Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ตอนที่ 4 ถือกำเนิด สะท้านสะเทือนทั่วทิศ
ภายในโถง สตรีอาภรณ์สีแดงนั่งอยู่ พลางจ้องมองชายชราที่นั่งด้วยความเคารพนบนอบอยู่ด้านข้าง
“เจ้าบอกว่าเด็กในท้องของนางแพศยาหรงซิงหลันผู้นั้นบัดนี้กลายเป็นเทพแท้ไปแล้วหรือ” สายตาของสตรีอาภรณ์สีแดงเยียบเย็น อุณหภูมิภายในห้องโถงลดลงอย่างฮวบฮาบ ชายชรารู้สึกว่าใจสะท้านไปหมด แม้เขาจะเป็นเทพอากาศขั้นกำเนิด แต่ฮูหยินใหญ่ก็เป็นขั้นรวมเป็นหนึ่ง พลังแข็งแกร่งยิ่งกว่า จะสังหารนางก็ง่ายดายเพียงพลิกฝ่ามือ
“ขอรับ” ชายชรารู้สึกใจสั่นอยู่บ้าง “ข้าไม่มีทางมองผิดเด็ดขาด”
“หากข้าไม่ได้จำผิดแล้ว นางเพิ่งจะตั้งครรภ์ได้เก้าเดือนเองกระมัง” สตรีอาภรณ์สีแดงพูดเสียงเรียบ
“ถูกต้องขอรับ” ชายชราพยักหน้า
“เห็นทีนางคงจะโชคดีจริงๆ ที่ให้กำเนิดบุตรเช่นนี้กับเลี่ยฮู่ขึ้นมาคนหนึ่ง พรสวรรค์สูงส่งถึงเพียงนี้ เป็นการสร้างคุณูปการให้แก่จวนโหวของพวกเราโดยแท้” สตรีอาภรณ์สีแดงพูดยิ้มๆ “เจ้าช่วยไปดูเขาให้ข้าที แล้วส่งของกำนัลไป ให้นางบำรุงครรภ์ให้ดีๆ บัดนี้ทั้งหมดล้วนมีเด็กในท้องนางเป็นสำคัญ เพราะไม่ว่าอย่างไรก็เป็นบุตรของเลี่ยฮู่”
ชายชราออกจะตกตะลึงอยู่บ้าง
ส่งของกำนัลไปหรือ
……
ผ่านไปปีแล้วปีเล่า
ฮูหยินใหญ่ช่างใจดีโดยแท้ นางจัดบ่าวรับใช้ให้ไปส่งของกำนัลให้หรงซิงหลันแทบทุกเดือน หรงซิงหลันก็ระมัดระวังเป็นอันมาก สิ่งที่ฮูหยินใหญ่ส่งมา นางไม่กล้ากินหรือดื่มเลย! ทว่าเมื่อให้บุตรสาวนำออกไปขายทิ้งกลับพบว่า ของกำนัลเหล่านั้นล้วนแต่เป็นของดีซึ่งขายได้ในราคาสูง ฮูหยินใหญ่เหมือนจะมิได้มีจิตคิดร้ายแต่อย่างใด
เพียงพริบตาเดียว หรงซิงหลันก็ตั้งครรภ์มาได้ถึงสิบห้าปีแล้ว กลิ่นอายของบุตรในครรภ์เป็นผู้เคารพระดับเทพแท้แล้ว
“เรียนฮูหยิน ชาดอกไม้วิญญาณชั้นเจ็ดของปีนี้ หรงซิงหลันก็ได้ดื่มลงไปแล้วขอรับ” ชายชรามารายงานอีกครา
“บุตรในครรภ์ของน้องซิงหลันยังดีอยู่หรือไม่” สตรีอาภรณ์สีแดงที่นั่งอยู่ตรงนั้นพูดยิ้มๆ
“ยังดีอยู่ขอรับ ยังคงเป็นผู้เคารพระดับเทพแท้อยู่” ชายชราเอ่ย
