Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 553
“เชิญปีศาจจันทรา !”
แสงงดงามของวารีจันทรากลายเป็นแสงจันทร์สีเงินลึกลับช้า ๆ สาดลงจากท้องฟ้าที่มืดมน กระทบบนตัวของมั่วเย้
ขนสีเงินของมั่วเย้เริ่มพลิ้วไหว พลังของปีศาจจิ้งจอกอัคคีเก้าหางที่รุนแรงกระจายออก ทำให้พลังของมั่วเย้เพิ่มขึ้นหลายเท่า !
ด้วยผลของการเชิญปีศาจจันทรา มงกุฎเพลิงที่รุนแรงขึ้นลุกโชนบนกรงเล็บยาว ตวัดผ่านดวงวิญญาณของซือเทียน !
เดิมที การโจมตีของมั่วเย้ยังยากที่จะทำลายจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะเก้าขั้นสูงที่สวมเกราะวิญญาณขั้นแปดนี้ได้ แต่ด้วยผลของเชิญปีศาจจันทรา ทำให้พลังของมั่วเย้เพิ่มขึ้น เพียงพอที่จะทำลายการป้องกันของสิ่งมีชีวิตนี้แล้ว อีกทั้งผลของการแผดเผามงกุฎเพลิงนี้ก่อผลอย่างชัดเจนมาก ทำให้ปีศาจงูสี่ปีกลักษณะเก้าขั้นสูงนี้ต้องถอยกลับ
หลังจากทักษะเสริมหลายอันแล้ว วารีจันที่กับภูตไม้หมุนของเย้ชิงจือต่างเริ่มใช้ทักษะเยียวยา ภูตไม้หมุนรักษาให้มั่วเย้ วารีจันทรารักษาตัวให้จั้นเย้ ในไม่ช้า สถานการณ์ต่อสู้ก็ไม่อนาถเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
ซือเทียนกวาดตามองผ่านดวงวิญญาณเสริมของเย้ชิงขือ กลับขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาว่า การรวมตัวของชู่มู่กับผู้คุมดวงวิญญาณเสริมคนนี้แข็งแกร่งมากจนเอาชนะคนที่แข็งแกร่งที่สุดของวังมารนิรยได้ ตอนนี้หลังจากดวงวิญญาณของเย้ชิงจือปล่อยทักษะทั้งหมดออกมา ความได้เปรียบก่อนหน้านี้ของซือเทียนได้หายไปหมดแล้ว
“จัดการจิ้งจอกอัคคีเก้าหางของเขาก่อน !” ซือเทียนรู้ว่า ต่อให้ใช้อสูรเชิญหงส์ของตัวเองก็ยากที่จะจัดการจั้นเย้ของชู่มู่ในเวลาอันสั้นนี้ได้
ในเมื่อฆ่าไม่ตาย เขาจึงให้ภูตวิญญาณของตัวเองควบคุมจั้นเย้เอาไว้ ให้จักรพรรดิขั้นกลางอีกตัวหนึ่งโจมตีมั่วเย้ !
จักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบ ดวงวิญญาณแบบนี้มีหมวดรองเช่นกัน ความสามารถแข็งแกร่งกว่ามั่วเย้สองขั้น ยิ่งกว่านั้น ยังมีดวงวิญญาณที่มีความสามารถเทียบเท่ามั่วเย้อีกตัวหนึ่ง มั่วเย้จะจัดการดวงวิญญาณสองตัวนี้ลำพังย่อมมีความยากระดับหนึ่ง
“ชิงจือ ให้อสูรนิมิตของเจ้าช่วยจั้นเย้ของข้าสลัดการควบคุมจิต” ชู่มู่พูดกับเย้ชิงจือ
“แต่ว่า มั่วเย้ในตอนนี้ต้องการเสริมมากกว่าไม่ใช่หรือ” เย้ชิงจือถามอย่างไม่เข้าใจ
มั่วเย้ในตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะเก้าขั้นสูงกับจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบ โดยเฉพาะแมลงร้ายร้อยกริดที่สูงกว่ามั่วเย๋ถึงสองขั้น การโจมตีของดวงวิญญาณหมวดแมลงแบบนี้ดุร้ายอย่างมาก ถ้าไม่ระวังอาจถูกตัดเป็นเศษได้ !
