Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 563
“ผู้เฝ้าหินเริ่มฆ่ากันเอง !!!”
ข่าวนี้กระจายไปยังลานกว้างเทียนเซี่ย ทั้งลานกว้างดุเดือดขึ้นอีกครั้ง !!! ตอนนี้แทบไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในที่นั่น !!!
“ฆ่าล้างกันเอง หรือว่าดวงวิญญาณระดับราชันตัวนั้นมีพลังจิตอันแข็งแกร่งของภูตวิญญาณหรือให้ดวงวิญญาณส่งสารตัวนั้นบรรยายให้ละเอียดกว่านี้ !” ผู้อาวุโสไห่ชิวพูดขึ้น
ดวงวิญญาณส่งสารบรรยายลักษณะของดวงวิญญาณระดับราชันตัวนั้นจากที่ไกลออกไปทันที รายงานความสามารถให้ผู้อาสุโสไห่ชิว
“นี่…เปลวไฟสีแดงเข้ม…เหมือนจะมีแค่ชนิดเดียวใช่ไหม” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อลูปเครา
“อืม อัคคีแห่งโทษ !” ไห่ชิวและผู้อาวุโสทั้งสี่ของตำหนักวิญญาณต่างพยักหน้า
“ดวงวิญญาณที่มีอัคคีแห่งโทษ หางผนึกโทษทั้งเก้าเส้น ลักษณะคล้ายราชันจิ้งจอก อีกทั้งยังทำให้เหล่าดวงวิญญาณฆ่าล้างกันเองได้…ทำไมไม่เคยได้ยินดวงวิญญาณแบบนี้มาก่อน” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อเองก็มากความรู้ แต่เขาคาดเดาไม่ออกว่านั่นคืออะไรในตอนนี้
“หรือว่าจะ…เป็นสิ่งที่อยู่ในตำนานที่สร้างหายนะกลุ่มได้ จิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ด !!!” ไห่ชิวพูดขึ้น
ตอนที่ไห่ชิวพูดประโยคนี้ออกมา เบื้องบนของฝ่ายจัดการประลองฟ้าดินต่างเผยสีหน้าตกใจออกมา !!!
และในตอนนี้ ผู้อาวุโสวังดวงวิญญาณและตำหนักวิญญาณที่เป็นหนึ่งในสี่ที่นั่งได้สบตากัน สีหน้าซับซ้อนอย่างมาก !!!
“ไห่ชิว ถ้าข้าจำไม่ผิดละก็ เหล่าผู้เฝ้าหินนับพันตัวเป็นสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าที่ลึกเข้าไปของแท่นบูชาอสูรเลือด…”
“ถ้าบอกว่าตรงนั้นมีราชันอัคคีจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดปรากฏขึ้นละก็ ถ้าอย่างนั้นเท่ากับว่าจะทำให้ผู้เฝ้าหินที่อยู่ตรงนั้นฆ่าล้างกันเองจนหมดสิ้นได้ ทันทีที่ไม่เหลือผู้เฝ้าหินแม้แต่ตัวเดียวละก็…”
ในตอนนี้สีหน้าของไห่ชิวเคร่งเครียดอย่างมาก เดิมดวงวิญญาณระดับราชันแทบไม่สามารถฆ่าผู้เฝ้าหินทั้งหมดให้ตายได้ และแล้วพวกเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า ราชันแข็งแกร่งที่ชู่มู่อัญเชิญออกมาจะมีความสามารถน่ากลัวแบบนี้อยู่ !
“อันตรายมาก เจ้ารีบไปแจ้งประธานเถอะ !” ในตอนนี้ ผู้อาวุโสที่รู้ความลับของเมืองอมตะกังวลอย่างมาก !
…
ไห่ชิวได้นำข่าวนี้ส่งไปยังประธานเทียนทิงอย่างรวดเร็ว เทียนทิงได้ขมวดคิ้วทันที เพราะเขาไม่คิดว่า ชู่มู่จะมีจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดตัวหนึ่ง !
“หลีหงมุ่งหน้าไปตะวันออกแล้ว ตอนนี้คนที่ควบคุมราชันอสูรเลือดตัวนั้นมีแค่เจ้าแล้ว ถ้าเจ้าไม่ลงมือ เมืองอมตะจะตกอยู่ในหายนะที่ไม่อาจระงับได้” ไห่ชิวพูดอย่างจริงจัง
“ใครเป็นผู้ตั้งว่าเกียรติสุดท้ายของขั้นสองเป็นแท่นบูชาอสูรเลือด โง่เง่าอย่างยิ่ง !!!” สีหน้าของเทียนทิงแย่มาก
บุคคลภายในของการประลองฟ้าดินต่างรู้ดี ความจริงในแท่นบูชาอสูรเลือดมีผนึกสองอัน ผนึกอันแรกเป็นผนึกของจักรพรรดิขั้นสูงธรรมดา สิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าก็เป็นแค่ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นต่ำหกตัว
และแล้ว ด้านล่างผนึกนี้ ยังมีผนึกที่ใหญ่กว่า สิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าของผนึกนี้คือผู้เฝ้าหินนับพันตัวของทั้งลานกว้างแห่งนี้ !!!
