พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า - บทที่ 2204 ชิงเจดีย์สยบปีศาจมาก่อน
ซือหม่าเวิ่นเทียนถูกยั่วโมโหอีกแล้ว ถลึงตาใส่โพ่จวิน เก็บกลั้นคำด่าทักทายบรรพบุรุษไว้ในลำคอไม่พูดออกมา สุดท้ายก็หันไปอีกข้าง ขี้คร้านจะคิดเล็กคิดน้อยกับตาแก่ทึ่มคนนี้
สำหรับสิ่งนี้ ประมุขชิงเห็นจนชินแล้ว อย่าว่าแต่ไม่ไว้หน้าซือหม่าเวิ่นเทียนเลย แม้แต่หน้าของเขา โพ่จวินก็ยังตอกหน้าเหมือนเดิม
เห็นได้ชัดว่าประมุขพุทธะรู้จักนิสัยเจ้าอารมณ์ของโพ่จวินเป็นอย่างดีเช่นกัน ไม่ได้มีปฏิกิริยาแปลกใจอะไร พากลับสู่ประเด็นหลัก “ทางด้านก่วงลิ่งกง ยังต้องคอยดูสถานการณ์แล้วป้องกันไว้สักหน่อย มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะรอให้พวกเราเข้าร่วมศึกนี้เพื่อถ่วงกำลังพลของหนิวโหย่วเต๋อไว้ จากนั้นก็ฉวยโอกาสหนีไป ในจุดนี้จะไม่ป้องกันไม่ได้ พอเข้าไปร่วมด้วยแล้วก็ต้องคิดหาทางดักไว้ อย่าให้กำลังพลของก่วงลิ่งกงมีโอกาสปลีกตัวออกไป”
“อืม!” ประมุขชิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ชำเลืองมองซ่างกวนชิงที่เดินมาถึงตรงประตูแต่ลังเลไม่กล้าเข้ามา แล้วถามตรงๆ เลยว่า “สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
หลายคนมองไปพร้อมกัน ซ่างกวนชิงรีบเดินเข้ามาทันที แล้วรายงานอย่างระมัดระวังว่า “ฝ่าบาท รู้ตัวคนที่รับผิดชอบฝั่งสิบปราสาทดำเนินแล้ว หลังจากติดต่อซ้ำไปซ้ำมา ก็พบว่าสายลับที่แทรกไว้ทางสิบปราสาทดำเนินขาดการติดต่อทั้งหมด ติดต่อไม่ได้เลยสักคนขอรับ ไม่สามารถสืบสถานการณ์ทางฝั่งสิบปราสาทดำเนินได้เลย”
ประมุขชิงขบกรามแน่น ซือหม่าเวิ่นเทียนแล้วคนอื่นไม่พูดอะไร
ซ่างกวนชิงเหลือบตาขึ้นสังเกตสีหน้าของประมุขชิง แล้วกล่าวเสริมว่า “ให้คนอื่นของหน่วยตรวจการขวาลองติดต่อเกาก้วน ไม่เพียงแค่ติดต่อไม่ได้ ทั้งยังพบว่าก่อนไปเกาก้วนได้ออกคำสั่งไว้ สั่งให้สมาชิกหน่วยตรวจการขวาที่ปฏิบัติภารกิจสายลับอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ หยุดทำภารกิจและซ่อนตัว ปล่อยให้คนของหนิวโหย่วเต๋อโจมตีสกัดกำลังพลชาวพุทธที่จะรวมตัวกันไม่ต้องไปขัดขวาง และถ้าไม่มีคำสั่งของเกาก้วน นอกจากบัญชาของฝ่าบาทแล้ว คนอื่นก็ไม่มีอำนาจในการใช้งานสมาชิกหน่วยตรวจการขวาอีก”
ประมุขพุทธะขยับนิ้วนับลูกประคำ กล่าวเสียงต่ำว่า “ดูท่าแล้ว เกาก้วนคุณนี้จะมีปัญหาจริงๆ”
ประมุขชิงกล่าวด้วยใบหน้านิ่งตึง “ให้คนที่อยู่ใกล้กับสิบปราสาทดำเนินไปตรวจสอบสักหน่อย ยืนยันสถานการณ์” การที่พูดอย่างนี้ออกมาได้ ก็แสดงว่าเขายังทำใจเชื่อได้ยากว่าเกาก้วนจะทรยศเขา เป็นเพราะไม่มีเหตุผลที่อีกฝ่ายจะทรยศเขา
“ขอรับ!” ซ่างกวนชิงได้รับอย่างระวังตัว
ไม่ระวังตัวไม่ได้หรอก ดาบอ่อนของเกาก้วนแทงจนเขาเจ็บจุก หลักการก็เรียกง่ายมาก ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าล้วงอธิบายได้แล้วว่าเกาก้วนทรยศประมุขชิงจริงๆ รู้อยู่แจ่มแจ้งว่าหลังจากเรื่องนี้ถูกเปิดโปงแล้ว ประมุขชิงก็ไม่มีทางเชื่อคำพูดของเขาอีก แต่เกาก้วนกลับยังพูดทิ้งท้ายอย่างนั้นไว้ บอกว่าซ่างกวนชิงเป็นไส้ศึก ชัดเจนว่ากำลังเสี้ยมแตกคอกันเอง เกาก้วนสมองมีปัญหาหรือว่าอย่างไร?
