Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 504
“เป็นใครกันแน่ ตอนนี้แค่วันที่สอง ระหว่างเหล่านักโทษน่าจะยังไม่มีการแย่งชิงด้วยผลประโยชน์ ในตอนนี้คงไม่จำเป็นต้องทำลายกันเอง…” เย้ชิงจือพูดพร้อมกับใช้ความคิด
“ความสามารถของนักโทษคนนี้แข็งแกร่งอย่างมาก” หลังจากชู่มู่เดินรอบสนามรบที่เต็มไปด้วยศพนี้แล้ว ได้ทำการประเมินด้วยตัวเอง
“ทำไมถึงว่าแบบนั้น หรือว่าเป็นการต่อสู้ของนักโทษสองกลุ่ม” เย้ชิงจือบอก
“ศพเหล่านี้ถูกโจมตีด้วยรอยเล็บแบบเดียวกัน การเคลื่อนไหวของรอยเล็บ ทักษะรอยเล็บล้วนมาจากดวงวิญญาณที่ตายไปแล้วเหล่านี้ อีกทั้งชุลมุนอย่างมาก แทบมองไม่เห็นร่องรอยของดวงวิญญาณที่ฆ่าพวกเขาทิ้งเอาไว้ และนี่ก็เป็นหลักฐานบอกว่า ดวงวิญญาณตัวนี้เป็นสิ่งดุร้ายที่เน้นความเร็วและการซ่อนตัว อีกอย่างคือ จำนวนของดวงวิญญาณที่เห็นนั้นต่ำกว่าสามตัว” ชู่มู่บอก
การประเมินทักษะแบบนี้ ชู่มู่ได้เรียนรู้จากนักโทษชราคนหนึ่งตอนอยู่เกาะนักโทษ ทว่า ในตอนที่เจออันตราย นักโทษชราคนนี้กลับทิ้งชู่มู่ไว้ หนีไปลำพัง
ในตอนที่อยู่เกาะนักโทษจะมีเหตุการณ์นักโทษตั้งกลุ่มเช่นกัน เป็นการนัดแนะจะไม่โจมตีอีกฝ่ายในเวลาที่ตกลงกัน และหลังจากสลัดอันตรายแล้วค่อยแยกย้ายกัน
นั่นเป็นเรื่องเมื่อกลายปีก่อน ชู่มู่เกือบจะลืมนักโทษชราคนนั้นไปแล้ว ความจริงแล้ว ถ้าไม่ได้เป็นเพราะนักโทษชราคนนั้น ชู่มู่ก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ได้ เพราะความสามารถในการเอาชีวิตรอดส่วนหนึ่งชู่มู่ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ส่วนนักโทษชราโหดร้ายคนนั้นได้สอนเขาอีกส่วนหนึ่ง
“เขาน่าจะห่างจากพวกเราไม่มาก เหมือนว่าพวกเราเลือกที่จะเดินทางหลังจากหลายวันที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก พวกเราจะเจอศัตรูที่น้อยลงก็จริง แต่ความสามารถของศัตรูที่พบเจอกลับแข็งแกร่งมาก” เย้ชิงจือพูดเสียงเบา
“จะว่าไปก็ใช่ ถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นนักโทษขั้นแปด ต่อสู้กับเขาเพื่อเงินสองร้อยล้านแบบนี้ไม่คุ้มอย่างมาก” ชู่มู่พูดด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ
“ทว่า อย่างน้อยพวกเราจะได้แหวนนักโทษขั้นแปดหนึ่งวงกับแหวนนักโทษขั้นเจ็ดห้าวง รวมกันเป็นสี่ร้อยห้าสิบล้าน บวกกับที่ได้ก่อนหน้านี้ พวกเรามีทั้งหมดเจ็ดร้อยล้านแล้ว วันเดียวก็ได้เจ็ดร้อยล้าน เมื่อก่อนกว่าจะได้มาต้องทุ่มเทอย่างมาก” ชู่มู่กระโดดขึ้นหลังของอสูรสายฟ้านิมิตราตรี ถือแหวนนักโทษหกวงที่มีเลือด ยิ้มอย่างสง่า
เย้ชิงจือเห็นชู่มู่ยิ้มอย่างสดใส ทำได้แค่ส่ายหัวด้วยความเอือมระอา จะมีใครยืนยิ้มสดใสบนกองศพแบบนั้นได้…
ชู่มู่ย่อมชินกับการฆ่าล้างแล้ว ที่บอกว่าความเสี่ยงสูงถึงจะได้ค่าตอบแทนสูง ไม่แปลกที่ผู้เข้าแข่งขันมากมายเลือกที่จะเข้าร่วมการประลองฟ้าดิน มาถึงด่านที่แปดนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเต็มไปด้วยทองคำ สามารถยืดเวลาสักพักได้ เพียงพอที่จะเพิ่มความสามารถของดวงวิญญาณได้
แน่นอนว่าเจ็ดร้อยล้านไม่ถือว่าเยอะมาก เพราะแบ่งกันสองคน ดังนั้น ชู่มู่เองต้องใช้เงินทุนมหาศาลอย่างน้อย สามพันล้าน ความจริงจำเป็นต้องให้ได้หกพันล้าน…
หกพันล้าน นี่เป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก ชู่มู่จำต้องปล่อยนิสัยฆ่าล้างของเขาออกมาแล้ว !
