Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ตอนที่ 34 สี่ตำแหน่งแรก
ม่านราตรีคลี่ลงมา
ภายในโถงด้านข้างแห่งหนึ่งของนครหลวงคิมหันตวายุ เปลวเทียนถูกจุดขึ้น ทั้งโถงด้านข้างเต็มไปด้วยแสงสว่างเจิดจ้า เทพจักรวาลกลุ่มหนึ่งต่างคนต่างนั่งลง บนโต๊ะยาวเบื้องหน้าพวกเขามีสุราและอาหารเลิศรสเรียงรายอยู่ ด้านข้างก็มีสาวใช้คอยปรนนิบัติ
แม้จะพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกัน แต่สิ่งที่ในใจของเทพจักรวาลทั้งหลายรอคอยเป็นที่สุดก็ยังคงเป็นเวลาประกาศตำแหน่งนั่นเอง
“การช่วงชิงตำแหน่งครั้งนี้ ผู้ที่ทำภารกิจสังหารได้สำเร็จก็มีเพียงจ้าวหิมะเหินและจอมเคารพมารอัคคีเท่านั้น ข้าว่าจ้าวหิมะเหินจะต้องได้สักตำแหน่งหนึ่งจากทั้งสี่ตำแหน่งนั้นอย่างแน่นอน”
“ขอให้สมพรปากของท่านด้วยเถิด”
ตงป๋อเสวี่ยอิงคว้าจอกสุราขึ้นมาแล้วพูดขึ้น
เทพจักรวาลที่นั่งอยู่ภายในโถงตำหนักมีกว่าหกสิบคน พวกเขาล้วนแต่มาเพื่อดื่มสุราชั้นเลิศและรอชมเรื่องสนุกบ้างก็เท่านั้นเอง ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ยอดเยี่ยมนัก พวกคนจากรัฐภายนอกซึ่งเป็นวีรบุรุษผู้ไร้เทียมทานอย่างเช่น ‘บรรพชนเหินประจิม’ ก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้าไปได้เลย! จะมีก็แต่เมื่อเมืองชั้นในของวังเทพจิตโลกาเปิดออกเท่านั้น ระหว่างสงครามครั้งใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย อาจจะสามารถเข้าไปเสี่ยงโชคได้บ้าง
“ฟิ้ว”
ท่ามกลางการยกจอกให้กันไปมา ทันใดนั้นกลางโถงตำหนักก็มีเงาร่างสายหนึ่งปรากฏขึ้น ซึ่งก็คือชายชราอาภรณ์สีเหลืองผู้นั้นนั่นเอง
“ผู้อาวุโสเซี่ย” บรรดาเทพจักรวาลจิตวิญญาณสั่นสะท้านไปหมด พากันร้องเรียกด้วยความเคารพทันที
ช่วยไม่ได้
ต่อให้เทพจักรวาลคนอื่นๆ ‘โอกาสมาถึงก็ต้องคว้าไว้ให้ได้’ ก็เพียงเพราะบรรลุถึงขีดจำกัดแล้วอยากจะเข้าไปฟันฝ่าสักตั้งก็เท่านั้นเอง ต่อให้พ่ายแพ้ไป ถึงครั้งหน้าก็พ่ายแพ้แล้ว รอครั้งหน้าค่อยเข้าไปก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก
แต่ตงป๋อเสวี่ยอิงนั้นไม่เหมือนกัน! เข้าไปครั้งหน้าน่ะหรือ ไม่แน่ว่าตอนที่วังเทพจิตโลกาเปิดออกมาครั้งหน้า โลกกำเนิดบ้านเกิดก็อาจจะเข้าสู่ยุคหน้าตั้งนานแล้วก็เป็นได้
