Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ตอนที่ 58.1 ผู้แกร่งกล้าคละถิ่นตงป๋อเสวี่ยอิง (1)
- Home
- Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน
- ตอนที่ 58.1 ผู้แกร่งกล้าคละถิ่นตงป๋อเสวี่ยอิง (1)
ตู้ม
สติรับรู้สั่นสะเทือนไปหมด โลกกำเนิดซึ่งเดิมทีกว้างใหญ่ไพศาลกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของตน บัดนี้ตงป๋อเสวี่ยอิงมองดูโลกกำเนิด แต่กลับเกิดความรู้สึกเหมือนคนธรรมดาทั่วไปที่พลิกฝ่ามือมองดูเส้นลายมือบนฝ่ามืออย่างไรอย่างนั้น
“งดงามจริง”
ระดับชีวิตของตงป๋อเสวี่ยอิงกำลังอยู่ระหว่างการยกระดับอย่างรวดเร็ว สติรับรู้ของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเหนือกว่าโลกกำเนิดทั้งใบ
ราวกับเหลือบมองลงมาทั้งโลกกำเนิด โลกกำเนิดงดงามมาก ราวกับจานกลมใบหนึ่งซึ่งเปล่งแสงออกมา! ภายใต้ ‘การมองเห็น’ ของผู้แกร่งกล้าคละถิ่นอย่างเขาในตอนนี้ โลกกำเนิดบ้านเกิดก็คือจานกลมใบหนึ่งซึ่งเปล่งแสงเรืองรองออกมา งดงามหาใดเปรียบ เพียงแต่จานกลมใบนี้ค่อยๆ พองตัวออกอย่างเชื่องช้ายิ่งนัก นอกจากนี้จานกลมยังตะปุ่มตะป่ำ ผิวของมันเองก็บางเบามาก เมื่อมองดูก็เห็นปัญหามากมาย
นี่คือโลกกำเนิดใบหนึ่งที่จวนจะแตกสลายครั้งใหญ่
“ฟิ้วๆๆ…”
ตงป๋อเสวี่ยอิงสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ‘แหล่งต้นกำเนิดโลก’ ของโลกกำเนิดนั้นนำพลังคละถิ่นในมิติคละถิ่นอันไร้ที่สิ้นสุดแปรเป็นพลังแหล่งต้นกำเนิด เพื่อปกป้องสรรพชีวิตในโลกกำเนิดเอาไว้ การเปลี่ยนแปรเช่นนี้ มีประสิทธิภาพสูงยิ่งนัก ยิ่งเผาผลาญไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเปลี่ยนแปรเร็วขึ้นเท่านั้น เพียงแต่ตัวแหล่งต้นกำเนิดโลกเองก็มีขีดจำกัดที่ทนรับได้ ดังนั้นสรรพชีวิตที่มันสามารถแบกรับได้ก็มีขีดจำกัดเช่นเดียวกัน
“ภายในโลกกำเนิด พละกำลังของข้าช่างไร้ที่สิ้นสุดโดยแท้ ต่อให้ข้าเผาผลาญรวดเร็วกว่านี้ โลกกำเนิดก็สามารถชดเชยได้ทันที” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบพึมพำ “แต่กระนั้นร่างแยกที่อยู่ในโลกภายนอก ก็ชดเชยพละกำลังได้ค่อนข้างยากแล้ว”
บัดนี้วิญญาณของกายหยาบในโลกกำเนิดบ้านเกิดกำลังวิวัฒน์ไปอย่างรวดเร็ว
วิญญาณของกายหยาบล้วนแต่ยกระดับขึ้นไปยังคละถิ่นขั้นโลกา กายหยาบและวิญญาณระดับขั้นนี้ล้วนน่าหวาดหวั่นเกินไปแล้ว พละกำลังที่ต้องการยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว! มี ‘แหล่งต้นกำเนิดโลก’ ของโลกกำเนิดคอยชดเชยจึงสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว
อย่างบรรดาผู้แกร่งกล้าคละถิ่น โดยทั่วไปแล้วก็จะเตรียม ‘ร่างแยกพลังรบหลัก’ ร่างหนึ่งไว้ภายนอก คอยทำหน้าที่อารักขาสถานที่สำคัญหรือไม่ก็ต่อสู้! ส่วนเรื่องอย่างการลาดตระเวน สำรวจตรวจตราหรือการสอนศิษย์ ก็จะให้ร่างแยกที่ค่อนข้างอ่อนแอทำ!
