Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 540
ชู่มู่แทบไม่สามารถเก็บความดีใจเอาไว้ได้ ความตื่นเต้นที่มีต่อการแปรเปลี่ยนตระกูลเป็นจักรพรรดิสมบูรณ์แบบนั้นทวีคูณมากขึ้น !!!
“ชู่มู่ !!!”
“อู อู อู !!!”
“เนี๊ย !!!”
“โฮร่ โฮร่ โฮร่ !!!”
ทันใดนั้น เสียงอูอีดังขึ้น เสียงร้องด้วยความหวาดกลัวของเย้ชิงจือ มั่วเย้ ปีศาจขาวและจั้นเย้
ชู่มู่แอบดีใจ ท่าทางพวกเขารู้ว่า ตัวเองกำลังจะทลายความสามารถแล้ว กำลังดีใจเพื่อตัวเอง แต่น่าแปลกใจตรงที่ว่า ทำไมเสียงของพวกเขาฟังดูรีบร้อนแบบนั้น
และแล้ววินาทีที่ลืมตาขึ้น ชู่มู่ตกใจทันที เข้าใจแล้วว่า ทำไมเสียงร้องของเย้ชิงจือกับเหล่าดวงวิญญาณถึงแหลมแบบนั้น !
ชู่มู่ไม่คิดว่า จะเห็นฉากนี้ของปีศาจขาว ผู้คุมดวงวิญญาณพิการสองคนนั้นยังมีโอกาสโต้ตอบได้
เมื่อลืมตาขึ้น สิ่งที่สะท้อนเข้าตาเขาคือ ปีศาจภูเขาน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยเกราะน้ำแข็งทั้งตัว กรงเล็บที่เพียงพอจะสลายภูเขาทั้งแห่งนั้นยกขึ้น กลายเป็นพลังน้ำแข็งแข็งแกร่งยิ่งจนก่อเป็นมิติแช่แข็งบางอย่าง ฟาดลงอย่างแรง !
ขนาดตัวของอสูรหลังคาน้ำแข็งใหญ่มาก แต่ความเร็วในการโจมตีกลับไม่ช้า หลังจากยกขึ้น กรงเล็บยักษ์นั้นได้ฟาดลงทันที !!!
ในตอนนี้ สิ่งที่กำลังทดสอบคือ จิตของชู่มู่ ถ้าเป็นคนปกติ ลืมตาเห็นกรงเล็บยักษ์ที่บุกเข้ามา จะต้องกลัวจนสมองว่างเปล่าแน่นอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการร่ายคาถาต้านทาน
และในตอนที่ชู่มู่ลืมตาขึ้นได้ทำการโต้ตอบด้วยสัญชาตญาณทันที ร่ายคาถาเงาปีศาจสลับตำแหน่ง !
ในตอนแรกสุดที่ชู่มู่ใช้เงาปีศาจสลับตำแหน่งนั้น ต้องใช้เวลาร่ายคาถาหนึ่งวินาที แต่ตามที่ร่ายวิญญาณของชู่มู่แข็งแกร่งขึ้นและมีความคล่องแคล่วของทักษะมากขึ้น ทักษะหลบซ่อนนี้แทบจะกลายเป็นว่า ชู่มู่คิดจะเคลื่อนที่ก็ปล่อยออกมาได้ !
สิ่งที่สำคัญที่สุดของทักษะหลบคือ ความเร็วในการปล่อยและความเร็วในการโต้ตอบ ในตอนที่กรงเล็บภูเขาน้ำแข็งฟาดลง ไฟปีศาจลุกโชนขึ้น แผดเผาร่างของชู่มู่อย่างรวดเร็ว…
กรงเล็บของอสูรหลังคาน้ำแข็งใหญ่กว่าชู่มู่หลายเท่าตัว การปกคลุมแบบนี้ แทบไม่มีใครเห็นไฟปีศาจสลับตำแหน่งที่พุ่งขึ้นจากตัวชู่มู่
กรงเล็บน้ำแข็งฟาดลง เย้ชิงจือกลัวจนเสียโฉมทันที ปิดปาก น้ำตาจะไหลออกมาแล้ว
ส่วนซิงหยางกับเจียงอี้เถิงที่ทำทุกวิธีทางเพื่อฆ่าชู่มู่ ใบหน้าซีดขาวของพวกเขากลับฉีกยิ้มได้ใจออกมาพร้อมกัน
ชัยชนะในตอนท้ายสุด ยังคงเป็นของพวกเขา ! ไม่ว่าวิญญาณของพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บมากเท่าไร เพียงแค่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ สุดท้ายยังคงปรับตัวได้
ส่วนชู่มู่ จะหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล !
ผลของเสียงระเบิดได้จางหายไปแล้ว เหล่าผู้ชมที่อยู่บนฟ้าได้เห็นกรงเล็บภูเขาน้ำแข็งตะบบลงบนตัวชู่มู่กับตา ส่วนร่างกายของชู่มุ่ถูกทับจนแบนทันที !
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้…” ซ่างเหิงมองไปยังกรงเล็บยักษ์นั้นอย่างเหลือเชื่อ
“ประมาทเกินไป…ประมาทเกินไปแล้ว…” หลัวปิงเองก็พูดอย่างเหลือเชื่อ
ผู้คนของตำหนักวิญญาณต่างเสียขวัญ ผลแบบนี้เกินกว่าที่ผู้คนคาดไว้ !
ส่วนหลีเหิงกลับมีท่าทีใจเย็นกว่าเยอะ ร่ายวิญญาณของเขาสูงที่สุด เขาเป็นคนเดียวที่เห็นไฟปีศาจลุกโชนขึ้นภายใต้กรงเล็บน้ำแข็งกะทันหัน !
ไฟปีศาจแบบนี้ คือทักษะหลบซ่อนแข็งแกร่งของมารนิรยขาว เงาปีศาจสลับตำแหน่ง
แม้หลีเหิงยากที่จะเชื่อว่าชู่มู่จะปล่อยทักษะนี้สำเร็จได้ในเวลาอันสั้น แต่เขาจับจ้องไปยังสนามต่อสู้ด้วยความนิ่งกว่าคนอื่น เขากำลังตามหา…ตามหาตำแหน่งอีกอันที่ไฟปีศาจลุกโชนขึ้น !
และแล้ว บริเวณสันหลังของอสูรหลังคาน้ำแข็ง เกิดคลื่นไฟปีศาจสีขาวบางอย่าง ตามด้วยไฟปีศาจเก้าวิญญาณที่ลุกโชนขึ้น ท่ามกลางเปลวไฟร้อนระอุ ได้เห็นชู่มู่ชุดดำยืนอยู่ด้านหลังอสูรหลังคาน้ำแข็งอย่างลึกลับ !
คนที่อยู่ท่ามกลางไฟปีศาจคือชู่มู่ หลังจากเห็นชู่มู่ปล่อยทักษะหลบอสูรหลังคาน้ำแข็งสำเร็จ หลีเหิงเองก็วางใจได้ ทว่า เขาพบว่ามือที่มีไฟปีศาจลุกโชนอยู่ของชู่มู่ได้ยื่นเข้าไปในหลังของอสูรหลังคาน้ำแข็ง !
ดับดวงใจ !!!
หลีเหิงเคยเห็นทักษะวิญญาณนี้ของชู่มู่ ในตอนนั้นเขาได้ใช้ทักษะวิญญาณนี้ฆ่าอสูรเหวเลือดของเซิ่นอีเฉิงในเสี้ยววินาที !!!
ชู่มู่ทำทุกอย่างรวดเร็วอย่างมาก เจ้าวิญญาณเจ็ดร่าย ทำให้ชู่มูปล่อยทักษะได้คล่องแคล่วกว่าเดิม อีกทั้งมีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น !
…
“บึ้ง !!!”
เสียงระเบิดออก !
ชู่มู่บีบผลึกเครื่องในที่ควักออกจากร่างของอสูรหลังคาน้ำแข็งด้วยมือเดียว !!!
อสูรหลังคาน้ำแข็งเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากก้อนน้ำแข็งนับไม่ถ้วน หลังจากผลึกเครื่องในที่เหมือนหัวใจของมนุษย์แตกกระจาย พลังชีวิตลดลงทันที !
ปราศจากแหล่งพลังชีวิตจากผลึกเครื่องใน อสูรหลังคาน้ำแข็งเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่สูญเสียชั้นโครงสร้าง เริ่มถล่มลงมาแล้ว !!!
“โครม !!!”
การตายของอสูรหลังคาน้ำแข็งเกิดขึ้นอย่างกะทันหันมาก ในตอนที่คนทั้งหมดยังจมอยู่กับความตายของชู่มู่ เสียงถล่มของอสูรหลังคาน้ำแข็งทำให้พวกเขาตื่นตัว…
ก้อนน้ำแข็งกระแทกบนพื้นต่อเนื่อง แตกสลาย แล้วละลายหายไป
และท่ามกลางเศษน้ำแข็งสีขาวนี้ สามารถมองเห็นเงาสีดำได้ ยืนอยู่ท่ามกลางศพของอสูรหลังคาน้ำแข็งนี้อย่างเด็ดเดี่ยว ท่ามกลางนัยน์ตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ลึกลับ เยือกเย็น ทำให้สะเทือนใจอย่างมาก !
“พระเจ้า เขายังไม่ตาย !!!”
“ชู่มู่ยังไม่ตาย แต่อสูรหลังคาน้ำแข็งตายแล้ว !!!”
