Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 533
จั้นเย้เกราะสีหมึกในตอนนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้ อยู่ในภาวะลักษณะเก้าขั้นกลางตลอด ความสามารถแบบนี้ถ้าจะเทียบแล้ว ยังอ่อนกว่ามารนิรยขาวลักษณะเก้าขั้นสูงของเจียงอี้เถิง
ทว่า พลังโจมตีของจั้นเย้จะเพิ่มขึ้นขั้นหนึ่งด้วยผลของลายเส้นปีศาจอสูรเขา การป้องกันยังมีเกราะวิญญาณขั้นเก้า !
เกราะวิญญาณขั้นเก้าจำต้องให้จักรพรรดิขั้นกลางใช้ทักษะขั้นสูงถึงจะทำลายการป้องกันได้บ้าง มารนิรยขาวลักษณะเก้าขั้นกลางของเจียงอี้เถิงยังห่างกับจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบขั้นหนึ่ง
ข้างตัวซิงหยางมีมารนิรยฟ้าตัวหนึ่ง มารินรยฟ้าตัวนี้ก็อยู่ในจักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะเก้าขั้นสูง พลังทำลายล้างของไฟปีศาจฟ้านี้ไม่ด้อยไปกว่าไฟปีศาจวิญญาณขาวของจักรพรรดิขั้นกลางแล้ว
ตอนที่จั้นเย้พุ่งเข้าไปในวงการต่อสู้ของพวกเขา มารนิรยขาวของเจียงอี้เถิงกับมานิรยฟ้าได้ออกโจมตีด้วยกรงเล็บไฟปีศาจพร้อมกัน !
พลังของกรงเล็บไฟปีศาจสองอันนี้อยู่ในขั้นเก้าระยะสุดท้าย พลังโจมตีแบบนี้ บวกกับผลการแผดเผาวิญญาณของไฟปีศาจ ถ้าเป็นการป้องกันของจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะเก้าขั้นต่ำอาจถูกฆ่าตายในเสี้ยววินาทีได้ !
“ซ่า !!! ”
รอยเล็บสีฟ้ากับสีขาวต่างตวัดสองข้างตัวของจั้นเย้ ทิ้งรอยสองเส้นไว้บนเกราะของจั้นเย้…
ถ้ารอยเล็บทั้งสองเส้นนี้ตวัดลงบนร่างของดวงวิญญาณหมวดอสูร เนื้อจะขาดออกจากกันแน่นอน ไฟปีศาจจะเแผดเผาไปตามแผลเข้าไปในเนื้ออย่างรวดเร็ว
แต่ว่า เกราะหมึกของจั้นเย้หนาอย่างมาก การโจมตีสองอันนี้ไม่สามารถฉีกแม้แต่เกราะของจั้นเย้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะทำให้จั้นเย้ได้รับบาดเจ็บ!
“นี่..นี่มันการป้องกันอะไร!!”เจียงอี้เถิงเบิกตากว้าง มองไปยังแผลตื้นบนตัวจั้นเย้อย่างเหลือเชื่อ
สีหน้าของซิงหนางเปลี่ยนไปทันที มารนิรยฟ้าของเขาทำให้จั้นเย้บาดเจ็บน้อยกว่าอีก แทบจะไม่นับว่าบาดเจ็บด้วยซ้ำ !
“โฮร่ !!! ”
จั้นเย้ได้ส่งเสียงคำรามขึ้น ลำตัวแข็งแรงกระโดดขึ้นสูง ตอนที่ร่างกายถึงจุดสูงสุดได้ถูกพลังสีดำบางอย่างห่อหุ้มเอาไว้!
“บึ้ง !!! ”
จั้นเย้พุ่งลงจากฟ้าอย่างรวดเร็ว ก่อเป็นแรงกระแทกไปยังมารนิรยฟ้า สิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยไฟปีศาจสีฟ้านี้ปลิวออกไปร้อยกว่าเมตร !