“เริ่มต้นแล้ว” จ้าวพันสุริยะก็นั่งอยู่ตรงนั้นพลางมองดูอย่างเงียบงัน แต่สายตานั้นเต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม “ข้าเตรียมเอาไว้ถึงหนึ่งหมื่นแปดพันคุณูปการภารกิจแล้ว เหนือกว่าคุณูปการภารกิจสังหารของอิงซานเสวี่ยอิงอยู่มากโข คุณูปการมากมายเช่นนี้ ก็น่าจะเพียงพอให้เข้าไปได้แล้ว ครั้งนี้ข้าต้องเข้าไปให้ได้”
“อื้ม” จอมเคารพมารอัคคีเผยรอยยิ้มออกมา เขามั่นใจเต็มเปี่ยม
มหาเคารพฝูอี่นั่งอยู่ตรงนั้น ยังคงหัวเราะคิกคักด้วยความสงบนิ่งเป็นอย่างมาก
……
ภายใต้สายตาจับจ้องของเทพจักรวาลทั้งปวง ชายชราอาภรณ์สีเหลือง ‘ผู้อาวุโสเซี่ย’ ก็พูดพลางยิ้มตาหยี “เวลามาถึงแล้ว ต่อให้มีสมบัติล้ำค่าอยากมอบให้มากกว่านี้ก็สายเกินไปแล้ว ขณะนี้อันดับคุณูปการภารกิจได้ถูกกำหนดขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว อันดับหนึ่งของครั้งนี้ก็คือมหาเคารพฝูอี่ ห้าหมื่นคุณูปการภารกิจ”
“ห้าหมื่นรึ”
“มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ ด้วยสถานะของมหาเคารพฝูอี่ แค่กำชับคำหนึ่งก็คงสามารถได้สักตำแหน่งหนึ่งจากในสกุลเซี่ยได้แล้วกระมัง แต่กลับใช้ห้าหมื่นคุณูปการภารกิจอย่างนั้นหรือ”
ทุกคนในที่นั้นพากันอ้าปากค้าง
ต้องรู้ไว้ว่าเนื่องจากเป็นศึกชิงตำแหน่ง ดังนั้นคุณูปการภารกิจจึงค่อนข้างต่ำ! จะส่งมอบขึ้นไปนั้นก็ขาดทุนเป็นอย่างมาก สามารถแลกมาได้ห้าหมื่นคุณูปการภารกิจ อย่างน้อยก็ต้องขาดทุนมากกว่าห้าหมื่นล้านแก้วผลึกจักรวาล! ซึ่งจำนวนเท่านี้ สำหรับผู้แกร่งกล้าระดับจอมเคารพก็ยังต้องเจ็บปวดใจ หอกเทพเมฆาแดงและลูกแก้วห้าภาพในมือของตงป๋อเสวี่ยอิงรวมกันก็ยังไม่มีค่ามากมายถึงเพียงนี้
“ร้ายกาจ” หัวใจของตงป๋อเสวี่ยอิงหนักอึ้ง จะต้องได้ตำแหน่งหนึ่งมาอย่างไร้ข้อกังขา
“เฮอะ” จอมเคารพมารอัคคีฟังแล้วหางตากลับกระตุกขึ้นมา เดิมทีเขาคิดว่าคุณูปการภารกิจของตนน่าจะใกล้เคียงกับมหาเคารพฝูอี่ แต่กลับห่างไกลกันถึงเพียงนี้!
“ผู้ที่จัดเป็นอันดับสองในครั้งนี้…” เสียงของชายชราอาภรณ์สีเหลืองสะท้อนก้องไปทั่วทั้งโถงตำหนัก “ก็คือจ้าวหิมะเหิน สามหมื่นคุณูปการภารกิจ”
สวบ!
