พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 1564 นับว่าเจ้าพูดภาษาคนเป็นแล้ว
เม่ยเหนียงค่อยๆ หลับตาสองข้าง แล้วจู่ๆ ก็ส่ายหน้าอีก ลืมตาบอกอย่างกระวนกระวายไม่ยอมแพ้ “พ่อบ้าน หนิวโหย่วเต๋อกับอวิ๋นจือชิวนั่นยังไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันไม่ใช่เหรอ? น่าจะยังมีโอกาสเอาคืนได้นะ ใช่มั้ย?”
โกวเยว่ถอนหายใจแล้วบอกว่า “ในระหว่างการสอบสวน หนิวโหย่วเต๋อยอมรับต่อหน้าทุกคนแล้วว่าตัวเองนอนกับอวิ๋นจือชิวแล้ว ยอมรับแล้วว่าอวิ๋นจือชิวคือผู้หญิงของเขา นั่นคือบุตรสาวบุญธรรมของอ๋องสวรรค์โค่ว ถ้าอ๋องสวรรค์โค่วต้องการให้หนิวโหย่วเต๋อรับผิดชอบลูกสาวเขา นั่นก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว ฝ่าบาทไม่มีเหตุผลอะไรจะไปห้ามได้เช่นกัน! ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปแล้ว ถ้าบ่าวเดาไม่ผิด ตอนนี้อ๋องสวรรค์คงจะไปขอผลประโยชน์จากอ๋องสวรรค์โค่วแล้ว!” ความหมายแฝงในคำพูดก็คือ ท่านอ๋องก็ยอมรับความพ่ายแพ่นี้เหมือนกัน
เม่ยเหนียงแค้นจนกัดฟันกรอด แล้วด่ายับเลยว่า “เรื่องชั้นต่ำขนาดนี้ยังทำออกมาได้ ทั้งตระกูลโค่วต้องไม่ตายดีแน่ สักวันหนึ่งจะโดนเวรกรรมตามสนอง!”
โกวเยว่กล่าวอย่างจนใจว่า “หวังเฟยโปรดระงับโทสะ ในภายหลังถ้าเจอลูกเขยที่ดีกว่านี้ บ่าวจะต้องช่วยพูดต่อหน้าท่านอ๋องให้สำเร็จแน่นอน”
เม่ยเหนียงทำสีหน้าเหมือนหัวใจหลุดหายไป กล่าวอย่างปวดใจว่า “จะมีดีกว่านี้เสียที่ไหนกัน ลูกหลายผู้มีอำนาจแต่ละบ้านข้าก็นับมาหมดแล้ว จะไปหาคนที่มีเงื่อนไขดีขนาดนี้มาจากไหนอีก ทั้งยังไม่มีภูมิหลังที่ซับซ้อนอะไรด้วย”
โกวเยว่เข้าใจแล้ว ว่าผู้หญิงคนนี้เอาแต่คิดถึงพวกนางสองแม่ลูกเท่านั้น คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ได้คิดถึงทั้งจวนท่านอ๋อง เขาจะยังพูดอะไรได้?
ก่วงเม่ยเอ๋อร์ก้มหน้าอยู่ข้างๆ สีหน้าดูผิดหวังอยู่บ้าง…
“อะไรนะ? บุตรสาวบุญธรรม?”
จวนท่านปู่สวรรค์ ในสวนต้องห้าม เซี่ยโห้วท่าที่กำลังใช้นิ้วลูบคลำต้นไม้ใหญ่ที่สิบคนโอบได้พลันหันตัวมาถามอย่างตกใจ
เว่ยซูที่รายงานอยู่ข้างๆ พยักหน้ายิ้มเจื่อน “ใช่แล้ว ข่าวยืนยันแล้วขอรับ ตระกูลโค่วกับอวิ๋นจือชิวยืนยันต่อหน้าฝูงชนแล้ว”
เพี้ย! เซี่ยโห้วท่ามือข้างหนึ่งประคองไม้เท้า ใช้มืออีกข้างตบหน้าผากตัวเอง ตบติดกันหลายครั้ง ราวกับกำลังตำหนิว่าตัวเองเลอะเลือน ร้องไอ๊หยาแล้วบอกว่า “เป็นตาแก่เลอะเลือนจริงๆ แล้ว วิธีการที่ง่ายแบบนี้ ทำไมจ้าถึงคิดไม่ถึงนะ! โค่วหลิงซวีเอ๊ยโค่วหลิงซวี ข้าประเมินเจ้าต่ำไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะคิดวิธีการเด็ดดวงแบบนี้ได้ นับว่าเจ้าโหด ข้ายอมจากใจแล้ว!”
