Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ตอนที่ 46 สุดยอดตัวประหลาด
ภายใต้ความระมัดระวังของตงป๋อเสวี่ยอิง ก็สำแดงเขตลวงโลกเทียมออกไปแผ่ปกคลุมบริเวณโดยรอบ แน่นอนว่าหลีกเลี่ยงพวกเขา จวินอ๋องดำ จ้าวกู่เซียว และพรานผู้ล่าทั้งสามคน
“หึๆ” จ้าวกู่เซียวมองตงป๋อเสวี่ยอิงปราดหนึ่งแล้วแค่นยิ้มเอ่ยว่า “เจ้าเด็กหิมะเหิน อย่าได้รีบร้อนนักเลยน่า ยังมิได้เริ่มต้นเลยด้วยซ้ำ”
“ภัยมาถึงตัวแล้ว ข้าก็ต้องถูกเคลื่อนย้ายตัวไปยังมิติแห่งใหม่” จอมเคารพกระบี่ปีศาจถ่ายเสียงพูด “ดังนั้นเมื่อใดที่เข้าไปสู่มิติแห่งใหม่ เจ้าก็ค่อยสำแดงเขตลวงโลกเทียมอีกครั้ง”
“ก็ได้” ตงป๋อเสวี่ยอิงจึงได้เข้าใจว่าเขาพูดหยอกล้อ
หมดหนทาง ไม่มีประสบการณ์
อีกทั้งยังผ่านไปเป็นเวลาสองวันแล้วด้วย
“หืม”
เดิมทีบริเวณโดยรอบคือสวนธรรมดาๆ แห่งหนึ่ง แต่ทัศนียภาพพลันบิดเบี้ยวเปลี่ยนแปรกลายเป็นท้องฟ้าอันมืดมิดกว้างใหญ่ไพศาล จ้าวระดับยอดฝีมืออย่างพวกตงป๋อเสวี่ยอิงทั้งหกคน ทุกคนต่างก็ยืนอยู่กลางท้องฟ้า
“พรึ่บ” ตงป๋อเสวี่ยอิงสำแดงเขตลวงโลกเทียมผ่านอาภรณ์ราชันย์มารโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย สำแดงแล้วก็ห่อหุ้มท้องฟ้าผืนใหญ่รอบๆ ตนเอง มหาเคารพผู่ซู่ และจอมเคารพกระบี่ปีศาจเอาไว้
“ศัตรูมาแล้ว”
เทพจักรวาลทั้งหกคนในที่นั้นต่างก็มองเห็นเรือรบอันน่าอัศจรรย์กว่าร้อยลำที่ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศไกลออกไป ภายในเรือรบทุกลำต่างก็มีมนุษย์อยู่เป็นจำนวนมาก ภายในเรือรบลำหนึ่งในนั้นมียอดฝีมือกว่าพันคนรวมตัวกันอยู่ภายในโถงตำหนักของเรือรบ แต่ละคนนั่งขัดสมาธิอยู่ ที่บริเวณใจกลางของห้องโถงมีชายชราผมขาวคนหนึ่งนั่งอยู่
“ทุกท่าน นี่ก็คือสุดยอดตัวประหลาดของ ‘การแสดงจักรวาลมายา’ แล้ว พวกเราก็แค่สังหารเป้าหมายตัวนั้นที่เป็นของพวกเราให้สำเร็จเท่านั้น ของกำนัลของเจ้าจักรวาลมายา พวกเราต่างก็สามารถก้าวหน้าได้เป็นอย่างมาก เมื่อถึงเวลานั้นอาณาเขตที่จักรวรรดิปกครองต่างก็สามารถขยายกว้างขึ้นได้เป็นอย่างมาก อย่างน้อยก็ปกครองจักรวาลมิติมากขึ้นเป็นสิบเท่า”
“อืม”
“ลุยเลย”
“สุดยอดตัวประหลาด”