มารนิรยขาวของเจียงอี้เถิงได้รับผลกระทบเช่นกัน ทว่า สิ่งมีชีวิตลึกลับนี้หลบได้อย่างคล่องแคล่ว
“จั้นเย้ หนามเกราะหมึก ! ”
หลังจากจัดการมารนิรยฟ้าที่เกะกะออกไปแล้ว ชู่มู่ได้สั่งให้จั้นเย้โจมตีไปยังมารนิรยฟ้าโดยมองข้ามการป้องกัน !
หนามเกราะหมึกปรากฏขึ้น จั้นเย้ได้กลายเป็นแสงดำอันหนึ่ง บินไปยังมารนิรยขาว ทันใดนั้น ไฟปีศาจสีขาวกับพลังสีดำได้ปะทะกันบริเวณใจกลางสุดของยอดเขา พลังเย็นเยียบทั้งสองกระจายไปทั่วทุกทิศทาง !!!
“มั่วเย้ที่ดุร้ายมาก รับมือกับมารนิรยขาวลักษณะเก้าขั้นกลางของเจียงอี้เถิงได้ !!!” หลัวปิงพูดอย่างประหลาดใจ
“เดี๋ยวเจ้าจะได้เห็นความสามารถที่ผิดปกติยิ่งกว่านี้ของมัน”ซ่างเหิงหัวเราะขึ้นมา มั่วเย้ของชู่มู่นี้ มองข้ามแม้แต่ปีศาจแมลงตะกละจักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะสิบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมารนิรยขาวลักษณะเก้าขั้นสูงแล้ว !
เหล่าสมาชิกตำหนักวิญญาณพบว่า ชู่มู่ยังมีพลังแบบนี้สู้กับคนที่แข็งแกร่งที่สุดของวังมารนิรย ต่างเผยรอยยิ้มออกมา
…
ชู่มู่จะไม่ปล่อยให้เสียเวลาต่อไป ในตอนนั้นได้ตบมั่วเย้บนไหล่ตัวเองเบา ๆ
มั่วเย้เตรียมตัวมานานแล้ว หลังจากได้รับอนุญาตของชู่มู่แล้ว มันกระโดดลงพื้นทันที ดวงตาสีเงินคู่นั้นจับจ้องไปยังดวงวิญญาณหมวดอสูรที่เจียงอี้เถิงเพิ่งอัญเชิญออกมา !
ดวงวิญญาณหมวดอสูรที่เจียงอี้เถิงอัญเชิญออกมาเป็นสิงโตงูสายฟ้าตัวหนึ่ง !
สิงโตงูสายฟ้า ตระกูลภูตอสูร หมวดอสูร กลุ่มสิงโต กลุ่มสิงโตงูสายฟ้าทั่วไป จักรพรรดิขั้นกลาง
สิงโตงูสายฟ้า ลักษณะภายนอกคล้ายสิงโตเสือปีกสายฟ้า ขนสีม่วงที่พลิ้วไหว เต็มไปด้วยพลัง มีปีกสีม่วงคู่หนึ่ง สามารถวิ่งบนฟ้าได้ ที่พิเศษที่สุดคือ บริเวณหางไม่ใช่หางสิงโตธรรมดา แต่เป็นงูพิษลายดอกไม้สีม่วงสองเส้นซึ่งยื่นออกจากบริเวณสะโพก !
ความยาวของงูพิษสองเส้นนี้น่ากลัวอย่างมาก เป็นงูเหลือมดุร้ายสองตัว พวกมันเหมือนมีชีวิตแยกออกมา ยืดตัวขึ้น ใช้ดวงตาดุร้ายนั้นจับจ้องไปยังศัตรู
มั่วเย้มีหางจิ้งจอกเก้าเส้น เมื่อเทียบกันแล้ว เก้าหางนี้ดูมีพลังและงดงามกว่า แต่หางงูสองเส้นนี้ของสิงโตงูสายฟ้านี้กลับดุร้ายยิ่งกว่า ถ้าเข้าใกล้อาจถึงชีวิตได้ !
“จักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะเก้าขั้นสูง !!!”
เหล่าผู้แข็งแกร่งด่านที่แปดนี้นับว่าเป็นผู้แข็งแกร่งหนึ่งร้อยคนแรกของการประลองฟ้าดินทั้งหมดนี้แล้ว ดวงวิญญาณระดับจักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะเก้าขั้นต่ำเป็นดวงวิญญาณเฉลี่ยของระดับนี้ สิงโตงูสายฟ้าลักษณะเก้าขั้นสูงนี้เกินกว่าระดับนี้ถึงสองขั้น
อีกทั้ง เหมือนดวงวิญญาณทั้งหมดที่เจียงอี้เถิงมีจะอยู่ในระดับลักษณะเก้าขั้นสูงหมด !
ผู้แข็งแกร่งที่สุดของวังมารนิรย เพียงแค่ดวงวิญญาณสองตัวนี้ก็เผยให้เห็นความต่างจากผู้คนได้แล้ว
“จิ้งจอกอัคคีเก้าหางมงกุฎเพลิงอยู่แค่ลักษณะเก้าขั้นสาม จะเป็นคู่ต่อสู้ของสิงโตงูสายฟ้าได้อย่างไร อีกทั้งเห็นได้ชัดว่า สิงโตงูสายฟ้านี้มีหมวดรอง เป็นความสามารถของลักษณะเก้าชั้นยอด ! ”
มั่วเย้กับสิงโตงูสายฟ้าได้ตั้งตัวแล้ว !
ทว่า ในตอนที่ผู้คนยังไม่ทันได้ทำการวิเคราะห์หมวดของดวงวิญญาณ แสงจันทร์งดงามได้สาดส่องลงมาบนตัวมั่วเย๋ ทำให้ลำตัวสีเงินของมั่วเย้ดูสูงส่งเยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม !
เชิญปีศาจจันทรา !
มั่วลักษณะเก้าขั้นสาม กลิ่นไอของแสงจันทร์ที่ปกคลุมทำให้แข็งแกร่งขึ้นทันที ความสามารถเพิ่มขึ้นจากลักษณะเก้าขั้นสามเข้าสู่ลักษณะเก้าขั้นหกอย่างรวดเร็ว !
ผลของมงกุฎเพลิง ทำให้ความสามารถของมั่วเย้เพิ่มขึ้นอีกระดับได้ ดังนั้น ความสามารถที่แท้จริงของมั่วเย้คือ ลักษณะเก้าขั้นสูง ห่างกับสิงโตงูสายฟ้าแค่ขั้นเดียว
“เสียงดอกไม้ ! ”
เย้ชิงจือเองก็รู้จักหมวดตรงกันข้าม ไม่ได้เพิ่มเกราะน้ำให้กับมั่วเย้ แต่กลับเพิ่มทักษะรักษาต่อเนื่องอย่างเสียงดอกไม้ผ่านกระดิ่งแก้วตา !
ทักษะเสียงดอกไม้นี้จะเยียวยาแผลได้ในสามนาที ในสามนาทีนี้ระดับของแผลจะเปลี่ยนจากแผลระดับกลางเป็นแผลที่เบาลง…
และถ้าคงที่สิบสองนาที เท่ากับว่า ในเวลาสิบสองนาทีนี้ แค่มั่วเย้ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพิ่ม จะยังคงภาวะต่อสู้ที่เต็มอิ่มที่สุดได้
ความสามารถที่อยู่ในขั้นใดขั้นหนึ่ง มั่วเย้จะไม่แพ้แน่นอน ต่อให้ไม่มีเสียงดอกไม้ ชู่มู่ก็เชื่อว่ามั่วเย้จะชนะสิงโตงูสายฟ้าได้ร้อยละร้อย !
