พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 1743 เต้นระบำกับหมาป่าชั่วร้าย (2)
หยางชิ่ง : มือลับของตระกูลเซี่ยโห้วที่ซ่อนอยู่ในที่ลับ พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้าวางไว้ในที่แจ้ง ก็ถึงคราวที่พวกเขาจะต้องเจอกับ ‘ทวนเปิดเผยหลบหลีกง่าย เกาทัณฑ์ลับยากระวัง’ แล้ว ไม่มีใครที่จะทำทุกอย่างโดยไร้ช่องโหว่ ใช่ว่าจะหาช่องให้โจมตีไม่ได้ เมื่อเห็นรูก็สอดเข็ม นั่นแหละคือโอกาสลงมือ
เหมียวอี้กำลังเดาว่าเจ้าหมอนี่กำลังจะผุดหลุมพรางชั่วอะไรมาล่อคนอีก ถามอย่างสนใจมากว่า : หรือว่าท่านบุรุษมีแผนการเหนือชั้นอะไรอีกแล้ว?
หยางชิ่ง : ชื่อเสียงบุ่มบ่ามของนายท่านแพร่ออกไปข้างนอก ตระกูลเซี่ยโห้วควบคุมตำหนักนารีสวรรค์แต่กลับไม่กล้าทำซี้ซั้วเพราะกลัวประมุขชิง ยังมีโอกาสให้ใช้ประโยชน์จากในนี้ได้นิดหน่อย ยกตัวอย่างเช่นยามมีเป้าหมายอะไรต้องทำให้สำเร็จ ก็ไปขอให้ตระกูลเซี่ยโห้วช่วย ถ้าตระกูลเซี่ยโห้วไม่ตอบตกลง นายท่านก็ทำท่าว่าจะนำกำลังพลจวนหัวหน้าภาคทำซี้ซั้ว ปล่อยข่าวนิดหน่อยเพื่อให้ตระกูลเซี่ยโห้วรู้ว่านายท่านต้องการจะแอบอ้างคำสั่งตำหนักนารีสวรรค์ จะดึงหนังเสือมาทำธงตบตาขู่คนอื่น เกรงว่าตระกูลเซี่ยโห้วคงจะกังวลยิ่งกว่านาย เนื่องจากชื่อเสียงของนายท่านโด่งดังไปข้างนอก ตระกูลเซี่ยโห้วไม่กล้ารับประกันว่านายท่านจะไม่กล้าทำอย่างนี้ ตระกูลเซี่ยโห้วจะต้องกังวลแน่นอน ว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ แล้วประมุขชิงจะสงสัยหรือเปล่าว่าพวกเขากำลังบีบตำหนักสวรรค์ให้ก่อเรื่อง?
เหมียวอี้แสดงว่าความสงสัย : แบบนี้ไม่เกินจริงไปหน่อยเหรอ? ตระกูลเซี่ยโห้วสามมารถให้ตำหนักนารีสวรรค์ถ่ายทอดคำสั่งมาทางนี้ได้ทุกเมื่อ สามารถห้ามข้าได้ทันเวลา!
