พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 2162 คนบาปชั่วนิรันดร์
ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้ ชิงเยว่ให้พวกเเฮยทั่นนำทาง เร่งไปยังสถานที่เป้าหมาย
ในจุดลึกของร่องลำธารระหว่างภูเขา โพรงถ้ำน้อยใหญ่ต่อเนื่องกัน มีรูนับไม่ถ้วน ลักษณะพื้นดินแบบนี้ไม่รู้ว่าสร้างขึ้นมาได้อย่างไร
พวกซีเหมินอู๋เหย่ที่ซ่อนตัวอยู่ในจุดลึกใต้ดินมีเพลิงเดือดเผาไหม้อยู่บนตัว ถูกปราณชั่วร้ายที่กรอกเข้ามาล้อมไว้ไม่หยุด เพิ่งซ่อนตัวได้ไม่นาน ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกแล้ว ทำให้กลุ่มคนรู้สึกว่าท่าไม่ดีแล้ว
“ด้านนอกมีความเคลื่อนไหวอะไร?” ซีเหมินอู๋เหย่ถามเสียงต่ำ
จู่ๆ ด้านนอกก็มีทหารคนหนึ่งเข้ามา “ปราณชั่วร้ายด้านนอกมืดฟ้ามัวดิน ใช้ดวงตาอิทธิฤทธิ์ก็ไม่มีประโยชน์ มองเห็นเหตุการณ์ไม่ชัดเลยขอรับ ถ้าจะพุ่งเข้าไปตรวจสอบก็กลัวจะเปิดเผยร่องรอยการเดินทาง”
ซีเหมินอู๋เหย่ขมวดคิ้วมุ่น สิ่งที่เขากังวลในตอนนี้ก็คือ เกิดสถานการณ์อย่างนี้แล้ว ไม่ใช่ว่าถูกเปิดโปงร่องรอยการเดินทางแล้วหลอกหรือ?
ด้านนอก ทัพอารักขาห้าล้านของหนิวโหย่วเต๋อปรากฏตัวแล้ว กระจายครัวบริเวณรอบๆ ร่องลำธารระหว่างภูเขา โอบล้อมพื้นที่ซ่อนตัวของกำลังพลดักซุ่มเอาไว้แล้ว
ไม่ผิดหรอก มากันแค่ห้าล้านคนเท่านั้น ต้องการจะใช้กำลังพลห้าล้านต่อสู้กับกำลังพลกองทัพองครักษ์สิบล้าน
ความได้เปรียบเดียวที่มีก็คือ ในทัพอารักขาห้าล้านมีวิญญาณชั่วร้ายปะปนอยู่ไม่น้อย ควบคุมปราณชั่วร้ายไม่ให้รบกวนฝ่ายนี้
หนึ่งในวิญญาณชั่วร้ายนั่งยองๆ บนพื้น วาดลักษณะพื้นที่ของจุดที่ล้อมเอาไว้ออกมาคร่าวๆ แล้วชี้ไปยังจุดที่มีคนซ่อนตัวอยู่โดยละเอียด
หลังจากชิงเยว่ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ชัดเจนแล้ว ก็รีบวางกำลังทันที รีบระดมกำลังพลหนึ่งแสน แล้วขี่สัตว์พาหนะที่บินได้ไปที่นั่น บนตัวของสัตว์พาหนะทุกตัวล้วนพกวิญญาณชั่วร้ายเอาไว้เพื่อไม่ให้ถูกรบกวนจากปราณชั่วร้าย ขณะเดียวกันทัพใหญ่ที่โอบล้อมก็ขยายขอบเขตในการล้อมให้กว้างขึ้น
“ไล่เมฆปราณชั่วร้ายไป” ชิงเยว่สั่งเฮยทั่น
เฮยทั่นกล่าวอย่างตกใจว่า “เจ้ากำลังล้อเล่นเหรอ? ถ้าไม่มีปราณชั่วร้ายที่นี่ให้ความร่วมมือ คนห้าล้านของพวกเจ้าจะเอาชนะคนสิบล้านของอีกฝ่ายได้หรือไง?”
ชิงเยว่บอกว่า “ถ้าอยู่บนพื้นดิน ไม่มีความร่วมมือจากปราณชั่วร้ายก็เป็นปัญหาจริงๆ แต่พวกเขาหลบอยู่ในจุดลึกใต้ดินเพื่อปิดบังตัวตน ไม่ต่างอะไรกับดึงออกมาจากหลุมศพ กระจายกำลังพลสิบล้านออกมาไม่ได้เลย ปฏิบัติตามคำสั่งเดี๋ยวนี้ เลิกบ่นได้แล้ว!”