“ยามนี้ ในมิติคละถิ่นไร้ขีดจำกัด ข้าเป็นหนึ่งไม่มีสอง”
ร่างแยกทั้งหลายในบ้านเกิดของตน ในดินแดนจิตโลกาและในโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งของพลังของตน
ในฐานะสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกา
พละกำลังของเขาย่อมมีขีดจำกัดเป็นธรรมดา ร่างแยกหนึ่งแข็งแกร่ง ร่างแยกอื่นๆ ก็ต้องอ่อนแอ!
ร่างแยกร่างหนึ่งราวกับมีพลังเก้าส่วน! ส่วนอื่นๆ ก็คือร่างแยกนับร้อยล้านร่าง เมื่อรวมกันแล้วก็มีพลังเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น! ดังนั้นร่างแยกที่อ่อนแอของผู้แกร่งกล้าคละถิ่นบางคนที่แค่ทำหน้าที่ตรวจตรา หรือไม่ก็ท่องไปตามที่ต่างๆ พละกำลังที่แฝงเอาไว้ก็อ่อนแอนัก ต่อให้อ่อนแอกว่านี้…โดยเนื้อแท้แล้วก็เป็นระดับผู้แกร่งกล้าคละถิ่น พละกำลังสายหนึ่งจึงสามารถล้างสังหารร่างครึ่งสิ่งมีชีวิตคละถิ่นร่างหนึ่งได้อย่างง่ายดาย
“พละกำลังที่แฝงอยู่ในสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาน่าหวาดหวั่นเกินไปแล้ว”
“หากร่างแยกพลังรบหลักถูกทำลาย การจะยกระดับร่างแยกที่อ่อนแอร่างหนึ่งให้ถึงขั้นร่างแยกพลังรบหลัก ก็ต้องใช้พลังงานมากมายไร้ที่สิ้นสุด…ลำพังแค่ดูดซับจากมิติคละถิ่นไร้ขีดจำกัดก็ต้องใช้เวลานานแสนนาน” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบพึมพำ “การดูดซับแหล่งต้นกำเนิดโลกและเปลี่ยนแปรไปก็มีประสิทธิภาพสูงกว่ามากนัก”
ตงป๋อเสวี่ยอิงสัมผัสได้ถึงพลังระดับผู้แกร่งกล้าคละถิ่น และค่อยๆ เข้าใจวิธีการต่อสู้ของระดับขั้นนี้แล้ว
อย่างร่างแยกพลังรบหลักที่สู้จนตัวตายอยู่ภายนอก!
โดยทั่วไปก็จะบ่มเพาะร่างแยกพลังรบหลักอีกร่างหนึ่งจากในโลกกำเนิด จากนั้นก็ค่อยเร่งเดินทางไป!
ส่วนร่างแยกที่อ่อนแอดูดซับพลังคละถิ่นน่ะหรือ ประสิทธิภาพต่ำเกินไปแล้ว!
