พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 1936 เรื่องมงคล
เพียงแต่บนรายชื่อที่ส่งมามีสองรายชื่อที่เดิมทีไม่ควรจะปรากฏอยู่บนนี้
ชื่อของเหยียนซิวกับหยางเจาชิงถูกเติมไว้ข้างบน จะได้สะดวกหาข้ออ้างลงโทษ ถอดออกจากตำหนักสวรรค์ ทำให้ไร้ตำแหน่งติดตัว!
สาเหตุที่รีบรายงานขึ้นไปในเวลานี้ ก็เพราะประมุขชิงเปิดเผยเจตนาออกมาชัดเจนมาก เหมียวอี้ให้ความสำคัญกับกำลังพลห้าสิบล้านนี้มาก ประมุขชิงก็ให้ความสำคัญเช่นกัน ต้องการจัดการให้เรียบร้อยแข่งกับเวลา ไม่ถึงขั้นปฏิเสธรายชื่อกลับมาในเวลานี้จนกระทบต่อแผนของเหมียวอี้ ดังนั้นก็เป็นไปได้น้อยมากที่จะปฏิเสธเจตนาส่วนตัวของเหมียวอี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นยามปกติ ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะมีคนคิดขัดขวางหรือไม่
เมื่อแก้ไขปัญหาสำคัญเรื่องนี้แล้ว หยางเจาชิงก็ฮึกเหิมมีชีวิตชีวา เหมียวอี้ทำสำเนารายชื่อกิจการและบัญชีรายชื่ออีกฉบับให้หยางเจาชิง ให้เขาไปเรียบเรียงข้อมูล รายละเอียดกิจวัตรประจําวันในด้านนี้ส่งให้อวิ๋นจือชิวควบคุมดูแล โดยมีหยางเจาชิงช่วยเหลือ ถ้าพบสิ่งที่ตัดสินใจได้ยากหรือหาผลลัพธ์ได้ยาก ก็ให้รายงานไปที่เหมียวอี้
กำลังคุยเรื่องนี้กันอยู่ หยางเจาชิงก็ได้รับข่าวจากหลงซิ่นอีก บอกว่าลูกสาวของอ๋องสวรรค์ก่วง ก่วงเม่ยเอ๋อร์มาเล่นกับอวิ๋นจือชิวอีกแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้มีคนที่ค่อนข้างพิเศษมาด้วย โกวเยว่ พ่อบ้านของตระกูลก่วงร่วมเดินทางมาด้วย ให้หยางเจาชิงถามความเห็นของเหมียวอี้
แน่นอน ตอนนี้ยังไม่ประกาศเรื่องที่รายงานขึ้นไปว่าจะถอดหยางเจาชิงกับเหยียนซิวออกจากตำหนักสวรรค์
เมื่อได้ฟังรายงานจากหยางเจาชิงแล้ว เหมียวอี้ที่นั่งอยู่หลังโต๊ะยาวก็ขมวดคิ้ว ยังแปลกใจอยู่เลยว่าจนป่านนี้แล้วทำไมตระกูลก่วงยังไม่เอ่ยถึงเรื่องแลกตัวประกัน ตามหลักแล้ว อาศัยช่องทางข่าวสารของตระกูลก่วง ก็น่าจะรู้แล้วสิว่าเขากลับถึงแดนรัตติกาล ที่แท้ก็ส่งตัวละครสำคัญมาด้วยตัวเอง เกรงว่ามาทวงตัวประกันคงจะเป็นแค่หนึ่งในจุดประสงค์ที่มาเท่านั้น ทั้งยังอยากสืบดูสถานการณ์ของกำลังพลห้าสิบล้านด้วย เพียงแต่ในเวลานี้ก่วงเม่ยเอ๋อร์จะเข้ามาประสมโรงด้วยทำไม?
