Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ตอนที่ 32 สำแดงกลเม็ด
ครั้งหน้าก็ยังมีโอกาสอีกหรือ
ครั้งหน้า ก็ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องช่วงชิงเหมือนกันหรือไร ยิ่งไปกว่านั้นโลกกำเนิดบ้านเกิดก็ยังขยายตัวอย่างไม่หยุดหย่อนด้วย หากตนไม่บำเพ็ญให้ถึงระดับเทพจักรวาลขั้นสุดยอดก่อนบ้านเกิดจะแตกทำลาย ก็จะมิอาจช่วยเหลือญาติสนิทมิตรสหายได้ ตนจึงมิอาจเสียเวลาได้เลย!
“มหาเคารพวายุเหล็ก” นัยน์ตาทั้งคู่ของตงป๋อเสวี่ยอิงคมกริบพลางจับจ้องมหาเคารพวายุเหล็กตรงหน้า “โอกาสที่จะได้เข้าไปในวังเทพจิตโลกาในครั้งนี้ ข้าจำเป็นต้องคว้าเอาไว้ โปรดอภัยให้ข้าที่มิอาจช่วยเหลือได้”
“เจ้า…” สีหน้าของมหาเคารพวายุเหล็กพลันแปรเปลี่ยนไป
“บนเส้นทางการบำเพ็ญมิอาจอ่อนน้อมได้” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดเสียงเรียบ ในน้ำเสียงแฝงความเฉียบขาดเอาไว้
ข้าเห็นแก่หน้าท่านมากแล้ว! และไม่มีเจตนาจะเป็นศัตรูกับท่าน หากจะฉีกหน้าและทำให้ลำบากจริงๆ แล้วล่ะก็…กระบวนท่าอันใดก็มาให้หมดเถิด ตนจะไม่หวั่น!
ด้วยพลังระดับตงป๋อเสวี่ยอิง ก็มีคุณสมบัติพอจะท้าทายได้แล้ว
“มิอาจอ่อนน้อมได้รึ ดี” มหาเคารพวายุเหล็กยืดกายขึ้นทันทีโดยไม่พูดให้มากความอีกต่อไป เขาสาวเท้าออกไปก้าวหนึ่งก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
ตงป๋อเสวี่ยอิงยืดกายขึ้นแล้วมองดูอยู่เงียบๆ
……
ณ นครหลวงคิมหันตวายุ
ภายในจวนอันหรูหราแห่งหนึ่ง มหาเคารพวายุเหล็กร่อนลงมาจากฟากฟ้า
“พี่วายุเหล็ก เป็นอย่างไรบ้าง” บุรุษอาภรณ์เขียวผู้หนึ่งเข้ามาต้อนรับ เมื่อมองเห็นสีหน้าของมหาเคารพวายุเหล็ก หัวใจเขาก็คันยุบยิบขึ้นมา
“น้องพันสุริยะ อิงซานเสวี่ยอิงผู้นั้นพูดถึง ‘เส้นทางการบำเพ็ญมิอาจอ่อนน้อมได้’ อะไรก็ไม่รู้ เป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมรับปาก” มหาเคารพวายุเหล็กส่ายศีรษะเบาๆ “เฮ้อ คนเป็นพี่น้องของข้าก็อับจนหนทางแล้วจริงๆ”
บุรุษอาภรณ์เขียวพูดขึ้นว่า “พี่วายุเหล็กช่วยข้าออกหน้า ข้าก็ซาบซึ้งมากแล้ว นอกจากนี้ข้าก็แค่ฝากความหวังสายหนึ่งเอาไว้เท่านั้น หากอิงซานเสวี่ยอิงผู้นั้นมิได้กระหายอยากเข้าไปมากจริงๆ ก็ย่อมสามารถเจรจากับเขาได้สักตั้ง…ในเมื่อเขาไม่ยอมมอบให้ เช่นนั้นก็แล้วไปเถิด ข้าค่อยคิดหาวิธีอื่นก็แล้วกัน”
