสายตาอยู่แล้ว เป้าหมายของพวกเขาก็คือเจ้าเมืองต้านวายุเพียงคนเดียวเท่านั้น
“หลบหนีผ่านห้วงอากาศอย่างนั้นหรือ” พอกระตุ้นค่ายกลที่ปกคลุมทั่วทั้งเมือง กลิ่นอายของห้วงอากาศก็ปั่นป่วน เจ้าเมืองต้านวายุก็อาศัยโอกาสนี้หลบนี้ไปในทันที แต่ทว่าจ้าวทะเลสาบชี่หูกลับยิ้มเย็น เขาสามารถฉีกแยกทางเชื่อมมิติออกตอนที่เป็นขั้นรวมเป็นหนึ่งได้ เขาก็สามารถสะกดรอยได้อย่างง่ายดาย! ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเมื่อครู่พวกเขาได้เตรียมสิ่งล้ำค่าหายากเอาไว้แล้วเพื่อการเคลื่อนไหวในครั้งนี้
เมื่อครู่แม้ว่าจะกำลังสนทนาพูดคุย แต่พวกเขาสองคนก็ได้สำแดงสิ่งล้ำค่าหายากเอาไว้ก่อนแล้ว
ประทับตรารอยประทับบนร่างของเจ้าเมืองต้านวายุ!
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเจ้าเมืองต้านวายุจะหนีเอาชีวิตรอดเช่นไร พวกเขาสองคนก็สามารถติดตามไปได้อย่างแน่นอน
“จะต้องได้กระจกศิลามาไว้ในมือให้ได้”
“ตามไป”
จอมมารดำและจ้าวทะเลสาบชี่หูจะเคลื่อนไหวในทันที
แต่ทันใดนั้นเอง
ฟึ่บ!
บริเวณโดยรอบเงียบสงบลงมา โลกอันดำมืดเปลี่ยนจากความว่างเปล่ากลายเป็นความจริงแล้วห่อหุ้มจอมมารดำเอาไว้! ผนังของโลกดำมืดแห่งนี้มีมากกว่าหกร้อยชั้น การซ้อนทับกันของโลกอนธการมากมายเช่นนี้ทำให้กฎเกณฑ์ที่อยู่รอบๆ เริ่มที่จะได้รับผลกระทบ จอมมารดำและจ้าวทะเลสาบชี่หูต่างก็เผยสีหน้าตื่นตระหนก ดวงตาสีแดงโลหิตทั้งสองของจอมมารดำยังเผยแววสงสัยเล็กน้อยอีกด้วย
โครมมม…
โลกอนธการหกร้อยชั้นแหลกสลาย จอมมารดำทนรับพลานุภาพอันน่าหวั่นเกรงนี้เอาไว้อย่างสมบูรณ์
“เป็นเขาหรือ” จ้าวทะเลสาบชี่หูตรวจตราบริเวณโดยรอบมาก่อนแล้ว ทันใดนั้นสายตาก็จับอยู่ที่ชายหนุ่มอาภรณ์ขาวที่อยู่บนถนนห่างออกไปหมื่นลี้ ตงป๋อเสวี่ยอิงก็มองจ้าวทะเลสาบชี่หู สายตาประสานกันจากไกลๆ บนใบหน้าของตงป๋อเสวี่ยอิงยังเผยแววอมยิ้มน้อยๆ สายหนึ่ง “ได้ยินมานานแล้วว่าพลังยุทธ์ของหัวหน้าทั้งสองของผาจอมมารค่อนข้างสูงส่ง มีกลสังหารจำนวนนับไม่ถ้วน คราวนี้ข้ามาศึกษาดูสักครั้ง แล้วระหว่างนั้นก็จะส่งท่านทั้งสองไปสู่ความตายด้วย!”