ดูเหมือนว่าเหล่ายอดฝีมือระดับสุดยอดของทั้งจักรวรรดิรัศมีนิรันดร์แต่ละคนนัยน์ตาลุกโชน พวกเขาประสบกับความยากลำบากมากมายเพียงใด เผชิญการต่อสู้แข่งขันกับจักรวรรดิอื่นๆ อย่างหนักหน่วงครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดพวกเขาก็มีคุณสมบัติพอจะได้เป็นหนึ่งในสมาชิกที่ห้อมล้อมสุดยอดตัวประหลาด
“เรือรบกว่าร้อยลำ เชื่อว่าขุมอำนาจทุกแห่งที่เรือรบเป็นตัวแทนต่างก็ต้องปกครองจักรวาลมิติกันเป็นจำนวนไม่น้อย จะต้องมิได้อ่อนแอไปกว่าพวกเราสักเท่าใดเลย”
“เตรียมตัว! การคุ้มกันของเจ้าจักรวาลมายาจะถูกถอนออกไปเดี๋ยวนี้แล้ว”
เดิมทีรอบนอกเรือรบมีการคุ้มกันอันไร้รูปร่างอยู่ คุ้มกันเรือรบทุกลำเอาไว้ ผู้ที่มีคุณสมบัติจะเข้ามาสู่ ‘การแสดงจักรวาลมายา’ นั้น มีความเชี่ยวชาญอย่างยิ่งในการเริ่มต้นสำแดงพลังยุทธ์ของแต่ละคน เห็นเพียงว่ายอดฝีมือทุกคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่เปล่งรัศมีออกมา รัศมีมีทั้งที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ หลังจากชายชราผมขาวที่จุดศูนย์กลางระเบิดรัศมีอันระยับจับตาน่าหวาดหวั่นออกมาแล้ว
ทั่วทั้งด้านในโถงตำหนักเรือรบมีค่ายกลอันไร้รูปร่างปรากฏขึ้น เงาร่างและรัศมีที่มีอยู่ทั้งหมดผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วทั้งหมดก็แทรกซึมเข้าสู่ภายในร่างกายของชายชราผมขาว
กลิ่นอายของชายชราผมขาวยกระดับสูงขึ้นอย่างฉับพลัน
“ครืน”
การคุ้มกันอันไร้รูปร่างเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา
“มาแล้ว” พละกำลังของชายชราผมขาวในขณะนี้ยิ่งใหญ่มหาศาล เขารอคอยอย่างตื่นเต้น
ในที่สุดการคุ้มกันอันไร้รูปร่างด้านนอกเรือรบก็กระจัดกระจายหายไป
“ลงมือ!”
เรือรบกว่าร้อยลำกลางท้องฟ้าดูคล้ายว่าจะลงมือโดยพร้อมเพรียงกันเสียแล้ว
……
พวกตงป๋อเสวี่ยอิงเทพจักรวาลหกคนอยู่กลางเวหา มองดูเรือรบอันน่ามหัศจรรย์กว่าร้อยลำที่อยู่ไกลออกไป ที่พื้นผิวของเรือรบต่างก็มีเกราะป้องกันอันไร้รูปร่างอยู่ พลานุภาพที่เกราะป้องกันอันไร้รูปร่างนี้แผ่ออกมาสูงส่งเหนือผู้ใด ทำให้พวกตงป๋อเสวี่ยอิงคิดวิธีลงมือใดๆ ไม่ออกเลย พวกเขาเข้าใจว่าการลงมือนั้นเป็นการเสียเวลา ย่อมไม่มีทางสะเทือนอยู่แล้ว
“วังเทพจิตโลกาคงจะมีวิญญาณค่ายกลอยู่ คงจะเป็นวิญญาณค่ายกลที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง” จอมเคารพกระบี่ปีศาจถ่ายเสียงพูดให้กับตงป๋อเสวี่ยอิง
ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า
วังเทพจิตโลกาคงจะมีปณิธานอันไร้รูปร่างควบคุมอยู่จริงๆ มิฉะนั้นการทดสอบของเจดีย์คละถิ่นจะเฉลียวฉลาดถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ต่อต้านตนได้พอดิบพอดีเลยหรือ ‘ปณิธาน’ นี้คงจะเป็นวิญญาณค่ายกลหรือหุ่นเชิด ‘หยวน’ ผู้แกร่งกล้าคละถิ่นที่หนีออกไปจากกรงขังแล้วผู้นั้นไม่สามารถทุ่มเทแรงกายแรงใจทำการขัดเกลาเหล่านี้เป็นเพื่อนพวกเขาได้ทุกครั้งอยู่แล้ว
ในที่สุดเกราะป้องกันอันไร้รูปร่างของเรือรบกว่าร้อยลำก็มลายหายไป
“หึ มิติมากมาย จักรวรรดิดาราสวรรค์ของข้าก็ไร้เทียมทาน ข้าอยากจะลองดูสักหน่อยว่าเจ้าตัวประหลาดพวกนี้จะร้ายกาจสักเพียงใดกันเชียว” บนเรือรบสีเงินลำหนึ่ง บุรุษร่างสูงใหญ่ที่ถือไม้เท้าเอาไว้ในมือคนหนึ่งมองดูอย่างเคร่งขรีม บนเรือรบมีค่ายกลกะพริบอยู่รางๆ จากนั้นห้วงมิติรอบๆ พวกตงป๋อเสวี่ยอิงหกคนก็กดดันลงมาในทันใด กดดันจนกลายเป็นภาพวาดภาพหนึ่ง! พลังคุกคามอันกดดันเช่นนี้มีพลังคุกคามดุจดังภาพวาดที่สมบูรณ์เลยทีเดียว
ทว่าที่อยู่ที่นี่ในตอนนี้นอกจากตงป๋อเสวี่ยอิงแล้ว คนอื่นๆ อีกห้าคนล้วนเป็นจอมเคารพกันทั้งสิ้น เคล็ดวิชาเช่นนี้สำหรับพวกเขาแล้วก็เป็นเรื่องน่าขัน
“ฟิ้วๆๆ!” จอมเคารพกระบี่ปีศาจสะพายกระบี่เทพ เพียงแค่ประกายกระบี่อันน่าหวาดหวั่นที่ร่างกายแผ่ออกมา ก็ทำให้ห้วงมิติที่หมายจะกดดันรอบๆ แหลกกระจุยกระจายไปในทันที
ตงป๋อเสวี่ยอิง จอมเคารพกระบี่ปีศาจ และมหาเคารพผู่ซู่ พวกเขาสามคนอยู่ด้วยกัน ห้วงมิติบริเวณรอบตัวพวกเขาก็แหลกสลายเป็นจุณจนหมดสิ้น ถึงแม้ว่าห้วงมิติที่อยู่ไกลออกไปจะกดดันเป็นภาพวาดภาพหนึ่งได้สำเร็จ แต่ก็มิอาจส่งผลกระทบต่อบริเวณรอบๆ ตัวพวกเขาได้เลย
“ทุกท่านร่วมมือกัน สุดยอดตัวประหลาดหกตนนี้แข็งแกร่งอย่างที่สุด พวกเราร่วมมือกันจัดการตนหนึ่งเถิด” เรือรบกว่าร้อยลำติดต่อสื่อสารระหว่างกันผ่านการแสดงจักรวาลมายา
“ร่วมมือกันจัดการใครก่อนดีเล่า พวกเราแต่ละคนต่างก็มีเป้าหมายของตนเองอยู่นี่นา”
พวกเขาต่างก็มีเป้าหมายภารกิจของตนเอง
อย่างเช่นภารกิจของจักรวรรดิดาราสวรรค์ก็คือ…
ภารกิจบังคับ สังหารสุดยอดตัวประหลาด ‘จ้าวหิมะเหิน’ หากมิอาจสังหารได้ ภารกิจล้มเหลว ภารกิจต่อเนื่องก็จะสิ้นสุดลงในทันที!
