พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 1167 อาตมาดวงไม่ดี
ทั้งสี่หันตัวมาแทบจะพร้อมกันในชั่วพริบตาเดียว
ซือถูเซี่ยวสะบัดสะบัดมือโยนเหยี่ยวมารวานรยักษ์ออกมาตัวหนึ่ง แล้วถือทวนยาวผลึกม่วงด้ามหนึ่งไว้ในมือ ขี่เหยี่ยวมารพร้อมส่งเสียงตะโกนเย็นเยือกพิศวงที่ดังราวกับฟ้าผ่า “ฆ่า!”
จีฮวนพลิกตัวขึ้นขี่บนตัวเดรัจฉานสับปลับ แล้วโบกทวนยาวผลึกม่วงพุ่งเข้ามาพร้อมตะโกนว่า “ฆ่า!”
ฉางเหลยก็ขี่เดรัจฉานสับปลับเช่นกัน ในมือถือไม้ขักขระพลางตะโกนเสียงสูง “ฆ่า!”
นอกจากจีฮวนที่มีสัตว์พาหนะเดิมอยู่แล้ว สัตว์พาหนะของอีกสองคนก็ปล้นมาภายหลังเมื่อมาที่พิภพใหญ่แล้ว
ส่วนอวิ๋นอ้าวเทียนก็รีบพุ่งตัวไปที่มู่ฝานจวิน ใช้แขนใหญ่ช้อนเอวบางของมู่ฝานจวินเอาไว้ แล้วเขย่าเบาๆ พร้อมถามว่า “ยายแก่นแก้ว เจ้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
มู่ฝานจวินที่ผมเผ้ายุ่งสยายใบหน้าซีดเผือด ที่มุมปากยังมีเลือดไหลพรั่งพรูออกมา เมื่อเห็นตัวเองอยู่ในอ้อมแขนใหญ่กำยำทรงพลังที่คุ้นเคย นางกลับส่ายหน้า ออกแรงผลักเขาทีหนึ่ง “ไม่เป็นไร! ปล่อยข้า!”
นี่ยังไม่เป็นไรอีกเหรอ! อวิ๋นอ้าวเทียนไม่สนใจที่นางผลักไส หยิบสมุนไพรเซียนซิงหัวทั้งตนออกมายัดปากนางโดยตรง
“รีบฟื้นตัวไวๆ!” เมื่อกล่าวเร่งแล้ว อวิ๋นอ้าวเทียนถึงได้ปล่อยนาง ถือดาบจ้องจูเชียนซือด้วยสายตาเย็นเยียบดุร้าย
มู่ฝานจวินเหล่ตามองผู้ชายที่อยู่ข้างกายแวบหนึ่ง ในดวงตาฉายแววซับซ้อนหลากความรู้สึก จากนั้นก็หลับตาพักผ่อนทันที รีบร่ายอิทธิฤทธิ์กระตุ้นสมุนไพรเซียนซิงหัว
ทว่าอวิ๋นอ้าวเทียนพลันเหล่ตามอง แล้วจู่ๆ ก็แฉลบไปยังดวงดาวที่ถูกโจมตีจนเกิดเป็นหลุมถ้ำ
ภายใต้การร่วมมือกันเข่นฆ่าของฉางเหลย จีฮวนและซือถูเซี่ยว ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอีกคนที่ยังตายไม่สนิท ใช้มือข้างหนึ่งจับคอที่มีเลือดไหล ส่วนมืออีกข้างถือระฆังดาราเขย่า
คนที่กำลังรายงานข่าวเห็นอวิ๋นอ้าวเทียนพุ่งเข้ามา เจ้าตัวตกใจมาก โซเซลุกขึ้นหมายจะหลบหนี
ฉึก! อวิ๋นอ้าวเทียนที่พุ่งเข้ามาใช้ดาบฟันทั้งคนทั้งเกราะรบขาดเป็นสองท่อน ท้องแตกไส้ไหล เลือดสดพุ่งกระจาย
จูเชียนซือที่ในมือกำลังถือโซ่มองไปยังศพของผู้บัญชาการใหญ่สามคนที่ห้อยอยู่ด้านบน ก็เรียกได้ว่าโมโหจนดวงตาแทบจะถลนออกมา