…
ชู่มู่กับเย้ชิงจือจงใจลดความเร็วมุ่งหน้า พวกเขาไม่หวัง พวกเขาไม่หวังจะเจอนักโทษแข็งแกร่งที่ฆ่าคนทั้งหก
เมื่อเดินมุ่งหน้าไป ศพที่เจอระหว่างทางย่อมเยอะมากขึ้นแน่นอน ที่สนุกคือ เหมือนจะยังมีผู้เข้าแข่งขันหลายคนไม่รู้ความลับของแหวนนักโทษ หลังจากที่พวกเขาฆ่านักโทษแล้ว ไม่ได้เก็บแหวนนักโทษไว้
ชู่มู่กับเย้ชิงจือน่าจะเป็นผู้เข้าแข่งขันสุดท้ายที่ได้ขึ้นเขา ระหว่างทางชู่มู่เก็บแหวนนักโทษได้ถึงหกวง
แหวนหกวงนี้ต่างเป็นขั้นเจ็ด เช่นนี้ ตอนถึงวันที่สาม ชู่มู่ได้เก็บเงินมากถึงหนึ่งพันล้าน
ความเร็วในการได้เงินแบบนี้เกินกว่าจะจินตนาการได้ ต้องรู้ไว้ก่อนว่า ประกาศภารกิจขั้นเก้าอันใดก็ตามที่มีรางวัล หนึ่งพันล้าน แม้แต่ระดับขั้นเก้าในอำนาจต่าง ๆ ยังต้องใช้เวลาเกือบเดือนหรือมากกว่านั้นถึงจะทำสำเร็จได้ ชู่มู่เข้ามาในด่านที่แปดแค่สามวัน ก็ได้ค่าตอบแทนที่เทียบเท่าเดือนหนึ่งของผู้ที่มีระดับขั้นเก้าแล้ว
ทว่า ในตอนที่ถึงวันที่สี่ แหวนบนศพนักโทษระหว่างทางได้หายไปแล้ว เห็นได้ชัดว่า ความลับของแหวนนักโทษนี้ได้กระจายออกแล้ว คาดว่าชู่มู่ไม่มีโอกาสจะได้เงินง่าย ๆ แล้ว
“ฮวย”
อสูรสายฟ้านิมิตราตรีที่มีความสามารถรับรู้อันดีส่งเสียงร้องขึ้น เตือนชู่มู่กับเย้ชิงจือว่า ได้พบเจอกลิ่นไอของสิ่งมีชีวิตด้านหน้า
ด้านหน้าเป็นเส้นทางตามซอกหินที่เกิดจากหินยักษ์สองก้อน มีขนาดกว้างประมาณสองคนเดินผ่านได้
ชู่มู่ย่อมไม่เลือกเดินเส้นทางที่ไม่มีทางหลบซ่อนแบบนี้ ขี่อสูรสายฟ้านิมิตราตรีกระโดดขึ้นบนหินที่ลื่นนั้น มองจากที่สูงลงมา
“โฮร่”
เสียงคำรามทุ้มต่ำดังขึ้นจากหิน เสียงนี้ซ่อนความเจ็บปวดไว้ด้วย
ชู่มู่ให้อสูรสายฟ้านิมิตราตรีกระโดดลงมา หันกลับไปได้เห็นดวงวิญญาณที่มีขนสีม่วงด้านหลังหิน เหมือนจะซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น บนตัวมันเต็มไปด้วยรอยเลือด แขนขาที่แข็งแรงทั้งสี่เกิดร่องรอยบาดเจ็บ ปีกสีม่วงคู่นั้นกลับห้อยลง ถูกหักลงมา !
