Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ตอนที่ 23 มังกรค้างคาวเหินทะยาน
บอกว่าการต่อสู้ปะทุขึ้นก็ปะทุขึ้นเสียแล้ว
นี่ทำให้ผู้ชมที่นั่งดูอยู่ในบริเวณรอบๆ เวทีประลองจำนวนมากแต่ละคนชมดูอย่างใจจดใจจ่อ แม้กระทั่งผู้ที่หยิ่งยโสอย่างอวี้เฟิงเหลย และจ้าวเทพเจียนอิ่นก็ยังดูอย่างละเอียด เพราะว่าจ้าวภูเขาค้างคาวก็นับได้ว่ามีพลังยุทธ์เทียบเคียงกับพวกเขา
“ฟิ้ว!”
ไอยะเยือกอันน่าหวาดหวั่นเคลื่อนเข้ามาอย่างไร้ซึ่งสัญญาณเตือนใดๆ แม้แต่น้อย แล้วตรงเข้าห่อหุ้มตงป๋อเสวี่ยอิงเอาไว้ แล้วเยือกแข็งกลายเป็นภูเขาน้ำแข็งสูงสิบกว่าจั้งแห่งหนึ่ง!
“ติดกับเสียแล้วหรือ”
“แล้วก็มิได้ทลายเปิดออกมาด้วยหรือ”
อวี้เฟิงเหลยและอวี้เฟิงจิ่นสองพี่น้องต่างก็ตกตะลึงอยู่บ้าง อวี้เฟิงชิงอินตื่นเต้นขึ้นมา ผู้ใดในเมืองจวิ้นซานจะไม่รู้บ้างเล่า ว่าไอยะเยือกหนาวเหน็บที่ ‘จ้าวภูเขาค้างคาว’ ควบคุมนั้นน่าหวาดหวั่นเพียงใด อีกทั้งยังสามารถทำให้ภูเขาสูงในรัศมีพันลี้เยือกแข็งกลายเป็นผุยผงได้ภายในความนึกคิดเดียวอีกด้วย! กรวดหินดินทรายก้อนใดๆ ของโลกเทพต่างก็ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ทิวเขาอาณาบริเวณนับพันลี้… แม้กระทั่งเทพจักรวาลต้องการจะมาทำลายก็ยังต้องสิ้นเปลืองเวลาเนิ่นนาน ความนึกคิดเดียวของจ้าวภูเขาค้างคาวก็สามารถทำให้เยือกแข็งกลายเป็นผุยผงได้แล้ว ก็สามารถเห็นถึงพลังคุกคามได้
ตอนนี้ทำให้ตงป๋อเสวี่ยอิงเยือกแข็ง แต่เป็นเพียงแค่ภูเขาน้ำแข็งสูงสิบกว่าจั้งเท่านั้น นี่ก็คือจ้าวภูเขาค้างคาวบีบอัดพลานุภาพจนถึงขีดสุดแล้ว!
“มีพลานุภาพแค่นี้เองน่ะหรือ” น้ำเสียงสายหนึ่งดังขึ้น เห็นเพียงแค่เงาร่างที่รวมตัวอยู่ภายในภูเขาน้ำแข็งสูงสิบกว่าจั้งนั้นกลับก้าวเดินออกมาอย่างน่าประหลาดใจ ภูเขาน้ำแข็งก็มิได้เสียหายเลยแม้แต่น้อย
ตงป๋อเสวี่ยอิงเดินออกมาแล้วอมยิ้มมองจ้าวภูเขาค้างคาว “จ้าวภูเขาค้างคาว อย่าได้แสดงเคล็ดวิชาอันกระจ้อยร่อยเช่นนี้อีกเลย ให้ข้าชมดูมังกรค้างคาวของท่านดีกว่า”
เขามีความมั่นใจทางด้านห้วงอากาศของโลกแห่งนี้อยู่บ้างแล้ว อย่างน้อยร่างกายก็กลายเป็นอากาศธาตุโดยสมบูรณ์แบบได้อย่างผ่อนคลายยิ่ง
กลายเป็นอากาศธาตุโดยสมบูรณ์แบบ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับแก่นห้วงอากาศ!