“ไม่เป็นไร มั่วเย้จัดการได้ !” ชู่มู่พูดอย่างจริงจัง
“อู อู อู อู”
มั่วเย้ส่งเสียงร้องพร้อมสู้ขึ้น
จะแปรเปลี่ยนตระกูลก็ต้องมีการกระตุ้นด้วยการต่อสู้ มีเพียงการต่อสู้ที่น่าท้าทายจริง ถึงจะทำให้มั่วเย้กระตุ้นสายเลือดแปรเปลี่ยนตระกูลในร่างกายของตัวเองได้ !
“มั่วเย้ วนรอบพวกมันก่อน !” ชู่มู่บอก
การโจมตีกับการป้องกันของมั่วเย้ด้อยกว่าดวงวิญญาณสองตัวนี้ แต่จะได้เปรียบด้านความเร็วแน่นอน บวกกับความสามารถหลบซ่อนของมั่วเย้แล้ว ดวงวิญญาณสองตัวนี้อย่าคิดที่จะโจมตีมั่วเย้ในเวลาอันสั้นได้
เย้ชิงจือเห็นชู่มู่ยืดยัดแบบนี้ ไม่พูดอะไรอีก ให้อสูรนิมิตชุดม่วงลอยไปยังตำแหน่งที่จั้นเย้อยู่ ช่วยเหลือจั้นเย้ต่อสู้กับภูตวิญญาณตัวนั้น
ซือเทียนกวาดตามองไปยังชู่มู่อย่างเยือกเย็น
ในไม่ช้า พบว่าชู่มู่ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ดวงวิญญาณตัวหนึ่งโจมตีได้ ในตอนนี้ ซือเทียนได้เปลี่ยนแผนการต่อสู้ ให้แมลงร้ายร้อยกริดแสร้างทำเป็นโจมตีมั่วเย๋ แล้วเปลี่ยนทิศทางโจมตีไปยังชู่มู่
ชู่มู่เห็นแมลงร้ายร้อยกริดพุ่งตรงมา เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา
ตอนที่ต่อสู้ ชู่มู่ใส่ใจตำแหน่งของตัวเองอย่างมาก ตำแหน่งนี้โดยปกติจะไม่ถูกดวงวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามโจมตี และต่อให้ฝ่ายตรงข้ามจะโจมตีตัวเอง ก็ต้องใช้เวลาหน่อย
ทว่า เนื่องจากใต้แท่นบูชาอสูรเลือดเต็มไปด้วยผู้เฝ้าหิน ตำแหน่งที่ชู่มู่เคลื่อนไหวได้มีอย่างจำกัด ประมาทเล็กน้อยกลับถูกเจ้านี่มองออก !
“อู อู อู อู”
มั่วเย้สังเกตเห็นแมลงร้ายร้อยกริดที่พุ่งมาโจมตีชู่มู่ทันที หลังจากส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธแล้ว หางเก้าเส้นเริ่มหมุนตัว !
เก้าหางอลวน !!!
ผลของเก้าหางอลวนคล้ายกับเงาปีศาจสลับตำแหน่ง แต่ในเงาอลวนสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ ปรากฏไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของมั่วเย้ไวกว่าแมลงร้ายร้อยกริดมาก หลังจากสลัดจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะเก้าขั้นกลางแล้ว วิ่งไปตรงหน้าชู่มู่ทันที
เพื่อให้สั่งการต่อสู้มั่วเย้ได้ดีขึ้น ชู่มู่ได้กระโดดขึ้นหลังของมั่วเย้ ย่อตัวลง หลบกริดของแมลงร้ายร้อยกริดอย่างเฉียดฉิว !
“ซัวะ !!!”
ขนสีเงินไม่กี่เส้นกระจาย การโจมตีของแมลงร้ายร้อยกริดน่ากลัวอย่างมาก การป้องกันของมั่วเย้ หากโดนโจมตีอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสขั้นกลางได้ !
