พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 2200 ข้อกล่าวหา
ศึกใหญ่ยังไม่จบ เขายังไม่แพ้ ไม่น่าเชื่อว่าหนิวโหย่วเต๋อจะกล้าประกาศตนเป็นราชัน เมื่อข่าวแพร่ออกไป คนในใต้หล้าก็จะนึกว่าเขาแพ้แล้ว
ประเด็นสำคัญของปัญหาก็คือ สี่ทัพหลุดออกจากการควบคุมของเขาแล้ว กำลังพลที่อยู่ในการปกครองของอาณาเขตสี่ทัพจะไม่ช่วยเขาพูดแล้ว สำหรับนักพรตแต่ละพื้นที่ในใต้หล้า จะไปรู้สถานการณ์การรบโดยละเอียดได้อย่างไร สำหรับพวกเขา แม้แต่สี่ทัพก็ยังไม่อยู่ในการควบคุมของประมุขชิง แสดงว่าสถานการณ์ของประมุขชิงไม่ราบรื่นแน่นอน
ยังมีจุดที่สำคัญที่สุดอีกจุดหนึ่ง ถ้าสงครามอยู่ในสภาพยืดเยื้อเป็นเวลานาน จะมีทรัพยากรมาเติมหรือไม่ก็เป็นปัญหาหนึ่ง ถ้าสำนักน้อยใหญ่ในใต้หล้าคิดว่าประมุขชิงไม่ไหวแล้ว มีหรือที่จะยังส่งทรัพยากรมาเพื่อช่วงชิงสิทธิพิเศษจากตำหนักสวรรค์ในภายหลังอีก เกรงว่าทุกคนคงกังวลว่าจะขัดใจหนิวโหย่วเต๋อ กังวลว่าเมื่อหนิวโหย่วเต๋อชนะแล้วจะมาคิดบัญชีกับพวกเขา
หนิวโหย่วเต๋อประกาศตนเป็นราชัน ถ้าหากยังปราบปรามไม่ได้เสียที เกรงว่าผลกระทบที่ไม่ดีต่อเขาก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ สั่นคลอนอำนาจบารมีของเขาในการปกครองใต้หล้า!
ประมุขพุทธะหยุดดึงลูกประคำในมือ มีสีหน้าหนักใจ ผลกระทบของประมุขชิงก็ใช้กับเขาได้เช่นกัน…
เป็นอย่างที่ฝั่งนี้คาดไว้ การที่เหมียวอี้ประกาศตนเป็นราชันไม่ใช่การปิดประตูประกาศตนเป็นราชัน แต่เป็นการประกาศให้คนรู้ทั้งใต้หล้า ประกาศต่อใต้หล้าผ่านช่องทางต่างๆ
ช่องทางข่าวสารของเหมียวอี้ใหญ่โตและแข็งแรงมาก นอกจากเครือข่ายทั้งข้างบนข้างล่างของทัพใต้ ทัพตะวันออก ทัพเหนือแล้ว สมาคมวีรชนที่นำโดยตระกูลหวงฝู่ก็ยิ่งประกาศว่าสนับสนุนหนิวโหย่วเต๋อ ทั้งยังมีการสนับสนุนที่แข็งแรงจากตระกูลเซี่ยโห้ว พอปล่อยข่าวออกไปก็ทำให้คนรู้กันเร็วมาก สร้างปรากฏการณ์ลวงตาต่อคนในใต้หล้าว่า ประมุขชิงกับประมุขพุทธะกำลังเสื่อมสลาย กำลังจะจบสิ้นแล้ว
อาศัยช่องทางข่าวสารต่างๆ ที่กว้างขวาง ขณะเดียวกันก็ประกาศข้อกล่าวหาประมุขชิงกับประมุขพุทธะหลายสิบฉบับ :
ประณามว่าประมุขชิงกับประมุขพุทธะถูกครอบงำด้วยลาภยศจนหน้ามืดตามัว แย่งชิงอำนาจผลประโยชน์ วางแผนชั่วทำร้ายพี่น้องร่วมสาบานอย่างประมุขไป๋ กักบริเวณประมุขปีศาจ