ผู้บัญชาการใหญ่ทั้งสามตายในระหว่างทางที่มาบ้านของพวกเขา ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงสวรรค์จริงๆ ตระกูลของพวกเขาก็หลุดไม่พ้นความเกี่ยวข้องนี้แน่นอน ถ้าไม่สามารถจับโจรพวกนี้ส่งให้ตำหนักสวรรค์เพื่อทำลายความน่าสงสัยของตระกูลตัวเองได้ พอนึกถึงผลลัพธ์อันน่ากลัวที่จะตามมา เขาก็เริ่มตัวสั่นหวาดกลัวแล้ว
เมื่อเห็นสามคนพุ่งเข้ามา จูเชียนซือก็รีบเก็บร่างสามร่างที่อยู่บนโซ่เอาไว้ พร้อมตะโกนเสียงดุดัน “อย่าคิดว่าจะรอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”
พรึ่บ! เงาร่างถลันวูบ พุ่งเข้าไปหาซือถูเซี่ยวที่เข้ามาเป็นคนแรก ชกหมัดลมเข้าไปหนึ่งที!
ซือถูเซี่ยวใช้แขนข้างหนึ่งผลัก ปราณหยินกลุ่มหนึ่งซัดสาดออกมา รีบการโจมตีตรงหน้าด้วยแววตาดุดัน ไม่หวาดกลัวเลยแมแต่น้อย
บึ้มๆ! ปราณหยินหลายชั้นที่คอยกำบังถูกทำให้ระเบิดออกชั้นแล้วชั้นเล่าราวกับปุยฝ้าย
เดิมทีจูเชียนซือนึกว่าตัวเองใช้หมัดทำลายปราณหยินที่ขวางกั้นออกไปได้แล้ว สามารถจัดการซือถูเซี่ยวได้ภายในรวดเดียว แต่ใครจะคิดว่าภายใต้การขัดขวางของปราณหยินที่หนาแน่น พลังหมัดลมที่ตัวเองชกไปจะถูกลดพลังชั้นแล้วชั้นเล่า ยังไม่ทันทำลายปราณหยินที่ขัดขวางจนหมดก็สลายตัวไปเองแล้ว
จูเชียนซือจึงพลิกมือนำดาบใหญ่ด้ามหนึ่งออกมา แล้วแขนฟันอย่างบ้าคลั่ง
บึ้ม! ปราณหยินสกัดขวางที่เหลืออยู่ถูกดาบของเขาฟันจนระเบิด ซือถูเซี่ยวที่หลบอยู่ข้างหลังเผยโฉมหน้าเดิมออกมาหมดทันที
จูเชียนซือพุ่งฝ่าปราณหยินที่หนาแน่นแล้วควงดาบเตรียมจะฟัน ซือถูเซี่ยวตกใจทันที อีกฝ่ายลงมือได้รวดเร็วเกินไปจริงๆ เขาแทบจะหลบไม่ทันแล้ว
พอคมดาบใกล้จะฟันถึงหน้า วึง! ซือถูเซี่ยวพลันระเบิดตัวเองกลายเป็นปราณหยินสลายไป
เจ้าของหลบหายนะครั้งนี้ได้ “วี้ด!” แต่เหยี่ยวมารวานรยักษ์กลับร้องอย่างเศร้าโศก โดนจูเชียนซือใช้ดาบฟันล้มคาที่
จูเชียนซือถลันตัวออกไป พุ่งไปยังซือถูเซี่ยวที่ปรากฏตัวจากปราณหยินที่ก่อตัวกันใหม่
พอซือถูเซี่ยวรีบใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งผลัก ก็ผลัก ‘ซือถูเซี่ยว’ ที่หน้าตาเหมือนกันออกมาอีกคนหนึ่ง แล้วพุ่งสังหารไปยังศัตรู
ปั้ง! ดาบฟันคนที่พุ่งสังหารเข้ามาจนกลายเป็นหมอกหยิน พอเงยหน้าก็เห็น ‘ซือถูเซี่ยว’ หลายสิบคนกำลังจ้องเขาอย่างดุร้ายแล้ว จูเชียนซือใช้ดวงตาอิทธิฤทธิ์กวาดมองทันที ปรากฏว่าเห็นแล้วตกตะลึง ทั้งหมดล้วนเป็นร่างจากปราณหยิน ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะแยกตัวจริงตัวปลอมไม่ออก