“เจ้าสะสมคุณูปการภารกิจไปถึงไหนแล้ว” มหาเคารพวายุเหล็กถาม
“คิดหาทุกวิถีทาง บวกกับอาศัยที่สหายเก่าหลายคนช่วยออกหน้าให้ ก็รวบรวมได้แปดพันคุณูปการภารกิจแล้ว” บุรุษอาภรณ์เขียวส่ายศีรษะเบาๆ “หากไม่กดหัวเจ้าอิงซานเสวี่ยอิงผู้นั้นลงไปเสียหน่อย คิดจะเข้าไปในสี่อันดับแรกความหวังก็ริบหรี่มากทีเดียว。”
มหาเคารพวายุเหล็กก็ขมวดคิ้ว “ภารกิจสมบัติวิเศษนี่ก็ยากเกินไปแล้ว”
เขาก็ตั้งใจอยากให้สหายรักชิงตำแหน่งมาได้
‘จ้าวพันสุริยะ’ สหายรักเป็นถึงบุคคลผู้ล้ำเลิศในบรรดาเทพจักรวาลรุ่นเยาว์ของสกุลเซี่ย ทั้งยังเป็นของจักรพรรดิเซี่ยศิษย์ถ่ายทอดเองอีกด้วย! มหาเคารพหลายคนจึงให้ความสำคัญกับเขา
แต่กระนั้นในฐานะที่สกุลเซี่ยเป็นผู้นำของสามตระกูลใหญ่ ภายในมีผู้แกร่งกล้ามากมายดุจเมฆ ภายในตระกูลมีเพียงสองตำแหน่งเท่านั้น ตำแหน่งหนึ่งแบ่งสรรกันในหมู่มหาเคารพทั้งหลาย ส่วนอีกตำแหน่งหนึ่งนั้นไว้ให้เหล่าเทพจักรวาลที่เหลือแย่งชิงกัน แม้ ‘จ้าวพันสุริยะ’ จะโดดเด่นเป็นอย่างมาก แต่ก็จนใจที่มีผู้แย่งชิงกันมากมายเกินไปแล้ว ระหว่างการต่อสู้ภายในตระกุลยังมิอาจช่วงชิงมาได้ จึงทำได้เพียงมาแย่งชิงอีกสี่ตำแหน่งที่เหลือกับภายนอกอย่างเปิดเผยแล้ว
ต้องรู้ไว้ว่าแม้แต่มหาเคารพฝูอี่ก็ยังเข้าร่วมการช่วงชิงกับโลกภายนอก
ช่วยไม่ได้ที่ภายในสกุลเซี่ยมีผู้แกร่งกล้ามากมายเกินไป! ถึงขั้นที่มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกฎเกณฑ์ภายในสำนักอยู่บ่อยครั้ง
“แปดพันคุณูปการภารกิจนั้นไม่เพียงพอหรอก” มหาเคารพวายุเหล็กครุ่นคิด
“ข้าเตรียมจะไปยังรัฐโบราณบรรพชนสักรอบหนึ่ง ดูสิว่าจะสามารถรวบรวมคุณูปการภารกิจได้อีกบ้างหรือไม่” บุรุษอาภรณ์เขียวจ้าวพันสุริยะกล่าว
……
ภายในเรือนไม้หลังหนึ่ง
บุรุษในอาภรณ์ตัวหลวมกว้างนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะรองนั่ง เขาก็คือมหาเคารพฝูอี่นั่นเอง ยามนี้เขามองดูคนตรงหน้าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ตรงข้ามเขาไม่ไกลออกไปนัก ก็มีชายชราศีรษะโล้นเลี่ยนอีกคนนั่งขัดสมาธิอยู่ ชายชราศีรษะโล้นเลี่ยนมีอาภรณ์สีดำห่มคลุมเอาไว้ เหนืออาภรณ์สีดำยังมีลวดลายดอกไม้สีแดงเข้มซึ่งแผ่กลิ่นอายโหดเหี้ยมคลุ้งคาวเลือดออกมา