“สิงโตปีกดาบสายฟ้างั้นหรือ” ชู่มู่มองดูดววิญญาณผู้นำขั้นสูงที่ได้รับบาดเจ็บตัวนี้ จงใจใช้ร่ายวิญญาณรับรู้กลิ่นไอของมัน
ดวงวิญญาณแต่ละตัว ต่อให้เป็นกลุ่มเดียวกัน กลิ่นไอของพวกมันจะต่างกัน ในตอนที่ชู่มู่รับรู้กลิ่นไอของสิงโตปีกดาบสายฟ้าก็เกิดความคุ้นเคย
“ชิงจือ ให้ภูตไม้หมุนของเจ้ารักษามัน” ชู่มู่พูดกับเย้ชิงจือที่อยู่อีกด้านของหิน
เย้ชิงจือขี่อสูรนิมิตชุดม่วงกระโดดขึ้นบนหินเช่นกัน เธอมองดูดวงวิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บตัวนี้ ไม่ได้ถามอะไรอีก ให้ภูตไม้หมุนปล่อยทักษะรักษาชีวิตออกมา
“เจ้ารู้จักดวงวิญญาณตัวนี้เหรอ” เย้ชิงจือถามขึ้น
ความใจดีของชู่มู่มีขีดจำกัด เขาไม่มีทางไปช่วยเหลือดวงวิญญาณที่อาจเป็นอันตรายหรือเป็นกับดักแบบนี้ได้
“อืม คือสิงโตปีกดาบสายฟ้าของซ่างเหิง ตอนที่สู้กับเซิ่นอีเฉิง เขาเคยอัญเชิญออกมา ข้าจำกลิ่นไอของมันได้”
ชู่มู่เดินไปข้างหน้า ใช้มือลูบสิงโตปีกดาบสายฟ้าที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นการบอกให้มันผ่อนคลายลง รับการรักษาของเย้ชิงจือ
ก่อนหน้านี้สิงโตปีกดาบสายฟ้ายังแยกเขี้ยวอยู่ ทำท่าทีพร้อมโจมตีทุกเมื่อ แต่หลังจากที่ชู่มู่ปลอบอย่างง่ายดาย ดวงวิญญาณที่มีจิตวิญญาณนี้จำชู่มู่ได้ คลี่คลายความคิดว่า ชู่มู่เป็นศัตรูออก แล้วส่งเสียงคำรามต่ำเหมือนจะบอกบางอย่างให้กับชู่มู่
“เจ้ารักษาตัวก่อน ตอนที่สิ่งได้แล้วพาพวกเราไปหาเจ้าของเจ้า” ชู่มู่บอก
“โฮร่” หลังจากฟังคำพูดของชู่มู่ ร่างของสิงโตปีกดาบสายฟ้าสั่นเล็กน้อย พยายามดันลำตัวที่เต็มไปด้วยเลือดสดของตัวเองขึ้น ทำท่าทีจะออกเดินทางทันที
ชู่มู่อึ้งเล็กน้อย มองดูดวงวิญญาณที่ทั้งสี่ขาเต็มไปด้วยเลือดสดแต่ยังคงจะลุกขึ้นนี้…
ชู่มู่เข้าใจอารมณ์ของสิงโตปีกดาบสายฟ้าตัวนี้ทันที คาดว่าเจ้าของมันน่าจะตกอยู่ในอันตรายบางแห่ง
“ชิงจือ เจ้าดูแลมัน ข้าจะไปดูข้างหน้า” ชู่มู่ลุกขึ้นยืนแล้วบอกกับเย้ชิงจือ
“อืม แผลส่วนใหญ่ของมันเป็นแผลนอก จะเคลื่อนไหวได้ในไม่ช้า ข้าจะตามไปทันที” เย้ชิงจือพยักหน้า
“หากตรงนี้เกิดอะไรขึ้น ให้อสูรนิมิตชุดม่วงของเจ้าบอกกับเย้ทันที” ชู่มู่เตือนเย้ชิงจือ หลังจากพูดจบ ขี่อสูรสายฟ้านิมิตราตรีมุ่งหน้าไปทันที
ระหว่างดวงวิญญาณกลุ่มเดียวกันจะมีจิตวิญญาณที่เชื่อมต่อกัน ถ้าไม่มีการเชื่อมต่อพิเศษแบบนี้ ชู่มู่ย่อมไม่ไว้ใจที่จะปล่อยให้เย้ชิงจืออยู่คนเดียว
…
“ฮู ฮู ฮู”
ลมตีเข้าหน้าของชู่มู่ ลมพัดพาจากด้านหน้า ชู่มู่สูดหายใจเข้าลึก ๆ สัมผัสกลิ่นเลือดที่อยู่ในอากาศ
“ใกล้มากแล้วงั้นหรือ” ชู่มู่สัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่ลอยจากด้านหน้า อีกทั้งกำลังเข้าใกล้อย่างรวดเร็ว
ชู่มู่ให้อสูรสายฟ้านิมิตราตรีซ่อนตัวอยู่ในเงาของใต้หิน รอให้คนที่มีกลิ่นคาวเลือดนั้นปรากฏตัว
หลังจากผ่านไปสักพัก บริเวณทางโค้งหินนั้นมีผู้คุมดวงวิญญาณที่ขี่อสูรเชิญหงส์คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น !
