พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 1424 แมวตาบอดพบหนูตาย
“ใช่ขอรับ!” ชายชราชุดเขียวพยักหน้า “เพียงแต่พวกเราลงมือช้าไปก้าวหนึ่ง ตามที่ลูกน้องของจ้านหรูอี้บอกมา จ้านหรูอี้เพิ่งออกไปจากที่นี่ไม่นาน ส่งต่อกำลังพลทั้งหมดให้หนิวโหย่วเต๋อควบคุมแล้ว ตอนนี้หนิวโหย่วเต๋อพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมพระจันทร์เสี้ยว ส่วนรูปร่างหน้าตาของจ้านหรูอี้ ข้าน้อยก็ได้ตรวจสอบมาแล้วเช่นกัน สอดคล้องกับผู้หญิงที่นำธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์มาประมูลขายจริงๆ เช่นนั้นก็เป็นไปได้สูงว่าหนิวโหย่วเต๋อจะเป็นคนที่ประมูลซื้อท้อเซียน ข้าน้อยให้คนจับตาดูทางโรงเตี๊ยมพระจันทร์เสี้ยวไว้แล้วขอรับ!”
เฉาเฟิ่งฉือขมวดคิ้วมุ่น “หรือพูดได้อีกอย่างว่า คนที่บัญชาการสายลับของตำหนักสวรรค์ตอนนี้ก็คือหนิวโหย่วเต๋อ…”
ในดวงตานางฉายแววกลุ้มใจ ในใจเรียกได้ว่าคิดวนเวียนสับสน ถึงแม้นางจะไม่ได้ไปมาหาสู่กับคนของตระกูลเซี่ยโห้วที่อยู่ในที่แจ้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางไม่รู้ถึงสถานการณ์ของเซี่ยโห้วหลงเฉิงพี่ใหญ่ของตัวเอง ทั้งชีวิตนี้พี่ใหญ่ของนางไม่มีสหายที่ไหนเลย ได้ยินว่าหนิวโหย่วเต๋อคือสหายคนเดียวของเขา ตอนนี้พี่ใหญ่จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ตัวเองกลับลงมือกับสหายคนเดียวของพี่ใหญ่ แล้วตัวเองจะไม่ละอายใจต่อพี่ใหญ่ที่ตายไปแล้วได้อย่างไร
คนอื่นล้วนพูดว่าเซี่ยโห้วหลงเฉิงเป็นคนเลว แต่นางกลับรู้ดี ว่าพี่ใหญ่ดีกับคนในครอบครัวมาก ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะยอมหลีกให้น้องชายและน้องสาวก่อนตลอด เรื่องที่เสียเปรียบอยุติธรรมก็ล้วนเป็นพี่ใหญ่ที่แบกรับแทนน้องๆ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว
ถึงแม้นางจะจากครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก แต่นางก็ยังจำได้ว่าตอนเด็กพี่ใหญ่โอ๋นางขนาดใหญ่ เวลานางได้รับความไม่ยุติธรรมอะไร ก็ล้วนเป็นพี่ใหญ่ที่พุ่งออกหน้าให้ตลอด ตอนที่ต่อสู้แล้วเสียเปรียบ ต่อให้โดนชกต่อยจนหน้าปูดหน้าเขียว แต่ก็จะต้องปกป้องน้องสาวไม่ให้น้องสาวเสียเปรียบให้ได้
นางยิ่งจำได้เสมอ พอรู้ว่านางจะต้องจากไป ในภายหลังจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ครั้งสุดท้ายที่สองพี่น้องเจอหน้ากัน พี่ใหญ่ก็กอดนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมหนางถูกพาตัวไป ถึงขั้นโดนผู้ใหญ่ตบจนล้มลงพื้น ก็คลานขึ้นมากอดเขานางไว้แน่น ร้องไห้ขอร้องไม่ให้คนพาตัวน้องสาวไป นี่ก็คือคนที่ดื้อรั้น สมองคิดอะไรซับซ้อนไม่ได้ ดังนั้นคนในครอบครัวจึงพากันบอกว่าพี่ใหญ่โง่เง่า
พอนึกถึงภาพที่สองพี่น้องจากกันในปีนั้น นางก็จะร้องไห้น้ำตานองหน้า หลังจากได้ยินข่าวว่าพี่ชายตาย นางก็ใจสลายแล้วจริงๆ
ต่อให้เป็นตอนนี้ นางก็เริ่มตาแดงแล้วเช่นกัน
“รับทราบ! “ชายชราชุดเขียวเอ่ยรับ แต่พอเห็นนางทำสีหน้าแปลกใจ ก็เตือนอีกว่า “คุณหนู ต้องเคลื่อนไหวด้วยรวดเร็ว ถ้าหากสายไฟแล้ว เกรงว่าทางนั้นจะตระหนักได้ถึงอันตราย ขอเพียงจับตัวหนิวโหย่วเต๋อได้ก่อน ก็จะสามารถตัดขาดการติดต่อทั้งข้างบนข้างล่างของฝั่งนั้นได้ พวกเราจะได้หว่านแหจับสายลับพวกนั้นในรวดเดียวได้สะดวก ถ้าล่าช้าเกินไป ทางเขาก็จะสังเกตเห็นแน่ว่าลูกน้องหายไป ดังนั้นต้องทำให้เร็วขอรับ!”
