พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 1168 เหมือนเสือติดปีก
จูเชียนซือไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ แทบจะโดนตีจนมึนแล้ว ใช้ดาบป้องกันตัวอย่างฉุกละหุก เห็นคนโพกหน้าถือไม้ขักขระพุ่งโจมตีเข้ามาอีก ยังมีชีวิตอยู่อย่างดี ศพที่ขาดครึ่งท่อนก่อนหน้านี้หายไปจนไม่เห็นแม้แต่เงา
หรือว่าตัวเองจะตาลาย? จูเชียนซือยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก เพราะคนโพกหน้าโจมตีเข้ามาแล้ว
ฉางเหลยโบกไม้ขักขระทุบแสกกลางหน้าอย่างแรง จูเชียนซือถลันตัวหลบ แล้วกวาดดาบเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าจะเป็นการขยับร่างกายหรือการใช้ดาบ ความเร็วเขาก็เหนือกว่าฉางเหลยทั้งคู่ เสียงดังฉึก ดาบฟันเอาฉางเหลยจนร่างขาดเป็นสองท่อนแล้ว
เมื่อฟันแล้วไม่เห็นรอยเลือด จูเชียนซือก็พบความไม่ชอบพากลทันที ไม้ขักขระที่ทุบแสกหน้าเข้ามาไม่ได้รับผลกระทบจริงๆ ด้วย มันยังทุบมาถึงหน้าผากของเขาอย่างบ้าคลั่ง เขารีบใช้มือข้างหนึ่งคว้าไม้ขักขระที่ทุ่มเข้ามา ขณะเดียวกันก็ใช้ดาบฟันตอบโต้
เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แล้วอาวุธนี้จะเปลี่ยนแปลงตามได้ ตอนนี้ไม้ขักขระถูกควบคุมอยู่ในมือของเขา
พอฟันดาบหนึ่งครั้ง ก็ทำให้แขนของฉางเหลยกระเด็นออกไปแล้ว เขาแย่งไม้ขักขระมาไว้ในมือ แล้วกวาดดาบฟันในแนวขวางอีก
เกิดเสียงดังฉึก ฟันฉางเหลยจนขาดกลายเป็นสองท่อนอีกครั้ง
ท่อนล่างของฉางเหลยที่ถูกฟันกระเด็นพลันหายไปในอากาศ ส่วนร่างกายท่อนบนก็มีอวัยวะท่อนล่างงอกออกมาอีก
อาวุธไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตามได้ ถูกแย่งมาไว้ในมือจูเชียนซือแล้วเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าในมือฉางเหลยมีอาวุธเพียงชิ้นเดียว เจ้าตอบโต้โดยใช้ดาบฟันไปที่คอของจูเชียนซือ
ปั้ง! จูเชียนซือที่ไหวตัวเร็วใช้ดาบฟันดาบในมือฉางเหลยจนกระเด็นออกไป แล้วชักดาบกลับมาโจมตีฉางเหลยอีกครั้ง
แต่ฉางเหลยก็เหมือนขนมหนิวผีถัง ตีไม่พัง ฟันไม่แตก อาวุธในมือก็มีเยอะมาก ไม้ขักขระไม่มีแล้วก็เปลี่ยนเป็นดาบ พอดาบไม่มีก็เปลี่ยนเป็นกระบี่ พอกระบี่ไม่มีก็เปลี่ยนเป็นค้อน…ต้องการจะสู้กับจูเชียนซือให้รู้แลวรู้รอด ดันทุรังอาศัยวรยุทธ์บงกชทองสู้กับจูเชียนซือที่วรยุทธ์บงกชรุ้งอย่างสูสี แต่พลังของเขาก็ทำอะไรจูเชียนซือไม่ได้เหมือนกัน
ฆ่าไม่ตายจริงๆ ด้วย! เป็นครั้งแรกที่จูเชียนซือเจอกับเรื่องประหลาดแบบนี้ รู้สึกประสาทเสียนิดหน่อย แล้วจู่ๆ ก็ถลันตัวหนีไปภายใต้ความวิตกกังวล เป็นฝ่ายถอยไปอยู่ไกลๆ ก่อน เป็นเพราะทนไม่ไหวกับการถูกพัวพันแบบนี้ ถอยออกไปไกลแล้วชกหมัดลมออกมาชุดหนึ่ง
