Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 562
ดอกบัวอัคคีงดงามเบิกบานทั่วทั้งลานกว้าง นำพาเปลวไฟที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างอย่างต่อเนื่อง กระแทกลานกว้างนี้อย่างบ้าคลั่ง
ลานกว้างนี้สร้างขึ้นจากหินดำที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าหินธรรมดาหลายร้อยเท่า ถ้าคำนวนเป็นพลังป้องกัน พื้นดินนี้มีพลังป้องกันอยู่ที่ขั้นเก้า
แต่ว่าลายเส้นอัคคีแห่งโทษของมั่วเย๋ และพลังของดอกบัวอัคคีขั้นสิบนี้ ทำให้พื้นนี้ระเบิด แตกสลาย บุบอย่างสิ้นซาก นำพาอัคคีแห่งโทษที่เต็มไปด้วยความโกรธเคืองแผดเผาทุกสิ่ง พลังแห่งความร้อนนี้ได้กระจายออกไปด้านนอกลานกว้าง ทำให้กำแพงไม้ดำเหล่านั้นลุกโชนไปด้วย!!
นี่เป็นทักษะพลังขั้นสิบ!!
ชู่มู่ยืนอยู่ตรงกลางของดอกบัวอัคคีทั้งหมด ใบหน้าที่ตกใจนั้นสะท้อนเป็นสีแดง ดวงตาสะท้อนเปลวไฟสีแดงเข้มงดงามออกมา!
ชู่มู่เองก็ไม่รู้ว่าทักษะนี้อยู่ได้นานเท่าไร แค่เห็นผู้เฝ้าหินทั้งฝูงถูกกลืนกิน สลายไป กองทัพจักรพรรดิไร้เทียมทานในตอนนั้นกลับสลายไปอย่างอ่อนแอ ยากที่จะจินตนาการได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นดวงวิญญาณจักรพรรดิที่เมื่อก่อนตัวเองทำได้แค่แหงนหน้ามอง!
“โครม”
เสียงเปลวไฟยังคงดังก้องข้างหูชู่มู่ เขากวาดตามองไปรอบๆ พบว่าผู้เฝ้าหินในรัศมีสองร้อยเมตรของตัวเองได้กลายเป็นเศษฝุ่นและเถ้าถ่านไปแล้ว
เกรงว่าคงมีแค่ผู้เฝ้าหินสองร้อยกว่าตัว ทักษะเดียวกลับทำให้ผู้เฝ้าหินสองร้อยกว่าตัวนี้สลายไปได้ แม้แต่ชู่มู่เองก็ไม่เชื่อว่าพลังสลายที่แข็งแกร่งนี้จะมาจากมั่วเย๋ของตัวเอง
“อูอูอูอู!!!!!”
การป้องกันของผู้เฝ้าหินแข็งแกร่งมาก ถ้าสิ่งที่อยู่ในลานกว้างแห่งนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิ ทักษะนี้ของมั่วเย๋จะฆ่าล้างนับพันตัวในเสี้ยววินาทีได้แน่นอน!
ผู้เฝ้าหินสองร้อยกว่าตัวสลายไป ผู้เฝ้าหินเจ็ดร้อยกว่าตัวที่เหลือได้รับบาดเจ็บบ้าง ทำท่าทีพ่ายแพ้ออกมา!
ทว่า เหมือนพลังทำลายล้างนี้ยังไม่เป็นที่พอใจของมั่วเย๋!
จิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดไม่ใช่ดวงวิญญาณตระกูลธาตุ ถ้าบอกว่าดวงวิญญาณธาตุเป็นผู้ที่ปล่อยดอกบัวอัคคีสลายโลกนี้ออกมา จะฆ่าล้างผู้เฝ้าหินครึ่งหนึ่งในเสี้ยววินาทีได้แน่นอน!
เห็นได้ชัดว่าการตายของผู้เฝ้าหินสองร้อยกว่าตัวนี้ไม่อาจระงับความโกรธของมั่วเย๋ได้!
ทันใดนั้น เงาของมั่วเย๋หายไปในอัคคีแห่งโทษ ความเร็วของมันไวจนถึงขั้นที่ชู่มู่ไม่อาจจับตามองได้!
วินาทีต่อมา มั่วเย๋ปรากฎตัวท่ามกลางกองทัพผู้เฝ้าหิน หางราชันจิ้งจอกแห่งโทษเก้าเส้นนั้นยืดลำตัวออกราวกับสิ่งมีชีวิตที่บ้าคลั่งทั้งเก้า เริ่มโจมตีไปยังผู้เฝ้าหินอย่างบ้าคลั่ง!!