ภูเขาน้ำแข็งจะสามารถหยุดยั้งห้วงอากาศได้อย่างไรกัน
ถึงแม้ว่าพลังกัดกร่อนของพลังน้ำแข็งนั้นจะแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง แต่ผ่านการกลายเป็นอากาศธาตุทำให้อ่อนแอลง ด้วยการฝึกกายคละถิ่นของตงป๋อเสวี่ยอิงก็ย่อมต้านทานเอาไว้ได้อย่างสบายๆ อยู่แล้ว
“ชมดูมังกรค้างคาวของข้าอย่างนั้นหรือ คงมิได้ง่ายดายถึงเพียงนั้นกระมัง” จ้าวภูเขาค้างคาวยิ้มเย็น
ตูม!
ภูเขาน้ำแข็งระเบิดออก
เห็นเพียงแค่กลางอากาศมีกระสวยน้ำแข็งสามร้อยอันรวมตัวกันออกมา กระสวยน้ำแข็งทุกอันต่างก็มีเส้นด้ายสีดำกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าพันเกี่ยวอยู่ ดูอย่างละเอียด เส้นด้ายสีดำนั้นในความเป็นจริงแล้วประกอบขึ้นจากลวดลายลับจำนวนนับไม่ถ้วน ตอนที่กระสวยน้ำแข็งเหล่านี้เพิ่งรวมตัวกันขึ้นมา แต่ละอันก็แปรเป็นลำแสงสังหารไปทางตงป๋อเสวี่ยอิง
ตงป๋อเสวี่ยอิงแปลงร่างเป็นเส้นด้ายละเอียดเส้นหนึ่งในทันใด
พรึ่บ!
อัตราเร็วในการเหินทะยานรวดเร็วเป็นที่สุด กระสวยน้ำแข็งเหล่านั้นถึงแม้ว่าแต่ละอันจะล้อมสังหารเข้ามา แต่เส้นด้ายละเอียดที่ตงป๋อเสวี่ยอิงแปลงกายนั้น ช่างละเอียดเหลือเกิน มันลอยเคลื่อนไปรอบๆ อย่างง่ายดายอยู่กลางอากาศ ถึงขนาดที่กระสวยน้ำแข็งอันแล้วอันเล่าไม่สามารถสัมผัสถูกเส้นด้ายละเอียดนี้ได้
“มิเสียทีที่เป็นผู้เหินทะยาน เคล็ดวิชาที่สำแดงช่างเร้นลับเหลือเกิน พลังของจ้าวภูเขาค้างคาวดูเหมือนว่าจะมีอิทธิพลแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่กลับไม่สามารถกระทบถูกจ้าวเทพหิมะเหินผู้นี้ได้เลย” ผู้ที่ชมดูอยู่จำนวนมากตื่นตระหนกในใจ ลำพังแค่เคล็ดการเหาะเหินหลบหนีที่ตงป๋อเสวี่ยอิงสำแดงอยู่ในขณะนี้ ก็ทำให้พวกเขาแต่ละคนตกตะลึงมากพออยู่แล้ว
“หืม”
จ้าวภูเขาค้างคาวยืนอยู่ไกลออกไป มองดูเส้นด้ายละเอียดที่อยู่ห่างออกไปสายนั้นเคลื่อนผ่านเป็นเส้นโค้งสายแล้วสายเล่า หลบเลี่ยงจากกระสวยน้ำแข็งทุกอันได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังเคลื่อนตรงมาใกล้เขาอย่างรวดเร็ว นี่ทำให้จ้าวภูเขาค้างคาวสีหน้าแปรเปลี่ยนเสียแล้ว “ค่ายกลผลาญสังหารทำลายล้างนับร้อยของข้าถึงกับไร้ประโยชน์” นี่คือเคล็ดวิชาสังหารหมู่ที่เขาเชี่ยวชาญที่สุด พลังคุกคามของกระสวยน้ำแข็งทุกอันล้วนแข็งแกร่งเป็นที่สุด กวาดล้างออกไปตามอำเภอใจถึงสามร้อยอัน ก็สามารถกวาดล้างยอดฝีมือกลุ่มใหญ่ได้อย่างง่ายดาย