จีฮวนที่พุ่งเข้ามาเห็นสัตว์พาหนะของซือถูเซี่ยวถูกทำลาย จึงรีบเก็บสัตว์พาหนะของตัวเองทันที คนจนทนการขาดทุนไม่ไหว
ร่างพุ่งไปข้างหน้าต่อ ขณะเดียวกันก็แกว่งแขนสองข้าง ปราณปีศาจบนตัวพุ่งออกมาครอบร่างเขาไว้
จูเชียนซือพลันหันไปมอง เห็นเพียงปีศาจหัววัวที่มีเขาแต่ร่างกายเป็นคนกำลังขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว ปราณปีศาจที่หนาแน่นก่อตัวกลายเป็นปีศาจแล้ว
ชั่วพริบตาเดียวปีศาจที่ร่างสูงเกือบสิบจั้งก็พุ่งเข้ามา มันควงหมัดขนาดใหญ่ ชกไปยังจูเชียนซือที่ตัวเล็กจ้อยเหมือนกับช้างเหยียบมด
จูเชียนซือใช้หลังมือชกออกไป บึ้ม! หมัดใหญ่ที่ชกเข้ามาสะเทือนพังกลายเป็นปราณปีศาจทันที
ปรากฏว่าหมัดใหญ่อีกข้างควงเข้ามาอีก จูเชียนซือฟันลมดาบออกไปชุดหนึ่ง ฟันหัตถ์ปีศาจขาดแล้ว แล้วก็ฟันอย่างบ้าคลั่งต่อเนื่องกันอีก ฟันจนร่างของปีศาจหัววัวที่ก่อตัวจากปราณปีศาจแยกออกจากกัน ทว่ากลับมองไม่เห็นร่างที่แท้จริงของจีฮวน กลับเห็นปราณปีศาจที่โดนฟันสลายกลับมารวมตัวกันอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ปีศาจหัววัวก่อตัวอีกครั้ง ควงหมัดชกรัวๆ
เมื่อหาร่างจริงของจีฮวนไม่เจอ ปล่อยให้เขาฟันเป็นพันดาบหมื่นดาบแต่ก็ฆ่าจีฮวนไม่ได้อยุ่ดี ทว่าอานุภาพการโจมตีเล็กน้อยของจีฮวนก็ทำอะไรจูเชียนซือไม่ได้เหมือนกัน
ซือถูเซี่ยวหลายสิบคนเข้ามาล้อมโจมตีเช่นกัน
จูเชียนซือแสยะหัวเราะ ไม่น่าเชื่อว่าจะพลิกมือเก็บดาบไปแล้ว เงาสีขาวกลุ่มหนึ่งก่อตัวอยู่ในฝ่ามือและดีดยิงออกมา พลันกลายเป็นใยแมงมุมขนาดใหญ่กลางอากาศ ครอบปีศาจหัววัวเอาไว้ในนั้นทั้งตัว ใยแมงมุมมัดเข้าไปในปราณปีศาจอย่างรวดเร็ว
แล้วก็เห็นมืออีกข้างของเขาดีดเงาสีขาวออกมาอีกหลายกลุ่ม ใยแมงมุมหลายรังระเบิดออก ทอดใส่ซือถูเซี่ยวหลายสิบคนที่ล้อมโจมตีเข้ามา แค่ทำอย่างนี้ ร่างจริงของซือถูเซี่ยวก็ถูกเขาควบคุมไว้ได้ทันที
ซือถูเซี่ยวที่โดนขังอยู่ในใยแมงมุมต้องการจะกลายร่างหนีออกไป ผลก็คือพบว่าบนใยแมงมุมมีพลังอิทธิฤทธิ์ควบคุมอยู่ ขังเขาไว้อย่างแน่นหนาในใยแมงมุม
ซือถูเซี่ยวตกใจมาก หมายจะร่ายอิทธิฤทธิ์ช่วยหนุนทำลาย แต่จนใจที่สิ่งที่กำลังต่อต้านกลับเป็นวรยุทธ์ของจูเชียนซือ ไม่สามารถทำลายออกไปได้เลย
