พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 2012 ความโง่ติดต่อกันได้เหรอ?
“มักใหญ่ใฝ่สูงเหรอ?” เซี่ยโห้วท่าส่ายหน้าเบาๆ “ถ้าเข้าไม่มีความมักใหญ่ใฝ่สูงนี้ เกรงว่าคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเช่นกัน เดินบนเส้นทางนี้แล้ว เดินมาถึงจุดที่เขายืนอยู่แล้ว เขายังมีทางให้ถอยหลับอีกเหรอ? ถ้าทิ้งอำนาจในมือ ไม่มีอำนาจในมือคอยปกป้อง จะมีคนมาคิดบัญชีกับเขามากมายเท่าไรกัน จะมีคนมากมายเท่าไรที่ต้องการให้เขาตาย? ถ้าเขาอยากเติบโตมั่นคงอยู่ในพื้นที่แคบๆ ตรงหน้าเขา ต่อให้เขาไม่ได้คิดวางแผนอย่างอื่น ตระกูลเซี่ยโห้วของข้าก็ไม่ยอมให้ให้ทัพใหญ่ของเขามาบีบตึกศาลาสัตยพรตตลอดไปอยู่ดี รอให้ภายในสงบแล้ว ช้าเร็วก็ต้องกำจัดเขาทิ้ง มิหนำซ้ำเขาก็คือคนที่ประมุขชิงชุบเลี้ยงด้วยมือตัวเอง ประมุขชิงไม่มีทางปล่อยให้เขาหลุดจากการควบคุมหรอก ถ้าไม่เชื่อฟังก็ต้องเปลี่ยนคน ประมุขชิงเป็นคนที่โดนเอาเปรียบได้ง่ายขนาดนั้นเชียวเหรอ? เขาไม่มีทางเลือก มีแต่ต้องทำให้ตัวเองยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น ทำให้ตัวเองยิ่งใหญ่จนคนอื่นไม่กล้าแตะต้องเขา”
เว่ยซูไม่สนใจความเป็นความตายของเหมียวอี้ แต่มองเขาด้วยสีหน้าหลากหลายความรู้สึก “นายท่าน ในเมื่อท่านเดาออกแล้วว่าหนิวโหย่วเต๋อจะลงมือกับคุณชายรอง ท่านทำใจเห็นคุณชายรองเอาชีวิตไปทิ้งแบบนี้ได้จริงๆ เหรอ?”
“เว่ยซูเอ๊ย!” ในดวงตาเซี่ยโห้วท่าฉายแววขื่นขม แต่แววตานั้นก็หายไปเร็วมา “ไม่ใช่ว่าข้าต้องการให้เขาเอาชีวิตไปทิ้ง แต่เขารนหาที่ตายเอง ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเซี่ยโห้วเป็นได้ง่ายๆ ขนาดนั้นเชียวหรือ? เขาอยากนั่งตำแหน่งนั้น ถ้าข้าไม่ให้เขานั่งตำแหน่งนั้น เขาต้องเกลียดข้าแน่นอน ก็ได้ ข้าให้เขาสมปรารถนา ให้เขาแล้ว แต่ผ่านไปหลายปีขนาดนี้แล้ว เขาเป็นหัวหน้าตระกูลยังไงล่ะ? ข้าไม่ได้แทรกแซงเขา ไม่ได้ช่วยพี่น้องเขาด้วย ข้าซ่อนตัวอยู่หลังม่านมาตลอด ไม่ใช่อิทธิพลใดๆ ตักน้ำใส่ถ้วยให้เท่ากัน ปล่อยให้เขาแสดงความสามารถ แต่ผ่านไปหลายปีขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่สามารถรวมกำลังของตระกูลเซี่ยโห้วมาไว้ในมือได้”
“นายท่าน ท่านเองก็รู้ มีเล่นเล่นไม่ซื่อ เป็นเพราะมีหนิวโหย่วเต๋อคอยเสี้ยมอยู่ตรงกลางนะ!” เว่ยซูกล่าวเสียงเศร้า
“นี่คือเหตุผลเหรอ?” เซี่ยโห้วท่าส่ายหน้าถอนหายใจยาว “นี่ไม่ใช่เหตุผล นี่ไม่ใช่เหตุผลเลยจริงๆ! ก่อนที่จะนั่งตำแหน่งนั้น เขาก็ควรจะเข้าใจแล้ว ว่าต้องไปรับคำท้าทาย ต้องไปเผชิญหน้ากับความลำบาก ต้องไปเผชิญการกลั่นแกล้งจากคนอื่น ต้องไปเผชิญหน้ากับทวนในที่แจ้งธนูในที่ลับต่างๆ นานา จะราบรื่นตามลมตามน้ำได้ยังไง? คนทั้งนอกทั้งในตระกูลจะยอมให้เขาสมปรารถนาได้ยังไง? มีคนเสี้ยม แต่เขาก็มองไม่ออก รับมือไม่ไหว เป็นเพราะเขาไร้ความสามารถ!”