เว่ยซูปลอบใจอยู่ข้างๆ “ไม่ว่าจะฉลาดปราดเปรื่องสักแค่ไหน แต่ก็มีพลาดกันได้ ไม่ใช่แค่นายท่านคนเดียวที่คิดไม่ถึง เกรงว่าทั้งตำหนักสวรรค์คงไม่มีใครนึกถึงว่าโค่วหลิงซวีจะใช้คนที่ไม่เกี่ยวข้องทางซ้ายเลือดมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ นำบุตรสาวบุญธรรมที่ไม่มีความรักความผูกพันกันสักนิดมาแต่งงานเพื่อการเมือง เขาช่างกล้าทำจริงๆ ไม่กลัวว่าใครอนาคตจะโดนทรยศเหรอ?”
เซี่ยโห้วท่าที่วางมือลงส่ายหน้าถอนหายใจยาวอยู่พักหนึ่ง “จะพูดอย่างนี้ไม่ได้หรอก พอมาคิดดูตอนนี้ ตลาดสวรรค์ดาวจิ่วหวนกำลังเล่นละครนะ โค่วหลิงซวีเล่นได้อย่างสวยงาม อยู่ตั้งนานไม่ยอมลงมือ พอลงมือขึ้นมาก็ตัดขาดแผนสำรองของประมุขชิงกับอีกสามอ๋องทิ้งไปเลย ทั้งยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตอนที่หลายบ้านรวมหัวกันกดดัน ทั้งยังปกป้องให้หนิวโหย่วเต๋อผ่านด่านยากไปได้ เมื่อมีน้ำใจไมตรีอันยิ่งใหญ่นี้อยู่ มีหรือที่หนิวโหย่วเต๋อกับอวิ๋นจือชิวจะทรยศง่ายๆ ไม่อย่างนั้นจะโดนคนตำหนิเย้ยหยันลับหลังไปทั้งชีวิต กอปรกับวิธีการซื้อใจคนของโค่วหลิงซวีในตอนหลัง…การรับบุตรสาวบุญธรรมคนนี้ช่างดียิ่งนัก! ไฟกำลังได้ที่พอดี ประสิทธิภาพที่ได้ก็ไม่ด้อยไปกว่าการเอาสายเลือดตัวเองมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์เลย โค่วหลิงซวีเล่นวิธีการที่ชั่วร้ายออกมาได้ เกรงว่าทางประมุขชิงคงจะงงตาเป็นไก่ตาแตก ต้องโมโหจนทนไม่ไหวแน่นอน”
เว่ยซูพยักหน้าเงียบๆ กล่าวอย่างทอดถอนใจเช่นกัน “ทั้งยังขัดขวางไม่ได้ด้วย ทำให้พวกเขาทำสำเร็จแล้ว ไม่รู้ว่าต่อไปประมุขชิงจะรับมือยังไง”
เซี่ยโห้วท่าตบกิ่งไม้ที่หยาบหนา เงยหน้ามองร่มพุ่มไม้ “คอยดูไปแล้วกัน!”