เฮยทั่นถลึงตา “ไม่ให้ข้าบ่นเหรอ? ข้าจะคอยดูเจ้า…” พอเห็นชิงเยว่หยิบระฆังดาราออกมาทำท่าจะติดต่อเหมียวอี้ นึกขึ้นได้ว่าเหมียวอี้สั่งให้เขาฟังคำสั่งของผู้บัญชาการสูงสุดบนสนามรบ เขาก็รีบโบกมือบอกว่า “ก็ได้ ก็ได้ นับว่าเจ้าโหด!” แล้วก็หันกลับไปสั่งให้วิญญาณชั่วร้ายปฏิบัติตามทันที
สัตว์พาหนะหนึ่งหมื่นตัวทะยานขึ้นฟ้าและจัดกระบวนทัพ ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์เล็งไปยังจุดลึกของหมอกชั่วร้าย เมฆปราณชั่วร้ายเริ่มกระจายตัวแล้ว รอจนกระทั่งสภาพบนพื้นดินปรากฏให้เห็นวับๆ แวมๆ ก็ได้ยินเสียง “ยิงธนู” ดังขึ้น ลูกธนูนับหมื่นยิงออกมาพร้อมกัน ลำแสงนับไม่ถ้วนยิงไปยังร่องลำธารระหว่างภูเขาอย่างบ้าคลั่ง
บึ้ม! ชั่วพริบตาเดียวก็เหมือนฟ้าพลิกแผ่นดินแล้ว
ในจุดลึกใต้ดิน พื้นดินสะเทือนอย่างรุนแรง ทำเกิดรอยแยกเป็นใยแมงมุมและพังถล่มในชั่วพริบตาเดียว พวกซีเหมินอู๋เหย่กำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะเปลี่ยนสถานที่ซ่อนตัวหรือไม่ พวกเขาตกใจกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้ เพิ่งจะเงยหน้ามอง ก็ถูกดินกลบฝังแล้ว หลังจากถูกฝังก็ถูกพลังมหาศาลทั้งฉีกทั้งสับมั่วไปหมด
กลุ่มทหารดิ้นรนร่ายอิทธิฤทธิ์ต่อต้านอย่างสุดชีวิต เสียงระเบิดดังบึ้มทำให้ก้อนหินปลิวว่อน อยู่ที่นี่ตัวเองก็เหาะไม่ได้ ท่ามกลางความวุ่นวายนี้ใช้สัตว์พาหนะไม่สะดวก พยายามปล่อยกำลังพลออกมาต่อต้าน สัตว์พาหนะที่บินอย่างวุ่นวายถือโอกาสหาช่องโหว่แบกคนพุ่งขึ้นมา
ตอนนี้แรงระเบิดมหาศาลได้กวาดหมอกชั่วร้ายที่ยังสลายตัวไม่ทันให้กระเพื่อมออกไปแล้ว ตรงหน้าเห็นกำลังพลลนลานพุ่งออกมา
ลูกธนูดาวตกยิงออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับพายุฝน ไม่ใช่การยิงพร้อมกัน ใช้สองมือโบกบัญชาการจากบนลงล่าง ในบรรดามือธนูหนึ่งแสนที่เตรียมไว้ ให้ยิงลูกธนูออกมาเพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น จากนั้นก็ยิงอีกหนึ่งในสามส่วน แล้วสุดท้ายก็ค่อยยิงอีกหนึ่งในสามส่วนที่เหลือ
มือธนูหนึ่งแสนคนบนฟ้า ลูกธนูดาวตกสามระลอกที่ผลัดกันยิง รักษาการโจมตีให้ต่อเนื่อง รวบรวมกำลังผลัดกันยิง ไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายได้รวมตัวกันป้องกัน
กำลังพลหลายล้านที่ล้อมอยู่รอบๆ มีอาวุธเทียบกับกองทัพองครักษ์ไม่ได้ มีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์เพียงเกือบล้านคันเท่านั้น แต่กลับใช้วิธีการโจมตีแบบสลับยิงสามระลอกเช่นเดียวกัน วิธีการยิงแบบนี้ค่อนข้างอิสระ ไม่ได้ยิงโจมตีเปป็นฝนธนู แค่ยิงสัตว์พาหนะที่บินออกมาจากในหลุมเท่านั้น
พอสัตว์พาหนะโดนยิง คนบนตัวสัตว์ที่เหาะไม่ได้ก็ย่อมตกลงมาแล้ว
วิญญาณชั่วร้ายที่ปะปนอยู่ในกำลังพลที่โจมตีได้ยินแต่เสียงระเบิด ทั้งยังมีเสียงกรีดร้องดังไม่ขาดสาย พวกเขาบ้างก็ทำสีหน้าหวาดกลัวบางก็ทำสีหน้าตื่นตระหนก