“นายท่าน ท่านสามารถเปลี่ยนคนขึ้นรับตำแหน่งได้ ความผิดนี้ไม่ถึงตายหรอก! สามารถให้คุณชายรองถอนตัวจากสังคมไปอยู่ที่สมาคมอาวุโสได้ ขอเพียงท่านเอ่ยปาก คุณชายรองก็จะยอมรับ” เว่ยซูกล่าว
เซี่ยโห้วท่าบอกว่า “ใช่! ถ้าข้ายังมีชีวิตอยู่ ทุกอย่างก็พูดง่าย เพราะข้าสามารถข่มพวกเขาได้ พวกเขาไม่กล้ากบฏ แต่ถ้าข้าตายไปแล้วล่ะ? เจ้ารองคงไม่คิดว่าตัวเองไร้ความสามารถหรอก ไม่คิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง ไม่คิดว่าตัวเองทำได้ไม่ดี ทำไมคนไร้ความสามารถจึงไร้ความสามารถล่ะ? ก็เพราะไม่รู้ตัวว่าตัวเองไร้ความสามารถไง ไม่รู้จุดอ่อนของตัวเอง มีแต่จะหาปัจจัยภายนอก เขาจะคับแค้นใจ รู้สึกว่าข้าปลดเขาออก รู้สึกว่าข้าไม่ยุติธรรมต่อเขา เว่ยซู เจ้าคิดว่าคนแบบนี้เข้าได้เหรอ? เจ้ากล้ารับประกันมั้ยว่าหลังจากข้าตายแล้ว เขาจะไม่ใช้อิทธิพลของตัวเองก่อกวน? ก็ได้ ต่อให้ทุกอย่างที่กล่าวมาจะไม่เกิดขึ้น แต่เจ้าคิดว่าหัวหน้าตระกูลคนใหม่จะเก็บปัญหาคาราคาซังนี้ไว้เหรอ? ถ้าเขาไม่เคยนั่งตำแหน่งหัวหน้าตระกูล หัวหน้าตระกูลคนใหม่อาจจะปล่อยเขาไปได้ แต่เขาดันเคยนั่งตำแหน่งนั้นมาแล้ว คนที่ได้นั่งตำแหน่งนั้น ถ้าไม่สำเร็จก็ล้มเหลว คนชนะเป็นเจ้า คนแพ้ไม่มีศักดิ์ศรีอะไร ถ้าเขารอดชีวิตอยู่ไปวันๆ ต่อให้หัวหน้าตระกูลคนใหม่ปล่อยเขาไป แต่ก็ไม่มีทางปล่อยคนของเขา จะต้องขุดรากถอนโคนกำลังคนของเขาให้หมดสิ้น เพื่อกำจัดปัญหาคาราคาซัง ไม่ให้โอกาสเขาได้หวนคืนมาอีก ถึงตอนนั้นภายในตระกูลจะต้องมีการล้างเลือดแน่ เขาคนเดียวรอดชีวิต แต่ผลที่ตามมาคือมีคนตายมากขึ้น ถึงขั้นทำให้ภายในตระกูลเกิดความวุ่นวายใหญ่โตด้วย เว่ยซู ถ้าเจ้าเป็นข้า เจ้าจะเลือกยังไง?”