ชู่มู่อยู่ในเจ้าวิญญาณเจ็ดร่ายแล้ว ในสนามนอกจากหลีเหิงแล้วแทบไม่มีใครเห็นการเคลื่อนไหวของชู่มู่ คนทั้งหมดต่างนิ่งอึ้ง !!!
…
ชู่มู่เดินออกจากเศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วน
เขามองไปยังเย้ชิงจือ ฉีกยิ้มออกมาบนใบหน้าเยือกเย็น
เย้ชิงจือยิ้มด้วยน้ำตา พอเช็ดน้ำตาแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่ทำให้คนอื่นเป็นห่วงแบบนี้ได้ไหม”
ชู่มู่แค่ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ข้าทลายถึงเจ้าวิญญาณเจ็ดร่ายแล้ว”
เย้ชิงจือไม่รู้ว่า ทำไมชู่มู่จำต้องทลายถึงเจ้าวิญญาณร่ายเจ็ดให้ได้ ในตอนนี้ได้ปรับอารมณ์ พูดกับชู่มู่อย่างจริงจังว่า “จัดการพวกเขาก่อนเถอะ มิฉะนั้นฉิงเย้ปรากฏตัว พวกเราจะมีปัญหาอีก”
“คึคึ กลัวว่าเขาจะไม่มามากกว่า” ชู่มู่ยิ้มอย่างลึกลับ
ฉิงเย้ไม่มา แล้วใครจะกระตุ้นให้มั่วเย้แปรเปลี่ยนตระกูล
หลังจากเย้ชิงจือรู้ว่าชู่มู่ฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร ก็ได้ยิ้มอย่างไม่เข้าใจ พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “เจ้าเป็นอะไรกันแน่ เจ็ดร่ายสำคัญกับเจ้าขนาดนั้นเหรอ”
“อีกไม่นานเจ้าจะรู้” ชู่มู่บอก
ในตอนที่ชู่มู่กับเย้ชิงจือกำลังยิ้มหัวเราะกัน เจียงอี้เถิงกับซิงหยางทั้งสองคนแถบจะพ่นเลือด !
เจ้านี่ไม่เพียงแต่ยังไม่ตาย ยังมีอารมณ์คุยเล่นกับผู้หญิงอยู่ตรงนั้น รู้ว่าทั้งสองคนได้ใช้แรงทั้งหมดของดวงวิญญาณเพื่อฆ่าชู่มู่ !
“เนี๊ย !!! !”
เวลาสิบวินาทีได้จบลงแล้วในที่สุด ไฟปีศาจเก้าวิญญาณในร่างกายของปีศาจขาวได้แผดเผาภูตร้ายให้เป็นเถ้าถ่านแล้ว ใบหน้าของซิงหยางกระตุกรุนแรงอีกครั้ง แทบจะยืนไม่ไหวแล้ว !
หลังจากปีศาจขาวคลายผลึกแล้ว กลิ่นไอไฟปีศาจวิญญาณรุนแรงได้พัดพาไปทั่วทั้งภูเขาหลักเวหาอมตะ พลังกระตุ้นวิญญาณนี้ราวกับวิญญาณปีศาจนับร้อยพัน เต็มไปด้วยความแค้นของปีศาจขาว พัดพาไปยังเจียงอี้เถิงและซิงหยาง !
“ปีศาจขาว ฆ่าดวงวิญญาณของพวกเขา !” ชู่มู่ออกคำสั่งต่อปีศาจขาว !
ชู่มู่หวังอย่างมากว่า มั่วเย้จะแปรเปลี่ยนตระกูล แต่คู่ต่อสู้อย่างเจียงอี้เถิงและซิงหยาง แทบไม่ต้องให้มั่วเย้ที่แปรเปลี่ยนมาจัดการ ยิ่งไปกว่านั้น ดวงวิญญาณของสองคนนี้ในตอนนี้พ่ายแพ้แล้ว ไม่พอที่จะกระตุ้นให้มั่วเย้แปรเปลี่ยน !
คิดจะแปรเปลี่ยน ชู่มู่จะต้องเจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่านี้ !
…
ปีศาจขาวที่เต็มไปด้วยความโกรธดุร้ายยิ่งกว่าเดิม เจียงอี้เถิงกับซิงหยางเหลือดวงวิญญาณแค่ตัวเดียว
ในไม่ช้า ปีศาจขาวได้เล็งไปยังสิงโตงูสายฟ้า ปีศาจปรากฏตรงหน้าพวกมันทันที กรงเล็บปีศาจยื่นเข้าไปในร่างกายของสิงโตงูสายฟ้า ฉีกร่างของมันออกโดยตรง !!!