หางจิ้งจอกแห่งโทษแต่ละเส้นมีลายเส้นแห่งโทษพิเศษอยู่ ลายเส้นเหล่านี้เป็นพลังที่บริสุทธิ์ที่สุด แค่ฟาดโดนตัวผู้เฝ้าหิน ต่อให้เป็นการป้องกันขั้นเก้าระยะกลางก็จะกลายเป็นเศษได้!!
“ป้าบ!!!!ป้าบ!!!!!!ป้าบ!!!!!!!!!!”
มั่วเย๋ไม่ได้ปล่อยทักษะใดๆ ทันทีที่กรงเล็บของมันตวัดผ่าน คาดว่าจะมีหัวของผู้เฝ้าหินถูกตัดออก หางทั้งเก้าเส้นของมันราวกับมีชีวิต โจมตีไปยังผู้เฝ้าหินรอบๆ ตามอำเภอใจ
การฆ่าล้างผู้เฝ้าหินของมั่วเย๋ก่อให้เกิดการโต้ตอบที่แตกต่างกันอย่างมาก ก้อนหินสีเทา เป็นลำตัวของผู้เฝ้าหิน ภาพที่เห็นในตอนนี้นับว่าเลือดเนื้อกระจัดกระจาย!!
“อูอูอู!!!!!”
ทันใดนั้น หางลายเส้นแห่งโทษทั้งเก้าของมั่วเย๋ร่ายรำ สะบัดยุ่งเหยิง!
บริเวณที่อัคคีแห่งโทษพาดผ่าน ก่อเป็นประกายเงางาม แล้วกลายเป็นแส้อัคคีแห่งโทษ!
แส้อัคคีแห่งโทษ!
หางของมั่วเย๋สะบัดไปรอบด้านพร้อมกับแส้อัคคีแห่งโทษอย่างรุนแรง!
หางของราชันจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเก้าเส้นนี้ได้กลายเป็นแส้อัคคีแห่งโทษ แต่ละเส้นมีความยาวถึงร้อยกว่าเมตรอันน่ากลัว หลังจากสะบัดออกแล้ว ผู้เฝ้าหินทั้งฝูงได้กลายเป็นเศษด้วยพลังเหล่านี้!!
ชั่วพริบตา ผู้เฝ้าหินนับร้อยได้กลายเป็นเศษภายใต้การโจมตีของมั่วเย๋อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิขั้นต่ำขั้นกลาง หรือจักรพรรดิขั้นสูง ก็ยากที่จะรอดจากชะตาแห่งความตายนี้ ทั้งลานกว้างแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยกลิ่นไอทำลายล้างแน่นหนา!
“นายท่าน!!”เสียงของผู้เฒ่าหลีดังขึ้นในหัวของชู่มู่กะทันหัน
“อย่าร้อง มีอะไรรีบพูด”ชู่มู่เองก็ทนผู้เฒ่าหลีไม่ไหวแล้ว
หลังจากมั่วเย๋แปรเปลี่ยน ผู้เฒ่าหลีร้องไม่หยุด ราวกับเป็นบ้า
“จิ้งจอกน้อยตอนนี้ได้กลายเป็นจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ด เดิมสติปัญญาของผู้เฝ้าหินเหล่านี้ก็ไม่สูงมากอยู่แล้ว แทบไม่มีผู้นำที่แท้จริง เพียงแค่เฝ้าอยู่ที่นี่เฉยๆ”ผู้เฒ่าหลีพูดอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกถึงความตื่นเต้นของมัน
“เจ้าอยากบอกอะไร?”ชู่มู่ยังคงไม่เข้าใจคำพูดของผู้เฒ่าหลี
“พลังของจิ้งจอกน้อยในตอนนี้แข็งแกร่งเกินไป ต่อให้ผู้เฝ้าหินมีจำนวนนับพัน เป็นถึงจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ด แทบไม่ต้องเสียเวลาไปขยี้เหล่าสิ่งอ่อนแอนี้ ให้มั่วเย๋ใช้หายนะแห่งกลุ่ม เจ้าจะเห็นภาพที่สะเทือนยิ่งกว่า!”ผู้เฒ่าหลีพูดอย่างตื่นเต้นมาก
“หายนะกลุ่ม?”แค่ชื่อของทักษะนี้ก็ทำให้เห็นถึงพลังของทักษะนี้แล้ว ชู่มู่เองก็ตื่นเต้นอย่างมาก
“มั่วเย๋ ใช้หายนะกลุ่ม สลายพวกมัน!”แม้ชู่มู่เองจะไม่รู้ว่าหายนะกลุ่มคืออะไร แต่ในเมื่อผู้เฒ่าหลีบอกว่านี่เป็นการแก้สถานการณ์ให้ตัวเอง ถ้าอย่างนั้นมันจะต้องมีพลังที่แข็งแกร่งมากแน่นอน!