เว่ยซูตะลึงงันพูดไม่ออก ตอนนี้ถึงได้พบว่าการเป็นหัหน้าตระกูลเซี่ยโห้วมีราคาต้องจ่ายมากขนาดนี้ คนที่ประสบความสำเร็จถึงจะมีชีวิตรอด คนที่ทำไม่สำเร็จก็มีแต่ทางตาย ไม่ใช่แค่คนนอกที่ต้องการให้เจ้าตาย คนในตระกูลก็ต้องการให้เจ้าตายเช่นกัน แม้แต่บิดาแท้ๆ ก็ยังไม่ปล่อยเจ้าไปเลย
“นายท่าน จะให้โอกาสคุณชายรองสักครั้งไม่ได้เชียวเหรอ?” เว่ยซูขอร้องแล้วจริงๆ
สาเหตุแรก ถึงอย่างไรเขากับเซี่ยโห้วลิ่งก็อยู่ด้วยกันมาหลายปี ปรับตัวเข้าหากันมาหลายปีขนาดนั้น เริ่มมีความผูกพันธ์แล้วนิดหน่อย ต่อให้ไม่ใช่ความผูกพันแต่ก็มีไมตรีอยู่บ้าง เซี่ยโห้วลิ่งดูแลเขาไม่ขาดตกบกพร่อง สาเหตุต่อมา เขาอยู่ในฐานะบ่าวรับใช้ จะเห็นด้วยกับการส่งเซี่ยโห้วลิ่งไปตายโดยไม่ลังเลต่อหน้าเซี่ยโห้วท่าได้อย่างไร? เขาย่อมต้องโน้มน้าวอยู่แล้ว
เซี่ยโห้วท่ารินสุราใส่จอก ชูจอกสุรามองฟ้า กล่าวเสียงเบาว่า “จะไม่ให้โอกาสเขาได้ยังไง? อย่างไรเสียก็เห็นเขาเติบโตอยู่ข้างกายมาตลอด คนเราไม่ใช่ต้นไม้ใบหญ้าที่ไร้ความรู้สึก ข้าเดาว่าหนิวโหย่วเต๋อจะต้องใช้ประโยชน์จากเจ้าหกมาเสี้ยมให้พี่น้องทะเลาะกันอีก แล้วกดดันเจ้าสามต่อไป ดังนั้นข้าจึงยอมเปิดเผยต่อเจ้าหกว่าตัวเองแกล้งตาย ติดต่อเจ้าหกโดยตรง บีบให้เจ้าหกถอยไป บีบให้เจ้าหกยอมปล่อยอำนาจมหาศาลในมือ บีบให้เจ้าหกปลีกวิเวกไปอยู่ที่สมาคมอาวุโส เพราะจะทำให้หนิวโหย่วเต๋อรู้จักหวาดกลัว”
พอดื่มอึกเดียวหมดครึ่งจอก ก็พูดต่อว่า “พอมาดูตอนนี้ เป็นข้าเองที่ใช้ความรู้สึกมากไป หนิวโหย่วเต๋อวางลูกศรบนสายธนูแล้ว มิอาจไม่ยิง ในมือเขามีสิ่งที่พวกเราต้องการ ไม่กลัวเลยว่าตระกูลเซี่ยโห้วจะแตกคอกับเขา พอข้าได้รับข้อความจากเจ้า ทันทีที่รู้ว่าหนิวโหย่วเต๋อสืบข่าวเรื่องบัวโลหิตจากเจ้ารอง ข้าก็รู้ว่าจบแล้ว สุดท้ายหนิวโหย่วเต๋อก็ยังจะลงมือกับเจ้ารอง ไม่คิดจะปล่อยเจ้ารองไป วางกับดักเอาไว้แล้ว แล้วเจ้ารองก็เดินเข้าไปในกับดักอย่างนั้นแล้ว! น่าขำที่เจ้ารองยังคิดจะไปเยี่ยมเยียนกะทันหัน จะทำให้หนิวโหย่วเต๋อทำอะไรไม่ถูก บีบให้หนิวโหย่วเต๋อมอบบัวโลหิตให้ หารู้ไม่ว่าหนิวโหย่วเต๋อรอให้เขาไปเยี่ยมเยียนตั้งนานแล้ว หนิวโหย่วเต๋อตั้งใจวางกับดักรอให้เจ้ารองเป็นฝ่ายยื่นคอเข้าไปเองตั้งแต่แรกแล้ว!”
