พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 1317 ไปยุ่งไม่ได้แล้ว
เกิดความคิดอยากจะฆ่าก็ส่วนเกิดความคิดอยากจะฆ่า ถ้าจะบอกว่าจะฆ่าปี้เยว่เพราะสาเหตุนี้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเดิมทีก็อยากจะมาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์อยู่แล้ว
ที่บอกว่าจะหย่ากับปี้เยว่ฮูหยินล้วนพูดไปเพราะอารมณ์เท่านั้น ฮูหยินภรรยาเอกไม่ใช่ผักกาดขาวที่คิดจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ บรรทัดฐานศีลธรรมที่ยอมรับร่วมกันในใต้หล้าเป็นพลังควบคุมที่มองไม่เห็น นี่คือสิ่งที่ผู้หญิงมากมารักษาไว้ ภายใต้สถานการณ์ที่ปี้เยว่ฮูหยินไม่ได้ทำความผิดอะไร คนที่อยู่ในฐานะตำแหน่งอย่างเขาไม่กล้าหย่าง่ายๆ ไม่อย่างนั้นมีภรรยาเอกอีกเป็นโขยงมาทักทายเขาเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ความกดดันนั้นไม่ใช่น้อยๆ
นอกจากนี้ก็เป็นไปไม่ได้ด้วยที่เขาจะหย่ากับปี้เยว่ฮูหยิน
แม่ทัพภาคตลาดสวรรค์.ในอาณาเขตของเขาที่ไปเข้าร่วมการทดสอบก็ตายแทบหมดแล้ว เหลือเพียงฮูหยินของเขาคนเดียว เมื่อเห็นว่าตำแหน่งแม่ทัพภาคอื่นๆ กำลังจะสูญเสียการควบคุม ถ้าสูญเสียตำแหน่งแม่ทัพภาคของปี้เยว่ไปอีก อำนาจในการควบคุมตลาดสวรรค์ของเขาก็แทบจะไม่เหลือแล้ว
คนที่อยู่ในระดับอย่างเขา สิ่งที่แสวงหาไม่ใช่ทรัพยากรเล็กน้อยในมือของปี้เยว่ฮูหยิน แต่เป็นอำนาจในการพูดที่ตลาดสวรรค์
ตลาดสวรรค์สามารถส่งผลกระทบต่อช่องทางความร่ำรวยของผู้มีอำนาจทั้งราชสำนัก ถ้ามีอำนาจในการพูดที่ตลาดสวรรค์ในระดับหนึ่ง ก็จะมีประโยชน์ต่อเขามากยามอยู่ที่โถงประชุมของราชสำนัก ผู้มีอำนาจในราชสำนักจะต้องไว้หน้าเขาบ้างไม่มากก็น้อย ผลปราฏว่าแย่แล้ว แม่ทัพภาคตลาดสวรรค์ที่เป็นคนของเขาตายแทบหมดแล้ว พลังในการควบคุมตลาดสวรรค์ของเขาลดลงเยอะมากในรวดเดียว
ตลาดสวรรค์ผู้บัญชาการใหญ่เบื้องล่าง ถึงแม้จะมีคนของเขาอยู่บ้าง แต่ผู้บัญชาการใหญ่ก็ถูกควบคุมโดยแม่ทัพภาค ถ้าแม่ทัพภาคไม่ใช่คนของตัวเอง ไม่มีการตอบสนองจากคนทั้งข้างล่างและข้างบน ถ้าเบื้องบนอยากจะเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการใหญ่ในสังกัดก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก แม้แต่คนออกหน้าต่อสู้ด้วยเหตุผลก็ไม่ต้องมีเลยด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าตำหนักสวรรค์ต้องการจะแตะต้องท่านโหวเทียนหยวน