“ฝูอี่ นี่คือ ‘ผลอสรพิษฟ้าทอง’ ที่เจ้าต้องการ” ชายชราศีรษะโล้นเลี่ยนยื่นมือออกไป กลางฝ่ามือก็พลันมีกล่องใสราวผลึกปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า กล่องนั้นเปิดออกเอง เผยให้เห็นผลไม้พิเศษผลหนึ่งที่อยู่ด้านใน เปลือกผลไม้ใสกระจ่างกึ่งโปร่งใส ภายในมีลำแสงสีทองและฟ้าหมุนเวียนไล่ตามกันไปอย่างไม่หยุดหย่อน ร่องรอยที่ไล่ตามกันไปนั้นแฝงไว้ด้วยท่วงทำนองของกฎเกณฑ์อันสูงส่ง
ผลอสรพิษฟ้าทองนั้นจัดเป็นอันดับแรกสุดของภารกิจสมบัติวิเศษ มันออกผลผลิตที่หุบเขาเขี้ยวหักเท่านั้น สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสามหมื่นคุณูปการภารกิจได้! หากจะขายให้ภายนอกจริงๆ แล้ว แปดหมื่นล้านแก้วผลึกจักรวาลก็มิใช่เรื่องยากเลย! เพียงแต่โดยทั่วไปแล้วก็มิมีผู้ใดขาย วัตถุล้ำค่าหายากพรรค์นี้ ต่อให้เป็นทั่วทั้งดินแดนจิตโลกา ใช้หมดไปผลหนึ่งก็น้อยลงไปผลหนึ่งแล้ว
“ของที่ข้าต้องการเล่า”ชายชราศีรษะโล้นเลี่ยนจ้องมองมหาเคารพฝูอี่
“ผลอสรพิษฟ้าทองผลนี้ตกมาอยู่ในมือเจ้าแล้วจริงๆ น่าโม๋ซา เจ้านี่เจ้าเล่ห์ใช้ได้เลยทีเดียว” มหาเคารพฝูอี่พูดยิ้มๆ
“ของล่ะ” ชายชราศีรษะโล้นเลี่ยนพูดเสียงเย็นชา
มหาเคารพฝูอี่โบกมือคราหนึ่ง ทันใดนั้นแสงสีทองวงแล้ววงเล่าก็ปรากฏขึ้น ทั้งหมดมีถึงสิบแปดวงด้วยกัน
นัยน์ตาทั้งคู่ที่มองดูชายชราศีรษะโล้นเลี่ยนร้อนระอุ เขาอยากจะแย่งมาทันที แต่กลับมิกล้าชิงเอามา
“นี่เป็นของเจ้าแล้ว” มหาเคารพฝูอี่โบกมือคราหนึ่ง วงแสงสีทองเหล่านี้ลอยไปข้างกายชายชราศีรษะโล้นเลี่ยนจนสิ้น ชายชราศีรษะโล้นเลี่ยนจึงได้รีบคว้าเอาไว้ในมือ เขามองดูวงแสงสีทองเหล่านี้ นัยน์ตาก็แดงก่ำขึ้นมา “ในที่สุดก็มาอยู่ในมือเสียที!” เดิมทีเขาอยู่ห่างจากสมบัติล้ำค่าขิ้นนี้เพียงก้าวเดียวเท่านั้น น่าเสียดายที่ตอนนั้นมหาเคารพฝูอี่แข็งแกร่งหาใดเปรียบ เขาสังหารไปตลอดทาง และได้สมบัติล้ำค่าไปอยู่ในมือทั้งหมด
มหาเคารพฝูอี่โบกมือคราหนึ่งแล้วก็ได้ผลอสรพิษฟ้าทองมาไว้ในมือ