ประณามว่าประมุขชิงยัดเยียดความผิดที่อาจจะไม่จริงให้อิ๋งจิ่วกวง อดีตอ๋องสวรรค์คุมทัพตะวันออก กลับคำพิพากษาเพื่ออิ๋งจิ่วกวง อภัยโทษให้กำลังพลเดิมสายตระกูลอิ๋ง เลือกกำลังพลเดิมสายตระกูลอิ๋งที่ซ่อนตัวอยู่ออกมาออกมาสนับสนุนกองทัพสวรรค์ที่นำโดยหนิวโหย่วเต๋อ แล้วใช้กำลังปราบปรามพร้อมกัน
ประณามว่าประมุขชิงวางแผนทำร้ายฮ่าวเต๋อฟาง อดีตอ๋องสวรรค์คุมทัพใต้ กดดันให้หนิวโหย่วเต๋อซึ่งเป็นจวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาลในตอนนั้นเคลื่อนทัพโจมตีฮ่าวเต๋อฟาง
ประณามว่าประมุขชิงแอบแทรกสายลับเอาไว้ข้างกายหนิวโหย่วเต๋อเพื่อลอบสังหารอ๋องสวรรค์คุมทัพใต้
ประณามว่าประมุขชิงดักซุ่มกองทัพองครักษ์สิบล้านไว้ที่แดนมรณะดึกดำบรรพ์เพื่อลอบสังหารหนิวโหย่วเต๋อ อ๋องสวรรค์คุมทัพใต้
ประณามว่าประมุขชิงเสี้ยมให้เถิงเฟยกับเฉิงไท่เจ๋อเข่นฆ่ากันเอง จากนั้นก็แอบระดมกองทัพองครักษ์แปดร้อยล้านไปดักซุ้มที่ดาวอ๋องสวรรค์หนิวเพื่อลงมือสังหารหนิวโหย่วเต๋อ โชคดีที่หนิวโหย่วเต๋อเชี่ยวชาญการทำศึก บัญชาการกองทัพได้เหมาะสม สามารถกำจัดกองทัพองครักษ์แปดร้อยล้านที่ลอบโจมตีได้หมดในรวดเดียว
ประณามว่าประมุขชิงรับสาวงามเข้าวังหลังไม่หยุดหย่อน บีบให้ขุนนางส่งสาวงามเข้าวัง เลี้ยงสาวงามนับไม่ถ้วนไว้ใช้ในวังหลัง
ประณามว่าประมุขชิงแอบให้เจียงอีอีปลอมตัวเป็นโจรราคะ กระทำย่ำยีกับภรรยาและลูกสาวของขุนนางตำหนักสวรรค์
สรุปก็คือประนามกล่าวหาประมุขชิงกับประมุขพุทธะทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่หลายสิบรายการในครั้งเดียว
ข้อกล่าวหาที่สำคัญที่สุดก็คือ ประณามว่าประมุขชิงหลงอนุจนทำร้ายเมียเอก อยู่ในฐานะราชันสวรรค์แต่ทำผิดกฎสวรรค์ รักและไว้ใจจ้านหรูอี้ที่เป็นหลานสาวของนักโทษขุนนาง ตั้งครรภ์เพื่อให้พ้นผิด ให้ท้ายนางออกจากตำหนักเย็น ราชินีสวรรค์ต้องการรักษากฎระเบียบ แต่กลับถูกประมุขชิงและจ้านหรูอี้กดขี่กักบริเวณ ราชินีสวรรค์เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ถูกตระกูลเซี่ยโห้วช่วยเหลือให้รอดพ้นภัยอันตรายไปได้หนึ่งครั้ง โอรสสวรรค์ชิงหยวนจุนเห็นมารดาถูกหยามเกียรติ จึงระดมพลไปทวงความยุติธรรม แต่กลับถูกประมุขชิงเห็นเป็นโจรกบฏ บีบให้อำนาจแต่ละฝ่ายล้อมปราบ สังหารโอรสสวรรค์ชิงหยวนจุนอย่างโหดร้ายทารุณ ราชินีสวรรค์เซี่ยโห้วเฉิงอวี่เจ็บปวดแสนสาหัส จึงขอร้องอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างจริงใจ ตอนนี้หนิวโหย่วเต๋อ อ๋องสวรรค์คุมทัพใต้จึงกำลังปราบทรราชให้นาง
