พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 1073 วางแผนก่อกบฏอย่างลับๆ
ผู้คนที่สัญจรไปมาบนถนนยังคงตกใจกับความเร็วของฝีเท้าอิงอู๋ตี๋ มีคนไม่น้อยแอบบอกว่า ดูท่าแล้วผู้บัญชาการของตลาดสวรรค์ก็ไม่ใช่ไก่อ่อนเหมือนกัน
ส่วนอิงอู๋ตี๋ที่เดินเข้าไปข้างในก็ยืนเอามือไขว้หลังอยู่กลางร้าน แววตาดุจอินทรีกิริยาดังหมาป่าเหลียวหลังกำลังกวาดมองโดยรอบอย่างเย็นเยียบ มองดูกลุ่มลูกน้องพลิกกล่องล้มตู้อยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่ากำลังค้นหาอะไร
“ร้านนี้หยุดกิจการชั่วคราว!” มีทหารสวรรค์ไล่แขกในร้านออกมา
“ทั้งหมดไสหัวไปคุกเข่าตรงนั้น!” แล้วก็มีทหารสวรรค์ไล่พนักงานทั้งหมดในร้านไปไว้ด้วยกันเพื่อเฝ้าจับตาดู
สวนเทพเซียนเป็นร้านที่ขายพวกสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์และสมุนไพรเซียนโดยเฉพาะ มีสีสันหลากหลายวางแสดงอยู่ในตู้เต็มไปหมด ทั้งร้านมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้สดชื่นผ่อนคลาย ทว่าในเวลานี้กลับเจอภัยพิบัติแล้ว โดนกลุ่มทหารสวรรค์ที่ดุเหมือนเสือทุ่มพังแล้ว
ท่ามกลางเสียงดังโครมคราม มีพนักงานบางคนทนมองต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ ตะโกนอย่างร้อนรนว่า “พวกเจ้ากำลังทำอะไร อา…”
ยังพูดไม่ทันขาดคำก็ร้องโอดโอยแล้ว เพิ่งจะพูดไปประโยคเดียว ก็โดนผู้ช่วยผู้บัญชาการของอิงอู๋ตี๋ใช้ทวนกระแทกจนล้มคว่ำลงพื้น แล้วก็มีคนมาลากไปโยนให้คุกเข่าในกลุ่มคนบนพื้น
ล้อเล่นอะไรกัน นายท่านผู้บัญชาการออกหน้านำทัพด้วยตัวเองแล้ว ท่านผู้บัญชาการเคยสั่งไว้เอง ย่อมต้องแน่วแน่ที่จะแสดงให้เห็นว่าได้ทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ
ผู้คนที่สัญจรไปมาด้านนอกก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น รีบเข้ามาอุดทางมุงดู แต่กลับโดนทหารสวรรค์ที่เฝ้าประตูขวางไว้ ไม่สามารถเข้าไปได้ ทำได้เพียงชะเง้อมองภาพเหตุการณ์อยู่ด้านนอก
สะเทือนไปถึงผู้จัดการร้านที่อยู่ด้านในอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งออกมาจากโถงด้านหลัง พอเห็นสภาพในร้านค้า แล้วเห็นอิงอู๋ตี๋กำลังยืนเอามือไขว้หลัง เขาก็เข้าใจในทันที ว่ากำลังมีคนใช้อำนาจส่วนรวมล้างแค้นส่วนตัว จึงตะคอกถามเสียงต่ำทันที “พวกเจ้าคิดจะทำอะไร?”
ผู้ที่มาไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นหวงลี่สิ้งนั่นเอง เรียกได้ว่าพุ่งเข้ามาตรงหน้าอิงอู๋ตี๋ เผชิญหน้าพร้อมใช้วาจาและท่าทางดุดัน แทบจะชี้หน้าด่าอิงอู๋ตี๋แล้ว อาศัยภูมิหลังของเขา ทำให้ไม่กลัวการล้างแค้นของทหารสวรรค์พวกนี้เลยจริงๆ!
อิงอู๋ตี๋มองเขาด้วยแววตาดุร้ายปนเล่นสนุกอยู่หลายส่วน พึมพำในใจว่า ยังกล้าหนีอีกเหรอ ข้าจะดูว่าเจ้าจะหนีได้สักกี่ครั้ง มิน่าล่ะเจ้าห้าจึงต้องใช้บทโหด!