“ท่านนี่ก็ตัดใจได้เก่งจริงๆ” ชายชราศีรษะโล้นเลี่ยนมองดูมหาเคารพฝูอี่ “ด้วยสถานะของท่าน แค่กำชับคำเดียว สกุลเซี่ยของพวกท่านคงต้องมอบตำแหน่งหนึ่งให้ท่านเป็นการภายในกระมัง ยังตั้งใจออกมาแย่งชิงอีกรึ ทั้งยังสละผลอสรพิษฟ้าทองให้ภายในตระกูลด้วย”
“แย่งชิงกับชนรุ่นหลังน่ะหรือ” มหาเคารพฝูอี่พูดยิ้มๆ “เอาล่ะ น่าโม๋ซา เจ้าไปได้แล้ว”
“ขอรับ”
ชายชราศีรษะโล้นเลี่ยนผุดลุกขึ้นแล้วออกจากเรือนไม้ไปทันที หน้าเรือนไม้มีชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่เพื่อนำทางเขาให้จากไปโดยเฉพาะ
มหาเคารพฝูอี่หลับตาลงต่อไป บนศีรษะก็มีมณีแสงหลายเม็ดปรากฏขึ้นมา เขาบำเพ็ญอย่างสงบต่อไป
พลังแตกต่างกัน สภาพจิตใจก็ย่อมแตกต่างกันเป็นธรรมดา
ในสายตาของมหาเคารพฝูอี่ ก็มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูเท่านั้นที่สามารถทำให้เขาหวาดกลัวได้ แม้แต่ผู้แกร่งกล้าเทพจักรวาลขั้นสุดยอดที่มิได้มีสมบัติลับอันสูงส่งเขาก็มิได้ใส่ใจสักเท่าใดนัก ดังนั้นเขาจึงไม่อยากลดตัวลงไปแย่งชิงกับพวกเทพจักรวาลภายในสกุลเซี่ยสักเท่าใดนัก
“ท่านมหาเคารพขอรับ ก่อนหน้านี้พวกเรารวบรวมคุณูปการภารกิจได้นับหมื่นแล้ว ยังจะรวบรวมผลอสรพิษฟ้าทองนี่อีกหรือขอรับ ภารกิจสมบัติวิเศษนี้ขาดทุนมากทีเดียว ถึงจะส่งของขึ้นไป ภายในตระกูลก็ให้คุณูปการภารกิจเพียงน้อยนิด” หนุ่มน้อยนอกเรือนเอ่ยขึ้น หนุ่มน้อยผู้นี้คือสิ่งมีชีวิตหุ่นเชิดพิเศษ จึงย่อมจงรักภักดีต่อมหาเคารพฝูอี่เป็นธรรมดา ทั้งยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่แข็งแกร่งที่สุดของมหาเคารพฝูอี่ซึ่งบังเอิญได้มาระหว่างคืนวันอันยาวนานไร้ที่สิ้นสุด
“ต่อให้ไม่มีคุณูปการ จะมอบให้คนในตระกูลเลยก็เป็นเรื่องเล็ก” มหาเคารพฝูอี่พูดยิ้มๆ “ถึงอย่างไรก็เป็นตระกูลของพวกเราเอง”
……
เวลาล่วงเลยไป
ในศึกแย่งชิงตำแหน่งอย่างเปิดเผยของรัฐโบราณคิมหันตวายุ นอกจากไม่กี่คนที่ยังสงบนิ่งเป็นอันมากแล้ว คนอื่นๆล้วนแต่กำลังพยายามสุดกำลังทั้งสิ้น แม้แต่จอมเคารพมารอัคคีก็ยังมิได้รีรอแม้แต่น้อย
เพียงพริบตาเดียว ก็เป็นแปดหมื่นกว่าปีหลังจากศึกแย่งชิงตำแหน่งแล้ว
แต่ในขณะนี้เอง รายงานหนึ่งก็ถูกเผยแพร่ออกไป!