กำลังพลที่ชุลมุนวุ่นวายอยู่ตรงหน้าทำให้ซีเหมินอู๋เหย่แทบจะมองเหตุการณ์ด้านนอกไม่ชัด หินดินปลิวว่อนบดบังสายตา เสียงระเบิดดังไม่หยุด สัตว์พาหนะที่แบกคนพุ่งขึ้นมาตกลงอีกครั้ง เกราะป้องกันรวมที่สร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากยังไม่ทันมั่นคง ก็ถูกอานุภาพการโจมตีจากฝูงธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์บนฟ้าถล่มพังแล้ว ภายใต้การโจมตีระลอกที่สอง เกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงกรีดร้องโหยหวนดังไม่ขาดหู
ข้างล่างชุลมุนจนบัญชาการไม่ได้ผลแล้ว เงาคนกระเด็นมั่วไปหมด หินดินระเบิดขึ้นมากลบซ้ำ จะถือธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์โต้ตอบด้านบนก็ลำบาก เพราะด้านบนเต็มไปด้วยคนของตัวเองที่พุ่งขึ้นไป ยิงธนูก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่าคนของตัวเอง
แต่ก็ยังมีบางคนที่พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่สนใจความตาย ไม่ป้องกันอะไรทั้งนั้น ง้างธนูแล้วยิงเลย โจมตีกลับอย่างบ้าระห่ำ
ลูกธนูดาวตกที่ยิงออกมานับไม่ถ้วนได้สร้างความเสียหายให้กับกำลังพลที่โจมตีบางส่วนแล้วจริงๆ แต่แม่ทัพที่บัญชาการไม่สะทกสะท้าน ชิงเยว่ออกคำสั่งให้สู้ตายแล้ว อนุญาตให้บุกโจมตีเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ป้องกัน ยอมแลกทุกอย่างเพื่อรักษาจังหวะการโจมตีนี้ไว้ จะทำให้ฝ่ายตัวเองชุลมุนจนอีกฝ่ายมีโอกาสไม่ได้เด็ดขาด ไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายรวมตัวกันสร้างเกราะป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
เฮยทั่นที่ดูอยู่ข้างๆ ใบหน้ากระตุก นี่คือการเข่นฆ่าครั้งใหญ่โดยแท้!
ในหลุมดินขนาดใหญ่ ทหารหนึ่งพันคนใช้เกราะปกป้องซีเหมินอู๋เหย่อย่างสุดชีวิต และรอบกายเขาก็มีสภาพโศกนาฏกรรม กำลังพลถูกยับยั้งจนพุ่งออกไปไม่ได้ เผยความสิ้นหวังออกมาแล้ว
นี่ก็คือผลของการปล่อยกำลังพลจำนวนมากออกมา แต่ก็ไม่มีทางเลือก ถ้าไม่ปล่อยออกมาต่อต้าน อาศัยคนจำนวนน้อยอย่างพวกเขา ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีด้วยธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ที่หนาแน่นขนาดนี้ได้เลย เกรงว่าคงกำจัดพวกเขาได้ตั้งแต่การยิงระลอกแรกแล้ว
“แม่ทัพใหญ่หัน!” จู่ๆ ด้านข้างก็มีเสียงร้องตกใจ
ซีเหมินอู๋เหย่พยายามเอียงนหน้ามอง เห็นเพียงท่ามกลางกลุ่มคนที่ชุลมุน แม่ทัพใหญ่หันไห่นำผู้ติดตามหนึ่งร้อยคนชูโล่จัดกระบวนทัพป้องกันพุ่งขึ้นฟ้า หามุมที่รับมือยากหวังจะเลี่ยงจุดโจมตีที่อยู่ตรงกลาง พุ่งออกจากจุดที่มีพลังโจมตีอ่อนแอรอบๆ หลุม ทว่าตอนที่เพิ่งพุ่งออกจากหลุมขนาดใหญ่ ก็ถูกกำลังพลหนึ่งหมื่นที่ชิงเยว่กระจายไว้รอบหลุมยิงถล่ม ฝนธนูที่ยิงมาจากรอบๆ ทำให้พวกเขาต้องลงมาอีกครั้ง