ตามมาด้วยเสียงคำราม
ร่างของจอมมารดำถูกทำลายไปเป็นส่วนใหญ่ ชุดเกราะล้วนแตกสลาย แต่ในขณะนี้ก็เจริญงอกเงยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กะโหลกศีรษะของเขาก่อร่างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์เหมือนตอนแรก นัยน์ตาสีแดงโลหิตถลึงมองตงป๋อเสวี่ยอิงอย่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “บังอาจยิ่งนัก บังอาจเกินไปแล้ว! การโจมตีเช่นนี้ เกรงว่าเพียงแค่ไม่กี่ครั้งก็สามารถฆ่าข้าตายได้แล้ว”
“หืม ยังไม่ตายอีกหรือนี่” ตงป๋อเสวี่ยอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เพื่อให้ศัตรูหลบหนีมิได้ ตนเองจึงมิได้สำแดงใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์ รวมถึงโลกอนธการหลากชั้น! เพราะหลังจากที่โลกอนธการหลากชั้นเกิดขึ้นมาแล้วก็จะห่อหุ้มศัตรูเอาไว้โดยตรง เป็นกระบวนท่าที่มิอาจหลบหนีได้เลย ส่วนใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์…ถึงแม้ว่าพลังคุกคามจะยิ่งใหญ่กว่านี้อีกหน่อย อีกทั้งยังสามารถสำแดงพร้อมกันได้ถึงสามสาย แต่ใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์นั้นสามารถต้านทานและหลบเลี่ยงได้
อ้างอิงจากการคาดการณ์ของตน โลกอนธการหลากชั้นควรจะสามารถสังหารจอมมารดำได้ภายในคราเดียว
แต่ในความเป็นจริงแล้วการป้องกันของร่างกายอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์เอาไว้อยู่เล็กน้อย
“น้องรอง ร่วมมือกัน!” จอมมารดำเดือดดาลอย่างสมบูรณ์เสียแล้ว
“ได้สิ ฆ่ามัน!” นัยน์ตาของจ้าวทะเลสาบชี่หูก็เต็มไปด้วยแววอาฆาต พวกเขาต่างก็ไม่รีบร้อนที่จะไปไล่ตามเจ้าเมืองต้านวายุ เพราะบนร่างของเจ้าเมืองต้านวายุมีรอยประทับเอาไว้แล้ว พวกเขาตามไปช้าหน่อยก็ยังสามารถสะกดรอยตามไปได้อยู่ดี จัดการคนตรงหน้าเสียก่อนดีกว่า
บริเวณโดยรอบผิวกายของจ้าวทะเลสาบชี่หูมีเส้นสายจำนวนนับไม่ถ้วนลอยออกมา เส้นสายกึ่งโปร่งแสงเหล่านี้เลื้อยพันไปทางตงป๋อเสวี่ยอิงจนหมด ส่วนจอมมารดำนั้นในมือมีมีดใหญ่เล่มหนึ่งปรากฏขึ้นแล้วฟาดฟันอย่างเดือดดาล! ร่างกายที่สามารถต้านทานโลกอนธการหกร้อยชั้นได้ การต่อสู้ประชิดตัวของจอมมารดำก็น่าหวาดเกรงเป็นที่สุด ทั้งยังมีเขตพลังของจ้าวทะเลสาบชี่หูร่วมด้วย…
ยอดฝีมือผู้มีพลังยุทธ์ระดับชั้นที่ห้าของเจดีย์ดาวโดยทั่วไปต่างก็ต้านทานไม่อยู่กันทั้งสิ้น
“เฮอะ”
ตงป๋อเสวี่ยอิงที่อยู่ไกลออกไปส่งเสียงเฮอะอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง เส้นสายจำนวนนับไม่ถ้วนที่ลอยมาเหล่านั้นถูกต้านทานเอาไว้จนสิ้น สำหรับกระบวนท่าเขตพลัง จ้าวทะเลสาบชี่หูใช้วิธีการของทางศาสตร์โบราณ แต่ตงป๋อเสวี่ยอิงกลับเป็นผู้บำเพ็ญที่สำเร็จวิชาแผนภาพคลื่นจาน เมื่อเปรียบเทียบระหว่างสองคนก็เห็นได้ชัดว่าพลังคุกคามของแผนภาพคลื่นจานของตงป๋อเสวี่ยอิงก็ยังเหนือกว่าอยู่เล็กน้อย
จอมมารดำสะดุ้งเล็กน้อย “เป็นไปได้อย่างไรกัน”
ปกติก็มีเขตพลังช่วยเหลือในการสังหารทั่วทิศ ตอนนี้เขตพลังของน้องรองกลับถูกสกัดเสียแล้วหรือ
“ปังๆๆ” ในขณะเดียวกันกับที่ระลอกคลื่นไร้ที่สิ้นสุดอันปั่นป่วนต้านทานเส้นสายเหล่านั้นเอาไว้ ก็กดดันไปทางจอมมารดำเช่นกัน ทำให้จอมมารดำราวกับติดเข้าไปในบ่อโคลน