บรรดาเทพจักรวาลทั้งหลายมองไปทางชายหนุ่มอาภรณ์ขาวซึ่งนั่งอยู่ตรงนั้นโดยพร้อมเพรียงกัน แต่ละคนต่างพากันตกอกตกใจ จ้าวหิมะเหินที่มาจากรัฐเมฆทักษิณาผู้นี้โหดร้ายเกินไปแล้วจริงๆ
“สามหมื่นคุณูปการภารกิจหรือ”
“เทพจักรวาลหน้าใหม่เช่นเขาคนหนึ่งกลับมอบสมบัติวิเศษให้มากมายถึงเพียงนี้ จ้าวมารเพลิงพิโรธที่เขาจับตัวมาก็เพียงแค่หนึ่งหมื่นสองพันคุณูปการภารกิจเท่านั้นเอง นอกจากนี้แล้ว เขายังเตรียมเอาไว้อีกถึงหนึ่งหมื่นแปดพันคุณูปการภารกิจเชียวหรือ บ้าคลั่งเกินไปแล้ว! ตามปกติแค่หนึ่งหมื่นคุณูปการภารกิจก็เพียงพอจะได้ตำแหน่งมาแล้ว”
“ช่างตัดใจเก่งเสียจริง”
“เป็นประมุขรัฐเมฆทักษิณาที่คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังอย่างนั้นหรือ ไม่เสียทีที่เป็นผู้แกร่งกล้าระดับจอมเคารพที่มั่งคั่งที่สุด”
“ต่อให้ประมุขรัฐเมฆทักษิณามั่งคั่งกว่านี้ ก็ไม่ควรสนับสนุนศิษย์ของตนอย่างฟุ่มเฟือยเช่นนี้หรอกกระมัง สามหมื่นคุณูปการภารกิจน่ะหรือ”
ภายในโถงด้านข้างเต็มไปด้วยเสียงแอบซุบซิบ แต่ละคนถ่ายเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเบาๆ
มหาเคารพฝูอี่มีสถานะสูงส่งเกินไป สามารถบีบสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูได้! ดังนั้นต่อให้เขาลงมือมากกว่านี้ ทุกคนก็คงจะเข้าใจได้
แต่จ้าวหิมะเหิน ‘อิงซานเสวี่ยอิง’ มิได้เป็นแม้แต่ระดับจอมเคารพเสียด้วยซ้ำ! ออกหน้าสร้างคุณูปการ,มากมายถึงเพียงนี้ ก็น่าหวาดหวั่นเกินไปแล้ว
“ผู้ที่จัดเป็นอันดับสามในครั้งนี้ก็คือจอมเคารพมารอัคคี” ชายชราอาภรณ์สีเหลืองพูดต่อไป “สองหมื่นหกพันคุณูปการภารกิจ”
จอมเคารพมารอัคคียิ้มแห้งๆ เห็นได้ชัดว่ามิได้ยินดียินร้ายสักเท่าใดนัก
มหาเคารพฝูอี่เกือบจะเป็นสองเท่าของเขาแล้ว!
ชนรุ่นหลังคนหนึ่ง กลับสามารถอยู่เหนือกว่าเขาได้
‘จอมเคารพมารอัคคี’ ผู้เห็นแก่หน้าตนเองอย่างมากย่อมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเป็นธรรมดา อันที่จริงการได้รับตำแหน่งก็นับว่าสำเร็จแล้ว เพียงแต่จอมเคารพมารอัคคีสนใจรักษาหน้าตนเองเกินไป เขาหยิ่งผยองถึงขั้นไม่ยอมเข้าร่วมสามตระกูลใหญ่! และบัญชาการขุมอำนาจฝ่ายหนึ่งเพียงลำพัง
“ผู้ที่จัดอยู่ในอันดับสี่…” ชายชราอาภรณ์สีเหลืองพูดต่อไป
ภายในโถงตำหนักเงียบสงบเกินไปแล้ว
เทพจักรวาลหลายคนที่เข้าร่วมการช่วงชิงกังวลขึ้นมาแล้ว เพราะเหลือตำแหน่งสุดท้ายเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!