“ให้หลงซิ่นพามาด้วยตัวเองแล้วกัน” เหมียวอี้โบกมือ พอครุ่นคิดเล็กน้อย ก็บอกอีกว่า “ก่วงเม่ยเอ๋อร์มาแล้ว บอกฮูหยินมารับไปด้วย” ไม่มีทางเลือก เพราะชายหญิงแตกต่างกัน เขาไม่สะดวกจะรับแขก ให้อวิ๋นจือชิวมาจะเหมาะสมกว่า
หยางเจาชิงเลยรับ แล้วเดินตามหลังเหมียวอี้ออกไปรับแขก
แม้ฐานะของโกวเยว่จะเป็นเพียงพ่อบ้าน แต่เบื้องหลังของบ้านที่อีกฝ่ายดูแลก็ไม่ใช่เล็กๆ ถ้าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็น ก็ไม่สะดวกจะวางมาดใหญ่โตต่อหน้าคนประเภทนี้ ถ้าอีกฝ่ายไม่พอใจขึ้นมา พูดแค่ประโยคสองประโยค ก็สามารถสร้างปัญหาใหญ่ให้เจ้าจนถึงแก่ชีวิตได้แล้ว
เมื่อได้รับข่าวแล้ว อวิ๋นจือชิวก็บอกให้พวกผู้หญิงเลือกกันเอาเอง แล้วนางก็กลับมาทันที
แทบจะตามกันมาติดๆ กลุ่มของโกวเยว่เหาะลงมาจากฟ้าแล้ว หลงซิ่นพาแขกมาด้วยตัวเอง เหมียวอี้และผู้หญิงรอต้อนรับอยู่นอกประตู นับว่าไว้หน้าโกวเยว่เต็มที่
สำหรับสิ่งนี้โกวเยว่รู้อยู่แก่ใจ แต่กลับรักษาธรรมเนียมของการเป็นบ่าว ให้ก่วงเม่ยเอ๋อร์เดินอยู่หน้าสุด ส่วนเขาก็เดินตามอยู่ข้างหลัง ข้างหลังเขามีผู้ติดตามอีกหลายสิบคน
เหมียวอี้และผู้หญิงย่อมเดินเข้ามาทำความเคารพ “คำนับคุณหนูเม่ยเอ๋อร์”
“ไม่ต้องมากพิธี!” ก่วงเม่ยเอ๋อร์ฝืนยิ้ม
อวิ๋นจือชิวกับก่วงเม่ยเอ๋อร์คลุกคลีกันบ่อย สังเกตได้ว่าก่วงเม่ยเอ๋อร์ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
“เชิญด้านใน!” เหมียวอี้เบี่ยงตัวหลีกทาง แล้วยื่นมือเชิญ
อวิ๋นจือชิวกลับบอกว่า “ข้ากับคุณหนูเม่ยเอ๋อร์ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว ถ้าคุณหนูเม่ยเอ๋อร์ไม่รังเกียจ ออกไปเดินเล่นกับข้าวหน่อยสิ?”