เบื้องบนก็ยังมีพวกอ๋องสวรรค์คอย ‘อธิบายเหตุผล’ ใช่ว่าใครอยากจะแตะต้องก็แตะต้องได้ ทุกเรื่องล้วนต้องทำตามธรรมเนียม ตำหนักสวรรค์ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าใครวรยุทธ์สูงแล้วจะควบคุมเบื้องล่างได้ ก็เหมือนกับที่กลุ่มลูกพี่ใหญ่เบื้องบนต่อต้านราชันสวรรค์ ตำหนักสวรรค์ต้องการจะจับโจรที่ฆ่าพยานในครั้งนี้ ผลปรากฏว่ากำลังพลเบื้องล่างไม่ให้ความร่วมมือ ลูกพี่ใหญ่พวกนั้นออกแรงทำงานแบบไม่ตั้งใจ นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่า ‘การตอบสนองจากคนทั้งข้างล่างและข้างบน’
ที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คือตำหนักสวรรค์แยกตลาดสวรรค์ออกมาจากอำนาจท้องถิ่นแล้ว กำลังแยกการก้าวก่ายที่อำนาจท้องถิ่นมีต่อตลาดสวรรค์ออก เขาไม่สะดวกจะแทรกแซงเรื่องของตลาดสวรรค์อย่างโจ่งแจ้งอีกแล้ว และในตอนนี้ปี้เยว่ฮูหยินก็เป็นไม่คานงัดแท่งเดียวของเขาที่จะแทรกแซงเรื่องในตลาดสวรรค์ได้ เมื่อเมียของเขาได้รับความไม่เป็นธรรมอะไร การที่เขาออกหน้าให้ก็เรียกได้ว่าสมเหตุสมผล ถึงอย่างไรตลาดสวรรค์ในอาณาเขตนี้ก็ล้วนเป็นอาณาเขตของเขา ถ้าข้างนอกข้างในตีขนาบพร้อมกัน ก็สามารถถ่วงความเจริญก้าวหน้าได้ไม่น้อยเลย
ในตอนนี้แม้แต่ฮูหยินของเขาก็ต้องการจะแตกคอกับเขาอย่างถึงที่สุดแล้ว ถ้าแม้แต่ปี้เยว่ฮูหยินก็ยังไม่เชื่อฟังเขา เขาก็จะสูญเสียข้ออ้างในการเข้าไปยุ่งเรื่องในตลาดสวรรค์โดยสิ้นเชิง
ปี้เยว่ฮูหยินทะเลาะกับเขาจนกลายเป็นแบบนี้ต่อหน้าฝูงชน ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องหน้าตาศักดิ์ศรีอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าข่าวแพร่ออกไปก็จะทำให้คนรู้ทันทีว่าเทียนหยวนสูญเสียความสามารถในการแทรกแซงตลาดสวรรค์ในอาณาเขตโดยสิ้นเชิง แล้วจะไม่ให้เขาอับอายจนโมโหได้อย่างไร?
เพียงแต่จู่ๆ เกาก้วนก็มาพูดแบบนี้ ทำให้เขาตกอกตกใจมาก
เกาก้วนเองก็ไม่มีทางโผล่มากะทันหันแบบนี้โดยไร้สาเหตุ หรือพูดได้อีกอย่างว่าเกาก้วนรู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไร กำลังเตือนเขาว่าอย่าทำซี้ซั้ว
“แค่กๆ!” ปี้เยว่เอามือกุมคอพลางไอไม่หยุด
เทียนหยวนกวาดสายตาเย็นเยียบมองไปรอบๆ เขาไม่เคยเห็นว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์คนไหนขยับตัว สายตาจึงไปหยุดอยู่บนตัวเหมียวอี้ คนที่เคยเคลื่อนไหวคงมีแค่คนนี้แล้ว อย่าบอกนะว่าเขาคือสายลับของเกาก้วน?
ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ถ้าหากใช่ขึ้นมา เขาก็ยิ่งไม่กล้าทำอะไรเหมียวอี้
ในเมื่อเกาก้วนเอ่ยปากแล้ว เขาก็ทำอะไรซี้ซั้วไม่ได้แล้ว เขาไม่มีความกล้าที่จะเป็นศัตรูกับเกาก้วน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เบื้องบนกำลังหาโอกาสลงดาบกับกำลังพลเบื้องล่าง อยู่ในตำแหน่งสูงที่ตำหนักสวรรค์ดูเหมือนจะมีหน้ามีตา แต่บางครั้งกลับต้องระมัดระวังทุกการกระทำ อาจจะไม่ได้สบายใจเหมือนคนธรรมดาทั่วไปก็ได้
เหมียวอี้เห็นสถานการณ์แบบนี้แล้วก็โล่งใจนิดหน่อย เขาเพิ่งจะติดต่อเกาก้วนไป พอเกาก้วนได้ยินเรื่องไร้สาระแบบนี้ ก็ไม่ได้สนใจเขาเลย ตัดขาดการติดต่อไปเสียดื้อๆ เขานึกว่าเกาก้วนจะไม่เข้ามาสอดแทรกเสียอีก แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ สงสัยเกาก้วนจะเข้ามาแทรกแล้ว
คนที่ทำงานอยู่ในตำหนักสวรรค์ คาดว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้ถึงพลังความน่าหวาดกลัวของผู้พิพากษาหน้าตายคนนี้ เขาเป็นคำพ้องความหมายของคำว่า ‘ประหารทั้งตระกูล’ โดยแท้
“หนังสือหย่า!” ปี้เยว่ที่ไอแค่กๆ ยื่นมือออกมา แววตาเหมือนกำลังบอกว่า ถ้าเจ้าเก่งนักก็ฆ่าข้าสิ!
“หึหึ!” เทียนหยวนแสยะยิ้ม ไม่ใช่เพราะเรื่อง ‘หนังสือหย่า’ แต่เขาจะหย่ากับนางได้อย่างไร เขาชี้พร้อมบอกว่า “ตบหัวตัวเองแล้วคิดดูให้ดี ที่เจ้ามีวันนี้ได้เพราะใคร? ถ้าเจ้าเลิกกับข้า เจ้าก็ไม่มีอะไรทัง้นั้น! ถ้าไม่มีข้า เจ้าจะนั่งตำแหน่งแม่ทัพภาคนี้อย่างมั่นคงได้ยังไง?”
วันนี้ปี้เยว่เรียกได้ว่าเสียหน้าเต็มที่แล้ว ท่าทีก็แข็งกร้าวมากเช่นกัน “คนอื่นสามารถนั่งตำแหน่งนี้อย่างมั่นคงได้ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าจะทำไม่ได้ เอาหนังสือหย่ามาให้ข้า!”
ยังกล้าตีฝีปากอีก! เทียนหยวนเดือดดาลทันที บีบคอนางอีกครั้ง เกิดอารมณ์วู่วามอยากจะตบนางให้ตายด้วยฝ่ามือเดียว
“ปล่อยข้า!”
ปี้เยว่พลันร้องอย่างโศกเศร้า
เทียนหยวนไม่ตบตีนางอีก แต่อุ้มนางขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเดินก้าวยาวเข้าไปในห้องนอน
ปี้เยว่ดิ้นรนอย่างสุดชีวิต ไม่นานก็โดนเทียนหยวนร่ายอิทธิฤทธิ์ควบคุมไว้ ความโกรธแค้นบนใบหน้าไม่มีทางบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ นางย่อมรู้ว่าเทียนหยวนต้องการทำอะไร เป็นเพราะนางรู้ นางถึงได้ทนรับความอัปยศนี้ไม่ได้ เพราะลูกสาวของนางอยู่ที่นี่!
สำหรับเทียนหยวน ในเมื่อเกาก้วนเอ่ยมาแล้ว เขาก็ไม่กล้าทำซี้ซั้วจริงๆ แต่เกาก้วนจะมายุ่งเรื่องในห้องนอนของสามีภรรยาได้เหรอ?