“ซ่า”
“ซ่า”
สิงโตงูสายฟ้าแทบไม่มีแรงต้านทาน ลำตัวสีม่วงนี้ถูกปีศาจขาวฉีกออกเป็นหลายชิ้นอย่างรุนแรง ท้ายสุด แม้แต่ศพยังถูกปีศาจขาวเผาจนไม่เหลือชิ้นดี !
สิงโตงูสายฟ้าตายลง ทำให้ญาณสี่ของเจียงอี้เถิงได้รับบาดเจ็บสาหัส การบาดเจ็บนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างมาก และเขาในตอนนี้ได้คุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่เพียงแต่สีหน้าซีดขาว ผิวไม่มีเลือดแม้แต่น้อย
แต่วิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เขาดูอ่อนแออย่างมาก พลังชีวิตกำลังลดลง อีกทั้งเพียงแค่ถูกดวงวิญญาณที่แข็งแกร่งโจมตี เจียงอี้เถิงจะขาดวิญญาณตายแน่นอน!
ซิงหยางก็ไม่ดีเท่าไร หลังจากดวงวิญญาณที่สี่ของเขาถูกปีศาจขาวฆ่าตายแล้ว ล้มลงบนพื้นเช่นกัน…
มองจากบนฟ้าลงมา สามารถมองเห็นท่าทีอ่อนแอจนเกือบตายของทั้งสองคนนี้ได้
จนถึงตอนนี้ เหล่าผู้เข้าแข่งขันของวังมารนิรยยังไม่กล้าที่จะเชื่อว่า ผู้เข้าแข่งขันสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดของวังมารนิรยจะพ่ายแพ้อนาถแบบนี้ !!!
เหล่าผู้เข้าแข่งขันของวังมารนิรยพูดไม่ออกตั้งนานแล้ว และหลังจากสถานการณ์คงที่แล้ว เหล่าผู้เข้าแข่งขันของตำหนักวิญญาณได้ฉีกยิ้มออกมา แต่ว่ามองออกได้ว่ารอยยิ้มของเขาประหลาด…
ถ้าบอกว่า ชู่มู่ได้ใช้ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายเส้นทั้งเจ็ดเอาชนะสองคนนี้ พวกเขาจะส่งเสียงร้องดังขึ้นแน่นอน อีกทั้งยังให้ชู่มู่เป็นวีรบุรุษของตำหนักวิญญาณ…
แต่ชู่มู่กลับใช้มารนิรย อีกทั้งยังเป็นมารนิรยขาวที่ชั่วร้ายยิ่งตัวหนึ่ง นับว่าการนำชัยชนะมาให้ตำหนักวิญญาณของชู่มู่ไม่สะเทือนใจเท่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวชู่มู่
…
“แหวนนักโทษ ส่งออกมาเถอะ” ชู่มู่ที่สวมชุดดำเหมือนยมทูตควบคุมชะตาชีวิต ยืนอยู่ตรงหน้าผู้แข็งแกร่งวังมารนิรยสองคน พูดด้วยน้ำเสียงสั่ง
เจียงอี้เถิงกับซิงหยางเคยทนต่อความพ่ายแพ้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร ในสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอับอายอย่างที่สุด อีกทั้งยังมีความแค้นต่อชู่มู่
“ข้าจะไม่พูดครั้งที่สาม ส่งแหวนนักโทษออกมา !” ชู่มู่บอก !
ในที่สุด เจียงอี้เถิงกับซิงหยางยังคงส่งแหวนนักโทษของพวกเขาออกมา อย่างไรก็ตาม ความจริงที่พ่ายแพ้ก็อยู่ตรงหน้า ต่อให้พวกเขารู้สึกอับอายมากเพียงใดก็ตาม !
รวมแหวนนักโทษของเจียงอี้เถิงและซิงหยางแล้วเป็นทั้งหมดเจ็ดพันห้าร้อยล้าน บวกกับหกพันห้าร้อยล้านของชู่มู่เอง ในด่านที่แปด ชู่มู่ได้เงินทุนทั้งหมดหนึ่
หมื่นสี่พันล้านแล้ว
หนึ่งหมื่นสี่พันล้านนี้ซื้อเกราะวิญญาณขั้นเก้าเกือบสามตัวได้ ให้ดวงวิญญาณของตัวเองได้สวมชุดนี้ได้ อีกทั้งยังนำเงินนี้สร้างจักรพรรดิขั้นสูงได้ เพื่อให้ความสามารถของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างมาก !!!
บุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในขั้นสองอย่างหลิงเหอเองก็มีแค่เกราะวิญญาณมูลค่า ห้าพันล้านเท่านั้น เพียงแค่ชู่มู่ใช้หนึ่งหมื่นสี่พันล้านนี้จนหมดไป จะเป็นคนที่ไร้เทียมทานในขั้นสองนี้ ได้เกียรติสุดท้ายอย่างง่ายดาย !