พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 1207 เจ้าโจรอ้วนระเบิดอารมณ์
“อ๋าว…”
เฮยทั่นคำรามอย่างบ้าระห่ำ ถูกยิงจนคว่ำกระเด็นครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็ม้วนตัวลุกขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำอีก
มันเองก็ไม่ได้โง่ หลังจากเสียเปรียบไปหลายครั้ง พอลุกขึ้นได้ก็อยากจะวิ่งอ้อมเข้ามาใกล้ทันที แต่จนใจเพราะลูกธนูดาวตกที่ยิงเข้ามาร้ายกาจเกินไป นอกจากความเร็วแล้ว ยังเลี้ยวไล่ตามโจมตีได้ด้วย ทำให้มันล้มลงอีกครั้ง
“อ๋าว…” เฮยทั่นที่คำรามอย่างบ้าคลั่งไม่มีทางเข้าใกล้ต่งอิ้งเกาได้ เมื่อเข้าใกล้ไม่ได้ก็ไม่มีทางล้างแค้นได้ ได้แต่กระวานกระวายอยู่อย่างนั้น
ยิ่งมันกระวนกระวาย คนจำนวนไม่น้อยก็ยิ่งรู้สึกสนใจ เหมือนจะมีลูกหลานผู้มีอำนาจจำนวนไม่น้อยที่ชอบความบันเทิงแบบนี้ เสียงร้องให้กำลังใจดังเป็นแถบ
พอเฮยทั่นโดนยิงจนล้มกระเด็นหนึ่งครั้ง พวกเขาก็จะร้องชมเสียงดังหนึ่งครั้ง พอพวกเขาตะโกนว่าดีมาก คนรอบนอกที่ให้พวกเขาเป็นจุดศูนย์กลางก็ส่งเสียงยกย่องตามทันที ย่อมร้องตะโกนตามว่าดีมาก
“ยิง! รีบยิงสิ! มันลุกขึ้นมาอีกแล้ว” เซี่ยโห้วหลงเฉิงโวยวายเสียงดังพลางโบกมือเร่ง
พวกจางฮั่นฟางก็รู้สึกคึกคักเช่นกัน ซูลี่เองก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ร้องว่าดีมากตามพวกเขา
บนจุดสูงสุดของดาวเคราะห์ที่ลอยนิ่งอยู่ไม่ไกลจากทางออก คนสองคนยืนเคียงข้างกัน มองดูฉากนี้อย่างเงียบๆ
เกาก้วนที่สวมหมวกทรงสูงและคลุมผ้าสีดำที่บ่ายืนเอามือไขว้หลัง จ้องมองไปยังจุดที่โห่ร้องชื่นชม พลางถามอย่างเย็นชาว่า “จอมพลเถิง เจ้าเห็นหรือยังล่ะ?”
เถิงเฟยไม่ได้ตอบอะไร ตอนนี้สีหน้าแย่มาก ไม่ใช่เพราะเหมียวอี้ สายตาเย็นเยียบกวาดมองช้าๆ ผ่านกลุ่มคนที่กำลังโห่ร้อง…
หลังจากต่งอิ้งเกายิงธนูต่อเนื่องกันได้สักพัก สายตาที่มองดูเฮยทั่นก็ค่อยๆ แสดงอาการตกตะลึง สัตว์พาหนะตัวนี้โดนลูกธนูไปเยอะขนาดนั้น แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เป็นอะไรเลยสักนิด คนอื่นไม่รู้ถึงอานุภาพลูกธนูของเขา แต่เขากลับรู้อย่างชัดเจน
ถึงแม้สัตว์พาหนะตัวนี้จะสวมเกราะรบผลึกแดง ทำให้อานุภาพของลูกธนูเจาะทะลุได้ยาก แต่พลังโจมตีกลับสามารถส่งต่อได้ ดูจากที่หนิวโหย่วเต๋อโดนลูกธนูครั้งเดียวแล้วล้มคว่ำก็รู้แล้ว แต่สัตว์พาหนะโดนลูกธนูของตนไปเจ็ดแปดครั้ง แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะยังไม่ตาย