“อูอูอูอู!!!!!!!”
การโจมตีทั้งหมดของมั่วเย๋หยุดลงทันที ดวงตาที่เต็มไปด้วยเปลวไฟนั้นส่องประกายมากยิ่งขึ้น!!
ปรากฎการณ์ลึกลับเกิดขึ้นอีกครั้ง อัคคีแห่งโทษบนตัวมั่วเย๋ได้ปกคลุมทั้งตัวของมัน กลายเป็นก้อนอัคคีแห่งโทษร้อนระอุ
และท่ามกลางอัคคีแห่งโทษนี้ เนตรดุร้ายเรียวยาวของมั่วเย๋ปรากฎขึ้นกะทันหัน ดวงตาคู่นี้โตกว่าปกติหลายเท่า อีกทั้งตอนที่สบตากับมัน จะรู้สึกว่าอัคคีแห่งโทษที่ปกคลุมทั้งตัวมั่วเย๋นี้เกิดจากดวงตาของราชันจิ้งจอกอัคคีแห่งโทษทั้งเจ็ดนี้ ซึ่งเป็นเปลวไฟที่สลายโลกทั้งใบนี้!
เนตรที่อ้างว้างยิ่งนี้ได้กลายเป็นอัคคีแห่งโทษซึ่งเป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่ง ลุกโชนขึ้นในลานกว้างแห่งนี้ แสงไฟของอัคคีแห่งโทษนี้ที่สาดส่องราวกับดวงตาชั่วร้ายลึกลับนับไม่ถ้วนที่กำลังจับจ้องไปยังทุกสรรพสิ่ง!!
ดวงตาของผู้เฝ้าหินเป็นสีเขียว แต่ตามที่มั่วเย๋ปล่อยทักษะหายนะกลุ่มนี้สำเร็จ ดวงตาของผู้เฝ้าหินที่อยู่รอบๆ ได้กลายเป็นสีแดงเข้มดุร้ายอย่างช้าๆ!
ยิ่งสีของดวงตาผู้เฝ้าหินเปลี่ยนแปลงมากเท่าไร ถ้ามองอย่างละเอียดละก็ ดวงตาของผู้เฝ้าหินนี้สะท้อนอัคคีแห่งโทษก้อนเล็กไว้ในนั้น!
“นายท่าน ให้จิ้งจอกน้อยของเจ้าฆ่าผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงเหล่านั้น หลังจากนั้น เจ้ากับจิ้งจอกน้อยของท่านนั่งจิบชาพูดคุยอยู่ด้านข้างก็พอแล้ว”ผู้เฒ่าหลีบอก
แม้ชู่มู่จะไม่เข้าใจ แต่ยังคงให้มั่วเย่ตามหาผู้เฝ้าหินระดับจักรพรรดิขั้นสูงทั้งหมด
ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงมีไม่ถึงสิบตัว ในไม่ช้าก็ถูกมั่วเย๋เพ่งเล็งทันที!!
“โซโซโซ!!!!”
มั่วเย๋เหมือนอยู่ในมิติที่ไร้เทียมทาน ผู้เฝ้าหินนับร้อยแทบไม่สามารถขัดขวางการเคลื่อนไหวใดๆ ของมั่วเย๋ได้!
คิดจะฆ่าผู้เฝ้าหินขั้นสูงแบบนั้นแค่ให้มั่วเย๋ออกแรงมากขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ชู่มู่เห็นแสงไฟสีแดงเข้มงดงามพาดผ่านฝูงผู้เฝ้าหินสีเทาเหล่านั้น…
“บึ้ง!!!!!!!!”
ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงตัวที่หนึ่งถูกกรงเล็บอัคคีแห่งโทษของมั่วเย๋ฉีกเป็นเศษ!
“บึ้ง!!!!!!!!”
ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงตัวที่สองถูกหางจิ้งจอกของมั่วเย๋บดขยี้!
“อูอูอูอู!!!!!!!!”
ราวกับรู้สึกว่าฆ่าพวกมันทีละตัวเป็นการเสียเวลา ลำตัวของมั่วเย๋ที่วิ่งด้วยความเร็วสูง แยกร่างออกเป็นเงาหกร่าง!
“นายท่าน นี่ไม่ใช่ทักษะเงาลวงตาธรรมดาแล้ว นี่เป็นทักษะเข้าใกล้แยกร่างแล้ว!”ผู้เฒ่าหลีร้องขึ้นทันที
ชู่มู่รีบใช้ร่ายวิญญาณตามการเคลื่อนไหวของมั่วเย๋ เขาในตอนนี้ถึงพบว่าเงาทั้งหกที่มั่วเย๋แยกออกมานี้ต่างปรากฎในตำแหน่งที่ต่างกันของผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูง!