ภารกิจทางเลือก สังหาร ‘จอมเคารพกระบี่ปีศาจ’ ‘จ้าวกู่เซียว’ ‘จวินอ๋องดำ’ ‘พรานผู้ล่า’ และ ‘มหาเคารพผู่ซู่’ สังหารคนหนึ่งได้ รางวัลก็จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว หากสังหารได้สองคน รางวัลจากภารกิจก็จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวหนึ่ง
……
ภารกิจบังคับนั้นจำเป็นจะต้องสำเร็จเสร็จสิ้น
อย่างเช่นจักรวรรดิดาราสวรรค์ ต่อให้สังหารตัวประหลาดอื่นใดสักตนหนึ่ง ถ้าหากมิได้สังหารจ้าวหิมะเหินให้ตายไปก็ถือว่าภารกิจล้มเหลวอยู่ดี ภารกิจต่อเนื่องทั้งหมดก็จะสิ้นสุดลงไปด้วย ต้องรู้ไว้ว่าภารกิจต่อเนื่องของโลกจักรวาลมายาแห่งนี้ เพื่อให้สำเร็จไปจนถึงวงท้ายที่สุด พวกเขาทั้งจักรวรรดินั้นทุ่มเทค่าใช้จ่ายและทรัพยากรไปมากมายเพียงใด วงท้ายที่สุดจะสำเร็จหรือไม่ ความแตกต่างของรางวัลก็ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน
แต่ละฝ่ายต่างก็หวังจะให้ช่วยจัดการเป้าหมายของตนเองก่อน
“ปัง…”
ห้วงมิติโดยรอบมหาเคารพทั้งห้าและตงป๋อเสวี่ยอิงแหลกสลายไปก่อนแล้ว การโจมตีนานาชนิดตรงเข้ามาเพียงความนึกคิดเดียวของตงป๋อเสวี่ยอิงก็ทำให้เขตลวงโลกเทียมล้อมรอบเรือรบทั้งหมดที่โจมตีสามคนทางฝ่ายตนเอาไว้แล้ว! แม้กระทั่งโจมตีพวกจ้าวกู่เซียวสามคน เขาจึงมิอาจมายุ่งด้วยได้ เขาไม่สำแดงเขตลวงโลกเทียมกับลูกน้องของจอมเคารพสามคนนั้นก็นับได้ว่าดีมากแล้ว
“หืม”
“สุดยอดตัวประหลาด ‘จ้าวหิมะเหิน’ สำแดงเขตลวง”
ทันใดนั้นหัวหน้าของเรือรบกว่าครึ่งต่างก็รู้สึกได้ว่าเขตลวงวิญญาณอันน่าหวาดหวั่นคืบคลานเข้ามา ระบบ ‘การแสดงจักรวาลมายา’ ของพวกเขาก็กระตุ้นเตือนพวกเขา ถึงขนาดที่พวกเขาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับยอดฝีมือใต้บังคับบัญชามากมาย อีกทั้งยังมีเรือรบคุ้มกัน แต่ละคนก็ยังต้องแบ่งพลังจิตส่วนใหญ่ไปต้านทานเขตลวงโลกเทียมอยู่ดี ชั่วขณะนั้นมีบางเคล็ดวิชาที่ไม่สามารถสำแดงออกมาได้เสียแล้ว
เคล็ดวิชาอันน่าหวาดหวั่นนานาชนิดคืบคลานเข้ามาโจมตีตน
ส่วนมหาเคารพผู่ซู่ที่อยู่อีกด้านยืนอยู่ที่นั่น ผิวกายเปล่งรัศมีอันขมุกขมัว รัศมีโคจรรอบๆ ตงป๋อเสวี่ยอิงรอบหนึ่งแล้วเคล็ดวิชาเหล่านั้นก็หายวับไปกลางอากาศจนสิ้น มิอาจสัมผัสถูกตงป๋อเสวี่ยอิงได้เลย
“พรึ่บ”
ทันใดนั้นก็มีอักขระอันแปลกประหลาดเคลื่อนเข้ามา ไม่ได้รับผลกระทบจากรัศมีที่มหาเคารพผู่ซู่เปล่งออกมาเลย แล้วโจมตีมาทางตงป๋อเสวี่ยอิง
“ฟิ้ว”