จำนวนของผู้เฝ้าหินมีนับพัน นอกจากว่าจะถึงระดับราชันขั้นกลาง มิฉะนั้น ต้องใช้แรงกายอย่างมากเพื่อฆ่าพวกมันทั้งหมด
แต่ว่า ทักษะหายนะกลุ่มเป็นทักษะที่พิเศษอย่างมาก ทำให้เหล่าผู้เฝ้าหินฆ่าล้างกันเอง หากเช่นนี้ ในเวลาอันสั้น ผู้เฝ้าหินทั้งหมดจะตายหมด !
ทันทีที่หลังจากสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าทั้งหมดถูกฆ่าตาย ผนึกจะไม่มั่นคงอย่างมาก ราชันอสูรเลือดที่ถูกผนึกเอาไว้อาจอาศัยพลังของตัวเองทำลายผนึกนี้ !
“เย้เทากล้าไปแท่นบูชาอสูรเลือดแล้ว ทว่า เย้เทาคนเดียวอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชันอสูรเลือดตัวนั้น เผื่อว่า… “ไห่ชิวพูดอย่างเคร่งเครียด
“ข้าไปเอง !” เทียนทิงพูดอย่างเยือกเย็น เขาเกลียดเรื่องที่นอกเหนือการควบคุมที่สุด โดยเฉพาะยังเป็นเรื่องที่เขาต้องลงมือเอง
…
ด้านในผนึก
ฉิงเย้มองไปยังจั้นเย้ของชู่มู่ด้วยความเหยียบหยาม
จากสายตาของฉิงเย้ โลกนี้ไม่มีอสูรเกราะตัวใดที่แข็งแกร่งกว่ามั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ของเขาแล้ว ต่อให้เป็นจั้นเย้ที่มีพลังชีวิตหกเท่าตรงหน้าตัวนี้ก็ไม่อาจเทียบกับมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ของตัวเองได้ !
การโจมตีของมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ตัวนี้จะมีผลความมืดที่เข้มข้นอยู่ ผลความมืดนี้จะทำให้พลังโจมตีของมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ทวีคูณขึ้นมาก และพลังกัดกร่อนของความมืดยังมีผลต่อการป้องกันอย่างมาก เกราะวิญญาณขั้นเก้าและเกราะหมึกของจั้นเย้ยากที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ได้
“โฮร่ โฮร่ !!!”
เกราะหมึกของจั้นเย้ถูกกัดกร่อนอย่างรุนแรงแล้ว หมวดมืดของมันอ่อนแอกว่าฝ่ายตรงข้าม ยากที่จะก่อให้เกิดภูมิต้านทานได้
มันลุกขึ้นยืนพร้อมกับขาที่สั่นเล็กน้อย ดวงตาสีดำคู่นั้นจับต้องไปยังมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์แน่น !
นี่เป็นการต่อสู้กับมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ครั้งที่สองแล้ว ครั้งก่อนที่อยู่ทะเลทราย การโจมตีเดียวของมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ทำให้จั้นเย้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและความอับอายที่สุด โดยเฉพาะยังเป็นกลุ่มเดียวกัน อีกทั้งยังอยู่ในลักษณะขั้นเดียวกันด้วย !
“โฮร่ !!!” จั้นเย้ส่งเสียงร้องทุ้มต่ำไปยังเย้ชิงจือ
เสียงโฮร่ร้องนี้ของจั้นเย้กำลังบอกกับเย้ชิงจือว่า มันแทบไม่ต้องการรักษา ไม่ต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งให้พลังชีวิต มันจะใช้ความสามารถของตัวเองเอาชนะมั่วเย้ราชวงศ์ตัวนี้ !
“จั้นเย้…” เย้ชิงจือสัมผัสได้ถึงความดื้อดันของดวงวิญญาณตัวนี้
ความจริงเย้ชิงจือ เย้หวันเชิง องค์หญิงจิ่งโหลวต่างต่อสู้อย่างยากลำบากมาก พวกเขาใช้ดวงวิญญาณสี่ตัวสู้กับดวงวิญญาณหลักของเซี่ยกว่างหานและฉิงเย้ อีกทั้ง ในเวลาสั้น ๆ นี้ดวงวิญญาณของพวกเขาเต็มไปด้วยบาดแผลแล้ว ถ้าไม่ได้รับการรักษาคงตายไปตั้งนานแล้ว
เมื่อเทียบกับจั้นเย้ที่แตกหักงอกใหม่ ดวงวิญญาณอื่นของทั้งสามคนต้องการให้เย้ชิงจือรักษาแผลให้มากกว่า
แผลบนตัวของจั้นเย้ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของมันอย่างมากแล้ว ร่างกายเริ่มขับของเหลวแมลงออกมา ของเหลวเหล่านี้ซ่อมแซมร่างกายของจั้นเย้อย่างรวดเร็ว ให้จั้นเย้กลับสู่ภาวะที่สมบูรณ์แบบที่สุด !