หนิวโหย่วเต๋อ อ๋องสวรรค์คุมทัพใต้ถูกประมุขชิงประทุษร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า อดทนแล้วอดทนอีก ทว่าถอยจนไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว การกระทำของประมุขชิงทำให้ทั้งมนุษย์ทั้งเทพโกรธเคือง ยามเผชิญหน้ากับราชินีสวรรค์ที่หลั่งน้ำตาเป็นสายเลือดเพื่อขอร้อง หนิวโหย่วเต๋อจึงตัดสินใจร่วมมือกับอำนาจแต่ละฝ่ายใช้กำลังทหารปราบปราม เรียกร้องให้ใต้หล้าร่วมกันปราบปรามทรราช!
เมื่อข่าวนี้ถูกปล่อยออกไป ก็ทำให้ใต้หล้าสั่นสะเทือนอย่างแท้จริง กอปรกับมีอำนาจไม่น้อยแอบเติมเชื้อไฟ มีคนจำนวนมากใช้วิธีการต่างๆ ช่วยพิสูจน์ว่ามีหลายข้อหาที่เป็นความจริง คนในใต้หล้าถึงได้รู้ว่าประมุขชิงและประมุขพุทธะมั่วสุรานารีและไร้คุณธรรมเช่นนี้ โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่บอกว่าหลงอนุภรรยาจนฆ่าลูกฆ่าเมีย ทำให้ผู้หญิงจำนวนมากในใต้หล้าเดือดแค้น ด่าประณามประมุขชิง จ้านหรูอี้ก็ถูกตอกไว้บนเสาแห่งความอัปยศเช่นกัน ถูกสตรีในใต้หล้าสาปแช่งไม่หยุด กลายเป็นคำเรียกแทนนางแพศยา ถูกคนถ่มน้ำลายใส่ทั้งวันทั้งคืน…
เพล้ง! ในรถมังกร ประมุขชิงกระแทกแผ่นหยกที่บันทึกข่าวจนแหลกเป็นผุยผง หน้าดำเหมือนก้นหม้อ หน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงอธิบายความโกรธแค้นในใจเขาได้แล้ว
ประมุขพุทธะกลับสุขุมเยือกเย็น ชำเลืองมองที่แตกละเอียดแวบหนึ่ง โบกแขนเสื้อปัดออกไป แล้วกล่าวเสียงเรียบว่า “เนื้อหาข้างในมีจริงเท็จกี่ส่วน ในใจเจ้ารู้ดีกว่าใครทั้งนั้น เรื่องของจ้านหรูอี้เจ้าทำไม่ถูกจริงๆ ในตอนนี้จ้านหรูอี้ก็อยู่ในรถมังกรของเจ้า เจ้าโปรดปรานนางหรือไม่เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจ ถ้าไม่ใช่เพราะนาง หนิวโหย่วเต๋อจะหาโอกาสเสี้ยมเขาควายให้ชนกันได้ง่ายขนาดนั้นเหรอ?”
ประมุขชิงจ้องเขาพลางตะคอกตอบ “คนตั้งใจจะใส่ความ ก็ย่อมข้ออ้างได้เสมอ!”