หยางชิ่ง : นายท่านก็แสร้งมุทะลุต่อไป ทำท่าว่าจะก่อเรื่องต่อโดยไม่สนใจคำสั่ง แล้วคอยดูว่าตระกูลเซี่ยโห้วจะกังวลหรือเปล่า มีความเป็นไปได้สูงว่าฝั่งนั้นจะขอประนีประนอมกับนายท่าน ส่วนคำสั่งพวกนั้น เป็นการออกคำสั่งระยะไกล ไม่มีทางที่ตำหนักนารีสวรรค์จะส่งคนมาถ่ายทอดคำสั่งได้ทันเวลา ถ้าถ่ายทอดคำสั่งผ่านระฆังดาราก็ไม่ใช่ราชินีสวรรค์สั่งด้วยตัวเอง แล้วตำหนักนารีสวรรค์ก็ไม่ได้ย้ายกำลังพลมาขู่บังคับนายท่านด้วย ย้ายกำลังพลจากสี่ทัพมาไม่ได้เช่นกัน หรือไม่ก็ลองให้ตำหนักนารีสวรรค์ย้ายกองกำลังลับจากตึกศาลาสัตยพรตมาขู่กำลังพลของจวนหัวหน้าภาคดูสิ? ดังนั้น นายท่านแค่ยืนกรานว่าไม่ได้รับคำสั่ง เรื่องนี้ก็ยากที่จะสืบให้ชัดเจนได้ จะทำให้ประมุขชิงสงสัยว่าตระกูลเซี่ยโห้วกล้าปลอมแปลงคำสั่งจากฝั่งวังสวรรค์ เกรงว่าตระกูลเซี่ยโห้วจะกังวลยิ่งกว่า ถ้าประมุขชิงเกิดความระแวงขึ้นมา ต่อให้ตระกูลเซี่ยโห้วจะอธิบายยังไงก็ไร้ประโยชน์ ถ้าให้ราชินีสวรรค์ช่วยเป็นพยานให้ตระกูลเซี่ยโห้ว ประมุขชิงจะเชื่อได้เหรอ? ตระกูลเซี่ยโห้วไม่มีทางอธิบายสิ่งนี้ได้ชัดเจน
ทว่าต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า พวกเราพอจะรู้สถานการณ์ของราชินีสวรรค์อยู่บ้าง นายท่านก่อเรื่องอย่างนี้บ่อยๆ อาจจะถูกใจราชินีสวรรค์ก็ได้ อย่าไปมองว่าในมือราชินีสวรรค์ไม่มีอำนาจทางทหาร เพราะตำแหน่งฐานะก็เห็นๆ กันอยู่ การมีอยู่ของราชินีสวรรค์ล้วนมีความหมายกับทุกด้าน ในเมื่อผูกเชือกสายนี้แล้วก็ต้องรักษาไว้ให้ดี ในอนาคตจะต้องแสดงบทบาทได้มากแน่นอน
เหมียวอี้ยิ้มมุมปาก ทำไมรู้สึกว่าวิธีการแบบนี้ถูกใจตนมาก ถ้าได้เจอกับเรื่องอย่างนี้จริงๆ ลองคิดดูสิ ต่อให้หยางชิ่งไม่เตือน ตนก็จะทำอย่างนี้อยู่ดีละมั้ง? เขาหัวเราะร่าอย่างอดไม่ได้ ตอบกลับว่า : ท่านบุรุษหมายความว่า คนเท้าเปล่าไม่กลัวการสวมรองเท้าใช่มั้ย? ไม่กลัวเหรอว่าพวกเขาจะเอาเรื่องหกลัทธิมาขู่พวกเรา?
หยางชิ่ง : เรื่องพรรค์นี้ย่อมทำจนเกินเลยไม่ได้ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่ทำ ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ทำสักครั้งก็ได้ ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ ตระกูลเซี่ยโห้วก็ไม่ได้โง่ ย่อมมองออกว่ามีเงื่อนงำ ตราบใดที่ไม่ทำเกินไป ตระกูลเซี่ยโห้วก็ไม่เอาแผนสำรองอย่างหกลัทธิมาเปิดโปง เพราะมันไม่คุ้มค่า
เหมียวอี้ : กลัวก็แต่ตระกูลเซี่ยโห้วจะเล่นตุกติก ให้ตำหนักนารีสวรรค์บีบให้ข้าย้ายไป!