ซือถูเซี่ยวรีบใช้ดาบฟันอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ปรากฏว่าพอฟันออกไปดาบหนึ่ง เส้นใยที่ถูกฟันออกก็ดีดยื่นออกมาอีกครั้งภายใต้การควบคุมโดยพลังอิทธิฤทธิ์ของจูเชียนซือ เส้นใยที่ขาดรวมประสานเข้าด้วยกันอีกครั้ง ทำให้เข้าไม่สามารถหลีกหนีออกไปได้เลย
ปั้งๆๆ…
เสียงระเบิดดังต่อเนื่องหลายครั้ง ซือถูเซี่ยวที่โดนขังอยู่ในใยแมงมุมรีบมองไปรอบๆ พบว่าร่างแยกที่อยู่รอบกายตนโดนจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว
ตอนนี้เขาถึงได้พบว่าฝ่ามือของจูเชียนซือเชื่อมต่อกับใยแมงมุมทางนี้ เส้นใยหลายเส้นที่กำจัดร่างแยกของเขาทิ้งพลันหดกลับเข้าไปในฝ่ามืออีกฝ่าย
จูเชียนซือมองเหยียดเขาแวบหนึ่งแล้วขยับแขนอีกข้าง พอหันกลับไปมอง ก็เห็นจีฮวนที่หลบอยู่ในปราณปีศาจก็ถูกเขาขังไว้แล้วเช่นกัน ถูกดึงออกมาจากปราณปีศาจโดยตรง
พอจูเชียนซือสะบัดแขน ใยแมงมุมเส้นเล็กสองเส้นก็ดึงซือถูเซี่ยวกับจีฮวนเข้ามาเก็บอย่างรวดเร็ว
จีฮวนที่กำลังดิ้นรนพลันได้ยินคนถ่ายทอดเสียงมา เขาเหลือบมองซือถูเซี่ยวที่โดนขังอยู่ในใยแมงมุมเช่นเดียวกัน ทั้งสองดิ้นรนอย่างรุนแรงกว่าเดิมทันที
“นี่มันปีศาจอะไรกัน? น่าเสียดายที่เฟิงเป่ยเฉินตายแล้ว…คอยดูเถอะ อาตมาจะทำให้เจ้าแพ้!” ฉางเหลยเก็บสัตว์พาหนะแล้วดูการต่อสู้อยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้อุทานอย่างตกตะลึง ถือไม้ขักขระพุ่งเข้าสังหารเข้ามาแล้ว ขณะเดียวกันก็ตะโกนเสียงดังว่า “จอมมาร เจ้าไม่จำเป็นต้องปกป้องดอกไม้หรอก ยังไม่รีบลงมืออีก!”
อวิ๋นอ้าวเทียนเอียงหน้ามองมู่ฝานจวินที่ฟื้นตัวและสีหน้ามีเลือดฝาดบ้างแล้ว จากนั้นกางแขนสองข้าง มีเสียงดังแคว่กสองสามครั้ง ผ้าโพกหน้าและเสื้อผ้าบนร่างกายระเบิดออก เผยเกราะรบผลึกแดงที่อยู่ข้างใน และเผยโฉมหน้าที่แท้จริงเช่นกัน ถือดาบเฉียงลง แต่กลับยังไม่มีท่าทีว่าจะลงมือ
เกราะรบผลึกแดงชุดนั้น อวิ๋นจือชิวเป็นคนให้เขามา ไม่ได้ให้เขาไว้คนเดียว อวิ๋นจือชิวใจกว้าง ไม่ว่าวรยุทธ์จะถึงระดับบงกทองหรือไม่ นางล้วนมอบให้คนตระกูลอวิ๋นที่มาพิภพใหญ่คนละชุด แม้แต่อาวุธก็ให้มาด้วยกันจนครบ
ถ้าจะให้ตระกูลอวิ๋นใช้หนี้ก้อนนี้ให้หมดภายในเวลาอันสั้น ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้แล้ว
ได้ยินเพียงอวิ๋นอ้าวเทียนตะโกนบอกเสียงดังว่า “พัวพันเขาไว้ อย่าปล่อยให้เขาหนีไป!”