‘จ้าวมารหยวนอี’ มารร้ายอันดับหนึ่งของเจ้าลัทธิทั้งสามแห่งทะเลสาบมารทมิฬสิ้นใจด้วยน้ำมือของจอมเคารพมารอัคคี! ‘จ้าวมารหยวนอี’ มีพลังแกร่งกล้า เป็นศิษย์ถ่ายทอดเองคนสำคัญของเจ้าลัทธิเหยียนโม๋แห่งทะเลสาบมารทมิฬซึ่งได้รับความโปรดปรานเป็นอันมาก จ้าวมารหยวนอีขนานนามตนเองว่า ‘หยวนอี’ ซึ่งคล้ายคลึงกับ ‘หยวน’ ผู้ที่เร้นลับและล้ำเลิศเหนือธรรมดาของดินแดนจิตโลกาถึงเพียงนี้ จะเห็นได้ถึงจิตใจอันทะเยอทะยานของเขา
ส่วนภารกิจสังหารเขา จะได้ถึงสองหมื่นคุณูปการภารกิจ เหนือกว่าคนผู้นั้นที่ตงป๋อเสวี่ยอิงจับมาทั้งเป็นตั้งมากโข
“สหายเอ๋ย”
ตงป๋อเสวี่ยอิงมองดูรายงานที่เผยแพร่ในสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ ซึ่งเป็นรายงานโดยละเอียดเกี่ยวกับการที่จ้าวมารหยวนอีถูกสังหาร “จอมเคารพมารอัคคีตัวดี จ้าวมารหยวนอีที่น่าอนาถ…เขาดูแคลนจอมเคารพมารอัคคีเกินไปแล้ว”
รายงานพรรณนาเอาไว้
ว่าจ้าวมารหยวนอีไม่เกรงกลัวจอมเคารพมารอัคคี ถึงขั้นมองว่านี่เป็นการเคี่ยวกรำตนเองยกหนึ่ง! จ้าวมารหยวนอีก็มีคุณสมบัติพอจะเชื่อมั่นในตนเองได้ เขามีมีคุณสมบัติพอจะห้ำหั่นซึ่งหน้ากับผู้แกร่งกล้าระดับจอมเคารพได้โดยแท้
แต่พลังของจอมเคารพมารอัคคีนั้นยังน่ากลัวกว่าที่โลกภายนอกล่วงรู้กันตลอดมาเสียอีก!
จ้าวมารหยวนอีถูก ‘จอมเคารพมารอัคคี’ ทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสโดยมิทันตั้งตัว จากนั้นก็กลืนลงไปในคำเดียว! หลังกลืนลงท้องไปแล้ว จ้าวมารหยวนอีก็หนีไม่พ้นอีก และถึงขั้นสิ้นใจไปอย่างรวดเร็ว
‘เจ้าลัทธิเหยียนโม๋’ เดือดดาลใหญ่!
ศิษย์ที่เจ้าลัทธิเหยียนโม๋ให้ความสำคัญที่สุด! ดังนั้นศึกใหญ่อันน่าหวาดหวั่นยกหนึ่งจึงบังเกิดอุบัติขึ้น เจ้าลัทธิเหยียนโม๋ประชันจอมเคารพมารอัคคี เจ้าลัทธิทั้งสองแห่งทะเลสาบมารทมิฬก็คอยช่วยเหลืออยู่ด้วย
พวกเขาต่อสู้กันจนมืดฟ้ามัวดินไปหมด อาศัยสภาพแวดล้อมพิเศษของทะเลสาบมารทมิฬ ชั่วขณะนั้นจอมเคารพมารอัคคีหนีออกมามิได้ ยังคงห้ำหั่นกับเจ้าลัทธิทั้งสามอย่างบ้าคลั่ง
“จอมเคารพมารอัคคีไม่ยอมขอความช่วยเหลือ แค่เขาขอความช่วยเหลือ แค่ส่งสหายระดับจอมเคารพสักคนสองคนจากรัฐโบราณคิมหันตวายุไปช่วยเหลือ ก็จะสามารถช่วยเขากลับมาได้อย่างง่ายดาย” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็เข้าใจในจุดนี้ดี “เมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างน้อยจอมเคารพมารอัคคีก็จะมีสองหมื่นคุณูปการภารกิจแล้ว”
ศึกชิงตำแหน่ง ตนตกอยู่ในอันตรายเสียแล้ว
……………………………………