เดิมทีชิงเยว่ก็อยู่ในระดับขุนพลเก่าที่เชี่ยวชาญศึกสงครามอยู่แล้ว เป็นสตรีผู้ไม่ยอมเป็นรองบุรุษ เตรียมตัวในด้านนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว ป้องกันไม่ให้กองทัพฝ่ายศัตรูสังหารฝ่าออกมา บนห้าจุดที่อยู่รอบหลุมวางกำลังมือธนูไว้หนึ่งหมื่น คนที่อยู่บนห้าจุดนี้ง้างธนูอยู่ตลอดโดยไม่ยิง พอเห็นคนออกมาเป็นกลุ่มก็ยิงรวมในระยะใกล้ทันที
หันไห่โดนธนูหลายสิบคันยิงตกลงมาท่ามกลางกลุ่มคนที่ชุลมุนวุ่นวาย ลูกน้องของซีเหมินอู๋เหย่ดิ้นรนเบียดกลุ่มคนเข้าไปชิงตัวเขากลับมา ดึงเข้ามาอยู่ในโล่ป้องกัน
โชคดีที่หันไห่วรยุทธ์สูงมาก ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ไม่ฝ่าทะลุเกราะ แต่คงถอดเกราะรบชุดนั้นจากตัวเขาได้ยากแล้ว เพราะมันบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปไปเยอะมาก แม้แต่ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนรูปไปเช่นกัน ปากและจมูกมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
พอเห็นซีเหมินอู๋เหย่ ไม่รอให้ซีเหมินอู๋เหย่เอ่ยปาก เขาก็ออกแรงยกมือห้ามไม่ให้ซีเหมินอู๋เหย่เปลืองคำพูดแล้ว เพราะเขารู้ว่าตัวเองทนไม่ไหวแล้ว มัวเสียเวลาไม่ได้ เขาถลึงตาจ้องซีเหมินอู๋เหย่ ปากพ่นฟองเลือดออกมา ยังคงดิ้นรนร่ายอิทธิฤทธิ์ถ่ายทอดเสียงอบกว่า “อีกฝ่ายมีคนไม่เกินห้าล้าน โจรหนิวรังแกกันเกินไปแล้ว! ส่งคน…เปิด…” นี่คือข้อสรุปสถานการณ์ของศัตรูที่เขารีบสังเกตการณ์รอบๆ ตอนตกลงมา พอพูดจบศีรษะก็ตกลงไร้การเคลื่อนไหวแล้ว
“พี่หัน!” ซีเหมินอู๋เหย่ตะโกนเรียก แล้วก็ปล่อยทิ้ง เพราะนี่ไม่ใช่เวลามาแสดงความเศร้าโศก ไม่มีเวลามากพอให้ร่ำลากัน ความคิดเห็นที่หันไห่ดิ้นรนนำกลับมาได้ต่างหากที่สำคัญมาก
ตอนแรกเขายังนึกว่าหนิวโหย่วเต๋อจะต้องรวบรวมกำลังพลจำนวนมากมาสู้กับเขาแน่ ครั้งนี้จะต้องรอดยากแน่นอน ใครจะคิดว่าอีกฝ่ายจะมีแค่กำลังพลห้าล้าน!
อวดดี! อวดดีเกินไปแล้ว! กองทัพองครักษ์คือทัพใหญ่ที่เกรียงไกรที่สุดในใต้หล้า แต่ไหนแต่ไรมาพวกเขาก็อาศัยคนน้อยเอาชนะคนเยอะมาตลอด ใครจะคิดว่าหนิวโหย่วเต๋อจะส่งคนห้าล้านมาโจมตีพวกเขาที่มีสิบล้าน ทั้งยังใช้กำลังปะทะกันตรงๆ อีก เป็นการหยามเกียรติกองทัพองครักษ์จริงๆ ไม่แปลกใจที่หันไห่ตายตาไม่หลับ ก่อนตายยังด่าว่าโจรหนิวรังแกกันเกินไปแล้ว!
“รายงานสถานการณ์ต่อเบื้องบน! แล้วก็บอกเบื้องบนด้วย ว่าข้าซีเหมินอู๋เหย่เป็นคนบาปชั่วนิรันดร์ของกองทัพองครักษ์!” ซีเหมินอู๋เหย่หันกลับมาบอกลูกน้องอย่างคับแค้น รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดมหันต์แล้ว ไม่ควรนำคนจำนวนมากขนาดนี้มาหลบอยู่ใต้ดิน ที่นี่ไม่ใช่ข้างนอก คนไม่สามารถเหาะเหินได้อย่างอิสระ เขาในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการสูงสุดในสนามรบ การตัดสินใจพลาดครั้งเดียวจะต้องทำให้พี่น้องจำนวนนับไม่ถ้วนเอาชีวิตไปถมความผิดนี้!
