Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ตอนที่ 58 การห้ำหั่นในมิติคละถิ่น
“ไม่ต้องเลือกแล้ว มีแต่การรอดจากความตายเท่านั้น!” ราชันย์อนธการอมตะขบกราม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากเลือก แต่เมื่อใดที่เผาผลาญโลหิตหัวใจไปจนหมด เช่นนั้นตงป๋อเสวี่ยอิงก็จะครองความได้เปรียบเหนือกว่า เขาก็ไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะเลือกได้แล้ว
ปัง ปัง…
ขณะที่ฝ่ามือสีทองคู่หนึ่งกำลังต้านทานหอกยาวอันน่าหวาดหวั่นอยู่นั้นเอง ผืนฟ้ายามราตรีบริเวณรอบๆ ก็กลายเป็นผุยผง แม้กระทั่งรอยแยกอันดำสนิทมากมายต่างก็สามารถมองเห็น ‘มิติคละถิ่น’ ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของรอยแยกได้ ต่างก็มีพลังคละวิถีมากมายแทรกผ่านรอยแยกแล้วแผ่เข้ามา นั่นคือมิติระดับที่สูงกว่า เป็นสถานที่ซึ่งบุคคลระดับชีวิตขั้นสูงกว่าเท่านั้นจึงจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้จริงๆ
พรึ่บ!
ราชันย์อนธการอมตะพุ่งเข้าไปยังมิติคละถิ่นตามรอยแยกที่ฉีกขาดโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
“หืม”ตงป๋อเสวี่ยอิงสีหน้าแปรเปลี่ยน แต่เขาก็มิได้ลังเลแล้วแทรกตัวตรงเข้าไปยังมิติคละถิ่นเช่นเดียวกัน
“อะไรกันน่ะ!”
“ราชันย์อนธการอมตะหนีเข้าไปในมิติคละถิ่นแล้วจ้าวหิมะเหินผู้นั้นก็ไล่ตามเข้าไปเช่นกันอย่างนั้นหรือ ต่างก็มิได้สำแดงศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกาแล้วบุกเข้าไปกันเช่นนี้น่ะหรือ พวกเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรืออย่างไร”
“คนหนึ่งไล่ตามคนหนึ่งหลบหนี แล้วพากันบุกเข้าไปยังมิติคละถิ่นอย่างนั้นหรือ มิได้ว่ากันว่าหากมิได้หนีออกจากกรงขัง หลังจากที่เข้าไปยังมิติคละถิ่นแล้วก็อาจถูกพลังคละวิถีกัดเซาะจนต้องตายในที่สุดหรือไร”
“เจ้ารู้อะไรบ้างไหม ราชันย์อนธการอมตะมีพลังยุทธ์เช่นไร บุคคลผู้ไร้เทียมทานทั่วๆ ไปล้วนมิใช่คู่ต่อสู้ของเขาทั้งสิ้น ส่วนจ้าวหิมะเหินผู้นั้นก็ล้ำเลิศยิ่งกว่าราชันย์อนธการอมตะเสียอีก มาถึงระดับขั้นอย่างพวกเขา บางทีก็อาจจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ภายในมิติคละถิ่นได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ กระมัง”
เหล่าผู้ที่สังเกตการณ์อยู่ทั่วทั้งดินแดนจิตโลกาต่างก็ปากอ้าตาค้าง
บุกเข้าไปในมิติคละถิ่นอย่างนั้นหรือ
เห็นได้ชัดว่ามิได้รนหาที่ตาย
นี่เกินกว่าจินตนาการของพวกเขาเสียแล้ว สำหรับเทพจักรวาลธรรมดาทั่วไปนั้น นอกจากเคล็ดการหลบหลีกที่พิเศษจำนวนหนึ่ง ถ้าหากร่างกายตรงเข้าไปยังมิติคละถิ่นก็คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“จ้าวหิมะเหินมีจิตสังหารต่อราชันย์อนธการอมตะอย่างหนักหน่วงจริงๆ” จักรพรรดิเซี่ยดูอยู่ห่างๆ แล้วก็ทอดถอนใจประโยคหนึ่ง แต่เขากลับรู้ว่าร่างกายพุ่งออกจากโลกกำเนิด ที่บริเวณรอบๆ โลกกำเนิด…
ขอเพียงแค่มิได้จากไปไกลเกินไป ก็ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง อย่างเช่นเคล็ดวิชาฝึกกายคละถิ่นของเขา ก็คือเคล็ดวิชาที่อาศัยพลังคละวิถีบำเพ็ญร่างกาย
“ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาสองคนเป็นอย่างไรบ้าง” บรรพชนฝานที่อยู่ข้างๆ เอ่ยถาม ตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่รู้สถานการณ์การต่อสู้เลย
จักรพรรดิชางและจอมกระบี่ก็มองไปทางจักรพรรดิเซี่ยเช่นเดียวกัน
“ดูเอาเถิด” จักรพรรดิเซี่ยโบกมือคราหนึ่ง กลางอากาศด้านข้างก็มีจอภาพปรากฏขึ้น ซึ่งก็คือภาพเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในมิติคละถิ่น
ราชันย์อนธการอมตะบุกเข้าไปในมิติคละถิ่น พลังคละวิถีที่อยู่ในบริเวณรอบๆ ต่างก็ถูกปะทะจนกระจายตัวไปเสียแล้ว ทว่าตงป๋อเสวี่ยอิงผู้กุมหอกชิงเหอเอาไว้ในมือกลับไล่ล่าสังหารเข้าไปด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอีก!