ประมุขพุทธะจึงบอกว่า “ในเมื่อรู้ว่าจงใจใส่ความ ก็ไม่ต้องคิดมาก มาคิดดีกว่าว่าจะปราบทัพกบฏยังไง ขอเพียงกำจัดหนิวโหย่วเต๋อได้ ถึงตอนนั้นเจ้าก็ย่อมพูดแก้ตัวได้ ดูจากทิศทางความเคลื่อนไหว กำลังพลของหนิวโหย่วเต๋อมุ่งหน้าไปทางก่วงลิ่งกงแล้ว เจ้าเวรนี่อดใจรอไม่ไหว อยากจะกำจัดอุปสรรคสุดท้าย แต่ก่วงลิ่งกงหนีเข้าไปในอาณาเขตดาวนิรนามแล้ว บางทีอาจจะเป็นโอกาสของพวกเราพอดี”
ประมุขชิงสงบสติอารมณ์ แล้วพยักหน้าบอกว่า “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ชัดเจนมากแล้ว ว่าตระกูลเซี่ยโห้วยืนอยู่เบื้องหลังหนิวโหย่วเต๋อ ที่กำลังพลของเถิงเฟยถูกกลืนโดยไร้ข่าวคราว ก็ไม่พ้นเกี่ยวข้องกับตระกูลเซี่ยโห้วเหมือนกัน ไม่มีทางที่ก่วงลิ่งกงจะมองไม่เห็นเบาะแสนี้ เกรงว่าก่วงลิ่งกงเอ็งก็คงเข้าใจชัดเจน ว่าอาจหนีไม่พ้นการไล่โจมตีของหนิวโหย่วเต๋อ ไม่ว่าจะเป็นโค่วหลิงซวีหรือก่วงลิ่งกง มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ข้ารู้จักพวกเขาดี ในใจมีความหยิ่งในศักดิ์ศรีอยู่บ้าง อาจจะไม่ยอมสวามิภักดิ์ง่ายๆ พอเป็นแบบนี้ ก็เท่ากับให้โอกาสพวกเราแล้วจริงๆ พอหนิวโหย่วเต๋อบีบคั้นเกินไป ก็มีความเป็นไปได้เก้าในสิบว่าก่วงลิ่งกงจะมาร่วมมือกับพวกเรา”
ประมุขชิงขยับลูกประคำในมือ “ตามไป!”
ยอดเขาเขียวซ้อนทับกันหลายชั้น วัดสูงตระหง่านสูงโดดเด่น ในอุโบสถหลังใหญ่ พระเฒ่าเจ้าอาวาสสั่งงานลูกศิษย์ในสำนัก จากนั้นก็นำพระอีกหลายรูปเหาะขึ้นฟ้าไป
ทว่าพอไปได้ครึ่งทาง ก็มีคนจำนวนมากโผล่ออกมาจากชั้นเมฆ ดักลงมือทำร้า ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างดุเดือด
สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่
ในดาราจักร คนกลุ่มหนึ่งห่อด้วยความเร็วสูง เหมียวอี้ที่วางระฆังดาราในมือแล้วเข้าใกล้คนที่อยู่ทางซ้ายและขวา กล่าวเสียงต่ำว่า “ตระกูลเซี่ยโห้วส่งข่าวมา ศิษย์ชาวพุทธในแต่ละพื้นที่ได้รับคำสั่งจากประมุขพุทธะ เริ่มระดมพลแล้ว”
เฉิงไท่เจ๋อกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ฝ่าบาท ศิษย์ชาวพุทธทั่วทั้งใต้หล้าที่สามารถออกรบได้ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ถ้ารวมตัวกันขึ้นมา เกรงว่าจะเป็นกำลังพลจำนวนไม่น้อยกว่าพันห้าร้อยล้าน ตอนนี้ประมุขชิงคงจะรวบรวมกำลังพลกองทัพองครักษ์ที่เหลือพันสองร้อยล้านได้แล้ว กำลังพลที่ประมุขพุทธะนำมาเองก็มีหนึ่งพันสามร้อยล้านเช่นกัน ถ้ารวมกับกำลังพลหนึ่งพันห้าร้อยล้านนี้ ก็เกือบได้ทัพใหญ่สี่พันล้านแล้ว อาศัยความได้เปรียบด้านอาวุธของพวกเขาอีก พวกเราอาจจะไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบ ถ้าสู้กันขึ้นมา แพ้ชนะยากคาดเดา!”