“อื้ม ไปยังเรือนของพ่อบ้านรองแล้วนำของกำนัลมาส่งไปอีก” สตรีอาภรณ์สีแดงพูดยิ้มๆ ขณะเดียวกันกลับถ่ายเสียงให้ดังก้องขึ้นในวิญญาณของชายชราว่า “จำเอาไว้ น้ำยาที่ข้าส่งไปในครั้งนี้ ต้องให้นางแพศยาหรงซิงหลันดื่มลงไปให้หมด! ต้องดื่มลงไปให้หมด”
ชายชราใจสะท้าน
ไม่ดีแล้ว
ก่อนหน้านี้แม้จะส่งของกำนัลไปให้หลายครั้ง ทว่าแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยบังคับให้ต้องกินดื่มลงไปมาก่อน ส่วน ‘ชาดอกไม้วิญญาณชั้นเจ็ด’ ที่ต้องดื่มนั้น ก็เป็นกฎของจวนโหวอยู่แล้ว! ตอนนี้ของกำนัลที่ฮูหยินใหญ่ส่งไป กลับต้องบังคับให้หรงซิงหลันดื่มกินลงไปให้ได้ ชายชรามิได้โง่งมแม้แต่น้อย
“ฮูหยิน มิได้นะขอรับ กฎของตระกูลอิงซานเข้มงวด นี่เป็นความผิดมหันต์ทีเดียว หากถูกพบเข้าจะต้องโดนลงโทษถึงตาย” ชายชราก็ตอบอยู่ภายในวิญญาณเช่นกัน เขามิกล้าปริปากพูด ด้วยเกรงว่าหากฮูหยินใหญ่โมโหขึ้นมาก็จะปลิดชีพเขาทันที เพราะถึงอย่างไรฮูหยินใหญ่ก็แค่ถ่ายเสียงภายในวิญญาณเท่านั้น…มิได้เผยพิรุธออกมาแม้แต่น้อย
“พ่อบ้านเถียน เจ้าเชื่อฟังข้าแต่โดยดี หรือไม่เจ้าก็ต้องตายยกบ้าน วางใจเถิด หลังจากนางแพศยาหรงซิงหลันดื่มลงไปแล้ว บุตรในครรภ์ของนางจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก อย่างมากที่สุดก็แค่ได้รับความเสียหายแต่กำเนิดบ้าง และค่อนข้างธรรมดาสามัญก็เท่านั้นเอง” สตรีอาภรณ์สีแดงถ่ายเสียงพูด “จนบัดนี้ ลูกหลานที่ธรรมดาสามัญในจวนโหวหั่วเลี่ยก็มีมากมายก่ายกองไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ไม่มีผู้ใดใส่ใจหรอก นอกจากนี้ข้าก็ได้เตรียมสมบัติล้ำค่าที่ส่งผลกระทบต่อกาลมิติไว้ให้เจ้าแล้วด้วย ถึงจะย้อนเวลากลับไปก็อย่าได้คิดว่าจะพบทุกสิ่งที่เจ้าทำลงไปเลย จะทำหรือไม่ทำเจ้าก็ตัดสินใจเอาเองเถิด”
ชายชรารู้สึกขมขื่นในใจ
รู้เรื่องหมดแล้ว จะกล้าปฏิเสธได้หรือ หากปฏิเสธแล้ว เกรงว่าทั้งครอบครัวเขาคงจะต้องตายตกไปจนสิ้นอย่างไร้ร่องรอยแน่นอน แม้ที่ผ่านมาเขาจะทำเรื่องเลวร้ายไปมากมาย แต่สำหรับเรื่องที่ฝ่าฝืนกฎของ ‘ตระกูลอิงซาน’ จนมีโทษถึงตายแล้ว เขาก็ยังคงรู้สึกใจสะท้านอยู่บ้าง