วังสวรรค์ เกาก้วนที่สวมหมวกทรงสูงสีดำ ใส่ชุดคลุมดำทั้งตัวเดินก้าวยาวเข้ามาในกำแพงวัง เดินตรงไปที่ตำหนักดาราจักรแล้ว
ยังไม่ทันเดินมาถึงตำหนักดาราจักร ซ่างกวนชิงที่กำลังรออยู่ก็เข้ามารับแล้ว เตือนว่า “เรื่องของหนิวโหย่วเต๋อ ฝ่าบาทกำลังเดือดดาล เรียกให้เจ้าเข้าไปพบ อีกประเดี๋ยวเจ้าก็ระวังหน่อย” เป็นคนเก่าคนแก่ข้างกายประมุขชิงเหมือนกัน ถือโอกาสแสดงน้ำใจสักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร
“เรื่องนี้ข้าได้ยินมาแล้ว แค่หนิวโหย่วเต๋อต่ำต้อยคนเดียว ฝ่าบาทจำเป็นต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ” เกาก้วนกล่าว
ซ่างกวนชิงที่เดินเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ กล่าวอย่างทอดถอนใจ “เจ้ารู้อยู่แก่ใจแต่ยังถามอีกเหรอ? ฝ่าบาทแยแสหนิวโหย่วเต๋อนั่นเสียที่ไหนกัน ท่านกำลังโกรธเพราะโดนโค่วหลิงซวีปั่นหัวเหมือนคนโง่ เปลี่ยนเป็นใครแล้วจะไม่โกรธบ้างล่ะ?”
เกาก้วนพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรมากอีก เพราะมาถึงประตูตำหนักดาราจักรแล้ว
ทั้งสองเข้ามาในตำหนักดาราจักร เห็นเพียงซือหม่าเวิ่นเทียน โพ่จวินและอู๋ฉวี่ล้วนอยู่ตรงนี้ด้วย คนเก่าคนแก่ข้างกายประมุขชิงอยู่กันครบ
สีหน้าของโพ่จวินไม่สู้ดีนัก หนิวโหย่วเต๋อมีความสัมพันธ์กับลูกสาวโค่วหลิงซวีถึงขั้นนั้น เกรงว่าคงจะไม่มีทางอยู่ที่กองทัพองครักษ์ต่อได้แล้ว ที่จริงเขาชื่นชมหนิวโหย่วเต๋อมา
เกาก้วนยังไม่ทันได้ทำความเคารพ ประมุขชิงที่ยืนอยู่กลางตำหนักก็ชี้จมูกเกาก้วนพร้อมถามแสกหน้าแล้ว “เจ้าอยู่ทางนั้นไม่พบเบาะแสอะไรสักนิดเลยเหรอ?”
เกาก้วนยังคงทำความเคารพก่อน เสร็จแล้วถึงได้ถามว่า “ตอนข้าน้อยอยู่ที่ตลาดสวรรค์ดาวจิ่วหวน มองไม่เห็นเบาะแสอะไรเลยจริงๆ ขอรับ ตอนที่ได้ยินเรื่องนี้ระหว่างทางที่ข้าน้อยกลับมา ข้าน้อยก็ตกใจมากเช่นกัน นึกเสียใจทีหลังที่มาเร็วไปหน่อย”
ประมุขชิงชี้ไปที่โพ่จวิน “หนิวโหย่วเต๋อนั่นใจกล้าไม่เบา บังอาจปิดบังเรื่องแบบนี้กับข้า ดูสิว่าเจ้าเลี้ยงลูกน้องแบบไหน กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา! เจ้าดูแลหน่วยองครักษ์ซ้ายยังไง?”
โพ่จวินตอบด้วยใบหน้านิ่ง “หนิวโหย่วเต๋อจะมีความสามารถขนาดนั้นได้ยังไง เป็นไปไม่ได้ที่จะปั่นคนทั้งข้างล่างข้างบนมากมายขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าหนิวโหย่วเต๋อถูกตระกูลโค่วใช้ประโยชน์ เป็นแผนที่ตระกูลโค่ววางไว้อย่างแยบยล อาศัยสายตาเทพอย่างทูตขวาเกาจะมองไม่ออกได้ยังไง!”