ถึงแม้ว่าจะเชี่ยวชาญการโจมตีหมู่ แต่ลำพังแค่จัดการกับศัตรูเพียงคนเดียว โดยทั่วไปแล้วก็มีผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์ เพียงแต่ว่าเคล็ดการหลบหลีกของจ้าวเทพหิมะเหินผู้นี้ร้ายกาจเกินไป ถึงกับสามารถหลบหลีกไปได้
“ปัง”
เส้นด้ายละเอียดเส้นนั้นแปลงกายเป็นเงาร่างมนุษย์สายหนึ่งในทันใด
ตงป๋อเสวี่ยอิงกุมหอกยาวเล่มหนึ่งเอาไว้ในมือแล้วพุ่งแทงตรงไปบนกระสวยน้ำแข็งอันหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า ปลายหอกยาวและปลายกระสวยน้ำแข็งปะทะเข้าด้วยกัน ฟองห้วงอากาศห่อหุ้มกระสวยน้ำแข็งอันนี้เอาไว้แล้วหดตัวลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็น ‘จุดสีดำ’ ปลายหอกยาวแทงออกไปก็ทำให้กระสวยน้ำแข็งเล่มนี้แหลกสลายไปอย่างง่ายดายเสียแล้ว!
“กระสวยน้ำแข็งทุกเล่มล้วนมีพลังคุกคามระดับจ้าวเทพช่วงต้น” ตงป๋อเสวี่ยอิงทำการคาดการณ์ออกมา “สามร้อยเล่มร่วมมือกันอย่างนั้นหรือ ถึงแม้ว่าทุกเล่มจะตรงไปตรงมาเกินไปสักหน่อย แต่จำนวนก็ชดเชยข้อบกพร่องนั้นได้ ไม่รู้ว่ามังกรค้างคาวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาจะมีพลังยุทธ์เช่นไร”
หลังจากที่เจตนาทดสอบพลังคุกคามของกระสวยน้ำแข็งแล้ว
ตงป๋อเสวี่ยอิงเงาร่างกะพริบวาบคราหนึ่งก็บุกไปถึงตรงหน้าจ้าวภูเขาค้างคาว หอกยาวแทงออกไปอย่างบ้าระห่ำราวกับภาพมายาเสียแล้ว
“โฮก…”
ศีรษะทรงสามเหลี่ยมนั้นของจ้าวภูเขาค้างคาวยังคงอัปลักษณ์เช่นเดิม เขาจ้องมองหอกยาวของตงป๋อเสวี่ยอิงที่แทงออกมาแล้วอ้าปากส่งเสียงคำรามออกมาในทันใด!
ยามที่คำราม ศีรษะทรงสามเหลี่ยมของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยว มีแผ่นเกล็ดสีดำมากมายงอกขึ้นมา แปรเปลี่ยนเป็นศีรษะทรงสามเหลี่ยมที่มีแผ่นเกล็ดสีดำ ร่างกายของเขากลับแปรเปลี่ยนกลายเป็นร่างกายที่คดเคี้ยวซึ่งมีกรงเล็บแหลมคมคู่หนึ่ง
นี่คือสัตว์เหินทะยานเลื้อยคดเคี้ยวที่มีความยาวราวๆ ร้อยจั้ง ตลอดร่างปกคลุมด้วยแผ่นเกล็ดสีดำ… ‘มังกรค้างคาว’!
ในขณะที่คำราม มังกรค้างคาวก็พุ่งตรงเข้าใส่ตงป๋อเสวี่ยอิง
“ปัง!!!”