“แม้ร่างแยกเหล่านี้จะมีระยะเวลาปรากฏตัวสั้นมาก แต่กลับสร้างพลังโจมตีที่เหมือนร่างจริงของจิ้งจอกน้อยมากถึงร้อยละ 70 นี่เพียงพอที่จะฆ่าจักรพรรดิขั้นสูงในเสี้ยววินาทีได้แล้ว!”ผู้เฒ่าหลีบอก!
“บึ้ง!!!!บึ้ง!!!!บึ้ง!!!!!!!บึ้ง!!!บึ้ง!!!บึ้ง!!!!!”
แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่ผู้เฒ่าหลีพูดจบ ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงหกตัวในตำแหน่งที่ต่างกันของลานกว้างนี้ถูกโจมตีจนกลายเป็นเศษ!!
“จักรพรรดิขั้นสูงถูกฆ่าตายหมด ต่อไปจะได้เห็นความสามารถน่ากลัวที่สุดของจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดแล้ว!”ผู้เฒ่าหลีบอก
ชู่มู่อยากรู้ว่าหายนะกลุ่มที่ว่าคืออะไรกันแน่
“อูอูอูอูอูอู!!!!!!!!!”
มั่วเย๋กลับไปอยู่ข้างๆ ชู่มู่ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ มันหยุดการโจมตีทั้งหมด แต่กลับส่งเสียงร้องสะเทือนใจขึ้น!
หลังจากเสียงราชันนี้ดังขึ้น ร่างกายของผู้เฝ้าหินทั้งหมดเกิดการสั่นคลอนอย่างเห็นได้ชัด ตามด้วยดวงตาของผู้เฝ้าหินที่สะท้อนเปลวไฟอัคคีแห่งโทษสีแดงเข้มนั้นได้ลุกโชนขึ้น!
ในตอนนี้ สามารถมองเห็นความดุร้ายในดวงตาของพวกมันได้ ที่น่ากลัวที่สุดคือ ดวงตาของพวกมันจับจ้องไปยังกลุ่มเดียวกันที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด!
นั่นเป็นความอาฆาตอย่างถึงที่สุด อีกทั้งยังมีความโกรธที่ไม่อาจระงับได้!
“จิ้งจอกน้อยแปรเปลี่ยนเป็นราชันจิ้งจอกแห่งความโกรธ มันจะแพร่ความโกรธนี้ไปทั่วทั้งกลุ่มราวกับเชื้อโรค แล้วให้กลุ่มนี้ฆ่าล้างกันเองด้วยความโกรธนี้!”ผู้เฒ่าหลีบอก
“ฆ่าล้างกันเอง…”ในใจของชู่มู่สะเทือนอย่างมาก ถ้ากระจายความโกรธนี้ไปยังอาณาจักรดวงวิญญาณนับล้าน ทำให้ทั้งกลุ่มฆ่าล้างกันเอง นี่เป็นหายนะกลุ่มจริงๆ!
“อ๊าว!!!!!”
“อ๊าว!!!!!!!”
ผู้เฝ้าหินที่ถูกแพร่ในตอนแรกสุดเริ่มบ้าคลั่งแล้ว พวกมันยกดาบหินขึ้น ฟาดไปยังกลุ่มของตัวเองด้วยความโกรธยิ่ง!
ผู้เฝ้าหินที่ได้รับโจมตีถูกกระตุ้นด้วยความโกรธจากกลุ่มเดียวกันทันที หลังจากถูกกระตุ้น จึงโต้กลับด้วยความโกรธที่สุด!
เปลวไฟสงครามจากส่วนน้อยในตอนแรกเริ่มคืบคลานออกไป กลายเป็นสงครามของผู้เฝ้าหินทั้งหมด!
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งลานกว้างนี้ได้กลายเป็นสนามรบฆ่าล้างของผู้เฝ้าหินเหล่านี้!
ลองคิดดู ศัตรูแข็งแกร่งที่ชู่มู่กับมั่วเย๋แทบไม่สามารถเอาชนะก่อนหน้านี้ ในตอนนี้แค่ยืนอยู่ข้างชู่มู่กับมั่วเย๋ ก็เท่ากับว่ากลุ่มนี้จะสลายไปเอง!
การแปรเปลี่ยนครั้งนี้ของมั่วเย๋เกินกว่าที่ชู่มูจินตนาการเอาไว้ นึกถึงเหตุการณ์ที่ผนึกเอาไว้ ดวงตาของชู่มู่ยิ่งส่องประกายขึ้นมาทันที จากใบหน้าตื่นเต้นของชู่มู่นั้นมองออกได้ว่าเขาจะพูดอะไร
“เซี่ยกว่างหาน ฉิงเย้ พวกเจ้าจะไม่ตายได้อย่างไร?”