เฉาเฟิ่งฉือถอนหายใจออกมาช้าๆ เฮือกหนึ่ง แล้วพยักหน้าเบาๆ “ไปกันเถอะ!”
ชายชราชุดเขียวหันกลับมาโบกมือ ทำให้เรือปรับทิศทางทันที
ทว่าหลังจากเรือแล่นปได้ครึ่งทาง จู่ๆ ชายชราชุดเขียวก็ได้รับข่าวจากระฆังดารา หลังจากติดต่อกันแล้วก็ตกใจ รีบรายงานว่า “คุณหนู ท่าไม่ดีแล้ว หนิวโหย่วเต๋อหนีไปแล้ว!”
“หนีไปแล้วเหรอ?” เฉาเฟิ่งฉืองงงัน
เหมียวอี้หนีไปแล้วจริงๆ ไม่หนีก็แปลกแล้ว มีคนจะมาฆ่าเขา จะไม่หนีได้อย่างไรล่ะ!
จ้านหรูอี้สร้างผลงานหนีไปแล้ว และเขาก็รู้ชัดมาก ว่าธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ชุดนั้นที่อยู่กับไป๋เฟิ่งหวงยังต้องให้เขาทำการซื้อขาย แต่ก็ไม่มีทางนำออกมาขายได้เลย ต่อให้เขาอยู่ที่ตลาดผีต่อไปก็ไม่ได้เบาะแสอะไร มิหนำซ้ำเขายังรู้แล้วว่าตึกศาลาสัตยพรตต้องการลงมือกับเขา จำเป็นต้องอยู่เสี่ยงอันตรายต่อด้วยเหรอ
จ้านหรูอี้สร้างผลงานและกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่ง แล้วทำไมเขาจะต้องอยู่รับกรรมที่นี่ด้วยล่ะ ถ้าหนีไปตอนนี้อย่างน้อยก็ยังได้ความดีความชอบเรื่องเป็นเหยื่อล่อบ้างนิดหน่อย แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นก็จะไม่เหลืออะไรแล้ว
มีปัจจัยมากมายรวมกันขนาดนี้ เขาจะไม่หนีได้อย่างไร
แต่ถ้าจะไปก็ต้องมีข้ออ้างเช่นกัน ถ้าหนีไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ก็จะอธิบายกับทางตำหนักสวรรค์ได้ไม่สะดวก
ดังนั้นจึงติดต่อจินม่านให้ส่งคนมาหาเขา ย่อมไม่ได้มาหาเขาเพื่อเล่นกันอยู่แล้ว แต่ให้มาลอบสังหารเขา
ขั้นตอนก็เรียบง่ายมาก มีลูกค้าคนหนึ่งมาพักในโรงเตี๊ยม แล้วแอบมาที่ชั้นของเหมียวอี้ ตอนที่เดินผ่านห้องของเหมียวอี้ไป จู่ๆ ก็ลงมือกับหยางเจาชิงที่กำลังเฝ้าประตู
ชกหมัดใส่หยางเจาชิงหมัดหนึ่ง หยางเจาชิงรับมือไม่ทัน ถูกกระแทกจนประตูห้องเหมียวอี้เปิดออก มือสังหารฉวยโอกาสพุ่งเข้าไปลงมือกับเหมียวอี้ เหยียนซิวจึงรีบตามมา แล้วร่วมมือกับเหมียวอี้ซัดมือสังหารจนเจาะหน้าต่างหนีไป
จากนั้นก็ย่อมอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว พวกเหมียวอี้หนีขึ้นมาด้านบนผ่านทางของโรงเตี๊ยมพระจันทร์เสี้ยวทันที
ส่วนฝั่งตรงข้ามห้องของเหมียวอี้ คนที่คอยจับตาดูผ่านซอกประตูตลอดก็ได้เห็นทุกอย่างกับตาตัวเอง เขาคือคนของตึกศาลาสัตยพรต เลยต้องรีบรายงานข่าวให้ตึกศาลาสัตยพรตรู้
หนีออกจากตลาดผีแล้ว พอโผล่ขึ้นมาที่พื้นดิน พวกเหมียวอี้ก็หนีอย่างรวดเร็ว รีบออกไปจากสถานที่ผีๆ นี่
และแน่นอน เหมียวอี้ไม่ทิ้งพี่น้องที่ตลาดผีเอาไว้เช่นกัน เขารีบติดต่อกู่ตัวกุ้ย แล้วค่อยถ่ายทอดคำสั่งลงไปทีละขั้น พูดเปิดโปงความจริงเสียเลย ให้ทุกคนรีบต่างคนต่างย้ายที่