ฉางเหลยถลันตัวหลบอย่างรวดเร็ว หนีไปทางสหายโจรทั้งสองคน
เมื่อเห็นสถานการณ์ดังนั้น ซือถูเซี่ยวกับจีฮวนก็พุ่งเข้ามาช่วยฉางเหลยสกัดจูเชียนซือทันที เพราะทั้งสองรู้ว่าอุบายผีๆ ของฉางเหลยเหมาะจะกวนใจศัตรูในระยะใกล้เท่านั้น หมัดลมขนาดเท่าภูเขาที่จูเชียนซือชกออกมาในระยะไกลครอบคลุมพื้นที่กว้างเกินไป กลอุบายของฉางเหลยไม่มีประโยชน์แล้ว ถ้าใช้กำลังปะทะกันตรงๆ จะต้องตายแน่นอน
ฉางเหลยลอดผ่านใต้หว่างขาของปีศาจหัววัวออกไป ปีศาจหัววัวใช้แขนขนาดใหญ่สองข้างดันหมัดออกไป เพื่อปะทะกับหมัดลมลูกนั้น
บึ้ม! เริ่มจากหมัดทั้งคู่ของปีศาจหัววัวพังทลาย จนกระทั่งหน้าอกโดนระเบิดจนเป็นแอ่ง ถึงได้ลดอานุภาพหมัดหนึ่งข้างของจูเชียนซือได้ แต่ปราณปีศาจของเขาก็ฆ่าไม่ตายเช่นกัน ชั่วพริบตาเดียวปราณปีศาจก็ก่อตัวขึ้นใหม่
เมื่อเห็นฉางเหลยที่ห้าวหาญใช้กำลังปะทะกับตนหนีไปแล้ว จูเชียนซือก็งงไปชั่วขณะ จากนั้นก็เข้าใจทันที รู้ว่าตัวเองแอบเสียเปรียบแล้ว ความอับอายพลันกลายเป็นความโมโห ถือดาบสังหารเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
“ข้าไม่ไหวแล้ว!” พอเห็นว่าถูกอีกฝ่ายมองออก ฉางเหลยก็พูดทิ้งท้ายเอาไว้ แล้วรีบหนีทันที หนีไปทางอวิ๋นอ้าวเทียนกับมู่ฝานจวิน
ซือถูเซี่ยวควบคุมไฟผีสีเขียวสลัวทันที อาศัยร่างขนาดใหญ่ของปีศาจหัววัวกำบัง ร่วมมือกับจีฮวนต้านทานเอาไว้ สู้ไปพลางถอยไปพลาง
จูเชียนซือบ้าคลั่งแล้ว ทั้งสองก็เหลือแค่กำลังที่เอาไว้ดันทุรังต่อต้านเช่นกัน
“พวกเขาต้านทานไม่ไหวแล้ว เจ้าจะทำยังไง?” อวิ๋นอ้าวเทียนที่ถือดาบลอยอยู่บนฟ้าหันกลับมาถาม
มู่ฝานจวินที่ฟื้นตัวและสีหน้าเริ่มมีเลือดฝาดลืมตาขึ้น พยักหน้าถามกลับขณะที่ผมปล่อยสยาย “เจ้าคิดจะทำยังไงล่ะ?”
อวิ๋นอ้าวเทียนที่ถือดาบอยู่ในมือพลันกางแขนสองข้าง ดวงตาแดงก่ำขณะที่กล่าวเสียงทุ้มว่า “วิถีมารครองใต้หล้า!”
ชั่วพริบตานั้นร่างกายก็มีปราณมารที่หนาแน่นดำทึบลอยวนเวียน ก่อนจะก่อตัวกลายเป็นลูกกลมสีดำขลับสองลูกที่มีขนาดเท่ากำปั้นอย่างรวดเร็ว ลูกกลมสองลูกอยู่ด้านหลังทางซ้ายและขวาของเขา พอเขาขยับบ่าสองข้าง ลูกกลมสีดำสองลูกก็เหมือนกับผีเสื้อออกจากดักแด้ เด้งออกเป็นปีกสองข้างที่ยาวเกือบหนึ่งจั้ง หน้าตาเหมือนปีกค้างคาว บางเหมือนปีกจั๊กจั่น สีดำขลับเหมือนผ้าไหม
มู่ฝานจวินมองดูด้วยสีหน้าตกตะลึง
ฉางเหลยที่พุ่งเข้ามาก็ถามอย่างตกตะลึงเช่นกัน “จอมมาร นี่มันสถานการณ์อะไรกัน? ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเจ้าใช้พลังแบบนี้เลย?”