“ขอรับ บ่าวจะไม่ทำให้ฮูหยินผิดหวังเด็ดขาดขอรับ” ชายชราถ่ายเสียงพูด
“ไปเถิด” สตรีอาภรณ์สีแดงเอ่ยปากพูดยิ้มๆ “ช่วยข้าถามสารทุกข์สุขดิบของน้องซิงหลันด้วย”
“ขอรับ” ชายชราก็เอ่ยปากพูดก่อนจากไป
สตรีอาภรณ์สีแดงมองดูอยู่เงียบๆ ในใจกลับมีแววอาฆาตพวยพุ่ง “เฮอะ นางแพศยาตัวดี ข้ามิได้เห็นนางเป็นภัยคุกคามเลย บุตรในท้องนางกลับร้ายกาจเช่นนี้ หากรอให้เขาเกิดมาจริงๆ แล้ว เขาจะต้องแบ่งเอาทรัพยากรจำนวนมากของทางสายข้าไปเป็นจำนวนมากแน่นอน”
ทรัพยากรในนามของสามีนาง ถูกนางเอามาเป็นของตนเองตั้งนานแล้ว! ทั้งร้านค้า คูหาและที่ดินต่างๆ ตอนนี้คนที่ดูแลล้วนแต่เป็นคนของนางทั้งสิ้นจริงๆ หากจะมอบให้ใครสักคนก็ต้องเป็นบุตรของนางเองเท่านั้น!
ภัยคุกคามอื่นๆ น่ะหรือ ต้องกำจัดทิ้งเสียตั้งแต่เนิ่นๆ
“รอให้บุตรในครรภ์ของนางแพศยานั่นเติบโตขึ้นมาเสียก่อน แล้วค่อยหาโอกาสให้เขาตายไปข้างนอกอย่างเงียบๆ ยังมีพ่อบ้านเถียน รอให้จัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ก็ให้เขาตายไปก็แล้วกัน” สตรีอาภรณ์สีแดงลอบพึมพำ
******
ชายชรามาถึงเรือนหลังน้อยของหรงซิงหลัน
“พ่อบ้านเถียน” หรงซิงหลันพาบุตรสาวและสาวใช้เข้ามาทำความเคารพ
“ฮ่าฮ่า ข้ารับคำสั่งของฮูหยิน นำของกำนัลบางอย่างมาส่งน่ะขอรับ” ชายชราหัวเราะพลางโบกมือคราหนึ่ง ก็มีตะกร้าใบหนึ่งปรากฏขึ้น ภายในนั้นมีของกำนัลมากมายวางอยู่ เขาส่งตะกร้าให้ หรงซิงหลันก็รับไปพลางหัวเราะคิกคัก เพราะถึงอย่างไรตลอดหลายปีมานี้ พ่อบ้านเถียนผู้นี้ก็ได้ส่งของกำนัลมาหลายครั้ง และก็ไม่เคยมีปัญหาอันใดมาก่อน
ชายชราเพิ่งจะส่งตะกร้าไป เขาพลิกมือคราหนึ่งก็มีขวดหยกสีดำขวดหนึ่งปรากฏขึ้น เขาพูดยิ้มๆ ว่า “ขวดหยกนี้เป็นน้ำยาอันล้ำค่าอย่างยิ่งที่ฮูหยินจัดเตรียมไว้ให้ท่านโดยเฉพาะ มา ดื่มลงไปเถิด”
“ต้องขอบคุณฮูหยินแล้ว” หรงซิงหลันก็ยื่นมือออกไปรับ