ถ้าจะทำเรื่องนี้ก็ต้องฉวยโอกาสทำตอนที่จ้านหรูอี้เพิ่งออกไปจากที่นี่ เพราะถ้าเกิดเรื่องขึ้นในตอนนี้ก็แปลว่าสาเหตุที่ถูกเปิดโปงไม่ได้เกิดจากเหมียวอี้คุมไม่ดี หรือเป็นปัญหาจากตัวเขาคนเดียว แต่โดนเปิดโปงตั้งแต่ตอนที่จ้านหรูอี้ยังไม่ไปแล้ว ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ความรับผิดชอบตกมาอยู่ที่เขาคนเดียว ดังนั้นเขาจึงอดใจรอไม่ไหวหนีไปทันที
แต่ใครจะไปคาดคิด ตอนยังไม่ติดต่อก็ยังดีๆ อยู่ แต่พอติดต่อเถาหยวนหล่างลูกน้องของจ้านหรูอี้ ก็พบว่าติดต่อไม่ได้แล้ว ตอนนี้เขาถึงได้พบว่าตัวเองเป็นแมวตาบอดพบหนูตาย[1] อาจจะเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ
ทั้งสามคนที่หนีมาไกลแล้วรีบเร่งความเร็วเหาะไปยังดาราจักรอันกว้างใหญ่ทันที
แต่เมื่อโดนตึกศาลาสัตยพรตแล้ว มีหรือที่จะหนีพ้นได้ง่ายขนาดนั้น อีกฝ่ายไม่เพียงส่งคนไปแอบดูที่ห้องตรงข้าม ตรงทางเข้าออกทั้งข้างล่างข้างบนของโรงเตี๊ยมพระจันทร์เสี้ยวก็มีคนจับตาดูอยู่เช่นกัน ตอนที่ทั้งสามเหาะขนาบกับพื้นเพื่อหลบสายตาคนก็ยังไม่สังเกตเห็นอะไร แต่หลังจากเหาะขึ้นด้านบนแล้ว ก็พบความไม่ชอบมาพากลทันที มีคนสองคนที่ไม่ระบุตัวตนไล่ตามพวกเขามาอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่แค่พวกเขาสามคนที่โดนจับตาดู พอชายชราชุดเขียวที่ยังอยู่บนเรือได้ยินว่าหนิวโหย่วเต๋อหนีไปแล้ว ก็โมโหจนกระทืบเท้า ไม่รู้ว่ามีมือสังหารโผล่มาทำเสียเรื่องตั้งแต่ตอนไหน ดังนั้น นอกจากเขาจะรีบส่งคนไปจับตัวเหมียวอี้แล้ว ก็สั่งให้คนจับตาดูสายลับที่เป็นลูกน้องของเหมียวอี้ทันที
เรื่องราวกลายเป็นแบบนี้แล้ว เขาเองก็ถูกกดดันจนทำได้เพียงลงมือทันที ถ้าสายเกินไป ต่อให้อยากจะจับตัวก็จับไม่สะดวกแล้ว
ในภัตตาคารแห่งหนึ่งบนถนน คนสองคนกำลังนั่งดื่มสุรากันอยู่ริมหน้าต่าง จู่ๆ ก็เงยหน้ามองข้างหลังของอีกฝ่ายพร้อมกัน ข้างหลังของทั้งสองล้วนมีคคนชุดดำโผล่มา ทั้งสองสังเกตได้ถึงความผิดปกตินี้ จึงรีบหันไปมองข้างหลังของแต่ละคน ส่วนคนชุดดำทั้งสองก็ลงมืออย่างรวดเร็วดุดัน ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพหรือวรยุทธ์ก็เหนือกว่าสองคนนี้ จึงโดนซัดคว่ำคาที่แล้วจับตัวไว้
“ใครกันมาก่อเรื่องที่นี่!” ผู้จัดการภัตตาคารพุ่งออกมาตำหนิ
คนชุดดำโบกมือเผยป้ายคำสั่งแผ่นหนึ่ง ตัวอักษร ‘สัตยพรต’ บนป้ายคำสั่งทำให้ผู้จัดการสีหน้าแข็งทื่อ แล้วก็หุบปากพร้อมหลีกทางให้อย่างช้าๆ
ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง คนชุดดำคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วเผยป้ายคำสั่งให้ผู้จัดการที่นั่งอยู่ในโถงและพวกพนักงานหุบปาก พอโบกมือ ข้างหลังก็มีชายชุดดำกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา จากนั้นแบ่งกลุ่มสองคนแล้วพุ่งขึ้นไปข้างบนอย่างรวดเร็ว พวกเขาพังประตูเข้าไป บุกเข้าไปห้าห้องแทบจะพร้อมกัน เสียงต่อสู้ดังขึ้นพักหนึ่ง และไม่นานก็ลากคนออกมาห้าคน
ในซอยบางซอย จู่ๆ มีคนสองคนโผล่มา ข้างหลังมีคนชุดดำสี่คนเร่งไล่ตาม สองคนที่กำลังหนีอย่างวิตกกังวลรีบหยิบธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ออกมา แล้วหันกลับไปง้างสายยิง ลำแสงสองสายยิงออกมาอย่างฉับพลัน ยิงคนชุดดำสองคนล้มคว่ำทันที ทำให้คนชุดดำอีกสองคนตกใจมาก ลุกลี้ลุกลนหลบหนี แต่กลับถูกลูกธนูสองดอกที่ไล่ตามมาติดๆ ยิงล้ม
เมื่อกำจัดศัตรูที่แข็งแกร่งได้แล้ว ชายวัยกลางคนที่กำลังหนีเอาชีวิตรอดก็สบตากันแล้วพยักหน้า ทั้งคู่กระโดดลงในแม่น้ำแล้วดำหนีอย่างรวดเร็ว ธนูกับลูกธนูกลับไม่ห่างมือ ต่อให้อยู่ในน้ำก็ต้องเตรียมพร้อมป้องกันตัวตลอดเวลา
ไม่ใช่แค่ที่นี่ แต่ทั้งตลาดผีเหมือนจะวุ่นวายในชั่วพริบตาเดียว เหมือนทุกที่จะมีคนคนชุดดำไล่ฆ่าบุคคลปริศนา และบุคคลปริษานาก็จำเป็นต้องใช้ท่าไม้ตายเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง ชั่วขณะนั้นทั้งตลาดผีมีลูกธนูดาวตกยิงให้มั่วไปหมด
คนบางกลุ่มที่มีเจตนาแอบแฝงในตลาดผี เดิมทีก็อยากได้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์อยู่แล้ว ใครจะคิดว่าตอนหลังจะมีทหารสวรรค์กลุ่มใหญ่โผล่ออกมาทั่วตรอกซอกซอย ไม่รู้เหมือนกันว่าโผล่มาจากไหน รวมกลุ่มกันกวาดล้างทั้งตลาดผี ทำเอากลุ่มคนที่มีเจตนาแอบแฝงตกใจจนรีบหดหัว
แม่ทัพคนหนึ่งนำทหารพุ่งออกมาที่ถนน พอเห็นคนชุดดำไล่ฆ่าบุคคลปริศนา ก็โบกทวนชี้พร้อมตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดทันที “ฆ่า!”
พอกลุ่มทหารสวรรค์พุ่งออกมา ก็เกิดเสียงต่อสู้ดังสะเทือนเลือนลั่นหลายครั้ง คนชุดดำมีพวกน้อยกว่าจึงเอาชนะได้ยาก ภายใต้การล้อมโจมตี พวกเขาโดนทวนหลายด้ามสังหารตายอยู่บนพื้น
คนชุดดำที่อยู่บนถนนอีกฝั่งหนึ่งเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีจึงคิดจะหลบหนี แต่ทหารสวรรค์หลายคนง้างสายธนูพร้อมกัน ยิงไปตรงหน้าผิวน้ำที่คนชุดดำเพิ่งกระโดดลงไป ทำให้คนชุดดำตายอยู่ในน้ำ บนผิวน้ำมีเลือดลอยขึ้นมาผืนใหญ่
ตรงริมหน้าต่างบนโรงเตี๊ยมพระจันทร์เสี้ยว ฮวาหูเตี๋ยใช้พัดปิดบังใบหน้า ดวงตาทั้งคู๋ฉายแววตกใจขณะมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อครู่นี้หนิวโหย่วเต๋อเพิ่งจะโดนลอบสังหารในโรงเตี๊ยม ตอนนี้เห็นทหารสวรรค์กลุ่มใหญ่โผล่ออกมาฆ่ากันมั่วบนถนนอีก เป็นอะไรกันไปหมดแล้ว? อย่าบอกนะว่าตำหนักสวรรค์ต้องการจะสะสางบัญชีกับตลาดผี?