……
ตอนนี้ทั่วทั้งดินแดนจิตโลกา ผู้ที่ยังสามารถสังเกตการณ์การต่อสู้ได้อยู่ก็มีน้อยจนสามารถนับนิ้วได้ แม้กระทั่งบุคคลผู้ไร้เทียมทานส่วนใหญ่ก็ไม่มีทางสังเกตการณ์การต่อสู้ได้เลย!
“เสวี่ยอิง!” ที่รัฐเมฆทักษิณา แม่เฒ่าอิงซานก็ยังกระวนกระวายขึ้นมา
บุกเข้าไปยังมิติคละถิ่นหรือ
“ช่างบ้าบิ่นนัก บ้าบิ่นเกินไปแล้ว” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาก็กังวลใจเป็นอย่างยิ่ง “ต่อให้สังหารราชันย์อนธการอมตะจนตาย ถ้าหากไม่ระวังตนเองก็ต้องสู้จนตัวตายเช่นกัน เหลืออาวุธคละถิ่นทิ้งเอาไว้ที่มิติคละถิ่น เช่นนั้นมานึกเสียใจภายหลังก็สายเกินไปแล้ว”
บนดินแดนจิตโลกา สิ่งที่เหล่าบุคคลผู้ไร้เทียมทานพึ่งพาก็คือสุดยอดสมบัติลับล้ำค่า ตงป๋อเสวี่ยอิงมีพลังรบในตอนนี้ ส่วนใหญ่ก็เพราะอาศัยอาวุธคละถิ่น แน่นอนว่าเขายังมีเคล็ดเขตลวงโลกเทียมส่งเสริมอีกด้วย
“ก็ไม่รู้เลยว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
“มองไม่เห็นอีกแล้ว”
“บุกเข้าไปยังมิติคละถิ่นก็ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
ผู้แกร่งกล้ามากมายต่างก็ตื่นเต้นกระวนกระวายกันเป็นอย่างยิ่ง
นี่คือการห้ำหั่นอย่างเอาเป็นเอาตายของบุคคลที่น่าหวั่นเกรงที่สุดในดินแดนจิตโลกาในตอนนี้สองคน พวกเขาอยากจะรู้ผลลัพธ์เป็นอย่างยิ่ง
******
ภายในมิติคละถิ่น
“ปัง”
ตงป๋อเสวี่ยอิงตามติดเข้าไปยังมิติคละถิ่นผ่านทางรอยแยกสีดำโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
หลังจากไปถึงขั้นสุดยอดแล้ว เขาก็เสียเวลาไปหกร้อยปีในการรวบรวมพลังยุทธ์ ระหว่างนั้นเขาก็เคยทดลองคิดค้นฝึกกายคละถิ่นขั้นที่สามอยู่เล็กน้อย! ทั้งยังเคยเข้าไปยังมิติคละถิ่นมาก่อนด้วย เพราะว่ามาถึงระดับขั้นนี้แล้วก็เป็นปกติอย่างยิ่ง ภายใต้การระเบิดของหอกชิงเหอของเขา ก็สามารถระเบิดเป็นหลุมยักษ์ที่กินพื้นที่กว่าร้อยตารางเมตรออกมาได้อย่างง่ายดาย พลังคละวิถีจำนวนมากเอ่อท้นเข้ามา มิได้แตกต่างกับมิติคละถิ่นของร่างกายตนมากสักเท่าใดนัก
ร่างแยกที่เขาส่งมามิได้พกพาอาวุธเทพคละถิ่น ทั้งยังเคยเข้าไปในมิติคละถิ่น เคยรับสัมผัสมันมาก่อนแล้วด้วย!