ก่วงเม่ยเอ๋อร์เสียงน่าชำเลืองโกวเยว่แวบหนึ่ง เพราะเห็นโกวเยว่ไม่มีท่าทีคัดค้าน นางก็พยักหน้า ก่อนจะถูกอวิ๋นจือชิวจูงมือเดินออกไป
โกวเยว่พยักหน้าเล็กน้อย บอกใบ้ให้ผู้ติดตามตามก่วงเม่ยเอ๋อร์ไป แล้วตัวเองก็กุมหมัดคารวะพูดกับเหมียวอี้ด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นก็ต้องรบกวนผู้ตรวจการใหญ่แล้ว”
“ท่านบุรุษโกว เชิญ!” เหมียวอี้ยื่นมือ นำทางเข้ามาด้านในด้วยตัวเอง
ผู้ติดตามข้างหลังทำท่าจะเข้ามาด้วย แต่กลับถูกหลงซิ่นยื่นมือขวางไว้ ผู้ติดตามไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสักคน
โกวเยว่หันกลับมามองแวบหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้บังคับ โบกมือบอกใบ้ให้พวกเขารออยู่ข้างนอก เขาไม่เชื่อว่าเหมียวอี้จะกล้าลงมือกับเขายังเปิดเผย
เดิมทีเหมียวอี้อยากจะเชิญให้โกวเยว่ไปดื่มน้ำชา โกวเยว่กลับไม่มีท่าทีจะตามใจเจ้าบ้าน ดึงดันจะไปเดินเล่นให้ได้ ทั้งยังไปเดินบนที่กว้างโล่งด้วย เหมียวอี้จึงตามใจเขา
หยางเจาชิงตามหลังทั้งสองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ฟังทั้งสองพูดคุยกันตามมารยาทน่าเบื่อหน่าย เดินเนิบนาบอยู่บนลานกว้างนอกตำหนัก
หลังจากคุยสัพเพเหระ โกวเยว่ก็เข้าสู่ประเด็นหลัก ถามว่า “ได้ยินว่าลิ่งหูโต้วจ้งนำกำลังพลชุดหนึ่งมาขอพึ่งพาผู้ตรวจการใหญ่หรือ?”
เหมียวอี้ตอบคนเสียงหัวเราะ “ไม่ใช่เสียหน่อย! เป็นคนที่มีความผิดติดตัวทั้งนั้น ทางวังสวรรค์สั่งให้ข้าควบคุมไว้ชั่วคราว กำลังรอการตัดสินโทษจากเบื้องบน”
“อ้อ! ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” โกวเยว่เอามือไขว้หลัง ยืดอกเดินพร้อมพูดว่า “ได้ยินว่ากำลังพลในเขตทัพตะวันตกเกิดเรื่องผิดใจกับลิ่งหูโต้วจ้งนิดหน่อย บังเอิญว่าคุณหนูเม่ยเอ๋อร์จะมาเที่ยวเล่นพอดี ท่านอ๋องให้ข้าคุ้มกันส่ง เลยถือโอกาสให้ข้ามาถามสถานการณ์กับลิ่งหูโต้วจ้งสักหน่อย ไม่ทราบว่าจะให้ข้าพบเขาได้หรือไม่?”
“ไม่ต้องการตัวประกันหนึ่งล้านนั่นแล้วหรือ?” เหมียวอี้ถามกลับ
“ถ้าต้องการ ผู้ตรวจการใหญ่ก็ย่อมให้อยู่แล้ว” โกวเยว่ตอบ
ดูท่าทางแล้วต้องการจะพบลิ่งหูโต้วจ้งให้ได้ แต่จนใจที่เหมียวอี้ไม่อยากให้เขาพบเลย ตอบอย่างจริงจังว่า “ถ้าท่านอ๋องไม่ต้องการ ข้าก็ไม่ให้แล้ว”
โกวเยว่เลิกคิ้วเหล่ตา “ทำไมล่ะ? ผู้ตรวจการใหญ่กลัวว่าข้าจะเจอกับลิ่งหูโต้วจ้งมากนักหรือ?”
เหมียวอี้ถอนหายใจ “ฟังท่านบุรุษโกวพูดเข้าสิ ข้ามีอะไรให้กลัว เพียงแต่เรื่องนี้ข้าไม่มีอำนาจตัดสินใจ พวกเขาล้วนเป็นคนที่มีความผิด ก่อนที่จะสืบเรื่องนี้ชัดเจน ตำหนักนารีสวรรค์ออกคำสั่งอย่างเข้มงวด ว่าให้ติดต่อกับใครโดยพละการ ท่านบุรุษโกวจะให้ข้าขัดคำสั่งไม่ได้หรอกใช่ไหม!”
“หึ!” โกวเยว่แสยะยิ้ม อีกฝ่ายอ้างแม้กระทั่งเหตุผลนี้ เขารู้ว่าไม่มีหวังแล้ว จึงถามว่า “คนน่ะ ท่านเตรียมจะปล่อยเมื่อไหร่?”