ปลายหอกยาวกับกรงเล็บข้างหนึ่งของมังกรค้างคาวปะทะเข้าด้วยกัน
ฟองห้วงอากาศขนาดมโหฬารปรากฏขึ้น ห่อหุ้มมังกรค้างคาวเอาไว้ทั้งตัว แล้วจะหดตัวเล็กลง! แต่แผ่นเกล็ดสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนบนผิวกายมังกรค้างคาวนั้นบนแผ่นเกล็ดสีดำทุกแผ่นล้วนมีลวดลายลับจำนวนนับไม่ถ้วนโคจรอยู่ แล้วประกอบกันเป็นชั้นเกราะป้องกันน้ำแข็งชั้นหนึ่งขึ้นมา
“ฉึก” ถึงแม้ว่าฟองห้วงอากาศที่หดเล็กลงจะระเบิดแตกออกในที่สุดภายใต้การแทงอย่างโหดเหี้ยมของตงป๋อเสวี่ยอิงในครั้งนี้ แต่ชั้นเกราะป้องกันน้ำแข็งบนผิวกายมังกรค้างคาวก็เพียงแค่แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเท่านั้น ส่วนแผ่นเกล็ดของร่างกายกลับไม่เสียหายเลยแม้แต่น้อย
“ผู้เหินทะยาน จ้าวเทพช่วงกลางคนหนึ่งอย่างเจ้า มาช่วยข้าเกาให้หายคันหรืออย่างไร” มังกรค้างคาวตนนี้ส่งเสียงคำรามออกมา แต่หางกลับกลายเป็นภาพมายาฟาดฟันเข้าใส่ตงป๋อเสวี่ยอิง
……
ตงป๋อเสวี่ยอิงสำแดงเคล็ดวิชา ควบคุมพละกำลังเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างเช่นเคล็ดวิชาที่ฟองห้วงอากาศหดตัวเล็กลงก็ดูคล้ายว่าจะมิได้มีพลานุภาพแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศ! อย่างเช่นก่อนหน้านี้ที่ตงป๋อเสวี่ยอิงจัดการจ้าวเทพสามท่านที่มาลอบทำร้ายตน แม้กระทั่งกำแพงสวนของจวนที่ตนพำนักอยู่ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบเลย!
จ้าวภูเขาค้างคาวนั้นถึงแม้ว่าการควบคุมพลังจะนับได้ว่าไม่เลว แต่ขณะนี้แปลงร่างเป็น ‘มังกรค้างคาว’ ถึงแม้ว่าจะแผ่พลานุภาพออกไปเพียงเล็กน้อยก็ยังทำให้บริเวณโดยรอบสั่นสะเทือน ทั่วทั้งเวทีประลองก็สั่นสะท้านไม่หยุด
“ปัง ปัง ปัง…”
สองฝ่ายต่อสู้กัน เกิดเสียงโครมครามไม่หยุดหย่อน
ที่นี่เป็นเวทีประลองที่จัดไว้สำหรับการประลองหยั่งเชิงโดยเฉพาะ ก็ย่อมมีค่ายกลโคจรอยู่ ตัดแยกผลกระทบจากการต่อสู้ทั้งหมดอย่างเด็ดขาด
“พลังคุกคามช่างน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก”
บรรดาผู้คนที่รายล้อมอยู่เห็นแล้วก็หน้าถอดสี