“เป็นข้า ต้องเป็นข้าอย่างแน่นอน ข้าเตรียมไว้ถึงหนึ่งหมื่นแปดพันคุณูปการ ไม่มีทางไม่อยู่ในสี่อันดับแรกแน่” นัยน์ตาของจ้าวพันสุริยะแฝงแววรอคอยอันร้อนรุ่ม
“ได้แก่ประมุขเกาะฟู่ชุน สองหมื่นคุณูปการภารกิจ” ผู้อาวุโสเซี่ยชายชราอาภรณ์สีเหลืองพูดตำแหน่งสุดท้ายออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “มหาเคารพฝูอี่ จ้าวหิมะเหิน จอมเคารพมารอัคคีและประมุขเกาะฟู่ชุน ขอแสดงความยินดีกับทั้งสี่ท่านด้วย บัดนี้วังเทพจิตโลกาค่อยๆ เปิดออกมาแล้ว รอให้เปิดอย่างเต็มที่แล้ว จักรพรรดิเซี่ยก็จะพาพวกท่านเข้าไปยังวังเทพจิตโลกาพร้อมกัน”
พูดจบผู้อาวุโสเซี่ยก็หายวับไป
“ฮ่าฮ่า พี่หิมะเหิน ยินดีด้วยๆ ทุ่มเทมากมายถึงเพียงนี้เพื่อเข้าไปในวังเทพจิตโลกา ช่างน่านับถือจริงๆ”
“พี่หิมะเหิน ทำให้ข้าและคนอื่นๆ อิจฉาเสียจริง ข้าบำเพ็ญมาจนถึงบัดนี้ยังไม่เคยเข้าไปในวังเทพจิตโลกาเลย”
ภายในโถงตำหนักเต็มไปด้วยเสียงแสดงความยินดี
มีผู้มาแสดงความยินดีกับตงป๋อเสวี่ยอิง จอมเคารพมารอัคคีและประมุขเกาะฟู่ชุน และมีจำนวนน้อยนิดที่ไปแสดงความยินดีกับมหาเคารพฝูอี่! แม้นิสัยของมหาเคารพฝูอี่จะพอนับว่าดีอยู่บ้าง แต่โดยปกติก็ก่อให้เกิดความรู้สึก ‘คนแปลกหน้าห้ามเข้าใกล้’ ตามธรรมชาติ อยู่แล้ว มีเพียงระดับจอมเคารพและผู้ที่ใกล้ชิดกับเขาจำนวนน้อยนิดเท่านั้นที่จะเป็นฝ่ายเข้าไปแสดงความยินดีเอง
จากนั้นก็มีบรรดาเทพจักรวาลผุดลุกขึ้นแล้วจากไป การชุมนุมกันครั้งนี้ก็เพื่อรอตำแหน่งนี้นั่นเอง เมื่อตำแหน่งถูกประกาศออกมาแล้ว ผู้คนก็จากไป
มหาเคารพฝูอี่ก็ยืดกายขึ้นแล้วจากไป
จอมเคารพมารอัคคีก็ตอบรับเพียงไม่กี่คำแล้วก็จากไปเช่นกัน!
“น่าสนใจ” เจ้าลัทธิเก้าพิษยิ้มน้อยๆ อันที่จริงแล้วคุณูปการภารกิจในครั้งนี้ของเขาไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว!
ผู้ที่เข้าร่วมการแย่งชิงนั้น
มีคนเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่พยายามสุดชีวิตเพื่อจะเข้าไป ส่วนใหญ่ก็แค่คอยดูสถานการณ์เท่านั้น หากรู้สึกว่ามีหวังมากที่จะเข้าไปได้ ก็จะพยายามรวบรวมคุณูปการภารกิจให้ได้สักตั้งหนึ่ง หากรู้สึกว่าความหวังต่ำมาก ก็จะไม่อยากทุ่มเทเพื่อคุณูปการภารกิจเลยสักนิดเดียว!
เหมือนที่แล้วมา
เช่นหากมีสี่ตำแหน่ง ไม่มีผู้ใดสามารถทำภารกิจสังหารให้สำเร็จได้ และไม่มีคนอย่างมหาเคารพฝูอี่ที่จะต้องเอาตำแหน่งมาให้ได้ ภายใต้สถานการณ์ทั่วไปแล้ว หากทุกคนสู้อย่างไม่รุนแรงนัก ราวๆ หนึ่งหมื่นคุณูปการก็เพียงพอแล้ว หากเคราะห์ดี อาจถึงขั้นหกเจ็ดพันคุณูปการก็สามารถคว้าสักตำแหน่งหนึ่งได้แล้ว
ส่วนครั้งนี้น่ะหรือ
แม้จะกล่าวว่ามีสี่ตำแหน่งด้วยกัน แต่เนื่องจากมีมหาเคารพฝูอี่ด้วย อันที่จริงแล้วก็เท่ากับสามตำแหน่งเท่านั้น!