เหมียวอี้บอกว่า “ในจุดนี้ ข้าย่อมเข้าใจแล้ว ดังนั้นจะให้กำลังพลหนึ่งพันห้าร้อยล้านนี้รวมตัวกันไม่ได้ ตอนนี้ตระกูลเซี่ยโห้วพยายามขัดขวางเต็มที่ แต่จนใจเพราะกำลังพลที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ มีเยอะเกินไป ตระกูลเซี่ยโห้วขัดขวางไม่ไหวด้วย ตอนนี้ข้าต้องการให้แม่ทัพระดับต่างๆ ของทัพใต้ ทัพตะวันออกและทัพเหนือใช้งานสมาชิกทุกคนที่อยู่ใต้เวที สมาชิกที่บริหารร้านค้าในตลาดสวรรค์ สมาชิกที่บริหารร้านค้าในตลาดมืด แล้วก็บ่าวไพร่ รวมทั้งกำลังที่มีอิทธิพลต่อสำนักต่างๆ ถ้าสามารถใช้งานได้ก็ใช้งานให้หมด ต้องสกัดกองทัพพระหนึ่งพันห้าร้อยล้านนี้เอาไว้ให้ได้ ต้องถ่วงเวลาพวกเขาไว้ด้วย จะให้พวกเขารวมตัวกันสร้างความกดดันให้กำลังหลักที่โจมตีไม่ได้เด็ดขาด!”
“ฝ่าบาทวางใจได้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของทุกคน ถ้าเป็นกำลังพลที่พวกข้าน้อยสามารถใช้งานได้ ก็จะไม่กักไว้แน่นอน แต่เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยและมั่นใจได้ ข้าน้อยแนะนำให้ฝ่าบาทใช้งานกำลังพลหนึ่งล้าน แบ่งกำลังพลเป็นกลุ่มละล้าน แบ่งเป็นร้อยกลุ่มมุ่งไปตามจุดต่างๆ ถ้าพบกำลังพลฝ่ายศัตรูที่รวมกลุ่มกันค่อนข้างใหญ่ ก็กำลังพลที่อยู่แถวนั้นไปโจมตีให้แตกได้เลย ไม่อย่างนั้นคนที่กระจัดกระจายกันอยู่ก็ไม่มีทางต้านทานกองทัพฝ่ายศัตรูได้ เรื่องนี้ต้องส่งให้คนที่ทำหน้าที่บัญชาการโดยเฉพาะ ไม่อย่างนั้นถ้าให้คนที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ หลับหูหลับตาโจมตีสกัด ก็ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย” เถิงเฟยกล่าว
เหมียวอี้บอกว่า “ที่พูดก็มีเหตุผล อนุมัติ! ในเมื่อท่านอ๋องเถิงมีแผนการในใจกับเรื่องนี้แล้ว เช่นนั้นเรื่องโจมตีสกัดไม่ให้กองทัพฝ่ายศัตรูรวมตัวกัน ก็ส่งให้เจ้าบัญชาการแล้วกัน ประสานกำลังพลตามที่ต่างๆ รวมทั้งรวบรวมข่าวสารในแต่ละด้าน ราชินีสวรรค์จะสนับสนุนเจ้า!”