มังกรค้างคาวที่ยาวกว่าร้อยจั้งตนนั้นเหินทะยานตามอำเภอใจอยู่ในอาณาบริเวณของเวทีประลอง ไล่ล่าสังหารจ้าวเทพหิมะเหินผู้นั้น ทุกกระบวนท่า ทุกความเคลื่อนไหวใดๆ ของมังกรค้างคาวต่างก็แฝงไว้ด้วยพลานุภาพอันน่าหวาดหวั่น ถึงขนาดที่จ้าวเทพหิมะเหินไม่สามารถทำร้าย ‘มังกรค้างคาว’ ตนนี้ได้เลย
“ร่างมังกรค้างคาวที่จ้าวภูเขาค้างคาวบำเพ็ญออกมาช่างร้ายกาจเสียจริง” อวี้เฟิงเหลยเอ่ยชมประโยคหนึ่ง “การควบคุมพลังของจ้าวเทพหิมะเหินก็ร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าเป็นเพียงแค่พลานุภาพระดับจ้าวเทพช่วงกลาง แม้จะตกเป็นรอง แต่จนถึงตอนนี้กลับยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย” ไม่ได้รับบาดเจ็บแล้วอย่างไร เคล็ดวิชาของเขาล้วนไม่สามารถทำร้ายจ้าวภูเขาค้างคาวได้เลย” อวี้เฟิงจิ่นผู้เป็นน้องชายส่ายหน้า
“ถึงอย่างไรจ้าวภูเขาค้างคาวก็เป็นยอดฝีมือที่ติดอันดับในเมืองจวิ้นซานเลยนะ” อวี้เฟิงเหลยพูด “จ้าวเทพหิมะเหินร้ายกาจเป็นอย่างยิ่งแล้ว ถ้าหากเขาสามารถไปถึงระดับจ้าวเทพช่วงสุดยอดได้ ผู้ที่น่าอนาถก็คือจ้าวภูเขาค้างคาวแล้วล่ะ! หืม…”
“นี่มัน…”
บรรดาผู้ชมแต่ละฝ่ายต่างก็พากันตกตะลึง
เพราะว่าจ้าวเทพหิมะเหินที่ถูกไล่ล่าอยู่บนเวทีประลองมาโดยตลอด สองมือกุมหอกยาวเอาไว้สูงเหนือศีรษะแล้วฟาดฟันเข้าใส่มังกรค้างคาวตนนั้นอย่างสุดกำลังในทันใด!
โครม…
หลังจากที่ฟาดฟันลงไปแล้ว ร่องรอยที่หอกยาวฟาดฟันก็มีรอยแยกห้วงมิติอันบิดเบี้ยวปรากฏขึ้น ฟันตรงลงบนร่างกายของมังกรค้างคาว ชั้นน้ำแข็งคุ้มกันบนพื้นผิวร่างกายนั้นก็ถูกทำลายในทันใด แผ่นเกล็ดสีดำก็ถูกฉีกขาด ตัดขาดเป็นบาดแผลฉกรรจ์รอยหนึ่งออกมา หยาดโลหิตปริมาณมหาศาลพุ่งกระฉูดออกมา
“อะไรกันนี่” บรรดาผู้ชมตื่นตะลึง จ้าวภูเขาค้างคาวก็ตื่นตะลึงยิ่งกว่า “เขาสามารถทำร้ายข้าได้ด้วยหรือ”
จ้าวภูเขาค้างคาวระมัดระวังตัวเกินไปจริงๆ ช่างรักตัวกลัวตายมากเกินไปแล้ว
ทันใดนั้นก็เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การต่อสู้ เริ่มเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วโดยเน้นการรักษาตนเองเป็นหลัก แล้วตวัดกรงเล็บออกมาเป็นครั้งคราว หรือตวัดหางลอบโจมตี!