“อย่ามาพูดแดกดันนักเลย ดูให้ชัดว่าใครกันแน่ที่ไม่ปล่อยให้ใครหนี!” ฉางเหลยตอบ
เมื่อเห็นซือถูเซี่ยวกับจีฮวนถูกจูเชียนซือดึงมาตรงหน้า จู่ๆ ซือถูเซี่ยวก็โบกมือชี้ออกไป เปลวเพลิงสีเขียวสลัวกลุ่มหนึ่งพ่นออกมา แผ่คลุมไปที่ใบหน้าของจูเชียนซือ ขณะเดียวกันก็โบกมือยิงไปทางจีฮวนกลุ่มหนึ่ง
เมื่อใยแมงมุมเจอไฟนี้ ก็พังทลายลงอย่างรวดเร็ว!
“ไฟผี!” จูเชียนซือตกใจมาก ไฟชนิดนี้สามารถทำลายเกราะพลังอิทธิฤทธิ์ได้ ถ้าไปโดนมันก็จะเหมือนชอนไชเข้าในกระดูก สามารถเผาผลาญสรรพสิ่ง รวมทั้งเปลี่ยนอากาศให้อึมครึม
เขารียถลันตัวหลบหลีก แต่กลับรับมือไม่ทันเพราะโดนลอบจู่โจมในระยะใกล้ แต่วรยุทธ์ของเขาสูงมากจริงๆ เคลื่อนไหวได้เร็วมาก ยังคงหลบพ้นไปได้อยู่ดี มีแค่ส่วนแขนที่โดนไฟนิดหน่อย
จูเชียนซือที่โดนเผาจนแยกเขี้ยวยิงฟันเด็ดขาดสุดๆ ยกมือฉีกแขนของตัวเองลงมาแล้ว ที่ประหลาดกว่านั้นก็คือ ตรงจุดที่แขนขาดไปที่แขนใหม่งอกออกมาในชั่วพริบตาเดียว
จูเชียนซือที่เดือดดาลสุดขีดรีบเงยหน้าขึ้น แต่กลับเห็นซือถูเซี่ยวกับจีฮวนฉวยโอกาสตอนเขาไม่ระวังหนีออกจากใยแมงมุมขาดไปแล้ว
ทั้งสองใจกล้ามากจริงๆ เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการลอบจู่โจม ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าเล่นอุบายนี้ในระยะใกล้กัยยอดฝีมือบงกชรุ้ง
ซือถูเซี่ยวที่หันกลับมามองแวบหนึ่งรู้สึกเสียดายมาก อีกฝ่ายวรยุทธ์สูงเกินไปจริงๆ ทำถึงขนาดนี้แล้วอีกฝ่ายก็ยังหนีไปได้อีก
จูเชียนซือโมโหแล้วจริงๆ นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอพวกที่วรยุทธ์ม่สูงเท่าไร แต่กลับใจกล้าคับฟ้าทั้งยังมีประสบการณ์เข่นฆ่าโชกโชน พอเขาสะบัดมือ หมอกสีแดงก็คลุมตัว ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นเกราะรบผลึกแดงชุดหนึ่ง แล้วถือดาบพุ่งเข้าไปสังหาร
นักพรตบงกชรุ้งผู้องอาขผ่าเผย ไม่น่าเชื่อว่าจะจัดการนักพรตบงกชทองเพียงไม่กี่คนไม่ได้เสียที เขาเดือดดาลมาก ไม่ใช้อุบายต่อสู้อีก แต่เตรียมจะลงมือฆ่าแบบเอาจริง จับเป็นไม่ได้ก็ต้องจับตาย!