หนังสือหย่า? เป็นไปไม่ได้ที่เทียนหยวนจะมอบให้นาง เขาจึงใช้ไม้แข็งเสียเลย ทำตัวเหมือนสุนัขป่าเถื่อนตัวหนึ่ง ปัสสาวะเรี่ยราดไปทั่วอาณาเขต ทิ้งกลิ่นและตราประทับของตัวเองไว้ พิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่านี่คืออาณาเขตของตัวเอง กำลังบอกทุกคนว่าไม่ว่าเขากับปี้เยว่จะเป็นอย่างไร ปี้เยว่ก็คือผู้หญิงของเขา!
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทุก ๆ ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เทียนหยวนก็จะต้องมาบังคับขอ ‘ดูแล’ ปี้เยว่ สำหรับปี้เยว่ที่เมื่อก่อนต้องการแบบนี้มากแต่ไม่เคยได้ ในตอนนี้กลับกลายเป็นความเศร้าสลดใจไร้ที่สิ้นสุด
ในที่เกิดเหตุ ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของปี้เยว่ พวกเหมียวอี้ได้แต่ดูปี้เยว่ถูกรังแกอย่างอับจนปัญญา อีกฝ่ายเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ใครจะมายุ่งเรื่องนี้ได้ล่ะ
สำหรับเหมียวอี้ ถ้ายืนอยู่ในมุมของผลประโยชน์ เขาหวังว่าปี้เยว่กับเทียนหยวนจะรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลเสียอะไรกับเขา แต่ถ้ายืนอยู่ในอีกมุมหนึ่ง เขาก็อยากจะฆ่าเทียนหยวนให้ตายจริงๆ เขาไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไรนัก ว่าทำไมสามีภรรยาคู่นี้จึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แม้แต่พวกจินม่านอยู่ในแดนอเวจีก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน เดิมทีนึกว่าหลังจากปี้เยว่ออกจากนรกไปแล้วจะสวามิภักดิ์เทียนหยวนอย่างถูกจังหวะและเป็นขั้นตอน ทว่าการวางแผนที่ไร้น้ำใจและความรู้สึก ยามเผชิญหน้ากับทางเลือกที่เกิดจากธรรมชาติของมนุษย์ สุดท้ายก็ยังเกิดการเบี่ยงเบนได้ กลุ่มผู้วางแผนที่ใช้ชีวิตอย่างเย็นชาห่างไกลอารมณ์ของมนุษย์มาเนิ่นนานเกินไป พวกเขาประเมินหัวใจคนต่ำเกินไปแล้ว
“มายืนอยู่ตรงกันทำไม? ถอยไปให้หมด! วันนี้ถ้าใครกล้าแพร่ข่าวเรื่องนี้ออกไป ก็ถือหัวมาพบข้าได้เลย!” เหมียวอี้หันกลับมาตะโกนสั่ง
กลุ่มคนที่ไม่เกี่ยวข้องรีบถอยออกไป โชคดีที่คนเฝ้าตำหนักคุ้มเมืองส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากทะเลดาวนักษัตร เมื่อเหมียวอี้ลั่นวาจาแล้ว เรื่องวันนี้ก็ไม่แพร่ออกไปข้างนอกเช่นกัน
หยางชิ่งกับเหมียวอี้สบตากันแวบหนึ่ง ทำได้เพียงแอบทอดถอนใจ นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทั้งสองถอยออกจากตำหนักหลัง ปล่อยให้เทียนหยวนทรมานภรรยาของตัวเอง พวกเขาไม่ยุ่งแล้วเช่นกัน
เช้าตรู่วันต่อมา ท่านโหวเทียนหยวนนำลูกน้องออกจากตำหนักคุ้มเมืองไป เหมียวอี้รอจนถึงตอนบ่ายถึงได้เห็นปี้เยว่ฮูหยินโผล่หน้าออกมา ภายนอกมองไม่ออกว่าปี้เยว่มีอะไรต่างจากยามปกติ ตอนนี้แต่งตัวเรียบร้อย