“เท่ากับว่าลักษณะเก้าขั้นสูง ยังสู้ได้บ้าง ว่าแต่…” เหล่าผู้ชมตำหนักวิญญาณได้นึกถึงปัญหาหนึ่ง
ตามปกติแล้ว คนที่ยืนอยู่บนยอดเขา อีกทั้งมีดวงวิญญาณลักษณะเก้าขั้นสูงนี้น่าจะเป็นฟางเจ๋อผู้ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในตำหนักวิญญาณของพวกเขา ทำไมถึงกลายเป็นชู่เฉิงระดับเจ็ดได้ !
เห็นได้ชัดมาก ดวงวิญญาณที่ชู่เฉิงอัญเชิญในด่านก่อน ๆ เพื่อได้หน้าล้วนเป็นดวงวิญญาณรอง !!!
…
“ซิงหยางได้อัญเชิญดวงวิญญาณหมวดอสูรแล้ว ! ”
ดวงวิญญาณหมวดอสูรเป็นดวงวิญญาณหลักที่ผู้คุมดวงวิญญาณทุกตัวมี ผู้แข็งแกร่งทุกคนจะต้องมีดวงวิญญาณหลักเป็นหมวดอสูรหนึ่งตัว
ดวงวิญญาณหมวดหลักที่ซิงหยางอัญเชิญคืออสูรหลังคาน้ำแข็ง !!!
อสูรหลังคาน้ำแข็งมีระดับพลังต่อสู้จักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะขั้นอยู่ที่ลักษณะเก้าขั้นสูงแล้ว !!!
สมคำล่ำลือว่า เป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งและสองของวังมารนิรย ดวงวิญญาณที่พวกเขาอัญเชิญต่างเป็นลักษณะเก้าขั้นสูงที่ทำให้เหล่าผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดออกพูดไม่ออก !
อสูรหลังคาน้ำแข็งเป็นหมวดน้ำแข็ง ถ้าหาเรื่องมั่วเย้ มันจะเสียเปรียบแน่นอน
ชู่มู่ขมวดคิ้ว ซิงหยางกับเจียงอี้เถิงต่างเป็นคนฉลาด ถ้ามีหมวดตรงกันข้าม พวกเขาจะไม่ให้ดวงวิญญาณของพวกเขาสู้กับมั่วเย้แน่นอน
และแล้ว อสูรหลังคาน้ำแข็งนี้เล็งไปยังมั่วเย้ที่สู้กับสิงโตงูสายฟ้าทันที กลิ่นไอน้ำแข็งปล่อยออกจากทั้งตัวอย่างบ้าคลั่ง ดับมงกุฎเพลิงของมั่วเย้ทันที !
“ชู่มู่ อสูรนกสวนสงครามของข้าจัดการอสูรหลังคาน้ำแข็ง” เย้ชิงจือใช้ร่ายวิญญาณบอกกับชู่มู่
“อืม” ชู่มู่พยักหน้า ศัตรูที่เจอในตอนนี้ต่างเป็นผู้คุมดวงวิญญาณอัจฉริยะของอำนาจต่าง ๆ ดวงวิญญาณทั้งหมดที่พวกเขามีไม่ใช่ดวงวิญญาณธรรมดา
แม้แต่ความสามารถหมวดน้ำแข็งที่อสูรหลังคาน้ำแข็งมียังเป็นน้ำแข็งพิฆาตขั้นสูง เท่ากับหมวดรองนี้จะทำให้ความสามารถของอสูรหลังคาน้ำแข็งนี้เพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง อยู่ในลักษณะเก้าชั้นยอด !