เขาตบจอกสุราลงบนโต๊ะ แล้วชี้เว่ยซู ตำหนิอย่างโกรธเคืองว่า “โง่เขลาเบาปัญญา ทำไมโง่เขาขนาดนี้! ข้าดึงเจ้าหกออกมาเพื่อเตือนพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าติดต่อเจ้าหกไม่ได้ แต่กลับไม่ตื่นตัวเลยสักนิด ถูกบัวโลหิตหลอกล่อจนเลอะเลือน ใจร้อนอยากสำเร็จไวๆ ดึงดันจะกระโดดเข้าไปในกับดักให้ได้ เจ้าลองพูดมาซิ เป็นข้าที่ไม่ให้โอกาสเขา หรือเป็นเขาเองที่รีบร้อนไปรนหาที่ตาย? คนแบบนี้จะเป็นหัวหน้าตระกูลได้ยังไง? จะนำเรืออย่างตระกูลเซี่ยโห้วฝ่าคลื่นลมเดินต่อไปข้างหน้าได้ยังไง หรือจะให้เขานำพาทั้งตระกูลเซี่ยโห้วชนโขดหินจมลงเหรอ? ข้าให้โอกาสเขาแล้ว เป็นเขาเองที่ทิ้งมันไป ถ้าข้าช่วยเขาอีกครั้ง ปล่อยให้เขานั่งตำแหน่งนั้นต่อไป ก็เท่ากับไม่ยุติธรรมต่อลูกชายคนอื่น เท่ากับปล่อยให้เขาลากพี่น้องทั้งหมดลงไปตายด้วย เจ้าคิดว่าข้าควรจะทิ้งเขามั้ยล่ะ?”
เขายกกาสุรารินต่อ ความโกรธยังไม่หายไป แต่น้ำเสียงกลับเปลี่ยนเป็นนสงบนิ่งขึ้น “เว่ยซู หลังจากเขาเป็นหัวหน้าตระกูลแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบข้าไม่เคยแทรกแซงการตัดสินใจอะไรของเขาเลย ต่อให้เป็นตอนนี้ ข้าก็แค่ไม่เข้าไปแทรกแซงเขาก็เท่านั้นเอง เขาไม่ใช่เด็กน้อยสามขวบ เขามีการตัดสินใจของตัวเอง สุราขมที่เขากลั่นเอง เขาก็ต้องลิ้มรสด้วยตัวเอง! ถ้าเขามีความสามารถพ้นเคราะห์ครั้งนี้ไปได้ นั่นจะเป็นบทเรียนที่จ่ายเงินเท่าไรก็ซื้อไม่ได้ มีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสีย ถ้าข้าตายไปแล้ว เป็นการแจ้งเตือนดังๆ ให้หัวหน้าตระกูลคนถัดไปเช่นกัน…หลายปีก่อนข้าลังเลมาตลอด แต่สุดท้ายก็แข็งใจสร้างสถานการณ์ให้ลูกชายตัวเองได้รับความทุกข์สักหน่อย ตอนนี้ข้าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ทำได้เพียงให้คนอื่นไปสั่งสอน แล้วตัวเองก็ทำเป็นไม่เห็น !”