“ช่างรักตัวกลัวตายอะไรอย่างนี้ ช่างเห็นได้ยากยิ่งนัก” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบหัวเราะเยาะ
เคล็ดวิชาที่สำแดงเมื่อครู่ก็คือเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดที่สำเร็จในเบื้องต้นในตอนนี้หลังจากที่เขาศึกษากลยุทธ์กระบี่แยกนภากาศแล้ว
ถึงอย่างไรก็มีตำราให้อ้างอิงได้ เขาสามารถศึกษาความเร้นลับของกฎเกณฑ์ของวิถีอากาศต่างๆ มากมายของโลกแห่งนี้ได้สำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยพื้นฐานของเขาก็วิวัฒน์ขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วยิ่ง ถึงขนาดที่สามารถรวบรวม ‘พลังวัตรกระบี่อากาศ’ ระดับขั้นที่ห้าออกมาได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียว อาศัยสิ่งที่ตระหนักรู้ใหม่ และสิ่งที่ตนสั่งสมมาแต่เดิม คิดค้น ‘สูตรแยกนภากาศ’ นี้ออกมาก่อน
การต่อสู้ของสูตรนี้ ก็พอจะถือได้ว่ามีพลังระดับจ้าวเทพช่วงสุดยอด! การควบคุมพลังของตงป๋อเสวี่ยอิงก็ร้ายกาจพอ แม้กระทั่งระดับอย่าง ‘ร่างมังกรค้างคาว’ ของจ้าวภูเขาค้างคาวนี้ก็ยังได้รับบาดเจ็บในทันที
“ปัง ปัง ปัง…”
สองฝ่ายประมือกันอย่างต่อเนื่องกว่าสิบรอบ
ก่อนหน้านี้จ้าวภูเขาค้างคาวก็ไม่สามารถทำร้ายตงป๋อเสวี่ยอิงได้ ตอนนี้ก็ยิ่งระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งทำร้ายไม่ได้เข้าไปอีก! แต่ ‘สูตรแยกนภากาศ’ ที่ตงป๋อเสวี่ยอิงเพิ่งสำเร็จใหม่นี้ ดูเหมือนว่าจะสามารถโจมตีถูกจ้าวภูเขาค้างคาวได้ครั้งหนึ่งทุกๆ สามรอบห้ารอบ! ทุกครั้งล้วนทำให้จ้าวภูเขาค้างคาวต้องเสียเลือดเสียเนื้อทั้งสิ้น
“หยุดๆๆ” ‘มังกรค้างคาว’ ที่เลื้อยคดเคี้ยวเหินทะยานอยู่กลางอากาศตนนั้นคำรามเสียงสูง
ตงป๋อเสวี่ยอิงก็หยุดลงอย่างประหลาดใจ
มังกรค้างคาวบิดเบี้ยวและแปรเปลี่ยนหดขนาดเล็กลงในทันใด แปลงร่างกลายเป็น ‘จ้าวภูเขาค้างคาว’ ชายชราอัปลักษณ์ศีรษะทรงสามเหลี่ยมผู้นั้น
จ้าวภูเขาค้างคาวรอยยิ้มระบายเต็มหน้าแล้วเอ่ยอย่างตื่นตะลึงและนับถือว่า “จ้าวเทพหิมะเหินช่างล้ำเลิศอย่างแท้จริง ข้ายอมแพ้ในการประลองคราวนี้ ยอมแพ้แล้ว จ้าวเทพหิมะเหินร้ายกาจกว่าข้าอยู่ขั้นหนึ่งจริงๆ!”
ตงป๋อเสวี่ยอิงสะดุ้งเล็กน้อย
ช่างไม่รักษาหน้าเลยจริงๆ
“ดี จ้าวเทพหิมะเหินและจ้าวภูเขาค้างคาวก็ช่างล้ำเลิศจริงๆ ตอนนี้พวกเราไม่เพียงแต่ได้เห็น ‘มังกรค้างคาว’ ของจ้าวภูเขาค้างคาวอีกครั้งเท่านั้น แต่ยังโชคดีได้เห็นวิชาหอกของจ้าวเทพหิมะเหินอีกด้วย” อวี้เฟิงเหลยลุกขึ้นพูดยิ้มๆ
“คุณชายใหญ่ ก็ยังเป็นวิชาหอกของจ้าวเทพหิมะเหินที่ร้ายกาจเหลือเกิน หากมาอีกหลายๆ ครั้ง ข้าก็จะต้านทานเอาไว้ไม่อยู่แล้ว” จ้าวภูเขาค้างคาวน้ำเสียงแหบแห้ง แต่ก็ยังคงหัวเราะคิกคักอยู่เช่นเดิม
แต่อวี้เฟิงชิงอินที่อยู่ข้างๆ สองพี่น้องกลับมองตงป๋อเสวี่ยอิงที่อยู่บนเวทีประลองอย่างตกตะลึง
……………………………………..