“น้ำยาที่ล้ำค่าเช่นนี้ อย่าได้นำไปขายข้างนอกอีกเลย ก่อนหน้านี้พวกท่านมักจะขายของที่ฮูหยินมอบให้พวกท่านเป็นประจำ” ชายชรายิ้ม “ดื่มลงไปเสียเลยเถิด” เขาพูดแล้วพละกำลังอันไร้รูปร่างระลอกหนึ่งก็แผ่กำจายออกไปพันธนาการหรงซิงหลัน เอาไว้ หมายจะป้อนให้นาง
หรงซิงหลันตกใจใหญ่
ถึงกับ…
ผ่านไปหกปีแล้ว ในที่สุดความจริงก็ปรากฏเสียที
“ไม่ ไม่” หรงซิงหลันดิ้นรน นางรู้สึกว่าบุตรในครรภ์แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ นางคิดมาหลายครั้งว่าในภายหน้าบุตรของตนจะต้องโดดเด่นสะดุดตาอย่างแน่นอน ตอนนี้จะดื่มน้ำยาอันแปลกพิกลในขวดหยกสีดำลงไปได้อย่างไรกัน
“หยุดมือนะ” อิงซานซีเยว่สตรีอาภรณ์สีเขียวด้านข้างตกใจใหญ่ แม้นางจะรู้ว่าภายในตระกูลอ๋องโหวจะมีเรื่องเลวร้ายดำมืดมากมายที่เกี่ยวโยงกับทายาทสายตรงภายในครรภ์ นี่เป็นกฎเหล็กที่ตั้งขึ้นของตระกูลอิงซาน กล้าลงมือกับบุตรในครรภ์นั้นมีโทษถึงตายเลยทีเดียว คนที่ขี้ขลาดตาขาวอย่างนางกลับลงมือทันที
ตู้ม
ชายชราโบกมือตามอำเภอใจคราหนึ่ง อิงซานซีเยว่สตรีอาภรณ์สีเขียวก็ล้มลงกับพื้นด้านข้างอย่างรุนแรง ภายใต้แรงกดดันของพลังงานอันไร้รูปร่าง อิงซานซีเยว่ถึงขั้นขยับเขยื้อนมิได้ นางตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “การกระทำของเจ้านี้มีโทษถึงตาย มีโทษถึงตาย จะทำอะไรก็มาทำกับข้านี่”
“อย่าทำอะไรบุตรข้าเลย เขายังมิได้เกิดมา ยังมิได้เกิดมาเลยนะ” หรงซิงหลันตื่นตระหนกเหลือแสน นางมองชายชราตรงหน้าด้วยสายตาวิงวอน
ชายชรากลับเย็นชาหาใดเปรียบ
อย่าตำหนิข้าเลย…ข้าก็ต้องมีชีวิตรอด คนในบ้านข้าก็ต้องมีชีวิตรอด หากจะตำหนิก็ไปตำหนิฮูหยินใหญ่เถิด!
“อึ้กๆๆ” น้ำยาภายในขวดสีดำถูกกรอกลงไปในปากของหรงซิงหลัน ปากของหรงซิงหลันถูกพลังงานอันไร้รูปร่างบังคับให้อ้าออก น้ำยาก็ถูกควบคุมให้ไหลตรงลงไปทันที หรงซิงหลันเจ็บปวดและสิ้นหวัง หยาดน้ำตาหลั่งริน ทำไมกัน…นางถึงขั้นเกิดความคิดว่าจะใช้ชีวิตเพื่อปกป้องบุตรเอาไว้ แต่ทว่า ต่อให้นางสู้สุดชีวิตก็ไร้ประโยชน์
สาวใช้ด้านข้างมองแล้วก็ตัวสั่นงันงก เมื่อได้เห็นฉากนี้กับตาตนเอง ก็ทำให้นางหวาดหวั่นเหลือแสน
นี่เป็นโทษมหันต์เลยทีเดียว!