เหมียวอี้ตอบว่า “ท่านจะไปเมื่อไหร่ ข้าก็ให้ท่านพาไปเมื่อนั้น ไม่ทราบว่าท่านพอใจหรือไม่?”
โกวเยว่ตอบว่า “จะว่าดีมันก็ดี แต่ผู้ตรวจการใหญ่ก็ไม่ใช่เล่นๆ กลัวก็แต่ผู้ตรวจการใหญ่จะเล่นตุกติกอะไร!”
เหมียวอี้บอกว่า “เรื่องนี้ท่านวางใจได้ คำสัญญาของหนิวมีค่าเท่ากับทองพันชั่ง รับรองว่าคืนทหารที่ครบสมบูรณ์ให้ท่านอ๋อง ส่วนเรื่องที่ท่านอ๋องอยากจะสั่งหารข้า ข้าจะไม่สืบสาวเอาเรื่องแล้ว แล้วไม่เอ่ยเรื่องนี้กับภายนอกด้วย ถ้ามีคนถามว่าเคยเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นหรือไม่ ถึงยังไงหนิวก็ต้องรับผิดชอบเรื่องเกาเหยียนก่อนหน้านี้บ้าง ครั้งนี้นับว่าชดเชยให้ ท่านคิดว่ายังไงบ้าง?”
ที่จริงเขายังคิดจะถือโอกาสนี้รีดไถเงินสักก้อน แต่ในเวลานี้ไม่สะดวกจะสร้างปัญหาเพิ่มอีก ถ้าไปยั่วโมโหก่วงลิ่งกงแล้ว เรื่องในตอนหลังก็จะยุ่งยาก ขนาดเนื้อที่มาถึงปากยังไม่กล้ากินเลย!
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เรื่องนี้ก็ปล่อยให้ผ่านไป มาเริ่มคุยธุระหลักกันก่อนดีกว่า!” โกวเยว่กล่าว
“ธุระหลัก?” เหมียวอี้ไม่ค่อยเข้าใจ “ยังมีธุระหลักอีกหรือ?”
“เรื่องมงคล!” โกวเยว่พูดเสริม
“เรื่องมงคลอะไร?” เหมียวอี้งงทันที
“เรื่องอ๋องสวรรค์อิ๋ง ผู้ตรวจการใหญ่ไม่รู้สึกว่าตัวเองไปมีส่วนร่วมกับเรื่องที่ไม่ควรจะยุ่งหรือ?” โกวเยว่ถาม
เหมียวอี้ไม่รู้ว่าจะแก่นี่จะอ้อมค้อมไปทำไม เขายักไหล่แล้วถอนหายใจ “ข้าก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน ตระกูลอิ๋งไม่ปล่อยข้าไปแน่นอน บังเอิญว่าเซี่ยโห้วลิ่งมาหาค่าพอดี ต้องการจะช่วยข้ากำจัดปัญหาคาราคาซังไปตลอดกาล ข้าไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ความร่วมมือ!” เขาทำได้เพียงผลักเรื่องนี้ไปที่เซี่ยโห้วลิ่ง
โกวเยว่ไม่แปลกใจเลยสักนิด เดิมทีก็คิดว่าเป็นแผนการของเซี่ยโห้วลิ่งอยู่แล้ว “บางสิ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ตรวจการใหญ่สามารถแตะต้องได้ เมื่อไปแตะต้องแล้วก็ต้องจ่าย บอกท่านตามตรงเลยแล้วกัน ต่อให้ท่านอ๋องไม่เอาเรื่อง แต่คนอื่นก็ไม่ปล่อยท่านไปอยู่ดี ผู้ตรวจการใหญ่เป็นคนฉลาด น่าจะเข้าใจ เพียงแต่เห็นแก่ที่คุณหนูเม่ยเอ๋อร์ขอร้อง ท่านอ๋องเตรียมคิดจะช่วยเหลือผู้ตรวจการใหญ่”
เหมียวอี้ยังไม่เชื่อว่าก่วงเม่ยเอ๋อร์จะบงการเรื่องแบบนี้ได้ แต่ก็ขยับคิ้วเล็กน้อย ตระหนักอะไรบางอย่างได้ “เรื่องมงคลที่ท่านบุรุษโกวบอก คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณหนูเม่ยเอ๋อร์หลอกใช่ไหม?”