ปี้เยว่เองก็ไม่มีหน้าจะอยู่ที่นี่ต่อเพื่อพบลูกสาวแล้ว ก่อนจะไปนางบอกเหมียวอี้ไว้ว่า “ช่วยข้าดูแลซินเอ๋อร์ให้ดี”
หลังจากปี้เยว่ไปแล้ว เหมียวอี้ถึงได้ปล่อยไห่ผิงซินออกมา เด็กสาวคนนี้นั่งกอดเข่าอก้มหน้ายู่ที่มุมห้อง ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร เจ็บปวดรวดร้าวใจแทบแย่แล้ว
เหมียวอี้คิดว่า ยังดีนะที่ไห่ยวนเค่อไม่ได้ออกมาจากนรก ถ้าออกมาเมื่อไร ท่านโหวเทียนหยวนมีโอกาสตายเก้าในสิบแน่นอน
เทียนหยวนและภรรยาทะเลาะกันจนวุ่นวายแบบนี้ เรื่องผลประโยชน์ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ปี้เยว่ฮูหยินจึงไม่สนใจการฟ้องร้องจากพวกจ้านหรูอี้แล้ว ทั้งยังด่าพวกจ้านหรูอี้ไปยกหนึ่งด้วย บอกพวกเขาว่าถ้าไม่อยากทำงานก็ไสหัวไป นางไม่ไว้หน้าอ๋องสวรรค์อิ๋งอะไรทั้งนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นางจงใจด่าจ้านหรูอี้เสียจนเละเทะ ถามจ้านหรูอี้ว่าสมคบคิดกับคนพวกนั้นเพราะอยากจะก่อเรื่องที่จวนแม่ทัพภาคตงหัวใช่มั้ย?
ที่จริงนปี้เยว่จงใจจะแก้แค้นท่านโหวเทียนหยวน ให้เทียนหยวนตามเช็ดล้างปัญหาให้นาง ไปหาทางอธิบายกับอ๋องสวรรค์อิ๋งเอาเอง
พวกจ้านหรูอี้ประหลาดใจนิดหน่อย แต่คนของเทียนหยวน แม่ทัพภาคที่เป็นสามีของเหยียนซู่สั่งเหยียนซู่ว่าอย่าสืบสาวเอาความกับเรื่องนี้อีก ไม่อย่างนั้นถ้าปี้เยว่ประสาทเสียขึ้นมาแล้วคิดจะทำให้ท่านโหวเทียนหยวนหายนะไปด้วย การโดนปี้เยว่เตะออกจากตลาดสวรรค์ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ คนพวกนี้ถึงได้รู้เรื่องที่เทียนหยวนกับภรรยาแตกคอกัน ด้วยเหตุนี้จึงไม่กล้าเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก ขาดทุนแต่พูดอะไรไม่ได้
คนอื่นๆ ยังไม่เท่าไร มีแต่จ้านหรูอี้ที่เก็บกดจะแย่อยู่แล้ว ฐานะหลานสาวของอ๋องสวรรค์อิ๋งพบเจอกับอุปสรรคเข้าแล้ว ปี้เยว่ดันมาเป็นแม่เสือแก่ที่แสดงอำนาจบารมี นางกดดันทางท่านโหวเทียนหยวนไปก็ไม่มีประโยชน์ นางเองก็อยากจะกดดันผู้บังคับบัญชาของปี้เยว่เหมือนกัน แต่ใครจะไปคิด ว่าหลังจากตระกูลอิ๋งได้ฟังแล้วก็สั่งนางว่าช่วงนี้อย่าก่อเรื่อง ทำให้นางเสียเปรียบให้เหมียวอี้แต่ก็ทำได้แค่อดทนไว้ ทั้งยังทำอะไรเหมียวอี้ไม่ได้ด้วย คำพูดโอ้อวดก่อนหน้านี้เท่ากับเป็นการตบหน้าตัวเอง นางเคยเสียเปรียบแบบนี้เสียที่ไหนกัน นางเก็บกลั้นความโกรธนี้จนแทบจะตายอยู่แล้ว
บอกได้เพียงว่า หยางชิ่งช่วยเหมียวอี้วางแผนเลือกเวลาลงมือได้ดีมาก ถึงแม้หยางชิ่งจะไม่เห็นด้วยที่เหมียวอี้ทำแบบนี้ เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาตามมาในภายหลัง แต่ในเมื่อเหมียวอี้ดึงดันจะทำแบบนี้ แล้วเขาจะทำอย่างไรได้ล่ะ?