หลักการนี้ไม่มีทางที่ประมุขชิงจะไม่เข้าใจ ซ่างกวนชิงก็ไม่รู้เช่นกันว่าประมุขชิงจะคิดอย่างไร
ประมุขชิงเพิ่งจะสั่งให้คนของหน่วยตรวจการขวาปฏิบัติภารกิจเดิมก่อนหน้านี้ต่อไป จินฉื้อ ลูกศิษย์ของประมุขพุทธะก็รีบมารายงานข่าวด่วนว่า “ท่านอาจารย์ อารามแปดทิศถูกทัพใหญ่โจมตี เป็นกำลังพลประมาณสามร้อยล้าน นำโดยจอมพลเหิงอู๋เต้า ลูกน้องของหนิวโหย่วเต๋อ เกรงว่าคงมีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยล้านคัน อารามแปดทิศคงต้านทานได้ไม่นานนะขอรับ”
ในรถมังกร ขณะกำลังครุ่นคิดถึงจุดประสงค์ของหนิวโหย่วเต๋อ อวี้หลัวช่าก็ปรากฏตัวอยู่ด้านนอก เข้ามารายงานว่า “ปรมาจารย์พุทธะ ศิษย์ในสำนักยืนยันแล้ว เป็นคนของปราสาทดำเนินนภาจริงๆ ไม่ได้มีแค่ขนของปราสาทดำเนินนภาเท่านั้น ตอนที่ตรวจสอบยังพบคนอื่นด้วย ประมุขของสิบปราสาทดำเนินอยู่กันครบ”
“มีกำลังพลเท่าไหร่?” ประมุขพุทธะถาม
“ยังยืนยันไม่ได้ ตอนที่ลูกศิษย์ในสำนักตรวจสอบพบ ก็โดนอีกฝ่ายโจมตี มีส่วนหนึ่งบาดเจ็บล้มตาย มีส่วนหนึ่งหนีออกมาได้ นับดูคร่าวๆ แล้วมีประมาณแสนกว่าคน” อวี้หลัวช่าตอบ
โพ่จวินกล่าวว่า “อารามแปดทิศตรวจสอบเข้มงวดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทำไมปล่อยให้คนของสิบปราสาทดำเนินเข้าไปเยอะขนาดนั้นได้?”
ประมุขพุทธะกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ถ้าไม่ได้เข้าไปด้วยช่องทางอื่น ก็แสดงว่าไส้ศึกทางอารามแปดทิศรับเข้าไป คนของสิบปราสาทดำเนินเฝ้าอยู่ใกล้เขาหลิงซาน จุดประสงค์คืออะไรล่ะ?คงไม่ต้องให้เขาพูดมากแล้ว นอกจากเจดีย์สยบปีศาจก็ไม่มีเป้าหมายอื่นแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นไส้ศึกจากอารามแปดทิศ ถ้ามีทางลับอื่นอีกจริงๆ ก็คงไม่ต้องโจมตีอารามแปดทิศ คงเข้ามาผ่านทางลับเงียบๆ ใช้กำลังทหารที่เพียงพอโจมตีเข้าเขาหลิงซานมุ่งตรงสู่เจดีย์สยบปีศาจโดยตรง จะได้เอาตัวเจ้าสามไป๋ตกมาโดยเร็วที่สุด”
ประมุขชิงหรี่ตา “มีความเป็นไปได้สองอย่าง หนึ่งคือสิบปราสาทดำเนินรู้ว่าแดนสุขาวดีไม่มีกำลังทหาร ซ่อนตัวไม่เคลื่อนไหว กำลังพลด้านนอกโจมตีอารามแปดทิศก็เพื่อหลอกล่อให้กำลังพลของเขาหลิงซานไปช่วยที่อารามแปดทิศ เมื่อไม่มีกำลังทหารที่เขาหลิงซานแล้ว สิบปราสาทดำเนินก็จะฉวยโอกาสเข้าไป ยังมีความเป็นไปได้อีกอย่าง นั่นก็คือโจมตีอารามแปดทิศเพราะอยากล่อให้พวกเราไปสนับสนุน หนิวโหย่วเต๋อจะได้สู้กับก่วงลิ่งกงได้เต็มที่ ถ้าพวกเราไม่ไปช่วย แล้วอารามแปดทิศโดนโจมตีแตก กำลังพลสังหารเข้าไปผนึกกำลังกับคนของสิบปราสาทดำเนิน เกรงว่าจะรักษาเขาหลิงซานไว้ไม่ได้ สรุปก็คือไม่ว่าพวกเราจะไปช่วยหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเขาหลิงซานหรือก่วงลิ่งกง ก็ต้องมีสักฝั่งที่หนิวโหย่วเต๋อทำสำเร็จ แค่ต้องดูว่าพวกเราจะเลือกยังไง!”