บนแม่น้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเตี๊ยมพระจันทร์เสี้ยว เรือลำหนึ่งหยุดอยู่กลางน้ำ ในห้องโดยสารเรือคือคนที่ต้องการจะสำเร็จโทษเหมียวอี้อย่างเปิดเผย เฉาเฟิ่งฉือกับชายชราชุดเขียว
ทั้งสองคนยืนอยู่หลังม่านไข่มุกริมหน้าต่าง กำลังมองดูคนชุดดำตายอนาถ ขณะที่ได้ยินเสียงตะโกนเข่นฆ่าดังทั่วทั้งตลาดผี พวกเขาก็ทำสีหน้าตกตะลึง ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้?
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้? ก่อนหน้านี้ตอนที่ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ถูกนำขึ้นประมูลขายบนเวที เกาก้วนก็ได้บอกไว้แล้วตอนที่รายงานต่อประมุขชิงในตำหนักดาราจักร ว่าหน่วยองครักษ์ซ้ายขวาส่งผู้ตรวจการใหญ่หกคนให้ออกโรงด้วยตัวเอง!
ที่จริงก่อนหน้านี้ก็มีผู้ตรวจการใหญ่ปรากฏตัวเพียงหกคนเพื่อล่อให้คนออกมาติดกับดักและล้อมปราบ ทัพใหญ่สิบล้านที่ตำหนักสวรรค์ส่งมาอย่างลับๆ มีเพียงแปดล้านคนที่โผล่ออกมา ยังมีผู้ตรวจการใหญ่คุมกำลังพลหนึ่งล้านกว่าอีกคนที่ยังไม่โผล่ออกมา หลังจากทัพใหญ่ถอนกำลังแล้ว กำลังพลกลุ่มนี้ก็ดักซุ่มอยู่ตลอด ไม่เคลื่อนไหวอะไรผิดปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เผยพิรุธจนคนจับได้ รอฟังคำสั่งจากเบื้องบนอย่างเดียว
กำลังพลกลุ่มนี้ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่ตึกศาลาสัตยพรต แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแย่งชิงกันเมื่อธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์เก้าล้านคันมาโผล่ที่ตลาดผี กำลังพลของตำหนักสวรรค์จะได้ชิงของกลับมาได้
บังเอิญว่าตอนนี้เหมียวอี้ถูกลอบสังหาร กู่ตัวกุ้ยเพิ่งจะรายงานขึ้นไปเบื้องบน ตึกศาลาสัตยพรตก็ลงมือกับกำลังพลของตำหนักสวรรค์แล้ว พอประมุขชิงได้ยินข่าวก็เข้าใจเจตนาของตึกศาลาสัตยพรตทันที เรียกได้ว่าแสยะยิ้มต่อหน้าเกาก้วน “เกาก้วน สงสัยเจ้าจะจับหนิวโหย่วเต๋อไปวางไว้ถูกที่แล้วจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าตึกศาลาสัตยพรตจะกดเขาไว้ไม่ได้ ปล่อยให้เขาหนีไปแล้ว ลูกลิงน้อยตัวนี้ก็ไม่ทำให้ข้าผิดหวังเหมือนกัน ไม่ได้เอาตัวรอดคนเดียวโดยไม่สนใจอะไร ขนาดจะหนียังไม่ลืมสั่งให้กำลังพลตำหนักสวรรค์ถอนทัพ มองออกเลยว่าจงรักภักดี ไม่อย่างนั้นครั้งนี้ข้าคงต้องเสียหน้าหมดแล้ว ดีมาก! เหอะๆ อยากจะตบหน้าข้าเหรอ ข้าก็อยากจะเห็นว่าใครจะตบหน้าใครกันแน่!”
เขาสั่งให้กำลังพลที่ดักซุ่มโจมตีอย่างไม่ลังเล ก็เลยเกิดฉากเหล่านั้นขึ้นมา
…………………………
[1] แมวตาบอดพบหนูตาย 瞎猫碰上死耗子 หมายถึง พบกับเรื่องบังเอิญ