“เอ๊ะ”
“โดยทั่วไปแล้วผู้แกร่งกล้าคละถิ่นระดับโลกาทำได้เพียงดูดซับพลังจากแหล่งต้นกำเนิดโลกแห่งโลกกำเนิดของตน แต่ข้านั้นไม่เหมือนกัน” ตงป๋อเสวี่ยอิงหัวใจกระตุกวูบ “วิญญาณของข้าสามารถหลอมรวมเข้าไปในแหล่งต้นกำเนิดโลกที่ ‘ไร้เจ้าของ’ ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และดูดซับพลังอย่างรวดเร็วผ่านแหล่งต้นกำเนิดโลกที่แทรกซึมไปทั่วโลกใบนั้น”
ทันใดนั้นตงป๋อเสวี่ยอิงก็พบส่วนที่ตนพิเศษกว่าผู้แกร่งกล้าคละถิ่นระดับโลกาคนอื่นๆ
ซึ่งก็คือ หากตนมีร่างแยกจำนวนมาก กระจัดกระจายกันอยู่ในโลกที่ไร้เจ้าของแห่งหนึ่ง แล้วอารักขาตามจุดต่างๆ เมื่อพบศัตรู ก็สามารถกระจายร่างแยกพลังรบหลักออกไป ให้ร่างแยกซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดอาศัย ‘แหล่งต้นกำเนิดโลก’ ดูดซับพลังอย่างรวดเร็วแล้วยกระดับจนถึงขั้นร่างแยกพลังรบหลักได้!
“นี่ก็คือข้อดีของการที่เส้นทางวิญญาณบรรลุถึงขั้นสุดยอดอย่างนั้นหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบรำพึง
การบรรลุของเส้นทางวิญญาณ มีส่วนช่วยผู้แกร่งกล้าคละถิ่นมากมายเช่นนี้เอง
……
ขณะที่ระดับชีวิตของตงป๋อเสวี่ยอิงยกระดับขึ้นไปนั้น ก็กระโดดออกจากกรงขังและก้าวเข้าสู่สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกา สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนทั่วทั้งโลกกำเนิดบ้านเกิดได้สติกลับคืนมาจากเขตลวง ก็ลืมความคิดจากก้นบึ้งของหัวใจที่ว่า ‘ตงป๋อเสวี่ยอิงเป็นประมุขแห่งโลกกำเนิด’ เมื่อครู่ไปเสียสนิท ในเมื่อหลอมแปรแหล่งต้นกำเนิดโลกแล้ว ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ย่อมทำให้พวกเขาลืมทุกสิ่งที่ได้ประสบในเขตลวงไป
สรรพชีวิตในโลกกำเนิดกลับคืนสู่การดำรงชีวิตตามปกติ
แม้พวกบรรพชนเทียนอวี๋และจอมกระบี่จะมิได้ถูกป้อนความคิดเข้าไป แต่หลังจากได้สติคืนมาแล้ว กลับตกใจและสงสัยอยู่บ้าง เนื่องจากตงป๋อเสวี่ยอิงมิได้ปิดบังเรื่องที่พวกเขาถูกกระบวนท่าเข้าไปเลย
“ถูกเขตลวงเข้าหรือ เขตลวงร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่” จอมกระบี่ตกตะลึง “เป็นเสวี่ยอิงหรือ”
ในดินแดนจิตโลกา นับตั้งแต่พลังของตงป๋อเสวี่ยอิงเหนือกว่าห้ายอดเคารพเป็นต้นมา พวกจักรพรรดิเซี่ย จอมกระบี่และคนอื่นๆ ก็มักจะมาขอคำชี้แนะอยู่เนืองๆ และเคยได้สัมผัสกับกระบวนท่าทางด้านวิญญาณของตงป๋อเสวี่ยอิงมาก่อนแล้ว
แม้ที่ผ่านมาจอมกระบี่จะจมดิ่งลงไปบ้าง แต่ก็พอจะมีบางช่วงที่ต้านทานได้บ้าง
ครั้งนี้กลับถูกกระบวนท่าเข้าอย่างไร้สุ้มเสียง