อวิ๋นอ้าวเทียนไม่สนใจ หมุนตัวกลับมาพร้อมกับปีกสองข้าง แล้วยื่นมือไปที่มู่ฝานจวิน
มู่ฝานจวินอึ้งนิดหน่อย แต่ก็คว้ามือของเขาเอาไว้
วูบๆ! ปีกใหญ่คู่นั้นขยับสองที แล้วจู่ๆ ก็พุ่งออกมาราวกับธนูยิงออกจากสาย อวิ๋นอ้าวเทียนจูงมู่ฝานจวินบินล่วงไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วนี้ทำให้ฉางเหลยตกตะลึงอ้าปากค้าง
จูเชียนซือกำลังควงดาบฟันอย่างบ้าคลั่ง ตอนที่ใช้ลมดาบฟันเอวปีศาจหัววัวขาดครึ่ง ทันใดนั้น ส่วนเอวของปีศาจหัววัวพลันมีเงาคนที่มีปีกบินอ้อมออกมาเสียงดังวูบ
จูเชียนซือตกใจมาก รีบฟันลมดาบออกมาอย่างบ้าคลั่งอีกหนึ่งชุด เสียงปีกที่ดังวูบๆ นั่นแวบผ่านไปทางด้านข้าง
ในขณะเดียวกันนี้เอง ปีกคู่นั้นก็ราวกับเป็นไข่ที่ฟักตัวเป็นคนหนึ่งคน มู่ฝานจวินพลันปรากฏตัว ชกหมัดข้างหนึ่งออกมา อัสนีบาตเจ็ดสายเลื้อยขยุกขยิกขึ้นมาจากบนแขน ฟาดไปยังดาบใหญ่บนมือของจูเชียนซือพร้อมกัน
จูเชียนซือกำลังควงดาบเล็งไปยังอวิ๋นอ้าวเทียนที่กระพือปีกบินวน คาดไม่ถึงว่าจะโดนจู่โจมแบบนี้ สายฟ้านั่นทำให้เขาสั่นไปทั้งร่างทันที
อุบ! มู่ฝานจวินที่กระอักเลือดออกมาคำหนึ่งชกหมัดออกไปอีกข้าง อัสนีบาตเจ็ดสายโจมตีไปบนตัวของจูเชียนซือพร้อมกัน
“ย๊า!” จูเชียนซือที่โดนสายฟ้าฟาดจนสั่นไปทั้งร่างคำรามออกมาอย่างเดือดดาล ควงดาบฟันที่ไปมู่ฝานจวินแล้ว
พรึ่บ! ในช่วงเวลาที่อันตรายหล่อแหลม เงาปีข้างหนึ่งแฉลบผ่านไป เร็วปานสายฟ้า แวบไปพร้อมกับเงาดาบสีแดง
เลือดสายหนึ่งพุ่งออกมา ศีรษะที่กำลังถลึงตาของจูเชียนซือปลิวขึ้นมาแล้ว
เงาปีกที่บินแฉลบหยุดอยู่บนท้องฟ้า อวิ๋นอ้าวเทียนที่มีปีกใหญ่สองข้างหันตัวมามองอย่างช้าๆ ดาบบนมือยังไม่ทันเปื้อนเลือด แต่กลับเด็ดหัวบนคอของจูเชียนซือได้แล้ว
เพียงดาบเดียวเท่านั้น!
อาศัยความเร็วทำให้จูเชียนซือจิตใจสับสนนิดหน่อย เป็นการสร้างช่องช่างในการโจมตีให้มู่ฝานจวิน แล้วการโจมตีของมู่ฝานจวินก็ถ่วงความเร็วของจูเชียนซือได้เล็กน้อย เพราะอาศัยช่องโหว่เล็กน้อยตรงนี้นี่เอง พออวิ๋นอ้าวเทียนแฉลบผ่านมา ก็ฉวยโอกาสใช้ดาบเดียวเด็ดหัวจูเชียนซืออย่างมั่นคงเด็ดเดี่ยวและแม่นยำ!
ทั้งสองให้ความร่วมมือกันอย่างดีราวกับรู้ใจกัน อวิ๋นอ้าวเทียนถึงขั้นไม่ต้องบอกมู่ฝานจวินด้วยซ้ำว่าควรทำอย่างไร แค่เห็นเขาดึงตัวเองขึ้นไปบินด้วยความเร็วแบบนั้น มู่ฝานจวินก็เข้าใจทันที สองคนร่วมมือกัน โจมตีครั้งเดียวร้ายแรงถึงชีวิต!