“เจ้าบังอาจช่วยพูดแก้ตัวแทนเขาเหรอ?” ประมุขชิงเดินก้าวยาวเข้ามา เอานิ้วจิ้มหน้าโพ่จวิน แต่ในใจเขาก็เข้าใจดี ว่าหนิวโหย่วเต๋อไม่ได้วางแผนใหญ่ๆ เก่งขนาดนั้นแน่นอน ต้องเป็นผลงานอันแยบยลของตระกูลโค่วใช้แน่ๆ
โพ่จวินหุบปากแล้ว ฝ่ายตัวเองก็มีส่วนรับผิดชอบเรื่องนี้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเถียงเพราะเรื่องนี้
ประมุขชิงหันตัวมาด้วยใบหน้าบึ้งตึง โบกแขนสองข้างไปทั้งสองด้าน “ตอนนี้ข้าคงถูกคนหัวเราะเยาะทั้งใต้หล้าแล้ว พวกเจ้าบอกมาซิว่าควรทำยังไง?”
หลายคนที่อยู่ตรงนั้นแอบส่งสายตาให้กัน รู้สึกว่าประมุขชิงสนใจสิ่งนั้นเกินไปแล้ว ใครในใต้หล้าจะว่างมาหัวเราะเยาะเรื่องนี้ แค่หัวเราะเยาะบ้างเป็นครั้งคราวแล้วจะเป็นไรไป แต่ก็พอจะเข้าใจความรู้สึกประมุขชิงได้เหมือนกัน อยู่บนที่สูงมานานจนเคยตัวแล้ว ย่อมให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และหน้าตาตัวเองอยู่บ้าง
“ใช่ว่าจะไม่มีวิธีการเลน” เกาก้วนตอบเสียงเรียบ
“ว่ามา!” ประมุขชิงเอียงหน้าพูด
เกาก้วนบอกว่า “เรื่องที่ให้ท้ายผู้ใต้บังคับบัญชาฆ่าทหารคุ้มกันตลาดสวรรค์ที่ตลาดสวรรค์กับเรื่องบังคับให้บริจาค กองทัพองครักษ์ยังไม่ได้สอบสวน ข้าน้อยจะสอบสวนอย่างเข้มงวดและลงโทษอย่างหนัก! ถ้ากองทัพองครักษ์รู้สึกมสะดวกที่จะทำ ส่งให้หน่วยตรวจการขวาก็ได้ ข้าน้อยรับรองว่าหนิวโหย่วเต๋อต้องตายแน่นอน!”
คนที่เหลือชำเลืองมองเขาอย่างพูดไม่ออก ตำหนักสวรรค์โดนเรื่องใหญ่ขนาดนี้กดดันแล้ว มีใครไม่รู้อยู่แก่ใจบ้างว่าเหตุผลที่อยู่ในนั้นคืออะไร? ตอนนี้ถ้าลงโทษหนิวโหย่วเต๋อจนตายเพราะเรื่องเล็กๆ เจ้าคิดว่าโค่วหลิงซวีเป็นใบ้เหรอ? แล้วอีกอย่าง ฝ่าบาทเสียเปรียบเรื่องนี้แต่กลับจะระบายความโกรธกับคนต่ำแหน่งต่ำต้อย จะให้ฝ่าบาทเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
หน้าของประมุขชิงแทบจะแนบติดกับใบหน้าของเกาก้วน กล่าวอย่างเยียบเย็นดุร้ายว่า “เกาก้วน นี่คือความคิดดีๆ ของเจ้าเหรอ? เจ้าเห็นหัวใครอยู่บนคอก็ขัดตาไปหมดเลยใช่มั้ย เสพติดการฆ่าคนแล้วรึไง? หรือเจ้าไม่รู้ว่าชื่อเสียงเรื่องฆ่าคนของเจ้าฉาวโฉ่ไปทั่วไปแล้ว? ถ้าการปกครองใต้หล้าอาศัยการฆ่าคนเพื่อแก้ปัญหาได้ ข้าจะยังมีขุนนางไว้ทำอะไรเต็มราชสำนัก?”
คนอื่นๆ มีท่าทีสงบนิ่ง รู้อยู่แล้วว่าคำพูดของเกาก้วนจะต้องนำปัญหามาสู่ตนเอง
ต่อให้ใบหน้าประมุขชิงจะกำลังแนบชิดใบหน้าตัวเอง แต่เกาก้วนก็ยังไม่สะทกสะท้านราวกับเป็นรูปปั้นหิน ไม่ย้ายหนีไปไหนเลย กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ในเมื่อฝ่าบาทคิดว่าการฆ่าไม่เหมาะสม เช่นนั้นก็ลดตำแหน่งขอรับ!”