โพ่จวินกล่าวอย่างเด็ดขาดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ต้องสนใจฝั่งเขาหลิงซานแล้ว ควรจะทำยังไงก็ทำอย่างนั้น กำจัดหนิวโหย่วเต๋อก่อน!”
ประมุขพุทธะกับประมุขชิงสบตากันแวบหนึ่ง ทั้งสองตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก มีเพียงทั้งสองที่รู้ชัดเจนที่สุดว่ากุญแจสำคัญของปัญหาอยู่ตรงไหน จะสังหารเจ้าสามไป๋ดีหรือไม่?
ถ้าไม่ไปสนับสนุน ฝั่งนี้ก็ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าสามไป๋หลุดพ้นออกจากเจดีย์สยบปีศาจ จะต้องลงมือสังหารแน่นอน แต่ปัญหาก็คือเจ้าสามไป๋ยังมีร่างทิพย์อีกร่างอยู่ข้างนอก แม้จะขังเจ้าสามไป๋ไม่ได้ แต่ร่างทิพย์ก็ถูกควบคุมโดยร่างหลัก สามารถแยกตัวเป็นอิสระได้ เมื่อร่างหลักไม่อยู่แล้ว ร่างทิพย์จะต้องฝึกตนใหม่เอง เมื่อร่างทิพย์ฝึกตนใหม่เองจนแยกตัวได้สำเร็จ นี่ก็ไม่ใช่การเริ่มฝึกตนใหม่ตั้งแต่ต้น หลักการไม่ได้ซับซ้อนเลย การขุดบ่อใหม่เพื่อกักเก็บน้ำ กับบ่อที่ขุดไว้แล้วแต่น้ำแห้ง ความเร็วในการกรอกน้ำเข้าไปอีกครั้งจะเหมือนกันได้อย่างไร? อย่างแรกคือบุกเบิกใหม่ตั้งแต่ต้น อย่างที่สองคือมีความจุเดิมอยู่แล้ว และประสบการณ์การฝึกตนที่ร่างเดิมของเขามี ก็ล้วนเป็นของสำเร็จรูปอยู่แล้วทั้งนั้น
ขอเพียงมีทรัพยากรเพียงพอ เจ้าสามไป๋คนใหม่ใช้เวลาไม่กี่ปีก็จะปรากฏตัวได้อีกครั้งแล้ว พวกเขารู้อย่างลึกซึ้งว่าความสามารถของเจ้าสามไป๋นั้นน่ากลัวกว่าหนิวโหย่วเต๋อมาก เป็นตัวละครที่เหมือนมารปีศาจ แม้แต่เซี่ยโห้วท่ายังหวาดกลัว การปล่อยให้ร่างทิพย์ของเจ้าสามไป๋หนีไปในปีนั้น ก็คือความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดจริงๆ
เจดีย์สยบปีศาจเป็นของวิเศษชิ้นหนึ่ง และเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ด้วย ร่างเดิมของเจ้าสามไป๋ถูกขังอยู่ในนั้น ขอเพียงร่างทิพย์ปรากฏตัวในเขตตำหนักสวรรค์ ก็จะสังเกตเห็นตำแหน่งคร่าวๆ ทันที แต่ถ้ากำจัดร่างเดิมของเจ้าสามไป๋แล้ว ร่างทิพย์ก็จะไปมาในเขตตำหนักสวรรค์โดยไม่ต้องกังวลอะไรอีก
พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้ากำจัดร่างเดิมของเจ้าสามไป๋ ให้อิสระกับร่างทิพย์แล้ว เรื่องที่ทำในปีนั้นก็จะสูญเปล่า แล้วจะไม่ให้ทั้งสองลังเลสับสนได้อย่างไร
อาณาเขตดาวนิรนามตรงหน้าปรากฏสายลับของก่วงลิ่งกงไม่ขาดสาย คอยนำทางให้กำลังพลกลุ่มนี้ แต่ในรถมังกรกลับตกอยู่ในความเงียบ