คนอื่นอาจจะไม่รู้ชัดเจน แต่เขาเองรู้อย่างแจ่มแจ้ง ว่าด้วยอานุภาพของธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ผนึกกับลูกธนูดาวตก อย่างมากก็สามารถยิงลูกธนูได้สิบห้าครั้ง หลังจากยิงลูกธนูไปสิบห้าครั้งแล้ว อานุภาพที่อยู่ในนั้นก็จะถูกใช้ไปจนหมด จะต้องใช้ยาเจี๋ยตันเติมเข้าไปใหม่ พอเติมไปแล้วก็ต้องรอให้มันย่อยอีก
“กลับมา!” เสียงกลัดกลุ้มที่แฝงไปด้วยความบ้าระห่ำดังขึ้น
โค่วเหวินชิงที่จ้องเหมียวอี้ด้วยสีหน้ากังวลมาตลอด ตอนนี้ตาเป็นประกายทันที เหมียวอี้ที่ถ่างแขนถ่างขาลอยนิ่งและกำทวนเกล็ดย้อนไว้แน่นขยับตัวแล้ว ทั้งร่างกายพลันลุกขึ้นมาอีกครั้ง เสี่ยงนั้นก็คือเสียงของเหมียวอี้นั่นเอง
“ถุย!” เหมียวอี้เอียงหน้าถ่มเลือดออกมาคำหนึ่ง ยกมือถูรอยเลือดบนจมูกและปาก แยกไม่ออกเหมือนกันว่าตรงไหนคือเลือกของตัวอเง ตรงไหนคือเลือดของคนอื่น เขาก็ยกมือกดหน้าอกและท้องด้วยความเจ็บแปลบ กระดูกซี่โครงสะเทือนจนหักไปแล้วหลายท่อน ได้รับบาดเจ็บภายในไม่น้อยเลย
เขารู้สึกโชคดีมาก ถ้าไม่ใช่เพราะบนตัวสวมเกราะรบผลึกแดง ก็เกรงว่าคงจะโดนลูกธนูเจาะทะลุไปแล้ว และก็โชคดีมากที่ลูกธนูสามดอกนั้นมีอานุภาพไม่เยอะเท่าไร ถ้าจุดดำสามจุดที่หมุนวนนั่นใหญ่เท่าจุดดำขนาดเม็ดถั่วเหลืองที่ตัวเองลงมือ ตัวเองคงถูกกำจัดทิ้งไปแล้วแน่นอน เคราะห์ดีที่เกราะรบของเยารั่วเซียนช่วยคลายพลังของฝ่ายตรงข้ามได้ส่วนหนึ่ง
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ถึงแม้ชั่วพริบตาที่โดนลูกธนูเขาจะรีบหันตัว แต่ก็ตอบสนองและป้องกันตัวได้เร็ว ทำให้คมธนูที่ยิงโดนตัวเองเบี่ยงไปเล็กน้อย
อย่าไปมองว่าเป็นแค่การเบี่ยงตัวเล็กน้อยจากการตอบสนองอันรวดเร็ว เพราะที่จริงมันช่วยเขาได้เยอะมาก ไม่ได้ทำให้พลังโจมตีทั้งหมดมีผลกับร่างกายเขาโดยตรง นี่ต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เขาคลายพลังโจมตีอันรุนแรงได้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้ก็ไม่มีทางลุกไหวเลย อาศัยวรยุทธ์อย่างเขา ต่อให้มีเกราะรบที่รั่วเซียนหลอมสร้างให้แต่ก็ต้านทานไม่ไหวอยู่ดี
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังถูกอานุภาพของลูกธนูทำให้มึนงงอยู่ดี ได้รับบาดเจ็บแล้ว
โชคีที่เขากลืนสมุนไพรเซียนซิงหัวไว้ตั้งแต่แรก ทำให้ตัวเองได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว และทำให้ร่างกายบรรเทาจนลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
ตอนนี้เขากำลังใช้สายตาเย็นเยียบมองดูกลุ่มคนที่ตะโกนโห่ร้องเสียงดัง รอยยิ้มบนใบหน้าแต่ละหน้านั้น ในสายตาเขาคือหน้าตาอัปลักษณ์ดุร้าย ราวกับสีหน้าของกำลังพลนับล้านนั่นฝังลึกอยู่ในหัวสมองของเขาในชั่วพริบตาเดียว ตราตรึงใจไม่รู้ลืม!