โกวเยว่พยักหน้า “ผู้ตรวจการใหญ่ฉลาดจริงๆด้วย ถ้าผู้ตรวจการใหญ่สามารถตกลงปลงใจกับคุณหนูเม่ยเอ๋อร์ได้ เช่นนั้นผู้ตรวจการใหญ่ก็จะได้เป็นลูกเขยของท่านอ๋องแล้ว ท่านอ๋องยอมต้องช่วยให้ผู้ตรวจการใหญ่ผ่านด่านยากนี้ไป นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล”
“เหอะๆ! ท่านบุรุษโกวล้อเล่นแรงเกินไปแล้ว ” เรื่องนี้ถ้าเหมียวอี้ตอบตกลงได้ก็แปลกแล้ว เพราะว่าเขาไม่เข้าข้างฝ่ายไหนทั้งนั้น ประมุขชิงถึงได้ปล่อยเขาไปและสนับสนุน ถ้ากล้าทรยศชิงหยวนจุนไปพึ่งพาตระกูลก่วง นั่นก็แสดงว่าเบื่อหน่ายที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว
“ไม่ได้ล้อเล่น! หรือว่าความงามของคุณหนูเม่ยเอ๋อร์ขัดสายตาตรงไหน?”
“ท่านบุรุษโกวล้อเล่นแล้ว ความงามของคุณหนูเม่ยเอ๋อร์ไม่เป็นสองรองใคร เป็นหนิวเองที่ไม่คู่ควร แล้วอีกอย่าง ในปีนั้นตอนเกิดเรื่องน่าฟ้าระกาติง พวกเราก็เคยคุยกันไปแล้ว ขนาดในปีนั้นข้ายังไม่ตอบตกลงเลย นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่ข้ามีฮูหยินเอกแล้ว”
“รู้ว่าสามีภรรยารักกันลึกซึ้ง ท่านอ๋องจะไม่เอาไม้ไปตีคู่นกยวนยางให้แยกจากันเช่นกัน ฮูหยินท่านอ๋องก็ชื่นชมมากด้วย ยินดีให้คุณหนูเม่ยเอ๋อร์มาเป็นอนุภรรยาของผู้ตรวจการใหญ่ น้ำใจที่ลึกซึ้งแบบนี้ ถ้าผู้ตรวจการใหญ่ปฏิเสธก็จะฟังดูแล้วไหลแล้ว”
“เหอๆ…เหอะๆ…หึหึ วันนี้ท่านบุรุษโกวล้อเล่นแรงเกินไปแล้วจริงๆ หนิวรับไว้ไม่ไหว รับไว้ไม่ไหวจริงๆ”
“ท่านอ๋องตั้งใจจะช่วยให้สมปรารถนา ไม่มีอะไรรับไม่ไหว แต่เพื่อที่จะปกป้องผู้ตรวจการใหญ่ เรื่องที่ให้คุณหนูเป็นอนุภรรยาของผู้ตรวจการใหญ่จะเป็นความลับ คุณหนูจะยังพักอยู่ที่จวนท่านอ๋องตามปกติ เวลาว่างมาเที่ยวเล่นที่นี่ก็จะปิดบังสายตาคนอื่นได้ แน่นอนว่า เรื่องนี้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ท่านอ๋องหวังจะให้คุณหนูให้กำเนิดหลานโดยเร็ววัน! คุณหนูงดงามไร้ที่เปรียบ ผู้ตรวจการใหญ่กระฉับกระเฉงทรงพลัง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้คงไม่ยากเกินความสามารถผู้ตรวจการใหญ่! ขอเพียงผู้ตรวจการใหญ่ตอบตกลง คุณหนูเม่ยเอ๋อร์ก็จะยังไม่กลับไปกับบ่าว ส่วนเรื่องพิธีรีตองอะไรนั่น รอให้ถึงเวลาเหมาะสมก่อนค่อยชดเชยให้ ท่านคิดว่ายังไง?”