ประมุขชิงย้ายออกจากหน้าเขาแล้ว เอาสองมือไขว้หลัง แล้วถามว่า “ลดตำแหน่งงั้นเหรอ? พอข้าลดตำแหน่งเขาแล้ว อีกไม่นานพ่อตาของเขาก็จะเลื่อนเขากลับขึ้นมาได้สะดวกน่ะสิ”
“เช่นนั้นก็ลดตำแหน่งให้อยู่ระดับต่ำสุด ลดจนเขาเลื่อนกลับขึ้นมาไม่ได้ภายในเวลาสั้นๆ” เกาก้วนกล่าว
ประมุขชิงจึงบอกว่า “เขานอนกับลูกสาวคนอื่นแล้ว ถ้าโค่วหลิงซวีจะต้องการให้หนิวโหย่วเต๋อแต่งงานกบัลูกสาวเขา ข้าจะขัดขวางได้เหรอ? ฟังขึ้นรึเปล่า? ถึงตอนนั้นกองทัพองครักษ์ก็เอาเขาไว้ไม่ได้! พอไปที่อาณาเขตของโค่วหลิงซวีแล้ว เลื่อนตำแหน่งให้อยู่ต่ำสุดแล้วจะมีประโยชน์อะไร อาศัยความสามารถของหนิวโหย่วเต๋อ โค่วหลิงซวีมีวิธีสร้างโอกาสให้เขาเลื่อนตำแหน่งอยู่แล้ว!”
เกาก้วนบอกอีกว่า “ถ้ากองทัพองครักษ์เก็บไว้ไม่ได้ ก็ส่งเขาไปตลาดผีที่ไม่มีใครอยากไป ข้าไม่เชื่อหรอกว่าโค่วหลิงซวีจะมีวิธีเลื่อนขั้นให้หนิวโหย่วเต๋อที่ตลาดผีได้!”
“เอ่อ…” ประมุขชิงอึ้งทันที ไฟโกรธบนใบหน้าหายไปในชั่วพริบตาเดียว แล้วเอามือขยี้เคราพลางหรี่ตาครุ่นคิดเงียบๆ
คนอื่นๆ มองไปที่เกาก้วนอย่างพูดไม่ออก พบว่าทูตขวาเกาท่านนี้เล่นบทโหดจนเคยตัว ถ้าหนิวโหย่วเต๋อตกอยู่ในมือท่านนี้ ก็จะซวยไปแปดชาติเหมือนกัน
ซือหม่าเวิ่นเทียนกุมหมัดคารวะ “ฝ่าบาท ความคิดของทูตขวาเกาก็ไม่เลว”
ประมุขชิงยังคงครุ่นคิดเงียบๆ
ซ่างกวนชิงเองก็กล่าวขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน “ฝ่าบาท ไม่ว่าจะเป็นตลาดสวรรค์หรือตลาดผี ขอบเขตการซื้อขายในตลาดล้วนอยู่ในมือราชินีสวรรค์ ถ้าหนิวโหย่วเต๋อไปที่ตลาดผี นั่นก็เป็นสภาพที่วุ่นวายไร้ระเบียบ สามารถเก็บภาษีพื้นฐานได้ครบก็ไม่เลวแล้ว ยังไม่เคยได้ยินว่าใครสร้างผลงานที่ตลาดผีได้เลย ถ้าอ๋องสวรรค์โค่วอยากจะช่วยให้หนิวโหย่วเต๋อได้สร้างความดีความชอบ เกรงว่าจะต้องขัดแย้งกับตระกูลเซี่ยโห้วแล้ว”
ประมุขชิงเลิกคิ้ว คำเตือนของซ่างกวนทำให้เขานึกถึงจิ้งจอกเฒ่าเซี่ยโห้วท่าที่หลบอยู่เบื้องหลังแล้วคอยกวนน้ำให้ขุ่น