ทุกคนกำลังหัวเราะเยาะตน ทุกคนอยากจะเหยียบย่ำตนไว้ใต้เท้าใจจะขาด!
เฮยทั่นคำรามอย่างเกรี้ยวกราดร้อนรนหลังจากโดนยิงจนล้ม แต่กลับถูกหัวเราะเยาะเหมือนตัวตลก ภาพนี้ยิ่งทำให้ไฟโกรธสุมเต็มอกเขา จิตสังหารปะทุ ทวนเกล็ดย้อนพลันสะบัดเสียงดังอยู่ในมือ โบกชี้ไปที่กลุ่มคน ส่งเสียงมังกรครางเบาๆ ทั้งหมดเป็นคนที่สมควรตาย!
เฮยทั่นโดนยิงล้มและลุกขึ้น พอได้ยินเสียงเรียกก็หันหน้าไปมอง เห็นเหมียวอี้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง “อ๋าว…” มันคำรามหนึ่งครั้ง แล้วเลิกสนใจต่งอิ้งเกาทันที รีบวิ่งกลับไปหาเหมียวอี้แล้ว
เสียงหัวเราะที่ดังต่อเนื่องเป็นระลอก เสียงโห่ร้องชื่นขมพลันเงียบลง แต่ละคนกำลังมองมาทางนี้
ต่งอิ้งเกาทำสีหน้างุนงง จะเป็นไปได้ยังไง? จากที่เขารู้มาตอนลงสมัครเข้าร่วมการทดสอบ เหมียวอี้มีวรยุทธ์ระดับบงกชทองขั้นสี่เท่านั้น นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงพูดได้อย่างมั่นใจว่าจะเด็ดหัวเหมียวอี้ วรยุทธ์แค่บงกชทองขั้นสี่ จะเป็นไปได้อย่างไรที่โดนลูกธนูดาวตกของเขาแล้วยังลุกขึ้นได้ หรืว่าเจ้าเวรนี่มันปิดบังวรยุทธ์ที่แท้จริงเอาไว้? แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ตอนที่รวมตัวกันในพื้นแอ่งก่อนหน้านี้ก็น่าจะโดนตรวจสอบแล้ว เป็นสิ่งที่ปิดบังไม่อยู่
เฮยทั่นเข้ามาแบกรองเหมียวอี้ไว้โดยตรง เหมียวอี้ชี้ทวนไปที่ต่งอิ้งเกา แต่ไม่ได้ตะโกนเสียงดัง แค่พึมพำด้วยเสียงทุ้มต่ำคำเดียวว่า “ฆ่า!”
“อ๋าว…” เฮยทั่นเงยหน้าคำรามเสียงพิโรธ แล้วพุ่งพรวดออกไปทันที โผตรงไปหาต่งอิ้งเกาอีกครั้ง
กลุ่มคนที่อยู่ทางซ้ายและขวามองไปทางต่งอิ้งเกาทันที ดุว่าเขาจะรับมืออย่างไร
“เฮอะ! ช่างไม่รู้จักความเป็นความตาย!” ต่งอิ้งเกาแสยะยิ้ม แล้วคว้าลูกธนูดาวตกสามดอกมาง้างที่สายธนู เล็งเป้า!