หยางชิ่ง : นายท่านคิดมากไปแล้ว ตอนนี้นอกจากประมุขชิงที่มีพลังในการคานอำนาจที่แข็งแกร่ง นายท่านเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว กลายเป็นเจ้าอาณาเขตแล้ว ในมือกุมทัพใหญ่ที่มีศักยภาพเพียงพอ กอปรกับอยู่ในสถานการณ์ที่พึ่งพาตัวเองได้ เท่านี้ก็เป็นโล้เป็นพายแล้ว สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพลิกแพลงดีกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก ไม่ใช่ว่าใครจะแตะต้องก็แตะต้องได้ เรียกได้ว่าแตะต้องจุดเล็กๆ แล้วกระทบต่อวงกว้าง เกี่ยวโยงกับหลายด้าน ตราบใดที่นายท่านเองไม่บุ่มบ่ามเกินแผนจนถึงขั้นกอบกู้สถานการณ์ได้ยาก ถ้ามีคนดึงดันจะแตะต้องนายท่าน หยางชิ่งก็ยินดีจะประลองฝีมือกับพวกนั้นเพื่อรับใช้นายท่านเลย ส่วนฝั่งตระกูลเซี่ยโห้วก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน
พวกเขารู้ตัวว่าการบีบจุดอ่อนเรื่องหกลัทธิของนายท่านสามารถทำให้นายท่านถึงแก่ความตายได้ทุกเมื่อ เช่นนั้นสำหรับตระกูลเซี่ยโห้วแล้ว การให้นายท่านดูแลทัพใหญ่แดนรัตติกาลจะควบคุมได้ง่ายกว่า หรือให้อำนาจฝ่ายอื่นดูแลทัพใหญ่แดนรัตติกาลจะควบคุมได้ง่ายกว่าล่ะ? ไม่ต้องสงสัยเลย พวกเขาหวังจะให้นายท่านดูแลกำลังพลกลุ่มนี้ไปตลอดอยู่แล้ว ลองมองจากอีกมุมก็เท่ากับว่าพวกเขาได้ควบคุมกำลังพลกลุ่มนี้แล้ว ถ้าใต้หล้ามีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไร พวกเขาก็จะสามารถใช้งานกำลังพลกลุ่มนี้ได้ ข้าน้อยสืบถามบทเรียนที่หกลัทธิถูกกำจัดในปีนั้นมาแล้ว พบว่าตระกูลเซี่ยโห้วชำนาญเรื่องใช้วิธีการที่น่ากลัวที่สุด คนที่หกลัทธิคิดว่าไม่น่าจะทรยศที่สุด แต่สุดท้ายก็โจมตีหกลัทธิแบบถึงตายในช่วงเวลาสำคัญ
จนกระทั่งทำให้หกลัทธิแพ้อย่างต่อเนื่องบนจุดเชื่อมต่อสำคัญ ตระกูลเซี่ยโห้วกุมจุดอ่อนของคนอื่นไว้เยอะเกินไป แค่คิดก็หนาวแล้ว ถ้ามีคนจะมาแตะต้องนายท่าน เกรงว่าตระกูลเซี่ยโห้วก็จะแอบช่วยนายท่านเงียบๆ ดังนั้นขอเพียงเจ้าใจจุดนี้ ตราบใดที่นายท่านไม่เล่นเกินขอบเขต ตระกูลเซี่ยโห้วก็ไม่มีทางปล่อยให้นายท่านออกห่างจากกำลังพลกลุ่มนี้ไปง่ายๆ และไม่มีทางกลั่นแกล้งนายท่านโดยไร้สาเหตุด้วย เกรงว่าคงหวังให้กำลังพลในมือนายท่านแข็งแกร่งกว่านี้ นายท่านจับพลัดจับผลูบุกเข้ามาลงหลักปักฐานที่ตลาดผี ตอนแรกดูน่าหวาดเสียว พอมาดูตอนนี้กลับเป็นสถานที่ซึ่งทำให้นายท่านสั่งสมกำลังได้อย่างมั่นคงปลอดภัยที่สุด แม้จะอันตรายเหมือนกำลังเต้นรำกับหมาป่าชั่ว แต่ในใต้หล้าก็หาสถานที่ที่ดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
เหมียวอี้ตั้งใจฟังอย่างละเอียด พอฟังถึงตอนท้ายก็ถอนหายใจช้าๆ : พอได้ฟังท่านบุรุษอธิบาย ก็กระจ่างราวกับแหวกหญ้ารกออกจากทาง!