หลังจากแมลงร้ายร้อยกริดโจมตีไม่โดน รีบก้าวขายาวที่ปกคลุมด้วยเกราะทั้งหกออก ไล่ขึ้นมาตามขั้นบันไดบนแท่น
ส่วนปีศาจงูสี่ปีกลักษณะเก้าขั้นสูงอีกตัวหนึ่งได้ปิดเส้นทางของมั่วเย้ตาย ไม่ปล่อยให้มั่วเย้มีพื้นที่เคลื่อนไหวมากพอ
เดิมมั่วเย้ยังคิดว่า จะผ่านทะลุระหว่างการโจมตีของดวงวิญญาณสองตัวนี้ได้ หลังจากซือเทียนเห็นจุดบอดของชู่มู่ ได้จำกัดพื้นที่เคลื่อนไหวของมั่วเย้ไว้หมดแล้ว
“จะดูว่าเจ้าจะหนีไปที่ไหนได้ !” ซือเทียนฉีกยิ้มออกมา
ออกคำสั่ง แขนแหลมคมของแมลงร้ายร้อยกริดเริ่มเคลื่อนไหว กลายเป็นกริดแหลมที่ไขว้กัน ก่อเป็นพายุร้อยกริดอย่างรวดเร็ว พัดไปยังมั่วเย้ แทบไม่ปล่อยให้มั่วเย้มีโอกาสหลบซ่อนไปได้
แท่นบูชาที่ชู่มู่กับมั่วเย้อยู่นี้ถูกปิดตายอย่างสิ้นเชิง กรงเล็บแหลมคมแต่ละเส้นมีความยาวถึงร้อยเมตร แม้แต่พื้นกระเบื้องสีดำที่แข็งแรงยังเกิดรอยแยกอันน่ากลัว ถ้าดวงวิญญาณยืนอยู่บริเวณรอยแยกนั้น จะถูกตัดเป็นสองท่อนแน่นอน !
“มั่วเย้ ลงไป !” ชู่มู่กวาดตามองไปยังลานกว้างที่เต็มไปด้วยผู้เฝ้าหินมากมาย สั่งให้มั่วเย้พุ่งลงไปยังลานกว้างนั้น !
ลานกว้างแท่นบูชาเต็มไปด้วยผู้เฝ้าหิน จำนวนของผู้เฝ้าหินเหล่านี้มากกว่าเส้นทางเสามาก ทันทีที่เข้าใกล้จะมีผู้เฝ้าหินอย่างน้อยห้าตัวฟื้นขึ้นมา !
เผชิญกับพายุของกริดแมลง มั่วเย้เองก็ไร้ที่หลบ กระโดดลงไปยังลานกว้างทันที ร่างกายกลายเป็นเงาไฟงดงาม พาดผ่านขอบลานกว้าง !!!
“ฮู ฮู ฮู”
มงกุฎเพลิงทิ้งไว้บนลานกว้าง เส้นทางการหลบนี้ได้กระทบพื้นที่ปลุกผู้เฝ้าหินหลายตัว หลังจากแสงไฟพาดผ่าน ฝุ่นบนตัวผู้เฝ้าหินเริ่มสั่น ดวงตาสีเขียวนั้นส่องประกายขึ้น หัวที่แข็งทื่อยิ่งหันกลับมา จับจ้องไปยังมั่วเย้ที่ทำให้พวกมันสะดุ้งตื่น !
ซือเทียนเองก็ควบคุมดวงวิญญาณได้อย่างแม่นยำ หลังจากที่แมลงร้ายร้อยกริดโจมตีแล้ว ปีศาจงูสี่ปีกลักษณะเก้าขั้นสูงเริ่มโจมตีไปยังมั่วเย้ หางบางตวัดลงบนตัวมั่วเย้ ทำให้ชู่มู่กับมั่วเย้ปลิวออกไป กวาดไปยังลานกว้างที่เต็มไปด้วยผู้เฝ้าหินโดยตรง !
“อู อู อู !!!”
มั่วเย้ชนกับผู้เฝ้าหินแล้วลุกขึ้นมาทันที ใช้หางม้วนชู่มู่กลับขึ้นหลัง
“มั่วเย้ รีบหนีไป ผู้เฝ้าหินเหล่านี้จะฟื้นขึ้นมาแล้ว !” ชู่มู่กวาดตามองไปรอบ ๆ
ในลานกว้างมีผู้เฝ้าหินนับร้อยพัน ในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรนี้ของมั่วเย้ มีผู้เฝ้าหินอย่างน้อยยี่สิบตัว !!!
ผู้เฝ้าหินยี่สิบตัวนี้อย่างน้อยก็เป็นจักรพรรดิขั้นต่ำ ! ความสามารถของผู้เฝ้าหินตัวใดก็ไม่ด้อยไปกว่ามั่วเย้ !!!