“เหตุใดต้องลังเล?” โพ่จวินเสียงดังทำลายความเงียบ “ฝ่าบาท คุณชายพุทธะ ขออภัยที่ข้าน้อยพูดตรง คุณชายสามไป๋เป็นคนที่สติปัญญาใกล้จะเป็นปีศาจแล้ว เขาตีแผ่เรื่องราวแล้ว พวกท่านคิดว่าเขาจะทำเรื่องที่ไม่มั่นใจหรือ? เรื่องไร้สาระอย่างสิบปราสาทดำเนินอะไรนั่นไม่ต้องไปดู จะทำให้ตาพร่าเลือนได้ วิเคราะห์ไปวิเคราะห์มาก็ทำให้ตัวเองเลอะเลือนเสียเปล่าๆ แค่คู่ต่อสู้เป็นคุณชายสาม ก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่าถ้าทัพใหญ่แดนรัตติกาล พลังป้องกันของเขาหลิงซานมีจำกัด เกรงว่าจะติดกับดักแล้ว ตอนนี้เพิ่งคิดจะกลับไปช่วย ก็คงสายไปแล้ว! เป็นไปได้สูงว่าการโจมตีอารามแปดทิศคือแผนล่อศัตรู อยากจะล่อพวกเรากลับไปเพื่อช่วงชิงเวลาให้หนิวโหย่วเต๋อ ถ้าพวกเรากลับไปช่วยจริงๆ เกรงว่ายังไม่ทันถึงเขาหลิงซาน อีกฝ่ายก็ทำสำเร็จแล้ว ถ้าคิดจะกลับมาหาก่วงลิ่งกงอีกครั้ง ยังจะมาทันอยู่เหรอ? การสู้กับคนอย่างคุณชายสาม ถ้าคิดจะเล่นงานระยะยาว พวกเราคงวางแผนไม่ชนะเขา ดังนั้นจะทำตามจังหวะของเขาไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงยาวไกลขนาดนั้นด้วย แก้ไขปัญหาที่อยู่ตรงหน้าก่อน ถ้าแม้แต่เรื่องตรงหน้ายังแก้ไขไม่ได้ ปล่อยให้หนิวโหย่วเต๋อฮุบกำลังพลของก่วงลิ่งกงไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านกำลังพลพวกเราก็สู้เขาไม่ได้ ถ้าจะสู้กันตัวต่อตัวก็เกรงว่าคงไม่มีใครสู้คุณชายสามไว้ ถึงตอนนั้นยังจะเล่นยังไงต่อได้อีก? จนป่านนี้แล้ว ถ้ายังคิดจะได้เปรียบทั้งสองฝั่งทั้งที่อยู่ในมือคุณชายสาม ก็คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ พวกเราต้องรักษาไว้ฝั่งหนึ่ง ไม่ต้องสนใจภายหลัง จัดการเรื่องที่อยู่ตรงหน้าให้ดีก่อน! สองทัพสู้กัน ทำให้ตัวเองยืนได้มั่นคงก่อน จะให้คนจูงจมูกเดินไม่ได้เด็ดขาด!”
เสียงดังที่แม้แต่คนหูหนวกยังได้ยิน ทำให้ประมุขพุทธะกับประมุขชิงเผยสีหน้าเข้าใจกระจ่างในฉับพลัน
ประมุขพุทธะพยักหน้า “ใช่แล้ว สิ่งที่โพ่จวินแม้จะไม่น่าฟัง แต่กลับเป็นหลักการที่ถูกต้อง เป็นพวกเราที่มองผิวเผินไป”
โพ่จวินถอนหายใจ “สองทัพสู้กัน ผู้โจมตีไร้ความหวาดกลัว ผู้ป้องกันเลี่ยงไม่ได้ที่จะพบอุปสรรคทุกที่ ควรต้องเลือก! ไม่ใช่เพราะคำพูดของข้าน้อยมีเหตุผลหรอก แต่เป็นฝ่าบาทกับคุณชายพุทธะที่เผชิญกับเรื่องนี้แล้วกังวลผลได้ผลเสียเกินไป หวังว่าจะตัดสินใจให้เด็ดขาด!”