จอมเคารพกระบี่ปีศาจมือกุมกระบี่เทพแล้วแทงออกไปสุ่มๆ กระบี่หนึ่ง ประกายกระบี่วับวาบแล้วฟาดฟันลงบนอักขระอันแปลกประหลาดนั้น อักขระทลายลงแล้วสลายตัวไป ถึงอย่างไรกระบี่หนึ่งของเขาก็มีพลังระดับเทพจักรวาลขั้นสุดยอด เรือรบเหล่านี้ถึงแม้ว่าการโจมตีแต่ละอย่างจะพิเศษน่าอัศจรรย์ แต่ที่แข็งแกร่งที่สุดก็เป็นเพียงแค่เทพจักรวาลชั้นที่สองขั้นสุดยอดเท่านั้นเอง พวกเขาเพียงแค่มีความหลากหลายเท่านั้น การจะผสานรวมกันขึ้นมาก็เป็นเรื่องยากลำบาก ถ้าหากยับยั้งจอมเคารพสักคนเข้าพอดี ยอดฝีมือระดับจอมเคารพก็อาจจะประสบเคราะห์หนักได้
“ทำลายล้าง” ประกายกระบี่ของจอมเคารพกระบี่ปีศาจแผ่ไปล้านล้านลี้ ฟาดฟันลงบนเรือรบกระบี่หนึ่ง เรือรบก็สั่นสะท้านแล้วเริ่มแตกร้าว
พรานผู้ล่าที่ยืนอยู่ห่างๆ ทันใดนั้นก็หยิบเอาคันธนูอันหนึ่งออกมา เหนี่ยวสายธนูอย่างเต็มที่แล้วยิงลูกธนูอันหนึ่งออกมา
ขวับ
ยามที่ลูกธนูถูกยิงออกมา ทั่วทั้งผืนฟ้ามีเงารางของลูกธนูขนาดมหึมาที่แผ่เงาบดบังไปทั่วทั้งผืนฟ้าปรากฏขึ้นจางๆ จากนั้นเงารางก็ปักเข้าไปบนเรือรบลำหนึ่งในนั้น ครืน!!! เรือรบลำนั้นพลันสั่นสะท้านแล้วมีรอยแยกจำนวนมหาศาลปรากฏขึ้น ดูท่าทางว่าหากมีลูกธนูมาอีกดอกเดียวก็คงพังทลายเสียแล้ว
“พวกเราแยกกันก็คงจะไร้ความหวัง เร็วเข้า ตัวประหลาดพรานผู้ล่าช่างน่ากลัวเหลือเกิน มาร่วมมือกันสังหารเขาก่อนเถิด”
“ได้ จัดการพรานผู้ล่าก่อนเลย”
……
พร้อมกันกับการโจมตีด้วยวิธีการต่างๆ นานากว่าร้อยสาย พรานผู้ล่ากลับยืนอยู่ที่นั่น เงาร่างราวกับภาพมายา การโจมตีจำนวนนับไม่ถ้วนเคลื่อนผ่านร่างของเขา มีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่เหนี่ยวนำระลอกคลื่นบางส่วน
พรานผู้ล่ายิ้มเย็น
เคล็ดการรักษาชีวิตของเขาห่างชั้นกับจอมเคารพคนอื่นๆ อีกสามคน ก็มีแค่มหาเคารพผู่ซู่ผู้เชี่ยวชาญด้านกาลเวลาเท่านั้นที่นับได้ว่าร้ายกาจกว่าเขาเล็กน้อยเท่านั้น เคล็ดวิชาของเทพจักรวาลชั้นที่สองขั้นสุดยอดเหล่านี้ อีกทั้งยังไม่มีค่ายกลรบผสานด้วย รวมกันขึ้นมา สำหรับพรานผู้ล่าแล้วก็เป็นเรื่องน่าขันอย่างสิ้นเชิง
ปึง ปึง ปึง
ในระหว่างการประมือก็มีเรือรบสามลำแหลกสลายไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีประโยชน์ ไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาเลย”
“เปลี่ยนเป้าหมาย ไปจัดการจ้าวหิมะเหินผู้นั้นแทน เขตลวงวิญญาณของเขาส่งผลกระทบต่อพลังยุทธ์ของข้า”
“แต่ตัวประหลาดมหาเคารพผู่ซู่และจอมเคารพกระบี่ปีศาจที่อยู่ข้างๆ นั้นดูเหมือนว่าจะช่วยเหลือเขาอยู่ โดยเฉพาะมหาเคารพผู่ซู่ การโจมตีส่วนใหญ่ของพวกเราล้วนไร้ผล”
……
ผู้ที่อยู่บนเรือรบเหล่านี้ก็นับได้ว่าเป็นยอดฝีมือ การส่งสารติดต่อระหว่างวิญญาณก็รวดเร็วเป็นที่สุด
แต่อาศัยเคล็ดวิชาที่พวกเขาสำแดง สุดท้ายแล้วก็ได้แค่เป็นภัยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น!