“พลังของเสวี่ยอิงยกระดับขึ้นไปอีกแล้วหรือนี่” จอมกระบี่ลอบอุทาน แต่เขากลับไม่รู้ว่ายามนี้ตงป๋อเสวี่ยอิงได้ก้าวเข้าสู่สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกา
……
มีคนหนึ่งที่ทราบว่าตงป๋อเสวี่ยอิงบรรลุแล้ว
เจ้าเมืองหลัวซึ่งกำลังนั่งดื่มชาอยู่ในโรงน้ำชา มองดูสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนรอบด้านหยุดชะงักไปชั่วลมหายใจหนึ่ง แต่ละคนชะงักงันไป เจ้าเมืองหลัวถึงขั้นสัมผัสได้ว่าสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนทั่วทั้งโลกกำเนิดล้วนได้รับผลกระทบ หนึ่งชั่วลมหายใจให้หลัง ก็พากันกลับคืนสู่สภาพปกติ
“เขตลวงโลกเทียมหรือ ถึงระดับขั้นนี้แล้วหรือนี่ เป็นขั้นสุดยอดหรือ” เจ้าเมืองหลัวตกใจและแปลกใจไปพร้อมกัน
“ตงป๋อเสวี่ยอิงก้าวมาถึงขั้นนี้แล้วจริงๆ”
“เอ๊ะ โลกมีประมุขแล้วหรือนี่”
“สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาหรือ”
เจ้าเมืองหลัวไวต่อสัมผัสเพียงใด เขาทำให้แน่ใจว่าโลกกำเนิดใบนี้มีประมุขเรียบร้อยแล้วเสียก่อน หลังจากนั้นก็พบว่าวิญญาณของกายหยาบของตงป๋อเสวี่ยอิงวิวัฒน์และเหินทะยานขึ้นมา
“ฮ่าฮ่า…” เจ้าเมืองหลัวหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะสดใส “เมื่อวิถีเขตลวงโลกเทียมบรรลุถึงขั้นสุดยอดก็สำเร็จเป็นสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาได้อย่างรวดเร็วเชียวหรือ”
“ในบรรดาสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกา ตงป๋อเสวี่ยอิงน่าจะนับได้ว่าเชี่ยวชาญกระบวนท่าทางด้านวิญญาณมากที่สุดแล้ว ไม่รู้ว่าในภายหน้าเขาจะเดินไปได้ถึงขั้นไหน และจะกลายเป็นเจ้าดินแดนได้หรือไม่”
ขอเพียงเข้าถึงวิถีระดับคละถิ่น นั่นก็คือเจ้าดินแดน!
อย่าง ‘หยวน’ ในฐานะเจ้าดินแดนที่เก่าแก่ที่สุด เขาก็สำเร็จเป็นสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาก่อน หลังจากนั้นก็สั่งสมตลอดคืนวันอันยาวนานจึงค่อยๆ สำเร็จเป็นเจ้าดินแดนได้
“โลกใบนี่มีประมุขแล้ว ข้าก็ไม่จำเป็นต้องมารักษาการณ์อยู่ที่นี่อีกต่อไป” เจ้าเมืองหลัวพยักหน้าน้อยๆ
เขาก็คือเจ้าดินแดน
ที่คอยคุ้มกันอาณาเขตน้อยใหญ่ต่างๆ โลกกำเนิดซึ่งเป็นบ้านเกิดของตงป๋อเสวี่ยอิงก็อยู่ภายในขอบเขตดินแดนใต้อาณัติของเจ้าเมืองหลัวเช่นกัน! เนื่องจากเกรงว่าโลกกำเนิดแห่งนี้จะเผชิญกับ ‘หายนะใหญ่’ ดังนั้นเจ้าเมืองหลัวจึงจัดร่างแยกร่างหนึ่งคอยเฝ้าอารักขาที่นี่มานานแสนนาน แม้ร่างแยกนี้จะอ่อนแอ แต่ระดับขั้นก็ไม่เบา จึงย่อมสามารถพบอันตรายทั้งหมดที่แฝงอยู่ได้