“คำพูดมีเหตุผล!” ประมุขชิงหันกลับมามองประมุขพุทธะ แล้วพยักหน้าแรงๆ
ประมุขพุทธะสั่งจินฉื้อลูกศิษย์ของตัวเองว่า “บอกจินหลัว อย่าเก็บคนในเจดีย์สยบปีศาจเอาไว้ ลงมือได้!”
“รับทราบ!” จินฉื้อประนมมือ
เมื่อตัดสินใจเรื่องนี้ได้แล้ว ประมุขพุทธะกับประมุขชิงก็สบตากันอย่างผ่อนคลายเบาใจ กวาดความกังวลทิ้งไปแล้ว จิตวิญญาณที่มีปณิธานอันยิ่งใหญ่กลับเข้าร่างอีกครั้ง…
เหมียวอี้ที่ขี่มังกรดำอยู่ในดาราจักรได้รับข่าวจากอวี้หลัวช่าทันที
หลังจากได้รู้เรื่องการตัดสินใจของประมุขชิงและประมุขพุทธะ เหมียวอี้ก็แอบด่าโพ่จวินว่าโจรเฒ่า ทำงานใหญ่ของเขาพัง!
ทว่าเรื่องที่เหนือความคาดหมายของเขาก็เกิดขึ้นแล้ว เหมียวอี้หยิบระฆังดาราอันหนึ่งขึ้นมาจ้อง เป็นคนเดียวที่ไม่ได้ติดต่อเขามานานแล้ว เทพพยากรณ์!
เหมียวอี้เขย่าระฆังดาราตอบกลับ : ในที่สุดท่านก็ปรากฏตัวแล้ว!
เทพพยากรณ์ : คนในเจดีย์สยบปีศาจอดทนได้ไม่นานแล้ว แย่งชิงเจดีย์สยบปีศาจมาก่อน!
เหมียวอี้ : ท่านอยู่ที่ไหน?
เทพพยากรณ์ : หากมีวาสนาก็ย่อมได้พบกันอีก
จากนั้นก็ตัดขาดการติดต่อไป
หลังจากคุณคิดครู่เดียว เหมียวอี้ก็ยกมือหยุดกำลังพลที่กำลังเดินทางไปข้างหน้า แล้วหันกลับมา ใช้ตาทิพย์ตรวจดูกำลังพลของประมุขชิงและประมุขพุทธะที่ตามมาข้างหลัง
“ท่านอ๋อง หยุดทำไมขอรับ?” เฉิงไท่เจ๋อถาม
“แผนมีการเปลี่ยนแปลง!” เหมียวอี้กล่าวเสียงเรียบ แล้วโบกมือส่งสัญญาณให้เปลี่ยนทิศทาง ก่อนจะนำกำลังพลเข้าไปในอาณาเขตดาวนิรนามอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เขาอยากจะเห็นนักว่าถ้าตัวเองหลบจนอีกฝ่ายตามหาไม่เจอแล้ว กำลังพลของประมุขชิง ประมุขพุทธะและก่วงลิ่งกงจะเล่นกับเขาอย่างไรอีกในอาณาเขตดาวนิรนามนี้ พร้อมถามหยางเจาชิงว่า “กำลังพลของหลงซิ่นไปถึงไหนแล้ว?”
“ไปถึงบริเวณเป้าหมายแล้วขอรับ กำลังรอคำสั่งจากฝ่าบาท” หยางเจาชิงตอบ
เหมียวอี้กล่าวเสียงต่ำว่า “บอกเหยียนซิวให้ลงมือได้เลย ไม่ต้องถ่วงเวลาอีก ต้องชิงเจดีย์สยบปีศาจมาให้ได้เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ต้องเอามาให้ได้ สั่งให้หลงซิ่นไปสนับสนุนทันที! อารามแปดทิศป้องกันง่ายโจมตียาก ไม่จำเป็นต้องดันทุรังโจมตีอีกแล้ว สั่งให้เหิงอู๋เต้ถอนกำลังและรักษากำลังไว้ ค่อยรอโอกาสเคลื่อนไหวอีกที!”
เดิมทีเขาคิดจะใช้กำลังพลแดนอเวจีเพื่อดึงดูดความสนใจของฝ่ายตรงข้าม ใครจะคิดว่าจะมีคนของสิบปราสาทดำเนินโผล่มาประสมโรง ตอนหลังทำได้เพียงใช้ประโยชน์จากคนของสิบปราสาทดำเนินเพื่อดึงดูดความสนใจศัตรู ผลปรากฏว่าทำไปทำมา แผนก็ยังมีการเปลี่ยนแปลง โดนโพ่จวินก่อกวนจนเสียแผนแล้ว
…………………………