เพราะมีประสบการณ์ ดังนั้นราชันย์อนธการอมตะจึงพุ่งเข้าไปยังมิติคละถิ่นอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย!
“ปัง…”
การเข้าไปอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าจะมีประสบการณ์ แต่ก็ยังคงพรั่นพรึงและหลงใหลอยู่ดี
‘วิถีอากาศ’ นั้นพิเศษอย่างยิ่ง เทียบกับวิถีต่างๆ ส่วนใหญ่แล้วก็เหมาะสมที่จะสอดแนมความมหัศจรรย์ต่างๆ ของมิติคละถิ่นมากกว่า ตงป๋อเสวี่ยอิงพุ่งเข้าไป พลังคละวิถีในบริเวณรอบๆ ที่หอกชิงเหอควบคุมอยู่ดูคล้ายว่าจะกระจัดกระจายไปจนหมดสิ้น จนใจที่พลังคละวิถีไร้ซึ่งขอบเขต ก็ยังคงมีส่วนที่มาสัมผัสร่างกายตนเล็กน้อย เมื่อสัมผัสแล้วก็สึกกร่อนไปอย่างรวดเร็ว!
ร่างกายราวกับอากาศ พลังคละวิถีแทรกผ่านร่างกาย แทรกผ่านวิญญาณ กระบวนการแทรกผ่านนั้นก็คือกระบวนการของการสึกกร่อน
เพราะว่ามีหอกชิงเหอควบคุมอยู่! ทั้งยังมี ‘วิถีอากาศขั้นสุดยอด’ กับการควบคุมการกลายเป็นอากาศธาตุก็ไปถึงระดับที่มิอาจคาดคะเนได้ สามารถลดการสึกกร่อนได้อย่างสุดกำลัง นำไปสู่พลังคละวิถีอันเบาบางนี้ ซึ่งการกัดกร่อนร่างฝึกกายคละถิ่นของเขาอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง พลังในการฟื้นฟูของตัวเขาเองก็เพียงพอที่จะฟื้นฟูได้แล้ว
“พรึ่บๆๆ…”
ดินแดนจิตโลกา โลกกำเนิดขนาดใหญ่โตมโหฬารนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล
มันแผ่ระลอกคลื่นอันไร้ซึ่งขอบเขตออกมาโจมตีพลังคละวิถีในบริเวณรอบๆ อยู่ตลอดเวลา ความเป็นจริงแล้วในบริเวณใกล้ที่สุดของดินแดนจิตโลกา พลังคละวิถีก็ได้รับผลกระทบจากพลานุภาพของดินแดนจิตโลกา ยิ่งอยู่ใกล้โลกกำเนิดดินแดนจิตโลกาแห่งนี้ พลังคละวิถีก็ยิ่งเบาบาง! ยิ่งอยู่ไกล…ยิ่งเป็นส่วนลึกของมิติคละถิ่น พลังคละวิถีก็ยิ่งทวีความไพศาล!
พลังที่โลกกำเนิดแห่งหนึ่งมีอยู่ช่างแกร่งกล้าเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตคละถิ่น ถ้าหากควบคุมโลกกำเนิดแห่งหนึ่ง พึ่งพาอาศัยโลกกำเนิดแห่งหนึ่ง พลังยุทธ์ก็ยกระดับจนชวนให้คนตื่นตกใจ ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นร่างที่ทำให้พลังของโลกอันใหญ่โตมโหฬารรวมเข้าด้วยกันจนหมด
“บุกเข้ามาจริงๆ เสียด้วย” ราชันย์อนธการอมตะเหลือบตามองตงป๋อเสวี่ยอิงที่ไล่ล่าสังหารเข้ามาอย่างรวดเร็วอยู่ด้านหลังแล้วก็อดที่จะเผยสีหน้าไม่น่ามองมิได้ “เช่นนั้นก็มาเถิด! เพื่อสังหารข้าก็เสียสละร่างแยกร่างนี้ เจ้าสามารถตัดใจได้หรือไร ไม่มีร่างแยกแล้ว ก็จะไม่มีอาวุธเทพคละถิ่นเล่มนี้อีกแล้วนะ”
ราชันย์อนธการอมตะพุ่งไปด้านหน้าอย่างทวีความบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ยามที่เพิ่งพุ่งออกมาจากดินแดนจิตโลกา ความเข้มข้นของพลังคละวิถีที่อยู่บริเวณรอบๆ ก็ยังค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้อิทธิพลของกฎเกณฑ์สูงสุดอันไร้รูปร่างของดินแดนจิตโลกาก็ยังส่งผลกระทบไปยังบริเวณรอบๆ ด้วย การกัดกร่อนยังไม่นับว่าแข็งแกร่งนัก