พอพูดทิ้งท้ายเอาไว้ ซีเหมินอู๋เหย่ก็เรียกคนที่อยู่ข้างกายให้ตามเขาออกจากความชุลมุนทันที ไม่มีทางเลือก ไม่สามารถบัญชาการตามปกติได้แล้ว ไร้ระเบียบเกินไปแล้ว
ผ่านไปไม่นานนัก กำไลเก็บสมบัติวงหนึ่งก็ยิงจากในหลุมขึ้นไปบนฟ้า มีเสียงระเบิดดังปั้ง ระเบิดเองกลางอากาศ คนหลายร้อยขี่สัตว์พาหนะที่บินได้ปรากฏตัวขึ้นมา พุ่งสังหารไปยังกระบวนทัพมือธนูบนฟ้า
“อย่าเสียระเบียบ ใครขัดคำสั่ง ประหาร! ปิ่งซ้ายโจมตีกลับ!” แม่ทัพที่บัญชาการมือธนูอยู่บนฟ้าตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
ทันใดนั้นก็มีคนคนหนึ่งพุ่งเข้ามา กระบวนทัพบนฟ้าเสียระเบียบเล็กน้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่แม่ทัพที่บัญชาการก็ระงับไว้ได้อย่างรวดเร็ว มือธนูหลายพันที่อยู่ฝั่งปิ่งซ้ายรีบง้างสายธนูยิง โจมตีกลุ่มคนที่บุกสังหารเข้ามาจนหกคะเมน
ทว่าข้างล่างเริ่มมีกำไลเก็บสมบัติโยนขึ้นฟ้ามาไม่หยุด ระเบิดอยู่กลางอากาศไม่ขาดสาย กลุ่มคนหลายร้อยบ้างหลายพันบ้างโผล่ขึ้นมาบนฟ้าไม่หยุด ตะโกนฆ่าพลางพุ่งโจมตีใส่กระบวนทัพของมือธนูบนฟ้าอย่างสุดชีวิต
ชวิ้ง! ชิงเยว่ชักกระบี่ออกมา “กองหนุน เจี่ยหนึ่ง อี่หนึ่ง ปิ่งหนึ่ง โจมตี!”
ฝั่งนี้ไม่ได้มีมือธนูมากขนาดนั้น คนส่วนใหญ่ล้วนเป็นกองหนุนอยู่ข้างหลัง พอได้ยินคำสั่ง กำลังพลกลุ่มละแสนที่อยู่ตรงสามตำแหน่งรอบหลุมลึกก็ปล่อยสัตว์พาหนะที่บินได้ออกมา แล้วบุกสังหารขึ้นไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว คอยกำจัดความกังวลให้กระบวนทัพของมือธนู
แต่ข้างล่างมีกำไลเก็บสมบัติยิงขึ้นมาไม่หยุด มีกำลังพลระเบิดกลางอากาศไม่หยุด พอกำลังพลตะลุมบอนกันบนฟ้าเยอะขึ้น ถ้าจะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการยิงโจมตีของกระบวนทัพมือธนูบนฟ้าเลยก็คงยาก จังหวะการโจมตีของฝั่งนี้เริ่มเสียระเบียบแล้ว
พอฝั่งนี้เผยช่องโหว่การโจมตี คนข้างล่างที่เดิมทีก็พุ่งขึ้นไปอย่างสุดชีวิตอยู่แล้ว ตอนนี้ขี่สัตว์พาหนะพุ่งออกมาท่ามกลางกลุ่มคนที่วุ่นวายทันที บ้างก็ถูกรอบข้างยิงร่วงลงมา บ้างก็พุ่งเข้าไปในกลุ่มคนที่ตะลุมบอนกันบนฟ้า
กำลังพลในหลุมเริ่มรวมกลุ่มป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมกลุ่มเป็นโล่ต้านการโจมตีที่มาจากสี่ด้านแปดทิศ ทหารในหลุมที่กลุ่มแตกกระจายก็เป็นฝ่ายพุ่งเข้าไปในโล่กำบังเอง ราวกับมีมังกรร้อยตัวพุ่งไปสี่ด้านแปดทิศ เสียงตะโกนฆ่าดังสะเทือนฟ้า!
………………