“อย่ากังวลไปเลย” ชายชรามองสาวใช้พลางถ่ายเสียงพูด “เจ้าแค่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็พอ กาลมิติที่นี่ถูกทำให้สับสนวุ่นวายไปแล้ว ถึงจะย้อนเวลากลับมาก็มองไม่เห็น”
หลังป้อนเสร็จแล้ว ชายชราก็เก็บขวดหยกสีดำขึ้นมาแล้วหมุนกายจากไป
หรงซิงหลันอ่อนยวบลงกับพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา นัยน์ตากก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง “เพราะอะไร เพราะอะไรกัน จะทำอะไรก็มาทำกับข้านี่ เพราะอะไรจึงต้องทำกับบุตรข้าด้วยเล่า”
“ท่านแม่” อิงซานซีเยว่รีบเข้ามาโอบกอดมารดา “สามารถขับยาพิษนั่นออกมาได้หรือไม่”
“ไม่มีประโยชน์หรอก ไม่มีประโยชน์หรอก” หรงซิงหลันส่ายหน้า “เมื่อดื่มลงไปก็แทรกซึมเข้าไปทั่วกายข้าอย่างรวดเร็วแล้ว มิอาจต้านทานได้เลย”
“ไม่ดีแล้ว” หรงซิงหลันกุมท้องเอาไว้ “ข้ารู้สึกว่าจะคลอดแล้ว จะคลอดแล้ว”
อิงซานซีเยว่ตกใจใหญ่ จะคลอดแล้วหรือ
“พิษร้ายถึงเพียงนี้ บังคับให้คลอดออกมาทันทีเลยหรือนี่” อิงซานซีเยว่พามารดากลับห้องแล้วปิดประตูเตรียมการคลอดบุตรทันที
……
ถูกต้อง จะคลอดก่อนกำหนดเสียแล้ว
ทว่าหรงซิงหลันและบุตรสาวกลับโทษฮูหยินใหญ่พลาดไปแล้ว ยาพิษที่ฮูหยินใหญ่จัดเตรียมมานั้นเพียงแค่ทำลายรากฐานของบุตรในครรภ์โดยกำเนิดเท่านั้น มิได้ทำให้คลอดก่อนกำหนดทันที นี่เป็นการตัดสินใจของตงป๋อเสวี่ยอิงเอง
“สมควรตาย” ตงป๋อเสวี่ยอิงที่อยู่ในครรภ์มารดาฝึกฝนอากาศ สามารถสัมผัสได้ถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกรางๆ เขามองตาแทบถลนออกนอกเบ้า “จะรั้งอยู่ต่อไปมิได้แล้ว หากอยู่ต่อไป ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีก”
แม้ยาพิษจะแทรกซึมเข้าไปในครรภ์อย่างรวดเร็วและจะรุกล้ำเข้าสู่ร่างกายเขา
ทว่าตงป๋อเสวี่ยอิงก็หดกายเล็กลงอย่างรวดเร็ว เพราะถึงอย่างไรร่างเทพแท้ก็สามารถหดและขยายได้สบาย เขาตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างตนและรกของมารดา ให้ยาพิษมิอาจส่งถ่ายมาถึงตนได้
“ออกไป” แล้วเขาก็ควบคุมอากาศบังคับให้ต้องคลอดออกไป
หรงซิงหลันก็รู้สึกว่าปวดท้อง
หรงซิงหลันทอดกายอยู่บนเตียง คิดจะอดทนต่อไปอีก คิดจะให้บุตรอยู่ในครรภ์นานกว่านี้
“โอ๊ย ต้องคลอดออกไปแล้วจริงๆ” ใบหน้าของหรงซิงหลันเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ผมเปียกชื้นปรกอยู่บนหน้า
“ฮูหยินใหญ่ผู้นั้นก็อำมหิตเกินไปแล้ว” อิงซานซีเยว่ก็ร้อนใจ
“ออกมาเถิด”
หรงซิงหลันยื่นมือเข้าไปในท้องตนเอง ฟิ้ว จากนั้นก็ฉวยก้อนเนื้อก้อนหนึ่งออกมา ก้อนเนื้อกลมดิกร่วงลงบนผ้าปูเตียง สำหรับเทพโลกาแล้ว การจะให้บุตรออกมานั้นง่ายดายมาก
ก้อนเนื้อสีแดงกลมดิกมีอักขระลับสีทองหมุนเวียนอยู่ นี่ก็คือเคล็ดลับที่หล่อเลี้ยงครรภ์ ทำให้บุตรในครรภ์แข็งแกร่งพอ
“กระตุ้น”
ตงป๋อเสวี่ยอิงซึ่งอยู่ภายในก้อนเนื้อกลมดิกกระตุ้นสายเลือดภายในกายขึ้นมาอีกครั้ง ระดับขั้นของเขาถึงตั้งนานแล้ว ก่อนหน้านี้เพียงแค่มีอุปสรรค ไม่สามารถเหนี่ยวนำให้เกิดความเคลื่อนไหวใหญ่โตเกินไปได้ จึงมักจะดูดซับพลังฟ้าดินจากโลกภายนอกลงไปเป็นประจำ เกิดมาครั้งนี้…เป้าหมายของเขาก็คือจะทำให้ทั่วสารทิศสะท้านสะเทือน จึงเริ่มกระตุ้นสายเลือดห้วงอากาศภายในกายขึ้นมา เสียดายก็แต่ว่าตนเพิ่งจะบำเพ็ญมาได้เพียงสิบกว่าปีเท่านั้น จึงกระตุ้นสายเลือดห้วงอากาศขึ้นมาได้เพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น
“ตู้ม!!!”