“ผู้บัญชาการคนนี้ได้รับรายงานมา ว่ามีคนซ่อนของผิดกฎหมายเอาไว้ เลยมาตรวจค้นเป็นพิเศษ!” อิงอู๋ตี๋กล่าวเสียงเย็น เขาเป็นคนที่หน้าตาท่าทางดุร้ายโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
“พวกเราซ่อนของผิดกฎหมายเหรอ? ตลกน่า!” หวงลี่สิ้งกล่าวดุด้วยเสียงเกรี้ยวโกรธ “นี่พวกเจ้ากำลังใช้อำนาจส่วนรวมล้างแค้นส่วนตัว!”
เป้าหมายหลักออกมาแล้ว ใกล้จะเสร็จแล้ว! อิงอู๋ตี๋ไม่มีเวลามาจู้จี้จุกจิกกับเขา เพียงเหลือบมองแวบหนึ่ง ส่งสายตาให้ราชาปีศาจคนหนึ่งที่ตัวเองพามาจากทะเลดาวนักษัตร
ราชาปีศาคนนั้นเข้ามาในกลุ่มคนที่พลิกกล่องล้มตู้ ยื่นมือไปเลิกเปิดหลังโต๊ะคิดเงินตัวหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็ชี้ไปที่ด้านล่างของโต๊ะคิดเงิน ชี้ขวดผลึกใสใบหนึ่งที่บรรจุของเหลวสีดำที่ติดอยู่ใต้โต๊ะคิดเงิน พร้อมถามเสียงดัง “สิ่งนี้คืออะไร? ทำไมมันดูคุ้นๆ จัง?”
มีคนก้าวเข้าไปแกะขวดผลึกใสที่ติดอยู่ใต้โต๊ะคิดเงินลงมาทันที หลังจากร่ายอิทธิฤทธิ์ตรวจสอบ ก็อุทานอย่างตกใจว่า “นี่คือ ‘ความปรารถนาร้าย’ ที่ตลาดสวรรค์สั่งห้ามไม่ให้มีไว้ในครอบครอง!”
กลุ่มคนที่ล้อมดูตรงประตูร้านส่งเสียงฮือฮาทันที แต่หวงลี่สิ้งกลับงุนงง
ราชาปีศาจคนนั้นรีบรับมาดูในมือ หลังจากตรวจดูแล้วก็พยักหน้าให้อิงอู๋ตี๋ “ผู้บัญชาการ เป็นความปรารถนาร้ายจริงๆ ขอรับ!”
อิงอู๋ตี๋กางนิ้วทั้งห้า ร่ายอิทธิฤทธิ์ดูดมาไว้ในมือโดยตรง หลังจากตรวจดูแล้ว ก็เผยตรงหน้าหวงลี่สิ้งพร้อมกล่าวเสียงต่ำ “จับได้ทั้งคนทั้งของกลาง เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกมั้ย?”
หวงลี่สิ้งเองก็ไม่ใช่คนโง่ นี่เป็นการเล่นที่ชัดเจนเกินไป เขาโมโหทันที ตะคอกอย่างเกรี้ยวกราดว่า “พวกเจ้าตั้งใจยัดของใส่ร้ายข้า!”
“เจ้านับว่าเป็นตัวอะไร คู่ควรให้พวกเรายัดของใส่ร้ายด้วยเหรอ!” อิงอู๋ตี๋แสยะยิ้มอย่างน่ากลัว แล้วหันกลับมามองทางซ้ายและขวาพร้อมตะโกนว่า “ยึดสินค้าทั้งหมดของร้านนี้ไปรอตรวจสอบ จับทุกคนไปให้หมด ปิดร้าน!”
“เจ้ากล้าเหรอ!” หวงลี่สิ้งชี้อิงอู๋ตี๋อย่างเกรี้ยวกราด ตรงหว่างคิ้วเผยวรยุทธ์บงกชทองขั้นหก วรยุทธ์เหนือกว่าอิงอู๋ตี๋สองขั้น
ในดวงตาเหยี่ยวของอิงอู๋ตี๋ฉายแววสังหารทันที พยักหน้าบอกว่า “เจ้าใจกล้าไม่เบา บังอาจต่อต้านทหารสวรรค์ ทั้งยังกล้าลงมือกับต่อหน้าฝูงชนอีกเหรอ?”