บนตัวผู้คุมดวงวิญญาณนี้เต็มไปด้วยรอยเลือด และอสูรเชิญหงส์ที่ควรปกคลุมด้วยเกราะแสงทั้งตัวกลับเต็มไปด้วยเลือดเนื้อ เกราะบนตัวไม่มีชิ้นไหนที่สมบูรณ์ มองดูแล้วน่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก
“ซ่างเหิง ! ” ชู่มู่มองดูผู้คุมดวงวิญญาณคนนี้ด้วยความประหลาดใจ
“ใคร !!! ” ซ่างเหิงอยู่ในภาวะหวาดระแวง ได้ยินมีคนเรียกชื่อของเขา ยิ่งให้อสูรเชิญหงส์พุ่งตรงไปหาเขา !
“ข้าคือชู่เฉิง” เงาของชู่มู่กับอสูรสายฟ้านิมิตราตรีปรากฏขึ้นท่ามกลางเงาอย่างช้า ๆ
ซ่างเหิงรีบให้อสูรเชิญหงส์ของตัวเองหยุดโจมตี เผยความดีใจออกมาบนใบหน้า
และแล้ว ความดีใจของซ่างเหิงอยู่ได้ไม่นาน หลังจากเขามองไปยังด้านหลังของตัวเอง พูดด้วยความหวาดกลัวว่า “รีบไป ที่นี่อันตรายอย่างมาก ! ”
“เจ้าตามข้ามา” ชู่มู่ขี่อสูรสายฟ้านิมิตราตรีวิ่งไปตรงหน้าของซ่างเหิง
ซ่างเหิงไม่พูดเยอะ รีบขี่อสูรเชิญหงส์ที่ได้รับบาดเจ็บตามหลังอสูรสายฟ้านิมิตราตรีไป
ในไม่ช้า ชู่มู่ได้พาซ่างเหิงไปยังบริเวณที่สิงโตปีกดาบสายฟ้าได้รับบาดเจ็บ ในตอนนี้ เย้ชิงจือได้จัดการแผลบนขาของสิงโตปีกดาบสายฟ้าเรียบร้อยแล้ว
สิงโตปีกดาบสายฟ้าสัมผัสได้ว่า เจ้าของกำลังเข้าใกล้ จึงไม่สนว่า แผลจะฉีกออกหรือไม่ รีบเคลื่อนย้ายร่างอันแข็งแรงของตัวเอง วิ่งไปตรงยังตำแหน่งที่ซ่างเหิงมา
หลังจากที่โค้งผ่านก้อนหินซ่างเหิงได้เห็นสิงโตปีกดาบสายฟ้าของตัวเอง ดวงตาที่ได้ผ่านการต่อสู้อันเหนื่อยล้าคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยน้ำตา รีบกระโดดลงจากอสูรเชิญหงส์ กอดหัวนุ่มนวลของสิงโตปีกดาบสายฟ้านั้น ท่าทางตื้นตันใจอย่างมาก
ชู่มู่เคยเห็นความสามารถของซ่างเหิงมาแล้ว จนถึงตอนนี้น่าจะมีจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะเก้าสามตัวเป็นอย่างน้อยแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะดูอนาถขนาดนี้
“ชู่เฉิง พวกเราจำต้องออกจากที่นี่ มีนักโทษฝูงหนึ่งกำลังไล่ตามข้า ขอโทษอย่างมากที่ทำให้พวกเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” ซ่างเหิงบอก
“มีกี่คน” ชู่มู่ถามขึ้น
“มีห้าคน ต่างเป็นนักโทษขั้นเจ็ด ข้าไม่มีพลังต่อสู้อะไรแล้ว พวกเจ้าสองคนยากที่จะจัดการคนมากมายขนาดนั้นได้”ซ่างเหิงพูดอย่างใจร้อน
“อืม เป็นเงินสองร้อยห้าสิบล้าน ชิงจือ เตรียมตัวต่อสู้” ชู่มู่ฉีกยิ้มออก