เรื่องนี้กลับทำให้เซี่ยโห้วหลงเฉิงได้ชุบมือเปิบ เขาไปคิดบัญชีกับจางฮั่นฟางและหลิ่วกุ้ยผิงแล้ว
ตอนแรกทั้งสองไม่เต็มใจสุดๆ อ้างเหตุผลต่างๆ เพื่อปฏิเสธ
เงินที่วางอยู่ตรงหน้าแต่ไขว่คว้ามาไม่ได้ ทั้งยังไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ด้วย เซี่ยโห้วหลงเฉิงร้อนใจแล้ว ประสาทเสียแล้ว อธิบายเหตุผลไม่ได้ก็ไม่ต้องอธิบายมันแล้ว ชักดาบขึ้นมาฟันโต๊ะสุราเสียเลย ถามคำเดียวว่าจะให้หรือไม่ให้ ค้างบัญชีไม่ยอมคืนแล้วยังจะมีข้ออ้างอีกเหรอ?
พวกเราติดค้างบัญชีอะไร? จางกับหลิ่วพูดไม่ออก แต่ก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน ทำได้เพียงเสียเงินเพื่อฟาดเคราะห์
ตอนแรกเซี่ยโห้วหลงเฉิงยังกังวลว่าจะยุ่งยากหรือเปล่า ผลปรากฏว่าผ่านไปช่วงหนึ่งก็ยังไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย จึงหัวเราะเหมือนคนโง่ไปหลายวัน คิดว่าพลังความน่ากลัวของน้องหนิวช่างมีมากจริงๆ
ร่ำรวยเงินทองโดยไม่ต้องลงทุนอะไร เงินก้อนนี้หาง่ายเกินไปแล้ว เขาดีใจแทบบ้า จึงมาดื่มสุราฉลองกับเหมียวอี้ ตอนนั่งอยู่ที่โต๊ะสุราเขาตบหน้าอกรับประกันว่า ถ้าต่อไปนี้น้องหนิวมีงานอะไรให้วิ่งเต้นก็เรียกหาเขาได้เลย พี่น้องกันอย่ามองเป็นคนนอก จะสื่อว่าถ้าเหมียวอี้มีโอกาสทำเงินก็อย่าลืมเขา เจ้าหมีควายเสพติดการชุบมือเปิบหาความร่ำรวยแล้ว
เหมียวอี้เองก็ไม่ได้ให้เขาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปเฉยๆ ถือโอกาสให้ช่วยจัดการเรื่องสถานะขุนนางให้ไห่ผิงซินด้วย เซี่ยโห้วหลงเฉิงโบกมือทันที บอกใบ้ว่าเรื่องนี้พี่จัดการเอง!
แน่นอน เซี่ยโห้วหลงเฉิงมาที่นี่เพื่อดื่มสุรากับเหมียวอี้คือสาเหตุรอง สาเหตุหลักก็คือจะมาหาหวงฝู่จวินโหรว เหมียวอี้เกิดอารมณ์ชั่ววูบอยากจะวางยาพิษลงในสุรา…
…………………………