เมื่อกล่าวคำนี้ออกมา หวงลี่สิ้งก็ทำสีหน้าไม่ถูก ข้อหานี้เขารับไม่ไหว ไม่อย่างนั้นจากที่มีเหตุผลจะกลายเป็นไร้เหตุผล เส้นตายของกฎกติกาบางอย่างก็ยังต้องปฏิบัติตาม ถึงอย่างไรทหารสวรรค์พวกนี้ก็เป็นตัวแทนของตำหนักสวรรค์ การฝ่าฝืนต่อหน้าฝูงชนก็เท่ากับดูหมิ่นอำนาจสวรรค์แล้ว
เขาเพิ่งจะวางมือลง แต่อิงอู๋ตี๋กลับลงมือแล้ว เรียกได้ว่าเงากรงเล็บขยับยุ่งเหยิง หวงลี่สิ้งตกใจมาก จิตใต้สำนึกอยากจะป้องกัน แต่กลับพบว่าคนวรยุทธ์บงกชทองขั้นหกอย่างตนไม่เร็วเท่าอีกฝ่ายที่วรยุทธ์บงกชทองขั้นสี่ ในระยะใกล้แบบนี้ป้องกันไม่ชนะจริงๆ
ผ่านไปไม่นาน เขาไม่เพียงแค่ได้รับรู้ถึงความเร็วของอิงอู๋ตี๋ ได้รับรู้ถึงความแหลมคมของกรงเล็บอิงอู๋ตี๋ด้วย
รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่แขนสองข้าง “อา!” หวงลี่สิ้งกรีดร้องโหยหวน
แขนสองข้างถูกกรงเล็บขยุ้มจนเลือดเนื้อกระเด็น ตรงกระดูกข้อต่อที่ไหล่สองข้างถูกอิงอู๋ตี๋ที่ถลันตัวมาอยู่ข้างหลังขยุ้มจนแตกกระจายแล้ว แขนสองข้างถูกฉีกกระเด็นออกไปโดยตรง
ท่ามกลางเลือดเนื้อที่กระจายออกมา อิงอู๋ตี๋หยุดมือ แล้วค่อยๆ กางนิ้วทั้งสองข้างออก เศษกระดูกและเนื้อที่เหลวเละกองหนึ่งตกลงพื้น
หวงลี่สิ้งไม่กล้าขัดขืน ข่มกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ พอหันหน้ามาโดยที่ยังไม่ทันพูดอะไร อาวุธหลายชิ้นก็มาจ่ออยู่บนตัวแล้ว หลังจากใช้เชือกมัดเซียนมัดเขาไว้ตรงนั้น ก็มีคนลงมือปิดผนึกวรยุทธ์ของเขาโดยตรง แล้วเตะล้มลงพื้น คนหลายคนที่พุ่งเข้ามาตะลุมบอนสู้กันอย่างไร้ระเบียบพักหนึ่ง ทำให้มีเสียงกระดูกหักดังมาอย่างต่อเนื่อง
“พอแล้ว อย่าตีให้ถึงตาย!” อิงอู๋ตี๋ส่งเสียงหยุด แล้วเอียงหน้าส่งสัญญาณ
กลุ่มทหารสวรรค์กำเริบเสิบสานยิ่งกว่าเดิมทันที ค้นหาทั้งข้างในข้างนอก จับกุมพนักงานสิบกว่าคนในร้านไปหมด พวกแหวนเก็บสมบัติและกำไลเก็บสมบัติที่อยู่บนตัวถูกรูดไปจนหมดเกลี้ยง ทั้งหมดถูกปิดผนึกวรยุทธ์และมัดไว้ ก่อนจะโยนเข้าไปในกระเป๋าสัตว์
จากนั้นก็กวาดล้างพวกสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์กับสมุนไพรเซียนที่อยู่ในร้านไปพร้อมกันทีเดียว ของที่มีราคาถูกปล้นจนหมดเกลี้ยง
กลุ่มคนที่ล้อมดูอยู่ตรงประตูถูกไล่ตะเพิดออกไป อิงอู๋ตี๋นำคนเดินก้าวยาวออกมาจากร้าน ข้างหลงมีคนรีบวางค่ายกลปิดร้านค้าอย่างรวดเร็ว เสาหินหยกต้นหนึ่งเสียบไว้ตรงประตูร้านที่ปิดสนิท พอร้ายพลังอิทธิฤทธิ์กลุ่มหนึ่งเข้าไปกระตุ้น บนเสาหินหยกปรากฏตัวอักษรสีแดงสะดุดตาทันที ‘ปิด’
อิงอู๋ตี๋เหลือบมองทางซ้ายและขวาแวบหนึ่ง แล้วก็โบกมือนำคนเหาะขึ้นฟ้าไป เร่งไปยังร้านถัดไป…
แหล่งรวมเจ็ดอารมณ์!