เมื่อเห็นเหมียวอี้พุ่งเข้ามาใกล้ เสียงระเบิดก็ดังขึ้น ท่ามกลางพลังอิทธิฤทธิ์ที่โหมซัดสาด ลำแสงสามสายยิงออกมาเร็วมาก
เหมียวอี้ที่พุ่งตรงมาข้างหน้าพลันยกฝ่ามือข้างเดียวผลัก แสงสีทองจุดหนึ่งระเบิดในฝ่ามือ ในชั่วพริบตาเดียว ลูกกลมสีแดงขนาดใหญ่ก็ถูกผลักออกมากำบังลำแสงสามสายที่ยิงเข้ามา
ลูกกลมสีแดงปะทะกับลำแสงสามสาย ชั่วพริบตาที่สัมผัสกัน ลำแสงสามสายพลันกลายเป็นลูกธนูดาวตกสามดอกชนกับลูกกลมสีแดง
บึ้ม! เสียงระเบิดดังสะเทือนก้องท้องฟ้า
คนที่ดูการต่อสู้ยังนึกว่าตัวเองตาฝาดไป ต่งอิ้งเกาก็นึกว่าตัวเองตาฝาดเช่นกัน เห็นเพียงวินาทีที่ลูกกลมสีแดงชนปะทะ ขณะที่มันระเบิดพลิกกลับด้าน ไม่น่าเชื่อว่าจะกลืนลูกธนูดาวตกสามดอกเข้าไปในคำเดียว
ทุกคนยังไม่ทันรู้ชัดว่าเกิดเรื่องอะไรกันแน่ ต่งอิ้งเกาก็ยังไม่ทันรู้ตัวเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ลูกกลมสีแดงนั่นก็หดเล็กลงหลายเท่าแล้ว หายไปอย่างฉับพลัน
เมื่อเห็นลูกกลมสีแดงหายไป เหมียวอี้ที่ไร้ลูกกลมสีแดงกำบังก็พลันปรากฏตัวพุ่งเข้ามา ต่งอิ้งเการีบเรียกลูกธนูดาวตกสามดอกนั้น
ลูกธนูดาวตกถูกกลืนอยู่ในท้องของลูกกลมตีไม่พังแล้ว ถูกเหมียวอี้เก็บเข้ากำไลเก็บสมบัติพร้อมกัน ตัดขาดการเชื่อมต่อระหว่างต่งอิ้งเกากับลูกธนูดาวตก ถ้าสามารถเรียกกลับมาได้ก็แปลกแล้ว
เมื่อไม่สามารถเรียกลูกธนูดาวตกกลับมาได้ ต่งอิ้งเกาก็ตกใจจนหน้าถอดสี รู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุด เพราะลูกธนูดาวตกไม่ได้หลอมสร้างกันได้ง่ายๆ นี่เป็นของวิเศษที่เขาบังเอิญได้มา ธนูมีหนึ่งคัน ลูกธนูมีสามดอก ไม่ใช่ลูกธนูที่ใช้กันทั่วไป ไม่ใช่ประเภทที่ยัดไว้ในกระบอกได้เป็นกองเพื่อเตรียมใช้ ใช่ว่าเก็บลูกธนูอะไรมาวางไว้บนธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์แล้วจะสำแดงอานุภาพได้
ถ้าไม่เกิดเรื่องที่เหมียวอี้โจมตีทัพใหญ่ห้าหมื่นจนแตกพ่ายด้วยตัวคนเดียว วรยุทธ์บงกชทองขั้นเก้าอย่างเขาก็ยังกล้าที่จะสู้กับเหมียวอี้สักตั้ง แต่ตอนนี้ไม่มีของวิเศษให้พึ่งพาแล้ว มีคนตายมากขนาดนั้นให้เห็นเป็นบทเรียน เมื่อเห็นเหมียวอี้สังหารเข้ามาราวกับมารปีศาจร้าย เขาก็ตกใจจนแทบจะขวัญหนีดีฝ่อ