ตรงหน้าอกของปีศาจหัววัวมีศีรษะของจีฮวนโผล่ออกมามอง ซือถูเซี่ยวที่ฝ่ามือสองข้างกำลังจุดไฟผีก็จ้องจูเชียนซือที่แขนขาสั่นทว่าไร้หัวอย่างตะลึงงันเช่นกัน
“สาธุๆ…” ฉางเหลยวิ่งกลับมาอีกแล้ว
มู่ฝานจวินที่เลือดไหลตรงมุมปากตัวสั่นโอวเอนเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาวอีกครั้ง
วูบ! เกราะรบผลึกแดงบนตัวจูเชียนซือถูกเก็บอย่างฉับพลัน ร่างไร้ศีรษะระเบิดแสงสีรุ้งออกมา
ชั่วพริบตาเดียว แมงมุมตัวใหญ่สีดำขนาดห้าหกจั้งก็ปรากฏตัวกลางอากาศ ขากระดุกกระดิกอยู่กลางอากาศไม่หยุด พลังอิทธิฤทธิ์โหมซัดสาดไปรอบๆ ขนาดไม่มีหัวแล้วยังไม่ตาย ยังมีอานุภาพหลงเหลือ
ซือถูเซี่ยวรีบถลันตัวเข้าไป คว้าแมงมุมตัวใหญ่ที่กำลังม้วนกลิ้งเอาไว้ พรึ่บ! ไฟผีสีเขียวสลัวถูกยิงออกมาสองสาย จุดไฟบนท้องของแมงมุมไร้หัวพร้อมกัน ไฟผีสีเขียวสลัวไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว
อวิ๋นอ้าวเทียนพลันหันกลับมาตะคอก “เมื่อครู่นี้มีคนเพิ่งรายงานข่าว พวกเราจะอยู่ที่นี่นานไม่ได้ พระเถระ รีบเก็บของไวๆ!”
ฉางเหลยได้ยินแล้วแฉลบไปทันที ไปเหยียบบนดวงดาวขรุขระที่โดนโจมตีจนเป็นโพรง แล้วรีบกวาดข้าวชองบนร่างหกร่างมาจนหมด โดยส่วนใหญ่งานประเภทโปรดสัตว์ล้วนเป็นหน้าที่ของคนออกบวช เมื่อเก็บของจนเกลี้ยงแล้วก็กล่าวว่า “อามิตาพุทธ”
ภายใต้การเผาของไฟผี แมงมุมยักษ์ไร้หัวที่ดิ้นรนอย่างรุนแรงพลันหนีไปในจุดลึกของดาราจักร รวดเร็วสุดขีด ยังคงดิ้นรนเอาชีวิตรอดก่อนตาย ถึงแม้จะไม่มีหัวแล้ว แต่นี่ก็ยังเป็นความเร็วระดับบงกชรุ้ง
“แย่แล้ว สมบัติของเป้าหมายทั้งสามอยู่บนตัวมัน” จีฮวนอุทานอย่างร้อนใจ
วูบ! อวิ๋นอ้าวเทียนกระพือปีกโผเข้าไป ชั่วพริบตาเดียวก็ไล่ตามไปแล้ว ระยะห่างเข้าใกล้กันเรื่อยๆ หลังจากตามทันแล้ว ดาบใหญ่ในมือก็ฟันเงามายาสีแดงออกมาสายหนึ่ง ดาบฟันจากหางแมงมุมไปจนถึงส่วนหลัง ในที่สุดแมงมุมใหญ่ตัวนี้ก็เหาะไม่ได้อีกต่อไป ข้อขาที่ขยับดีดยังคงไปข้างหน้าต่อโดยอาศัยแรงเฉื่อย
แต่อวิ๋นอ้าวเทียนกลับไปเหยียบลงบนหลังมัน ใช้ดาบแทงเข้าไปในร่างกาย แล้วลากมันเหาะกลับมา
จีฮวนที่หยุดใช้ปราณปีศาจถามอย่างตะลึงงันว่า “ความเร็วนี้…ปีกของจอมมารนั่นมันยังไงกันแน่? ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเขาใช้วิชานี้มาก่อนเลย? ถ้าเมื่อก่อนใช้พลังแบบนี้ออก พวกเราจะเป็นคู่ต่อสู้เขาได้เหรอ?”
“ไม่รู้!” ซือถูเซี่ยวพึมพำ “เหมือนเสือติดปีก…”
อวิ๋นอ้าวเทียนที่ลากศพแมงมุมไร้หัวกลับมาตะตอกว่า “ผีเฒ่า เก็บไฟผีของเจ้าเดี๋ยวนี้ เลิกทำลายยาเจี๋ยตันได้แล้ว!”