เมื่อเห็นฉางเหลยพุ่งเข้ามา ซือถูเซี่ยวกับจีฮวนที่กำลังหลบหนีก็หยุดทันที พุ่งกลับมาเช่นกัน พุ่งกลับมาอีกครั้ง
พอจีฮวนกางแขนสองข้าง ปราณปีศาจที่ตลบอบอวลก็ขยายเป็นวงกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นปีศาจหัววัวอีกครั้ง ควงแขนชกไปยังจูเชียนซือที่พุ่งเข้ามา
ซือถูเซี่ยวกลายร่างเป็น ‘ซือถูเซี่ยว’ หลายสิบคนอีกครั้ง พุ่งเข้าไปล้อมโจมตี
จูเชียนซือโบกดาบฟันอย่างบ้าคลั่ง หมัดใหญ่ที่ชกเข้ามาโดนเขาฟันจนแตกกระจาย ‘ซือถูเซี่ยว’ ที่พุ่งเข้ามากก็โดนดาบของเขาฟันจนจนแตกละเอียดเช่นกัน เรียกได้ว่าเทพขวางฆ่าเทพ พระขวางฆ่าพระจริงๆ
ทั้งสองไม่ใช่กำลังปะทะกับเขาตรงๆ เช่นกัน หลังจากคุ้มกันฉางเหลยไปข้างหน้าแล้ว ทั้งสองก็ถอยหลังทันที หลบหลีกคมดาบของจูเชียนซือ
ร่างของปีศาจหัววัวกับ ‘ซือถูเซี่ยว’ สิบกว่าคนถลันออก เผยคนโพกหน้าที่ถือไม้ขักขระยืนเงียบอยู่กลางอากาศ กำลังประนมมือข้างเดียวพร้อมกล่าวว่า “อาตมาดวงไม่ดี!”
ใครจะไปสนว่าเจ้าจะดวงดีหรือไม่ดี! จูเชียนซือที่อยู่ตรงข้ามควงดาบฟันลงไปอย่างบ้าคลั่ง ฟันฉางเหลยให้ขาดเป็นสองท่อนด้วยความเร็วสูงสุด
เมื่อพุ่งผ่านศพที่โดนฟันแยกเป็นสองท่อนไป จูเชียนซือที่กำลังจะไล่สังหารซือถูเซี่ยวกับจีฮวนต่อก็ขนลุกทันที ต่อให้จะรู้ตัวแต่ก็สายไปแล้ว
ปั้ง! หลังหัวราวกับโดนฟ้าผ่า
ศพครึ่งท่อนของฉางเฉยที่กลายเป็นคนเป็นๆ โดยสมบูรณ์ฟาดไม้ขักขระไปที่หลังศีรษะของจูเชียนซืออย่างแรง ยอดฝีมือบงกชรุ้งแล้วยังไงล่ะ ก็โดนเขาฟาดจนโซเซอยู่กลางอากาศอยู่ดี
เคราะห์ดีที่ตอนนี้จูเชียนซือสวมเกราะรบแล้ว ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนฉางเหลยกำจัดได้ภายในการโจมตีครั้งเดียว
ฉางเหลยเองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน น่าเสียดายที่ไม่ได้ลงมือตอนที่อีกฝ่ายยังไม่สวมเกราะรบ ภายใต้ความอับจนหนทาง เขาเองก็ไม่รู้ชัดเจนว่าฝีมือของจูเชียนซือเป็นอย่างไร ให้ซือถูเซี่ยวกับจีฮวนไปทดสอบฝีมือก่อน รอจนกว่าเขาจะลงมืออีกครั้งอีกฝ่ายก็สวมเกราะรบเสียแล้ว นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมเมื่อครู่นี้เขาถึงบอกจูเชียนซือว่า ‘อาตมาดวงไม่ดี’
…………………………