ซือหม่าเวิ่นเทียนบอกอีกว่า “ด้วยนิสัยอย่างหนิวโหย่วเต๋อ ไม่ว่าไปที่ไหนก็ก่อเรื่องที่นั่น เมื่อในสถานที่ซับซ้อนอย่างตลาดผี เขาไม่ก่อเรื่องขึ้นก็แปลกแล้ว นั่นคืออาณาเขตของตระกูลเซี่ยโห้ว ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับหนิวโหย่วเต๋อ โค่วหลิงซวีจะยังช่วยได้อีกเหรอ? ถ้าไม่ช่วย ผลงานที่น่าภูมิใจของเขาก็จะสูญเปล่าแล้ว แต่ถ้าช่วยก็จะต้องขัดแย้งกับตระกูลเซี่ยโห้ว สรุปก็คือสามารถทำให้โค่วหลิงซวีหัวเราะไม่ออกได้ นี่เป็นแผนที่ขว้างหินก้อนเดียวโดนนกหลายตัว”
ประมุขชิงเริ่มแสยะหัวเราะแล้ว เซี่ยโห้วท่าหลบกระพือไฟอยู่เบื้องหลังอย่างสบายๆ ไม่ใช่เหรอ? โค่วหลิงซวีภูมิใจมากไม่ใช่รึไง? ให้ทั้งสองสู้กันสักหน่อยก็ไม่เลว ถ้าสู้กันจนเสียหายทั้งสองก็ยอดเยี่ยมเลย
เขาหันตัวช้าๆ ไปเหล่ตามองเกาก้วนแวบหนึ่ง แล้วแสยะยิ้มบอกว่า “นับว่าเจ้าพูดภาษาคนเป็นแล้ว!”
เกาก้วนสีหน้าเรียบเฉย ราวกับไม่เคยพูดอะไรทั้งนั้น
ที่เหลือโล่งใจแล้ว ในที่สุดเรื่องนี้ก็ถูกแก้ไขแล้ว ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะระบายอารมณ์โกรธไปจนถึงเมื่อไร เกรงว่าหนิวโหย่วเต๋อนั่นคงจะน่าเบทนาแล้ว ศิษย์ของอสุราอัคนีแล้วยังไงล่ะ? อนาคตทั้งชีวิตพังเพราะคำพูดไม่กี่คำของเกาก้วนแล้ว
พอแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ หลังจากทุกคนแยกย้ายออกไปแล้ว ประมุขชิงก็ไปหาความสุขที่ตำหนักบูรพาอีก เวลาดีใจหรือเวลาไม่ดีใจเขาก็ล้วนต้องไปโปรยฝนที่ตำหนักบูรพา ไม่รู้ว่าทำให้สนมมากมายเท่าไรที่วังหลังอิจฉาตาร้อน
หลังจากลมฝนนิ่งสงบ ประมุขชิงสวมชุดลำลองนอนตะแคงข้างอย่างเกียจคร้านอยู่บนเตียง หรี่ตามองเรือนร่างอรชรหลังม่านมุ้งบางกำลังเดินออกจากอ่างอาบน้ำราวกับดอกบัวโผล่พ้นน้ำ การชื่นชมผ่านม่านมุ้งที่วับๆ แวมๆ ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
หลังจากหญิงรับใช้ช่วยแต่งตัวให้คนร่างสูงระหงแล้ว ก็แหวกม่านออกแล้วเดินกรูตามไปข้างๆ โต๊ะเครื่องแป้ง ช่วยหวีผมให้นาง
ประมุขชิงเดินเท้าเปล่าเข้ามา โบกมือให้หญิงรับใช้ถอยไป แล้วหยิบหวีมาจากมือหญิงรับใช้ ใช้มือรองผมงามของจ้านหรูอี้ขึ้นมา เอาเกียรติของราชันสวรรค์มาช่วยหวีผมให้นาง มองใบหน้าที่เรียบเฉยเย็นชาในกระจก พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จ้านผิงพ่อเจ้าอยู่ในตำแหน่งท่านโหวมาหลายปีแล้ว ข้าจะหาโอกาสให้เขาขึ้นตำแหน่ง สนมรักอยู่สึกยังไงบ้าง?”
…………………………