พวกเขาเพ่งความสนใจจัดการคนใดคนหนึ่งในพวกตงป๋อเสวี่ยอิง คนอื่นๆ แต่ละคนล้วนเป็นระดับจอมเคารพ พลังโจมตีแต่ละครั้งล้วนสะเทือนฟ้าดิน เมื่อประจันหน้าต่างก็สามารถทำลายพลังคุกคามส่วนใหญ่ได้ ถึงแม้ว่าจ้าวกู่เซียวที่การรักษาชีวิตอ่อนแอสักหน่อยจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ก็ทำลายเรือรบต่อไปด้วยความโกรธแค้น
สำหรับการจัดการมหาเคารพผู่ซู่ จอมเคารพกระบี่ปีศาจ และตงป๋อเสวี่ยอิงน่ะหรือ
พวกเขาสามคนนั้นร่วมมือกัน
ภายใต้เขตพลังของมหาเคารพผู่ซู่ เกือบทั้งหมดของการโจมตีเหล่านี้ล้วนสิ้นฤทธิ์! หายไปอย่างไร้ร่องรอยโดยสิ้นเชิงเสียแล้ว เหลือไว้เพียงการโจมตีเล็กน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องให้มหาเคารพผู่ซู่ลงมืออีกแล้ว กระบี่เดียวของจอมเคารพกระบี่ปีศาจก็สามารถสกัดทิ้งไปได้อย่างง่ายดาย
ตงป๋อเสวี่ยอิงก็เพียงแค่สำแดงเขตลวงโลกเทียม ส่งผลกระทบต่อศัตรูอยู่ตรงนั้นก็เพียงพอแล้ว
ตามการล่มสลายของเรือรบลำแล้วลำเล่า ก็ยิ่งไม่มีพลังต้านทานอีกต่อไปแล้ว ในที่สุดก็แหลกสลายไปจนสิ้น
“ล้มเหลวเสียแล้ว”
“ภารกิจต่อเนื่องก็เหลืออยู่เพียงแค่ส่วนสุดท้ายเท่านั้น คราวนี้รางวัลของเจ้าจักรวาลมายาก็น้อยนิดจนน่าอนาถเสียแล้วสิ”
“สมควรตาย ยากเย็นเกินไปแล้ว!”
“ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นสุดยอดภารกิจในตำนาน จะยากก็เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่ว่ายากลำบากถึงเพียงนี้ก็เหนือจินตนาการเกินไปแล้ว สุดยอดตัวประหลาดเหล่านี้มาจากไหนกัน เป็นของจักรวาลไหนกันแน่”
พวกเขาต่างก็รู้ดี
ทุกสิ่งทุกอย่างในการแสดงจักรวาลมายา ต่างก็เป็นผู้แกร่งกล้าที่แท้จริงเข้าไปอยู่ในนั้น มีตัวประหลาดอันน่าหวั่นเกรงเช่นนั้นอยู่… แสดงถึงสถานที่ที่ไม่รู้จัก ก็คือผู้แกร่งกล้าที่น่าหวาดหวั่นเช่นนี้นี่เอง
……
ผืนฟ้าโดยรอบบิดเบี้ยวแปรเป็นมายา
พวกตงป๋อเสวี่ยอิงทั้งหกคนก็กลับมายังสวนในตอนแรกอีกครั้ง
……………………………………..