นอกจากนี้เนื่องจากตงป๋อเสวี่ยอิงและจอมเคารพมารอัคคีทำภารกิจสังหารได้สำเร็จ จึงทำให้มาตรฐานของการชิงตำแหน่งในครั้งนี้สูงขึ้นทันที! ผู้ที่เข้าร่วมการช่วงชิงส่วนใหญ่ก็เพียงเพื่อจะเสี่ยงโชคดูเท่านั้น เมื่อเห็นเข้าก็ถอดใจกันหมดทันที! เนื่องจากพวกเขาเข้าใจว่า…ศึกชิงตำแหน่งครั้งนี้ยากมากอย่างเห็นได้ชัด ต่อให้ได้รับตำแหน่งมา ก็ต้องแลกด้วยอะไรมากมายนัก ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
พวกเขามีอายุขัยยืนยาว อย่างมากก็แค่รอครั้งต่อไปก็เท่านั้นเอง!
เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้จริงๆ ผู้ที่จัดอยู่ในอันดับสี่ต้องใช้ถึงสองหมื่นคุณูปการภารกิจ! บ้าไปแล้วจริงๆ
“อดเข้าไปหรือนี่ ขาดอีกนิดเดียว ขาดอีกนิดเดียวเท่านั้น” จ้าวพันสุริยะสีหน้าไม่น่ามองอยู่บ้าง เขาก็จากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
……
ตงป๋อเสวี่ยอิงกลับอารมณ์ดียิ่งนัก ทว่าเขาก็สัมผัสได้ว่าบรรดาเทพจักรวาลของรัฐโบราณคิมหันตวายุกลุ่มนี้ออกจะไม่ชอบใจอยู่บ้างที่ผู้มาจากรัฐภายนอกชิงตำแหน่งไปได้! นอกจากจำนวนน้อยนิดที่คุ้นเคยกับตนดีแล้ว ส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างผลักไสเขา ตงป๋อเสวี่ยอิงไม่สนใจเรื่องนี้นัก จะผลักไสก็เป็นเรื่องธรรมดา
เพราะถึงอย่างไรสกุลเซี่ยและสกุลชางก็ล้วนแต่ไม่รับผู้แกร่งกล้าจากภายนอก มีเพียงสกุลฝานเท่านั้นที่รับผู้แกร่งกล้าจากภายนอก
และมิอาจขอให้พวกเขามองตนเป็นคนกันเองได้ด้วย สำหรับตนเองแล้ว รัฐโบราณคิมหันตวายุก็เป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งของเขา! ได้โอกาสเข้าไปก็เพียงพอแล้ว
“เสวี่ยอิง ครั้งนี้เจ้าสะสมได้สามหมื่นคุณูปการภารกิจรึ ทุ่มเทมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาถ่ายเสียงถามด้วยความยินดีเป็นอย่างมาก เขาเพิ่งจะเข้าใจสี่ตำแหน่งแรกจากสหายผู้หนึ่ง
“ในเมื่อจับตัวจ้าวมารเพลิงพิโรธได้ทั้งที ก็ย่อมต้องคว้าโอกาสเอาไว้ให้ได้ ครั้งนี้การช่วงชิงดุเดือดเกินไปแล้ว เกรงว่าหากคุณูปการภารกิจน้อยไปจะไม่มีโอกาส ดังนั้นข้าจึงทำให้มากไว้เสียเลย” ตงป๋อเสวี่ยอิงถ่ายเสียงพูด
“อื้ม วังเทพจิตโลกาช่างควรค่าแก่การเข้าไปโดยแท้ คว้าโอกาสเอาไว้ให้ดี หากโชคดีสามารถได้สมบัติลับระดับยอดสุดมา เจ้าก็จะได้กำไรมหาศาลแล้ว” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาเบิกบานใจเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าตงป๋อเสวี่ยอิงตัดสินใจก่อนแล้ว
จากนั้นเขาก็กลับมายังเมืองหิมะเหินเพียงลำพัง แล้วเริ่มเก็บตัวบำเพ็ญอยู่ในจวนจ้าวเมืองหิมะเหิน รอคอยวันที่วังเทพจิตโลกาจะเปิดออกเต็มที่อย่างสงบ
………………………