ที่แท้คุณชายหกก็ถูกบีบให้ถอยไปที่สมาคมอาวุโส! เว่ยซูมองเขาอย่างเหม่อลอย ในสมองมีแต่ความว่างเปล่า พึมพำว่า “เป็นเพียงการคาดเดาของนายท่าน คุณชายรองอาจยังมีโอกาส”
“ตอนบีบให้เจ้าหกถอยออกไป ข้าพิสูจน์กับเจ้าหกแล้ว ในปีนั้นเจ้าหกเอาข่าวที่เจ้ารองจะลงมือกับพี่น้องมาจากหนิวโหย่วเต๋อจริงๆ จึงเตือนเจ้าสามและคนอื่นๆ ได้ทันเวลา” เซี่ยโห้วท่ากล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงปกติ
เว่ยซูตัวสั่น ดวงตาฉายแววสิ้นหวัง “ล้วนเป็นความผิดของเว่ยซู ไม่ได้เตือนคุณชายรองให้ทันเวลา” ขณะที่พูดก็คลานออกไปนิดหน่อย แล้วคุกเข้าเอาศีรษะโขกพื้น น้ำตาเริ่มไหลอาบใบหน้า
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมก่อนหน้านี้นายท่านต้องให้เขาอ้างเหตุผลหลบเลี่ยงไม่ไปกับคุณชายรอง เพราะรู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องชี้แจงอะไรกับคุณชายรองอีกแล้ว นายท่านดึงเขาเอาไว้ในช่วงเวาสำคัญ ไม่ให้เขากระโจนเข้าสู่ความตาย
ยอมให้ลูกชายตัวเองไปตาย แต่ไม่ยอมให้เขาไปตาย แสดงว่าในสายตาของนายท่าน เขายังสำคัญกว่าลูกชายของนายท่านเสียอีก
นายท่านทำได้ถึงขั้นนี้ เขายังจะพูดอะไรได้อีก บุญคุณยิ่งใหญ่ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร ทำได้เพียงโขกศีรษะกับพื้นไม่หยุด
เซี่ยโห้วท่าใช้ตะเกียบคีบอาหารทะเล ไม่ได้กล่าวอะไร รับไว้อย่างสงบใจ ไม่พูดอะไร และไม่ได้ห้ามอะไร
หลังจากนั้นพักใหญ่ เว่ยซูที่หัวแตกก็อารมณ์สงบแล้ว เงยหน้าถามว่า “จะเอาแต่ดูแผนชั่วของหนิวโหย่วเต๋อสำเร็จหรือขอรับ?”
เซี่ยโห้วท่าหยุดใช้ตะเกียบ จ้องเขาอย่างเย็นเยียบ “ความโง่ติดต่อกันได้เหรอ? อยู่กับเจ้ารองนานแล้ว เจ้าเองก็เลอะเลือนเหมือนกันเหรอ? ถ้าข้าจะทำลายแผนชั่วของหนิวโหย่วเต๋อ ก็ทำให้เขาตายโดยไร้ที่ฝังได้ทุกเมื่อ อาศัยแค่สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ขอเพียงข้าบอกให้ฮ่าวเต๋อฟางรู้ ฮ่าวเต๋อฟางจะปล่อยเขาไปเหรอ? เจ้าต้องเข้าใจนะ ไม่ว่าจะเป็นอาณาเขตทัพใต้ที่ฮ่าวเต๋อฟางครอบครอง หรืออาณาเขตทัพใต้ที่หนิวโหย่วเต๋อครอบครอง สำหรับตระกูลเซี่ยโห้วแล้วไม่มีอะไรต่างกัน ภัยคุกคามใหญ่สุดของตระกูลเซี่ยโห้วไม่ใช่หนิวโหย่วเต๋อ แต่เป็นพระปีศาจ หนิวโหย่วเต๋อน่ะ ตราบใดที่มีผลประโยชน์ก็จะร่วมงานกับตระกูลเซี่ยโห้ว