เขายังจะกล้าหยุดอยู่ที่เดิมได้อย่างไร ไม่สนใจจะอารักขาเซี่ยโห้วหลงเฉิงแล้ว อันที่จริงเซี่ยโห้วหลงเฉิงก็ขาดคุณธรรมน้ำมิตรเอามากๆ รีบถลันหลบไปอีกด้านพร้อมสีหน้าหวาดกลัวแล้ว ไม่ได้มีแค่เซี่ยโห้วหลงเฉิงเท่านั้น คนที่อยู่ทางซ้ายและขวาลนลานหนีออกเป็นสองฝั่ง แม้แต่ ‘สาวงามผมแหว่ง’ ที่แค้นเหมียวอี้จนกัดฟันกรอดก็หมดอารมณ์ล้างแค้นแล้ว รีบหนีอย่างไว
ต่งอิ้งเกาขี่เดรัจฉานสับปลับพุ่งขึ้นฟ้าอย่างฉับพลัน
เหมียวอี้จะปล่อยอีกฝ่ายหนีไปง่ายๆ ได้อย่างไร เขาอาศัยความเร็วของเฮยทั่นที่พุ่งเข้ามา กระโจนตัวพุ่งขึ้นฟ้าในแนวเฉียงราวกับลูกธนูที่ยิงออกจากสาย เฮยทั่นที่ช้ากว่าหนึ่งก้าวตามขึ้นไป กำลังพลที่อยู่เบื้องล่างแหงนหน้ามอง
เดรัจฉานสับปลับที่อยู่ด้านบนพลันก้มหัว พ่นหมอกแดงร้อนจี๋ออกมาคำหนึ่ง
เหมียวอี้ที่กำลังไล่ตามไม่สนใจสิ่งเหล่านี้เลย เขาฝ่าเข้าไปในหมอกแดงโดยตรง แทงทวนออกไปหนึ่งครั้งราวกับดาวตก หัวทวนที่แหลมคมเข้าไประเบิดอยู่ในท้องของเดรัจฉานสับปลับ แล้วก็เห็นเหมียวอี้โบกทวนทะยานขึ้นฟ้าอีกครั้ง “อู…” ท่ามกลางเสียงครวญครางของเดรัจฉานสับปลับ ร่างกายขนาดยักษ์ถูกคว้านท้องกลางอากาศ เลือดร้อนๆ สาดกระจายอย่างบ้าคลั่ง
ต่งอิ้งเกาที่ตกตะลึงพรึงเพริดเหยียดขาหนีขึ้นฟ้าอีกครั้ง โบกมือโยนเหยี่ยวมารวานรยักษ์ตัวหนึ่งออกมา ต้องการจะให้มันพาบินหนี
จู่ๆ เบื้องล่างก็มีเงาร่างสายหนึ่งผ่านเหมียวอี้ไปอย่างรวดเร็ว เฮยทั่นพุ่งขึ้นมาอาศัยแรงเหมียวอี้แล้ว มันยื่นกรงเล็บตะปบก้นเหยี่ยวมารวานรยักษ์ ตะปบจนเลือดปนขนเหล็กสาดกระจาย “วี๊ด…” เหยี่ยวมารวานรยักษ์ที่เพิ่งจะออกมาร้องเสียงแหลม ร่างกายเอียงลง ตามติดด้วยเสียงดังสะเทือนหนึ่งครั้ง โดนเฮยทั่นที่โบกกรงเล็บเป็นครั้งที่สองตบจนปลิวออกไป เฮยทั่นคำรามพลางไล่ตามไปหาต่งอิ้งเกาที่อยู่ด้านบนโดยตรง
แต่ใคจะคิดว่าต่งอิ้งเกาจะโยนเหยี่ยวมารวานรยักษ์ออกมาอีกตัว ขณะเดียวกันก็ควงดาบฟันไปทางหัวเฮยทั่นที่อยู่ด้านล่างอย่างบ้าคลั่ง
เฮยทั่นโบกกรงเล็บคลั่งออกมาหนึ่งที ปะทะกับดาบที่ฟันเข้ามา ต้องการจะใช้กำลังอันป่าเถื่อนของตัวเองปะทะกับพลังอิทธิฤทธิ์ของต่งอิ้งเกาอย่างมุทะลุดุดัน
ปั้ง! ดาบใหญ่สะบัดในแนวขวาง ไม่น่าเชื่อว่าต่งอิ้งเกาที่มีวรยุทธ์บงกชทองขั้นเก้าจะถูกทำให้ร่างกายพลิกหนึ่งรอบ แขนก็ยิ่งสะเทือนจนชา ดาบใหญ่แทบจะกระเด็นหลุดมือ