ไฟลุกลามเยอะมากแล้ว เขาเองก็ไม่กล้าไปมีเรื่องกับไฟผีนี้ รีบออกจากร่างของแมงมุมตัวใหญ่
พอซือถูเซี่ยวกางฝ่ามือสองข้าง ไฟผีที่ลุกโชติช่วงก็กลายเป็นมังกรไฟสีเขียวสลัวสองตัวและถูกดูดเข้าไปในฝ่ามือของเขาแล้ว เขาดูดไฟฝีที่อยู่บนร่างของแมงมุมตัวใหญ่จนหมดเกลี้ยง
เมื่อเห็นแมงมุมตัวใหญ่ไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว จีฮวนก็ถลันตัวไปเหยียบบนร่างของแมงมุมตัวใหญ่ทันที พอควานหาอยู่สักพัก ยาเจี๋ยตันสีทองวิบวับเม็ดหนึ่งก็ตกอยู่ในมือเขา เขาถือมันโบกไปมาพร้อมกล่าวกลั้วหัวเราะ “ฮ่าๆ! ผลึกแดงหนึ่งหมื่นล้านอยู่ในมือแล้ว พอให้ชำระหนี้ไอ้เหมียวจัญไรแล้วล่ะ!”
“นั่นยังเป็นเงินจำนวนน้อยๆ!” ซือถูเซี่ยวที่หัวเราะอย่างพิศวงค้นสมบัติอย่างอื่นบนตัวจูเชียนซือออกมาแล้ว ดึงศพผู้บัญชาการใหญ่ทั้งสามที่อยู่บนโซ่ขึ้นมาโอ้อวด “นี่ต่างหากที่เป็นเงินก้อนใหญ่ ร่ำรวยแล้ว ตอนนี้ร่ำรวยแล้วจริงๆ!”
“อย่าชักช้า! ถ้ารอให้ยอดฝีมือมาถึง เกรงว่าพวกเราจะไม่เหลือแม้แต่ชีวิต เร็วๆ หน่อย!” อวิ๋นอ้าวเทียนตะคอกสั่ง ปีกที่อยู่ข้างหลังพลันสลายกลายเป็นปราณมารที่มโหฬารพันลึก ไหลม้วนกลับเข้าไปในร่างกายเขา
เขาถลันตัวไปอยู่ข้างกายมู่ฝานจวิน ดึงแขนนางไว้พลางถามว่า “เจ้าไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“ไม่เป็นไร!” มู่ฝานจวินส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง ที่จริงเมื่อครู่นางโจมตีอย่างสุดกำลังทั้งๆ ที่อาการบาดเจ็บสาหัสยังไม่บรรเทา จึงทำให้อาการบาดเจ็บรุนแรงยิ่งกว่าเดิม แต่นางมีนิสัยแข็งกร้าว ไม่อยากเกี่ยวพันกับอวิ๋นอ้าวเทียน จึงออกแรงแกะมืออวิ๋นอ้าวเทียนออกพร้อมบอกว่า “ปล่อยข้า!”
แต่แรงของนางในตอนนี้จะสู้อวิ๋นอ้าวเทียนได้อย่างไร อวิ๋นอ้าวเทียนไม่สนใจนาง นำสมุนไพรเซียนซิงหัวออกมาอีกต้น ฝืนบีบปากนางให้อ้าออกแล้วยัดเข้าไป จากนั้นก็ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอดตัวเอง อุ้มนางไว้ในอ้อมกอดแล้ว
ดวงตาหงส์ของมู่ฝานจวินพลันถลึงจ้อง นางเดือดดาลทันที มีหรือที่จะยอมให้มารเฒ่าดูหมิ่นต่อหน้าคนอื่น ขณะกำลังจะปรี๊ดแตก นางกลับตาเหลือกสลบไปแล้ว
อวิ๋นอ้าวเทียนที่ร่ายอิทธิฤทธิ์ทำให้นางสลบจ้องมองใบหน้างามของนางครู่หนึ่ง พอเงยหน้าขึ้น ปรากฏว่าเห็นฉางเหลย ซือถูเซี่ยวและจีฮวนที่ล้อมเข้ามากำลังมองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ
“เก็บของหมดแล้วรึยัง?” อวิ๋นอ้าวเทียนถาม
“เก็บหมดแล้ว ไม่ควรจะอยู่ที่นี่นาน ทำตามแผนการดีกว่า รีบไปกันเถอะ!” จีฮวนกล่าว
อวิ๋นอ้าวเทียนพลิกมือเก็บมู่ฝานจวินไว้ในกระเป๋าสัตว์ แล้วพวกเขาก็นำสัตว์พาหนะออกมา รีบเหาะไปยังจุดลึกในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลอย่างรวดเร็ว…
…………………………