หยางเจาชิงที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลได้ยินแล้วมุมปากกระตุก ยังเป็นท่านอ๋องอะไรกัน เขาพบว่าคนพวกนี้ช่างหน้าไม่อาย ไม่มีอะไรจะพูดแล้วจริงๆ
เหมียวอี้เองก็ตะลึงค้างกับคำพูดของโกวเยว่เช่นกัน พอลองคิดทบทวน เรื่องนี้ฟังดูหลอกลวงเหลวไหล ทว่านี่คือวิธีการดีที่ไม่มีอะไรเสียหาย แอบเป็นพันธมิตรกันอย่างลับๆ เรียกได้ว่ามีแต่ผลประโยชน์ต่อเหมียวอี้ ถ้ามีก่วงลิ่งกงแอบสนับสนุน ก็จะมีประโยชน์กับเขามาก ส่วนผลประโยชน์ที่ก่วงลิ่งกงจะได้ก็ชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นการทำผิดต่ออวิ๋นจือชิว ลองคิดดูเล่นๆ ก็รู้แล้ว อีกฝ่ายคือลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของท่านอ๋อง จะปล่อยให้เป็นอนุภรรยาไปทั้งชีวิตเชียวหรือ? แค่เงื่อนไขที่ว่าให้กำเนิดหลานโดยเร็ว จะให้อวิ๋นจือชิวทนความรู้สึกได้อย่างไร?
หยางเจาชิงเริ่มทำสีหน้าครุ่นคิด เขาลองคิดในมุมของผลประโยชน์ ก็พบว่าเรื่องนี้ทำได้จริงๆ ก่วงลิ่งกงพิจารณาได้รอบด้าน เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางเหมียวอี้ นายท่านคงจะเข้าใจเหตุผลที่อยู่ในนั้น เพียงแต่ไม่รู้ว่านายท่านจะให้คำตอบอย่างไร
เหมียวอี้หยุดฝีเท้า โกวเยว่เองก็หยุดแล้วหันตัวมามองเขา รอคอยคำตอบของเขา สายตาทั้งสี่สบประสานกัน
ผลประโยชน์หล่นใส่หัว! เหมียวอี้ยังตัดสินใจยืนหยัดบางสิ่งที่ควรจะยืนหยัด ยอมเสียสละทุกอย่างที่ควรจะจ่าย แต่ไม่ยอมผิดคำสัญญาสวยหรูที่ให้ไว้ที่ทะเลทรายท่านเมฆาในปีนั้น เป็นเพราะความงดงามในใจมีอยู่ไม่เยอะแล้ว ในปีนั้นเขาตัวเปล่า แต่ผู้หญิงปากร้ายคนนั้นก็ยังเทใจมาอยู่กับเขาราวกับคนโง่ เขาพยักหน้ายิ้ม “เรื่องที่ท่านบุรุษโกวกล่าวเมื่อครู่นี้ หนิวรับรองว่าจะไม่เปิดเผยต่อภายนอกแม้แต่คำเดียว แน่นอน หนิวเองก็ฟังไม่เข้าใจ ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น!”
โกวเยว่สีหน้าบึ้งตึงในฉับพลัน เราอย่างชัดเจนว่า “เรื่องนี้ไม่มีผลเสียอะไรกับท่าน มีแต่ข้อดี หวังว่าผู้ตรวจการใหญ่ไตร่ตรองให้ชัดเจนแล้วค่อยให้คำตอบ!”
“ไตร่ตรองชัดเจนแล้ว ไม่ต้องคิดแล้ว!”
…………………………