ส่วนการแตกสลายครั้งใหญ่น่ะหรือ เจ้าเมืองหลัวไม่แยแสเลย
การแตกสลายครั้งใหญ่และเกิดใหม่ของโลกกำเนิด เป็นกระบวนการปกติที่มิอาจนับได้ว่าเป็น ‘หายนะครั้งใหญ่หลวง’
“ยังไม่ได้รักษาการณ์นานสักเท่าใดเลย ก็ไม่จำเป็นต้องทำต่อเสียแล้ว” เจ้าเมืองหลัวหัวเราะออกมา
เดิมทีโลกกำเนิดแห่งนี้จัดอยู่ในบริเวณใต้อาณัติของ ‘หยวน’
หลังจากเจ้าเมืองหลัวบรรลุแล้ว บรรดาเจ้าดินแดนคนอื่นๆ ก็จัดแบ่งดินแดนใต้อาณัติใหม่ทันที! และมอบดินแดนใต้อาณัติให้เจ้าเมืองหลัว เพราะถึงอย่างไรการอารักขาดินแดนใต้อาณัติอันกว้างใหญ่ไพศาล…สำหรับเจ้าดินแดนแล้วก็ลำบากมากทีเดียว
หลังจากแบ่งแล้ว โลกกำเนิดแห่งนี้ก็อยู่ในขอบเขตดินแดนใต้อาณัติของเจ้าเมืองหลัวขอบเขตดินแดนใต้อาณัติ
แน่นอนว่า…
โลกที่มีเจ้าของใบหนึ่ง เมื่อผู้แกร่งกล้าคละถิ่นขั้นโลกาอยู่ภายในโลกกำเนิดของตน ก็สามารถเทียบกับเจ้าดินแดนได้เลยทีเดียว! จึงไม่จำเป็นต้องอารักขาอีกต่อไปแล้ว
“ตงป๋อเสวี่ยอิง ยินดีด้วย!” เจ้าเมืองหลัวถ่ายเสียงพูดยิ้มๆ
……
“ขอบคุณเจ้าเมืองหลัวที่คอยอารักขาโลกกำเนิดบ้านเกิดของข้ามาโดยตลอด” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ถ่ายเสียงพูด เมื่อเขาอยู่ในโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญจึงค่อยๆ รู้ว่า เหล่าเจ้าดินแดนคุ้มกันอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล แม้แต่โลกกำเนิดก็ยังได้รับการคุ้มกันจากพวกเขา
“ข้าก็มิได้คุ้มกันนานสักเท่าไหร่นักหรอก แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เจ้ายังอยู่ระหว่างการบรรลุ เจ้าไม่จำเป็นต้องแบ่งสมาธิมาหรอกนะ” เจ้าเมืองหลัวกล่าว
“อื้ม”
ตงป๋อเสวี่ยอิงอยู่ระหว่างการบรรลุอย่างแท้จริง
วิญญาณของกายหยาบกำลังบรรลุ ตัวเขาเองก็กำลังทำความคุ้นเคย
“โลกกำเนิดผุพังไปบ้างแล้ว ฟื้นฟูเสียก่อนก็แล้วกัน” ตงป๋อเสวี่ยอิงกำหนดจิตคราหนึ่ง ตู้ม…พลังทั้งหมดของโลกกำเนิดเคลื่อนไหวไปตามปณิธานของตงป๋อเสวี่ยอิง โลกกำเนิดซึ่งเดิมทีกำลังขยายใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆ พลันเริ่มหดเล็กลง ความเร็วในการหดตัวนั้นถือว่าค่อนข้างมากทีเดียว ‘อากาศอันสับสนอลหม่าน’ ภายในโลกกำเนิดก็กำลังหดตัวลง จักรวาลแห่งแล้วแห่งเล่าก็กำลังเคลื่อนที่ไปตามการหดตัวของอากาศอันสับสนอลหม่าน
ระยะห่างระหว่างจักรวาลก็กำลังลดลง เหลือเพียงหนึ่งในสองส่วน หนึ่งในห้าส่วน หนึ่งในสิบส่วน หนึ่งในยี่สิบส่วนของก่อนหน้านี้เท่านั้น…
………………