“จอมมารดำ ไปตายเสียเถิด” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองอีกฝ่ายอย่างเยียบเย็น
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
โลกลวงขนาดใหญ่มหึมาสามแห่งเลือนหายไปแล้วแปรเปลี่ยนเป็นใบมีดอันระยับจับตาสามเล่ม ใบมีดอันระยับจับตาสามเล่มนี้ทั้งหมดเปลี่ยนจากภาพมายากลายเป็นความจริง ระลอกคลื่นที่ดึงดูดพลังฟ้าดินต่างก็ก่อร่างเป็นกระแสน้ำวนอันปั่นป่วน แต่ในขณะที่ใบมีดรวมตัวกันนั้นเอง บริเวณโดยรอบก็พลันเงียบสงัด คลื่นพลังที่อยู่กลางอากาศถูกระงับเอาไว้โดยสมบูรณ์
เส้นสายจำนวนนับไม่ถ้วนที่จ้าวทะเลสาบชี่หูควบคุมอยู่ได้รับแรงกดดันมากยิ่งขึ้นอีก!
ใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์!
ใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์สามเล่มฟาดฟันไปทางจอมมารดำจากสามทิศทางพร้อมกัน สีหน้าของจอมมารดำแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเสียแล้ว จ้าวทะเลสาบชี่หูที่อยู่ด้านข้างก็จิตใจสั่นไหวเช่นกัน พวกเขาสองคนต่างก็รู้สึกได้ถึงพลังคุกคามที่ ‘ใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์’ นำพามา พวกเขาเข้าใจดีว่าการจะหลบหลีกใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์นั้นเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง และหากคิดจะมีชีวิตรอดเช่นเดิมท่ามกลางการฟาดฟันนั้นก็เป็นเรื่องยากยิ่งกว่า
“ร่างกายของข้าต้านไม่อยู่อย่างแน่นอน” จอมมารดำเข้าใจตรงจุดนี้ดี ดังนั้นคราวนี้เขาจึงมิกล้าลังเล ขบกรามแล้วกระตุ้นสมบัติล้ำค่าคุ้มกาย
พรึ่บ!
เห็นเพียงรัศมีสีขาวอันหม่นสลัวห่อหุ้มจอมมารดำเอาไว้
“ปังๆๆ” ใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์สามเล่มต่างก็ระเบิดโจมตีไปทางจอมมารดำ รัศมีสีขาวที่ผิวกายของจอมมารดำสั่นสะเทือนเล็กน้อยแล้วกลับนิ่งสงบตามเดิม เขายืนอยู่กลางเวหาอย่างสมบูรณ์ไม่บุบสลาย ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าจอมมารดำกลับมิได้เผยสีหน้ายินดีเลยแม้แต่น้อย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความไม่ยอมจำนนและความเดือดดาล
“ในที่สุดก็เปิดเผยแล้ว” จอมมารดำลอบทอดถอนใจ
“อะไรกัน”
ตงป๋อเสวี่ยอิงที่ยืนอยู่บนถนนด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมมาโดยตลอดยากที่จะซ่อนความตื่นตระหนกบนใบหน้า หากพูดว่า ‘ฟองอากาศอนธการ’ มีประสิทธิภาพในการเกี่ยวพัน เช่นนั้น ‘ใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์’ ก็มีประสิทธิภาพในการโจมตีเพียงอย่างเดียวล้วนๆ พลังคุกคามโจมตีแกร่งกว่าลูกไฟน้ำเต้าสีดำเล็กน้อย! ใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์สามเล่ม… ต่อให้ตนเองบำเพ็ญผู้ท่องอากาศไปถึงระดับที่สี่สิบ ก็สามารถอาศัยโลกเทียมรักษาชีวิต แต่เมื่อถูกใบมีดสวรรค์ลงทัณฑ์สามเล่มระเบิดใส่ก็ต้องเอาชีวิตไปทิ้งเสียแล้ว
อีกฝ่ายต้านทานเอาไว้ได้อย่างนั้นหรือ
มองดูรัศมีสีขาวอันหม่นสลัวบนผิวกายของจอมมารดำ ในใจของตงป๋อเสวี่ยอิงก็เกิดระลอกคลื่นยักษ์เทียมฟ้า “สมบัติล้ำค่าคุ้มร่างหรือ”
เขาเองก็มีสมบัติล้ำค่าคุ้มร่างเช่นกัน!