ทันใดนั้นอักขระลับสีทองเหนือผิวของก้อนเนื้อสีแดงกลมดิกก็ปะทุออกมาอย่างโดดเด่นสะดุดตา ขณะเดียวกันพลังฟ้าดินกลางท้องฟ้าเบื้องบนก็พลันโหมซัดออกมา ก่อให้เกิดลำแสงน้ำวนขนาดมหึมา แล้วแทรกซึมเข้าไปในก้อนเนื้อกลมดิกนั้นจนสิ้น
ชายชราซึ่งออกจากเรือนหลังเล็กเพื่อไปรายงานที่เรือนฮูหยินใหญ่พลันหันกลับไปมองไกลออกไป เขามองดูน้ำวนพลังฟ้าดินที่ก่อตัวขึ้นกลางฟากฟ้าด้วยความตื่นตะลึงเหลือแสน “ผู้ใดเหิมเกริมถึงเพียงนี้ กล้าดูดซับพลังฟ้าดินในจวนโหวตามอำเภอใจเช่นนี้ ต่อให้บำเพ็ญก็ควรจะเก็บตัวเพื่อบำเพ็ญสิ”
“ตู้ม…”
“นั่นมัน…”
“แสงสีทองนั่น”
จวนโหวหั่วเลี่ยกว้างใหญ่หาใดเปรียบ มีผู้แกร่งกล้ามากมายดุจเมฆ ผู้แกร่งกล้าภายในจวนหลายคนบ้วนสามารถสัมผัสรับรู้ที่นี่ได้ลิบๆ ก็มองเห็นว่าภายใต้ลำแสงน้ำวนที่โหมซัดนั้นยังมีแสงสีทองที่พุ่งตรงไปทั่วทิศ “นั่นคือแสงสีทองที่ทารกถือกำเนิดขึ้น ไยจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้เล่า”
วิญญาณค่ายกลภายในจวนโหวหั่วเลี่ยสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหว จึงย่อมใช้ค่ายกลร่อนลงไปสำรวจเรือนเล็กหลังนี้ เมื่อทราบเหตุการณ์แล้วก็ส่งข่าวให้บุคคลระดับสูงทั่วทั้งจวนโหวหั่วเลี่ยในทันที…
“บุตรของอิงซานเลี่ยฮู่กำเนิดแล้ว! กำเนิดเป็นเทพอากาศ มารดาคือหรงซิงหลัน!”
เมื่อข่าวแพร่ออกไป ทั้งจวนท่านโหวหั่วเลี่ยก็สะท้านสะเทือนไปหมด
ขณะเดียวกันข่าวก็แพร่ออกไปนอกจวนตระกูลอิงซานด้วยความเร็วสูงยิ่ง จวนท่านโหวหั่วเลี่ยก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตระกูลอิงซานเท่านั้น ทายาทตระกูลอิงซานที่ยอดเยี่ยมไร้เทียมทานเช่นนี้ถือกำเนิดขึ้น ย่อมสะท้านสะเทือนไปทั่วทั้งตระกูลอิงซานเป็นธรรมดา
……………………………………………