“ดวงวิญญาณของชู่เฉิงกับเย้ชิงจือต่างอยู่ในลักษณะเก้าขั้นกลาง แม้จะบอกว่ามีหมวดรอง แต่เห็นได้ชัดว่าความสามารถห่างกันขั้นหนึ่ง สองคนนี้ซ่อนความสามารถได้มิดชิดมาก ถ้าเจอคนอื่นที่ไม่ใช่ซิงหยางกับเจียงอี้เถิงวังมารนิรย จะขยี้พวกเขาได้แน่นอน แต่กลับได้เจอกับผู้แข็งแกร่งผิดปกติสองคนนี้” ตำหนักวิญญาณพูดขึ้น
ความสามารถของดวงวิญญาณมองออกได้ทันที ความสามารถเฉลี่ยจะอ่อนลง นอกจากว่าดวงวิญญาณของชู่มู่กับเย้ชิงจือจะมีความสามารถพิเศษอย่างอื่น มิฉะนั้น อยู่ไม่ถึงสิบนาทีแน่นอน
แน่นอนว่า ถ้าไม่มีดวงวิญญาณหมวดเสริมของเย้ชิงจือ คงยากที่จะทนถึงห้านาทีได้
…
“ให้ภูตวิญญาณของข้าควบคุมมั่วเย้ตัวนั้น” ซิงหยางใช้ร่ายวิญญาณบอกกับเจียงอี้เถิง
มั่วเย้อาศัยความสามารถป้องกันทรงพลังนั้น จัดการแบบหนึ่งต่อสอง นับว่าเป็นจุดสำคัญของทั้งสนามต่อสู้นี้
ในการต่อสู้ตัวต่อตัว มารนิรยขาวกับมารนิรยฟ้ายากที่จะรับมืออย่างมาก !
มารนิรยทั้งสองต่างเป็นดวงวิญญาณที่เน้นการโจมตีเป็นหลัก ถ้าถูกสิ่งที่พุ่งตรงมาโดยไม่สนใจความเป็นอยู่ขวางเอาไว้ การต่อสู้ครั้งนี้แทบไม่มีการโจมตีใด ๆ อย่างไรสิงโตงูสายฟ้าและอสูรหลังคาน้ำแข็งในตอนนี้ล้วนมีคู่ต่อสู้แล้ว
เผชิญกับสิ่งมีชีวิตที่เน้นพลังและการป้องกันแบบนี้ สิ่งที่ดีที่สุดคือการควบคุมด้วยจิต เพียงแค่มีภูตวิญญาณที่มีลักษณะขั้นสูงกว่ามัน ต่อให้ภูตวิญญาณตัวนี้ไม่มีการป้องกันหรือการโจมตี ก็สามารถควบคุมดวงวิญญาณเน้นพลังตรงหน้านี้ได้
“อืม มั่วเย้ตัวนี้จัดการยากจริง ! ฝากเจ้าด้วย ! ” เจียงอี้เถิงพูดด้วยใบหน้าเยือกเย็น
“ผู้คุมดวงวิญญาณหญิงเน้นการเสริม วารีจันทรากับกระดิ่งแก้วตาต่างมีความสามารถเยียวยา แม้ความสามารถดวงวิญญาณของพวกเราจะสูงกว่าพวกเขาขั้นหนึ่ง ถ้าไม่จัดการพวกมันละก็ ทุกครั้งที่โจมตี พวกมันจะได้รับการเยียวยาในเวลาอันสั้นทุกครั้ง”ซิงหยางกวาดตามองไปยังดวงวิญญาณเสริมสองตัวของเย้ชิงจือ
“ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง พวกเราแค่เล่นกับพวกเขา หรือว่าพวกเขาคิดว่าข้าเจียงอี้เถิงมีดวงวิญญาณแค่นี้เหรอ”เจียงอี้เถิงบอก
“เจียงอี้เถิง มารนิรยขาวตัวนี้ของเจ้า…น่าจะไม่ใช่ ‘ซือ’ ใช่ไหม หนึ่งปีก่อนที่พวกเราประลองกัน เจ้าไม่ได้อัญเชิญมันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว” ซิงหยางพูดขึ้น
“ที่แท้เจ้ามองออกแล้ว มันไม่ใช่มารนิรย ‘ซือ’ ที่แข็งแกร่งที่สุดของข้าแน่นอน ! ในตอนนั้นถ้าข้าอัญเชิญมัน เจ้าจะเสมอกับข้าเหรอ ทว่า การต่อสู้ครั้งนี้แทบไม่ต้องอัญเชิญมันออกมา” เจียงอี้เถิงฉีกยิ้มออกมา