เป็นผู้อาวุโสตำหนักในแห่งวังทวีสูญ จึงได้รับมอบป้ายคำสั่งคุ้มร่าง นี่คือสิ่งที่บรรพชนเทียนอวี๋หลอมขึ้นด้วยตนเอง เมื่อใดที่กระตุ้นพลานุภาพภายใน ต่อให้เผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่ขั้นอลวน ก็ยังสามารถต้านทานเอาไว้ได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง! เวลาเช่นนี้เพียงพอที่จะช่วยเหลือยอดฝีมือแห่งวังทวีสูญแล้ว แต่สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ช่างสูงค่ายิ่งนัก… ถึงอย่างไรพลังป้องกันของมันก็สูงส่งเป็นที่สุด ถ้าหากต้องการจะซื้อ ตามปกติก็ต้องมีราคาสูงถึงสองสามพันศิลาปฐมโลกาเลยทีเดียว!
แต่ยอดฝีมือผู้มีพลังยุทธ์ระดับชั้นที่ห้าของเจดีย์ดาวโดยทั่วไปจะซื้อได้ไหวเสียที่ไหนกัน
ดังนั้นผู้ที่ครอบครองก็ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ที่มีขุมอำนาจใหญ่หนุนหลังอยู่!
“จอมมารดำมิได้อยู่ภายใต้สำนักบรรพชนโลกา” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบพูด “เท่าที่แสดงให้เห็นภายนอก เขาก็มิได้เป็นคนของขุมอำนาจใหญ่ใดๆ เลยนี่”
มีความเป็นไปได้สองอย่าง
หนึ่ง จอมมารดำโชคดีได้รับสมบัติล้ำค่าคุ้มกายมาโดยบังเอิญ หรือไม่ก็สิ้นเปลืองศิลาปฐมโลกาจำนวนมหาศาลไปซื้อสมบัติล้ำค่าคุ้มกายมา
สอง จอมมารดำลอบสวามิภักดิ์กับขุมอำนาจใหญ่แห่งหนึ่งแล้วได้รับมอบมาอย่างลับๆ! การกระทำลับๆ ล่อๆ มิกล้าเปิดเผยพรรค์นี้ โดยทั่วไปแล้วต่างก็เป็นสองสำนักใหญ่ด้วยกันทั้งสิ้น
ดังนั้น…
โลกทิพย์ทั้งสาม พอได้พบยอดฝีมือเช่นนี้ก็จะส่งผู้แกร่งกล้าไปใช้เคล็ดวิชาลับตรวจสอบในทันที! ตรวจสอบว่าดวงวิญญาณของพวกเขามีรอยประทับอยู่หรือไม่ ถ้าหากไม่มีก็แล้วไป! แต่เมื่อใดที่พบว่าเป็นสมาชิกของสองสำนักใหญ่ ตามปกติแล้วก็จะสังหารอย่างไม่ไว้ไมตรี!
…………………………………….