ส่วนพระปีศาจล่ะ? ถ้าพระปีศาจฟื้นกลับร่างจริงเมื่อไร…ข้ารู้จักพระปีศาจดีเกินไป พระปีศาจจะต้องทำลายทั้งตระกูลเซี่ยโห้วแน่! อาศัยพลังอภินิหารของพระปีศาจ ถ้าถูกเขาจับได้เมื่อไร ตระกูลเซี่ยโห้วก็ไม่มีความลับอะไรให้ปกปิดเลย โดนเขาขุดขึ้นมาทั้งรากแน่ ไม่มีทางฟื้นคืนได้อีกตลอดไป! หนิวโหย่วเต๋อลงมือในเวลา ก่อนหน้านี้ข้าสงสัยว่าในใอหนิวโหย่วเต๋อมีของอะไรที่ช่วยให้เจ้าสามรวบรวมใจคนตระกูลเซี่ยโห้วได้ ตอนนี้ถึงได้รู้ ที่แท้ก็เป็นสมุนไพรจิตวิญญาณของมารโลหิตตามตำนานในปีนั้น”
“ไอ้หนิวจัญไรมันปลิ้นปล้อนนัก นายท่านไม่กลัวว่าสมุนไพรจิตวิญญาณนั่นจะเป็นเรื่องหลอกลวงเหรอ?” เว่ยซูถาม
เสียงดังปั้ง เซี่ยโห้วท่าใช้ตะเกียบในมือตบโต๊ะอย่างแรง ทำเอาเว่ยซูตกใจ “เลอะเลือน! ตระกูลเซี่ยโห้วประคองเขาขึ้นมาได้ ก็ทำลายเขาได้ ถ้าเขาทำสำเร็จแล้ว จะต้องพึ่งพาตระกูลเซี่ยโห้วให้ช่วยเขาคุมอาณาเขตทัพใต้ให้สงบแน่นอน ถ้าเขาหลอกลวงเรื่องนี้ เขาก็รับผลที่ตามมาไม่ไหวแน่ ดังนั้นสมุนไพรจิตวิญญาณจะต้องมีอยู่จริงแน่นอน! ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ สำหรับตระกูลเซี่ยโห้วแล้ว การกำจัดพระปีศาจเหนือกว่าอะไรทั้งนั้น กำลังของตระกูลเซี่ยโห้วจะต้องปรองดองเป็นหนึ่งเดียว เจ้ารองหมดความน่าเชื่อถือแล้ว ทำให้เกิดผลที่ไม่อาจคาดเดา ถ้าเจ้าสามสามารถใช้สมุนไพรจิตวิญญาณสู้กับพระปีศาจได้ ก็จะได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากทุกคน เพื่อป้องกันไม่ให้พระปีศาจกลับมาอีกครั้ง ข้าทุ่มเทมาหลายปี ทำให้คนในใต้หล้าหวาดกลัวพระปีศาจเหมือนกลัวเสือ ก็เพราะไม่อยากให้โอกาสเขากลับมาผงาดอีกครั้ง หนิวโหย่วเต๋อก็ไม่มีทางให้ปีศาจแบบนี้ฟื้นชีพเช่นกัน ถ้าไม่ให้สมุนไพรจิตวิญญาณกับพระปีศาจ เขาก็กังวลว่าพระปีศาจจะมาล้างแค้น ถ้าเขาต้องการให้ตระกูลเซี่ยโห้วช่วยคุมอาณาเขตทัพใต้ให้สงบ ก็ต้องพยายามให้ความร่วมมือเต็มที่กับตระกูลเซี่ยโห้วเพื่อกำจัดพระปีศาจ ดังนั้นในเวลานี้ถ้าหนิวโหย่วเต๋อยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งเป็นผลดีให้พวกเราสู้กับพระปีศาจ ด้วยเหตุนี้ มอบอาณาเขตทัพใต้ให้เขาแล้วจะเป็นไรไป? ต้องทำให้เขาสงบ เอาเป็นว่าจะปล่อยให้เขามอบสมุนไพรจิตวิญญาณให้พระปีศาจไม่ได้เด็ดขาด! ข้าใกล้จะสิ้นอายุขัยแล้ว ก่อนตายจะต้องกำจัดพระปีศาจให้ได้!”
…………………