เมื่อเขาเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เบื้องหน้าก็ยิ่งทวีความมืดมนและเงียบงันมากขึ้นเรื่อยๆ พลังคละวิถีก็ทวีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยแล้วกวาดผ่านร่างกายและวิญญาณของราชันย์อนธการอมตะอย่างไม่หยุดหย่อน! ร่างกายและวิญญาณของเขาเผชิญกับ ‘การกัดกร่อน’ อย่างต่อเนื่อง
“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!” น้ำเสียงเดือดดาลเสียงหนึ่งส่งทะลุผ่านพลังคละวิถีไปถึงยังข้างหูของราชันย์อนธการอมตะ
หอกยาวเล่มหนึ่งฟาดฟันไปถึงตรงหน้าราชันย์อนธการอมตะ
“รวดเร็วถึงเพียงนี้เชียว!” ราชันย์อนธการอมตะกระวนกระวายไม่ยอมจำนนเป็นอย่างยิ่ง ตอนแรกที่เขาไปจากดินแดนจิตโลกาก็เป็นเพราะได้รับโอกาสโจมตีสิ่งมีชีวิตคละถิ่น ด้วยเคล็ดการหลบหลีกที่ ‘หยวน’ มอบให้ จึงสามารถหลบหลีกมิติคละถิ่นได้ แต่ในระยะเวลาอันยาวนานของโลกภายนอก ความหวาดกลัวที่เขามีต่อมิติคละถิ่นก็ค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ ถึงขนาดที่เคยเข้าไปยังมิติคละถิ่นมาหลายครั้งแล้ว
เขามีประสบการณ์! แม้กระทั่งคิดหาวิธีการมากมายออกมา
เขารู้สึกว่าในการห้ำหั่นในมิติคละถิ่น เขาน่าจะยังมีความได้เปรียบเหนือกว่าขั้นสุดยอดที่เพิ่งบรรลุใหม่ผู้นี้อยู่พอสมควร ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นยอดฝีมือวิถีอากาศก็ตาม
แต่เขาผิดเสียแล้ว!
ข้อหนึ่ง ตงป๋อเสวี่ยอิงเคยได้รับปุจฉวิถีคละถิ่นมาก่อน นี่คือเคล็ดวิชาที่จักรพรรดิเซี่ยใช้พลังคละวิถีบำเพ็ญขึ้นมา ตงป๋อเสวี่ยอิงทดลองดัดแปลง ถึงขนาดที่เคยเข้าไปยังมิติคละถิ่นมาก่อน เคยมีประสบการณ์มาแล้ว อีกทั้งร่างกายที่ใช้พลังคละวิถีบำเพ็ญ ยามที่ต้านทานพลังคละวิถีที่เข้มข้นยิ่งกว่า ผลลัพธ์ก็ดียิ่งขึ้น
ข้อสอง วิถีอากาศมีข้อได้เปรียบมากที่สุดเมื่ออยู่ในมิติคละถิ่น ไม่ว่าจะเป็นร่างกายที่กลายเป็นอากาศธาตุลดแรงปะทะลง หรือว่าความเร็วในการเหินทะยาน ต่างก็สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ได้เป็นอันมาก ในทางกลับกันวิถีอื่นๆ ผลลัพธ์ในมิติคละถิ่นกลับอ่อนแอลงอย่างฉับพลัน
ข้อสาม การควบคุมของอาวุธคละถิ่น ‘หอกชิงเหอ’ ที่มีต่อพลังคละวิถีก็ทำให้ตงป๋อเสวี่ยอิงสามารถมีชีวิตรอดอยู่ในมิติคละถิ่นได้นานยิ่งขึ้น
เหตุผลมากมายล้วนทำให้ตงป๋อเสวี่ยอิงตามติดไปได้อย่างรวดเร็ว
“ฉึก”
หอกยาวพุ่งแทงมาอย่างเดือดดาล
แต่ราชันย์อนธการอมตะกลับต้านทานเอาไว้ด้วยสองมือ อาศัยพลังปะทะอันบ้าคลั่งนี้ ทำให้เขาเหินทะยานออกไปไกลอย่างได้เปรียบ ห่างไกลจากดินแดนจิตโลกา โลกกำเนิดอันใหญ่โตแห่งนี้ออกไปเรื่อยๆ
“มาสิ หากมีความกล้าพอก็มาเถิด มาอีกสิ เข้ามาในมิติคละถิ่นให้ลึกขึ้นอีกสิ” ยามที่ราชันย์อนธการอมตะเหินทะยานก็จ้องมองตงป๋อเสวี่ยอิงแล้วทวีความบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น
…………………………………………