ณ เขตเมืองตะวันตก สวีถังหรานที่สวมเกราะรบแม่ทัพหนึ่งแถบนำกำลังพลมาด้วยตัวเอง ตอนนี้กำลังเงยหน้ามองป้ายร้านที่ติดอยู่ตรงประตู โค้งปากยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาค่อนข้างชอบทำเรื่องแบบนี้ โบกมือวางท่าสั่งการทันที “ค้นให้ข้า!”
กำลังพลที่อยู่ข้างหลังเข้ามาล้อมทั้งร้านค้าไว้อย่างรวดเร็ว กลุ่มคนพุ่งเข้าไปโดยตรง ชั่วพริบตาเดียวข้างในก็มีเสียงของกระแทกโครมคราม กลุ่มลูกค้าวิ่งหนีออกมาข้างนอกท่ามกลางเสียงร้องตกใจ
“สวีถังหรานที่เอามือไขว่หลังเดินอย่างมั่นใจเข้ามามองดูร้านค้าที่ล้มระเกะระกะ เขารู้สึกเหมือนประสบความสำเร็จ ไม่นาน
ผู้จัดการร้านเย่สวินเกาก็ตกใจจนเดินออกมา ถามด้วยน้ำเสียงแกรี้ยวกราดเช่นกันว่า “สวีถังหราน เจ้าทำอะไร?”
สวีถังหรานแสยะยิ้ม “ผู้บัญชาการคนนี้ได้รับรายงาน บอกว่าร้านของเจ้าซ่อนของผิดกฎหมายที่ตำหนักสวรรค์ห้ามเอาไว้ จะไม่ตรวจสอบได้อย่างไร!”
เย่สวินเกาย่อมรู้ว่าไม่มีเรื่องแบบนี้แน่นอน ชัดเจนว่ามีคนกำลังล้างแค้น จึงยิ้มเหยียดพร้อมบอกว่า “อยากลงโทษใคร ก็ย่อมหาข้ออ้างได้เสมอ เจ้าฟังข้าให้ดีนะ พวกเจ้าจะต้องชดใช้สิ่งที่ตัวเองทำลงไปในวันนี้!” จากนั้นก็หันซ้ายหันขวา “ทุกคนอย่าขยับ ปล่อยให้พวกเขาค้นไป!”
เขารู้ผลลัพธ์ของการต่อต้านทหารสวรรค์ต่อหน้าฝูงชน จากที่มีเหตุผลจะกลายเป็นไม่มีเหตุผล
สวีถังหรานหัวเราะหึหึ เขาเดินไปด้านข้างอย่างไม่เกรงใจ เตะตู้ตัวหนึ่งจนล้มคว่ำทันที ดึงขวดผลึกใสขนาดใหญ่เท่ากำปั้นออกมาใบหนึ่งท่ามกลางสายตาประชาชี ข้างในย่อมบรรจุของเหลวสีดำเอาไว้เช่นกัน เขาแสร้งทำท่าร่ายอิทธิฤทธิ์ตรวจสอบเล็กน้อย แล้วยื่นให้ตรงหน้าเย่สวินเกา “ของนี่มันคืออะไรกัน?”
เย่สวินเกาคิ้วกระตุกเล็กน้อย ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ไม่รู้!”
สวีถังหรานพลันสีหน้าเปลี่ยน ตะคอกเสียงดุดันว่า “บังอาจซ่อน ‘ความปรารถนาร้าย’ เอาไว้ ทหาร! ค้นร้าน ปิดร้าน จับผู้ต้องสงสัยไปให้หมด!”
เย่สวินเกาไม่ได้ขัดขืน ได้แต่มองดูตัวเองโดนเชือกมัดเซียนมัดไว้ แล้วก็มองดูตัวเองโดนผนึกวรยุทธ์โดยทำอะไรไมได้ ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันบอกว่า “บังอาจใช้ล่ห์เหลี่ยมต่ำช้ายัดของโจรใส่ร้าย เดี๋ยวข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะได้ร้องไห้อย่างไร!”