ร่างกายยังไม่ทันยืนได้อย่างมั่นคง เฮยทั่นที่พุ่งเข้ามาก็ใช้หัวชนต่งอิ้งเกาแล้ว ชนจนต่งอิ้งเกากระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง “วี้ด…” ข้างกันมีเสียงเหยี่ยวร้องอย่างเจ็บปวด โดนหางของเฮยทั่นที่สะบัดออกมาฟาดจนพลิกคว่ำแล้ว
พอเฮยทั่นพลิกตัว ก็สะบัดหางฟาดบนหน้าอกของต่งอิ้งเกาอย่างบ้าคลั่งหนึ่งชุด ทำให้ต่งอิ้งเกาสำลักเลือดออกมา เฮยทั่นหันตัวมากระแทกอย่างดุร้าย แล้วก็ใช้หัวชนบนตัวของต่งอิ้งเกาอย่างดุดันหนึ่งครั้ง หลังจากชนจนต่งอิ้งเกากรเด็นออกไปแล้ว มันก็ไล่ตามไปใช้ทั้งกรงเล็บทั้งอุ้งเท้าตะปบอย่างโหดร้ายอีกหนึ่งชุด
ก่อนหน้านี้มันต้านทานอานุภาพของลูกธนูดาวตกไม่ไหว โดนทำร้ายจนยับเยิน แต่ตอนนี้มันจับต่งอิ้งเกามาระบายความโกรธแค้นอย่างเต็มที่แล้ว
ทุกคนที่อยู่ข้างล่างมองจนตกตะลึงอ้าปากค้าง หนิวโหย่วเต๋อห้าวหาญ แม้แต่สัตว์พาหนะของเขาก็ยังโหดขนาดนี้เลยเหรอ?
เหมียวอี้ที่เงยหน้ามองการต่อสู้ด้านบนถูกเฮยทั่นทำให้ตะลึงค้างแล้ว นึกไม่ถึงว่าเจ้าโจรอ้วนจะมีพละกำลังเยอะถึงขั้นนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะทารุณจนนักพรตบงกชทองขั้นเก้าไม่มีแรงจะโต้ตอบ!
ตอนนี้เขาถึงได้พบว่ายาเจี๋ยตันที่ทุ่มไปบนตัวเฮยทั่นมาหลายปีไม่ใช่สิ่งที่ไร้ความยุติธรรมสักนิดเลย ทำไมถึงว่าได้ว่าเจ้าโจรอ้วนไม่มีพลังปาฏิหาริย์ที่ร้ายกาจ มีพลังเยอะไม่สิ้นสุด ถึกทนแข็งแรงนับว่าเป็นพลังปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งด้วยรึเปล่า?…เหมียวอี้ไม่กล้าฟันธง
เมื่อเห็นต่งอิ้งเกาโดนเฮยทั่นโจมตีจนย่อยยับแล้ว เหมียวอี้ก็ก้มหน้ามอง แล้พุ่งตัวกลับลงข้างล่าง คนข้างล่างหลีกทางให้เป็นช่องว่างทันที ยังมีคนฝืนยิ้มให้เหมียวอี้ด้วย แต่ใครจะคิดว่าตอนที่เพิ่งจะยิ้มออกมา ดวงตาก็พลันเบิกกว้าง แสงเย็นหลายสายยิงเข้ามาแล้ว
“อา…” ชั่วพริบตาเดียวเสียงกรีดร้องก็ดังเป็นแถบๆ เหมียวอี้พลันลงมือปาดทวนใส่คนที่อยู่บนสัตว์พาหนะจนกระเด็นออกไปรวดเดียวสามคน พุ่งเข้าไปราวกับลูกธนูยิงออกจากสาย เงาร่างที่โดดเดี่ยวพุ่งตรงไปยังจุดลึกของกลุ่มคน ออกทวนราวกับมังกร เห็นใครก็ฆ่าหมด บุกสังหารกลางทัพใหญ่หนึ่งล้านอย่างบ้าระห่ำ ไม่สนใจความเป็นความตายแล้วจริงๆ
พอเฮยทั่นที่อยู่ด้านบนหันมามอง มันก็อ้าปากกว้างที่เหมือนแอ่งเลือดทันที มันกัดหัวของต่งอิ้งเกาไว้ในปากแล้ว ฟันที่แหลมคมน่ากลัวเจาะทะลุคอต่งอิ้งเกา ลากศพหนึ่งร่างพุ่งลงไล่ตามไปหาเหมียวอี้
…………………………