“ข้าน้อยน้อมรับบัญชา!” เถิงเฟยกุมหมัดรับคำสั่ง
จากนั้นเขาก็ดึงกำลังพลไปหนึ่งร้อยล้าน รีบแบ่งเป็นหนึ่งร้อยกลุ่ม สั่งให้แยกย้ายกันไปตามที่ต่างๆ จากนั้นก็ดึงตัวสมาชิกคนสำคัญจะทัพใต้ ทัพเหนือและทัพตะวันออกเพื่อมาค่อยให้ความร่วมมือ รวบรวมเข้ามาในกระเป๋าสัตว์และร่วมบัญชาการกับอวิ๋นจือชิว
“ฝ่าบาท กำลังพลของประมุขชิงกับประมุขพุทธะใช้ทางลัดมุ่งหน้ามาหาพวกเราแล้ว!” หยางเจาชิงรายงานขึ้นมา
“ฝ่าบาท พอเป็นแบบนี้ เกรงว่าสถานการณ์จะไม่เอื้อประโยชน์ต่อพวกเรา ถ้าพวกเรากดดันก่วงลิ่งกงมากเกินไป ก่วงลิ่งกงก็อาจจะไปร่วมมือกับประมุขชิงกับประมุขพุทธะ ต่อให้ร่วมมือกัน แต่พอเจอก่วงลิ่งกงแล้ว พวกเราก็มีอันตรายทั้งข้างหน้าและข้างหลังอยู่ดี” เฉิงไท่เจ๋อกล่าว
“ไม่ต้องสนใจ ข้ามีแผนรับมือ!” เหมียวอี้ยิ้มเย้ย แล้วหันมาบอกหยางเจาชิง “บอกให้ทางฝั่งเหยียนซิวลงมือได้!”
“ขอรับ!” หยางเจาชิงเอ่ยรับคำสั่ง
เหมียวอี้ตะโกนเรียกอีก “เหิงอู๋เต้า!”
“ขอรับ!” เหิงอู๋เต้าก้าวขึ้นมาข้างหน้าแล้วกุมหมัดคารวะ
“ให้กำลังพลเจ้าสามร้อยล้าน ไปโจมตีอารามแปดทิศอย่างลับๆ เดี๋ยวนี้ จำไว้ ไม่ได้ต้องการให้เจ้าโจมตีอารามแปดทิศ แต่ต้องการให้เจ้าล่อศัตรูไปสนับสนุน!” เหมียวอี้สั่ง
“รับทราบ!” เหิงอู๋เต้าเอ่ยรับคำสั่ง จากนั้นก็เลือกกำลังพลสามร้อยล้านจากไปอย่างรวดเร็ว
“หลงซิ่น!” เหมียวอี้เรียกแม่ทัพอีกคร
“ขอรับ!” หลงซิ่นก้าวขึ้นมาข้างหน้า
เหมียวอี้หยิบแผ่นหยกแผ่นหนึ่งส่งให้ “ให้กำลังพลเจ้าสองร้อยล้าน ไปตามเส้นทางที่ระบุไว้บนนี้เดี๋ยวนี้ หลังจากไปถึงจุดหมายแล้วก็ดำเนินการตามคำสั่ง”
“รับทราบ!” หลงซิ่นเอ่ยรับ แล้วนำกำลังพลสองร้อยล้านจากไปอย่างรวดเร็ว
ทะเลทรายกว้างใหญ่ หุบผารกร้าง บนหน้าผามีปากถ้ำอยู่ไม่น้อย เงาร่างแช่มช้อยของเป่าเหลียนยืนอยู่ตรงปากถ้ำแห่งหนึ่ง นางกำลังทอดสายตามองไปเบื้องล่าง ศิษย์สำนักลมปราณกลุ่มหนึ่งกำลังฝึกกระบี่
เป่าเหลียนยังคงจมอยู่กับข่าวที่ส่งมาจากด้านนอก นางยืนยันกับอวิ๋นจือชิวแล้ว รู้สึกเหนือความคาดหมายมาก นึกไม่ถึงว่าเหมียวอี้จะประกาศตนเป็นราชันแล้ว นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสถานะของตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าจะกลายเป็นสนมของราชันสวรรค์โดยไม่รู้ตัว
อวิ๋นจือชิวให้สัญญากับนาง ว่าตำแหน่งสนมสวรรค์หนีไม่พ้นนางแน่
สนมสวรรค์?เป่าเหลียนบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร เพียงแต่แอบทอดถอนใจ ความทะเยอะทะยานของผู้ชายคนนั้นทำให้นางไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไร นางไม่เคยคิดอยากจะเป็นสนมสวรรค์อะไรเลย
…………………………