“ยังกล้าปากแข็งอีก!” สวีถังหรานหันตัวมาชกหนึ่งหมัด
ตุ้บ! ปากและจมูกของเย่สวินเกามีเลือดเนื้อปนกันเละเทะทันที ฟันหักปนเลือดกระเด็นออกมาจากปาก ทั้งตัวกระเด็นไปทุ่มใส่แท่นโต๊ะตัวหนึ่ง แล้วตกลงพื้นจนมึนศีรษะ
“อย่าเอาให้ถึงตาย!” สวีถังหรานโบกมือสั่ง มีคนหลายคนพุ่งเข้าไปล้อมปราบเย่สวินเกาทันที มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
ก็ช่วยไม่ได้ ผู้บัญชาการใหญ่หนิวเคยสั่งไว้ว่าให้ดูแลท่านนี้เป็นพิเศษ
ผ่านไปไม่นาน ร้านค้าเจ็ดอารมณ์เจ็ดอารมณ์ก็ถูกกวาดล้างจนหมดเกลี้ยง สวีถังหรานยืนเอามือไขว้หลังอยู่ตรงประตูร้านที่ถูกปิด กวาดสายตาลำพองใจมองกลุ่มคนที่กำลังล้อมดูตนด้วยสีหน้าเคารพยำเกรง ในใจรู้สึกถึงอกถึงใจเป็นพิเศษ
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าผลที่จะตามมาหลังจากวันนี้เป็นอย่างไร ร้านค้าที่ก่อนหน้านี้ดูมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง ขนาดตนยังต้องเกรงใจและระมัดระวัง ยังไม่เคยสะใจเหมือนอย่างวันนี้มาก่อนเลย อยากจะตีก็ตี อยากจะทุ่มก็ทุ่ม ไม่ว่าภูมิหลังเจ้าจะเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องแหลกลาญอยู่ภายใต้หมัดของข้า โคตรสะใจ!
เมื่อได้ระบายอารมณ์แล้ว สวีถังหรานที่ค้นพบความรู้สึกพึงพอใจก็โบกมือ นำคนไปยังร้านถัดไป…
ร้านขายของชำซื่อตรง! กลุ่มทหารสวรรค์พุ่งเข้ามาล้อม คนที่กำลังซื้อขายอยู่ข้างในถูกไล่ตะเพิดออกมา โต๊ะคิดเงินที่ปิดสนิทถูกพังจนเปิดออก กลุ่มทหารพุ่งเข้าไปตรวจค้นและจับกุมคนโดยตรง
อวี้ซวีเจินเหรินที่นั่งคุมที่นี่ย่อมตกใจจนต้องออกมา พอลงมาด้านล่างก็ถูกอาวุธหลายชิ้นจ่อทันที อดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆ แล้วถามอย่างระแวงสงสัยว่า “ขุนนางสวรรค์ทุกท่าน ทำแบบนี้มีเจตนาอะไร?”
คนที่เป็นแกนนำเดินออกมา แล้วตอบกลั้วหัวเราะว่า “เจินเหรินไม่ต้องกลัว! พวกเราได้รับรายงาน ว่าสมาคมร้านค้าของตลาดสวรรค์กำลังร่วมมือกับร้านค้าน้อยใหญ่ในตลาดสวรรค์เพื่อเตรียมวางแผนก่อกบฎอย่างลับๆ ร้านขายของชำซื่อตรงที่อยู่ในรายงานก็ถูกโยงเข้าไปด้วยเช่นกัน เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โดยรวม ผู้บัญชาการใหญ่สั่งให้สอบสวนและลงโทษอย่างเข้มงวด! ผู้บัญชาการใหญ่ฝากมาบอกเจินเหรินเป็นพิเศษ ว่าขอให้เจินเหรินให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ จะไม่เกิดปัญหาอะไรแน่นอน”
วางแผนก่อกบฎอย่างลับๆ? ล้อเล่นอะไรกัน? อวี้ซวีเจินเหรินเงียบไป เขาเองก็รู้ว่าสถานการณ์ของเหมียวอี้ช่วงนี้ไม่ค่อยดี และรู้ด้วยว่าสมาคมร้านค้ากำลังร่วมมือกันต่อต้านเหมียวอี้ แต่ในเมื่อเหมียวอี้บอกว่าจะไม่มีปัญหาอะไร ก็เดาว่าเหมียวอี้คงไม่ทำอะไรซี้ซั้วกับพวกเขาเช่นกัน เพียงแต่ทำไมไม่ได้ข่าวจากเป่าเหลียนล่วงหน้าเลยสักนิด?
“ทุกคนอย่าขยับซี้ซั้ว ให้ความร่วมือเถอะ!” อวี้ซวีเจินเหรินถอนหายใจ
ไม่นานก็มีคนเข้ามาลงมือผนึกวรยุทธ์ของพวกเขา รูดกำไลเก็บสมบัติและแหวนเก็บสมบัติบนตัวไปหมด ไม่ให้ตกหล่นแม้แต่คนเดียว ทั้งหมดถูกจับตัวไปแล้ว ร้านขายของชำซื่อตรงก็ถูกยึดของไปหมดเช่นกัน ร้านค้าก็ถูกปิดแล้วเช่นกัน…
…………………………