หยางชิ่ง : นายท่านให้เกียรติเกินไปแล้ว ทางตำหนักนารีสวรรค์ยังมีบางเรื่องที่น่าสงสัย ในเมื่อนายท่านเริ่มติดต่อกับทางนั้นแล้ว ก็ยังต้องมีแผนการในใจ
เหมียวอี้ : ยินดีล้างหูรอฟัง
หยางชิ่ง : การที่ประมุขชิงตอบตกลงแบ่งแดนรัตติกาลให้นั้นมีเงื่อนงำ ประมุขชิงไม่ถึงขั้นไม่รู้แม้กระทั่งสถานการณ์ของราชินีสวรรค์ การแบ่งแดนรัตติกาลเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถ้าตระกูลเซี่ยโห้วไม่ยินยอม ถ้าไม่มีประมุขชิงอนุญาต วังหลังก็ไม่มีทางส่งเรื่องนี้ไปราชสำนัก ได้เลย เห็นได้ชัดว่าราชินีสวรรค์คุยกับประมุขชิงล่วงหน้าแล้ว แต่ประมุขชิงรู้สถานการณ์ของราชินีสวรรค์แต่ยังทำอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าต้องการให้ราชินีสวรรค์ยั่วโมโหตระกูลเซี่ยโห้วหรอกเหรอ? มีความเป็นไปได้สูงว่าประมุขชิงกำลังจงใจทำให้รอยร้าวระหว่างราชินีสวรรค์และตระกูลเซี่ยโห้วลึกกว่าเดิม
เหมียวอี้ : มีเหตุผล
หยางชิ่ง : ยังมีอีกอย่าง มีกี่คนที่รู้เรื่องที่ราชินีสวรรค์สร้างระฆังดาราเอาไว้แอบติดต่อกับนายท่าน?
เหมียวอี้ : ก่อนที่ข้าจะบอกเจ้า ทางฝั่งนี้ก็มีแค่ฮูหยินที่รู้ ส่วนฝั่งราชินีสวรรค์จะมีคนรู้กี่คนข้าก็ไม่รู้แล้ว
หยางชิ่ง : นายท่านกับฮูหยินย่อมไม่เปิดเผยเรื่องนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว ตามหลักแล้วฝั่งราชินีสวรรค์ก็ไม่กระจายข่าวนี้เช่นกัน สายลัยที่ตำหนักสวรรค์คนนั้นรู้อยู่แจ่มแจ้งว่างรอบกายราชินีสวรรค์มีแต่คนของตระกูลเซี่ยโห้ว การที่นายท่านติดต่อกับนางก็ยากจะหลุดพ้นสายตาตระกูลเซี่ยโห้ว แต่กลับดันทุรังจะให้นายท่านติดต่อกับราชินีสวรรค์โดยตรงให้ได้ ราวกับแน่ใจแล้วว่านายท่านจะต้องทำได้ ข้าสงสัยนิดหน่อยว่าเขารู้หรือเปล่านายท่านกับราชินีสวรรค์มีระฆังดาราที่ใช้แอบติดต่อกัน แต่ทำไมเขารู้เรื่องที่เป็นความลับขนาดนี้ได้ล่ะ?
พอพูดถึงตรงนี้ เหมียวอี้ก็แปลกใจมากเช่นกัน : หรือว่าเดิมทีเขากับราชินีสวรรค์ก็ใกล้ชิดกันอยู่แล้ว ราชินีสวรรค์บอกเขาเองหรือเปล่า? แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ในเมื่อเขารู้เรื่องรายชื่อในมือข้าแล้ว ก็สามารถบอกราชินีสวรรค์โดยตรงได้เลยน่ะ…ฐานะของสายลับคนนี้ลึกลับมาก!
หยางชิ่ง : ที่จริง ถ้าสามารถวางแผนโดยจับทางความคิดของประมุขชิง ตระกูลเซี่ยโห้วและราชินีสวรรค์ได้โดยตรง อย่างน้อยก็เป็นผู้ที่เข้าใจหลายฝ่ายและรู้สถานการณ์ภายในวังสวรรค์ คนคนนี้ไม่ธรรมดานะ ฐานะที่ตำหนักสวรรค์คงไม่ใช่ต่ำๆ แน่! ดูจากที่เขาช่วยวางแผนให้หกลัทธิโจมตีทัพใหญ่ตำหนักสวรรค์ที่แดนอเวจีก็รู้แล้ว เป็นใครกันแน่?
…………………………