และตามผลของแตกหักงอกใหม่ พลังของดวงใจแห่งมังกรหาญได้เผยออกมาด้วย ความสามารถของจั้นเย้เริ่มทวีคูณขึ้น เพิ่มขึ้นจนอยู่ในลักษณะเก้าขั้นสูง !
“ความสามารถเพิ่มขึ้นแล้วงั้นหรือ” ฉิงเย้เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา
ฉิงเย้รู้ว่า มั่วเย้ของชู่มู่ตัวนี้มีความสามารถแตกหักงอกใหม่หกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าระหว่างที่ต่อสู้จะเพิ่มความสามารถได้ด้วย
อีกทั้งฉิงเย้สนใจจั้นเย้ก็เป็นเพราะหลังจากที่เห็นความสามารถแตกหักงอกใหม่หกครั้ง บวกกับเขาคิดจะฝึกให้มีความสามารถเพิ่มขึ้น แต่ที่ทำให้ฉิงเย้ประหลาดใจอย่างมากคือ มั่วเย้ตัวนี้ของชู่มู่มีทักษะเพิ่มความสามารถอยู่แล้ว !!!
“ลักษณะเก้าขั้นสูง ที่แท้เป็นมั่วเย้ชั้นยอดตัวหนึ่ง!”ฉิงเย้เผยท่าทีดีใจออกมา
นี่ไม่ใช่งานศิลปะไม่สมบูรณ์ แต่เป็นอสูรสงครามที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว !!!
“อสูรสงครามสมบูรณ์แบบ ดีมาก !!! ดีมากจริง !!! สิ่งนี้เป็นของข้าแล้ว ! แม้เทียบกับมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ของข้ายังด้อยกว่าเล็กน้อย แต่สมบูรณ์แบบมากแล้ว !” ฉิงเย้ทำท่าทีบ้าคลั่งออกมา !
สายตาของจั้นเย้เฉยเมย ไม่สนใจท่าทีบ้าคลั่งของฉิงเย้แม้แต่น้อย มันในตอนนี้กำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้กับมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์
เมื่อเทียบกับมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ยังด้อยกว่าเล็กน้อย
จั้นเย้เข้าใจได้ว่า ฉิงเย้กำลังจะพูดอะไร ส่วนประโยคนี้ของฉิงเย้ ยิ่งทำให้จั้นเย้ฮึกเฮิม !
จั้นเย้จะทำให้ฉิงเย้รู้ว่า มั่วเย้ราชวงศ์ของมันเป็นแค่ขยะ !!!
…
ผลของดวงใจแห่งมังกรหาญของจั้นเย้แทบไม่มีขั้นที่จะติดขัด ในตอนที่ปล่อยความสามารถแตกหักงอกใหม่ด้วยความโกรธเป็นครั้งที่สองนี้ ความสามารถของจั้นเย้ได้เพิ่มขึ้นถึงลักษณะเก้าขั้นเก้าแล้ว จะเข้าสู่ลักษณะสิบในไม่ช้า !
มั่วเย้ราชวงศ์ได้กระตุ้นความมุ่งมั่นในการต่อสู้ทั้งหมดของจั้นเย้ ในตอนที่อยู่ในช่วงสูงสุด จั้นเย้เคยเพิ่มขึ้นจากจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะแปดขั้นเก้าเป็นลักษณะสิบชั้นยอด !
และในตอนนี้ เดิมความสามารถของจั้นเย้เองก็อยู่ในจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะเก้าขั้นกลางอยู่แล้ว มั่วเย้ราชวงศ์จักรพรรดิขั้นสูงลักษณะเก้าขั้นสูงแบบนี้ แทบไม่อยู่ในสายตาของมัน !
พลังกัดกร่อนมืดของมั่วเย้ราชวงศ์ทำให้พลังป้องกันของจั้นเย้ลดลงอย่างมาก ในตอนที่แตกหักงอกใหม่ครั้งแรก จั้นเย้ทำได้แค่ต้านทานการโจมตีสามครั้งเท่านั้น
หลังจากแตกหักงอกใหม่ครั้งที่สอง มั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ต้องโจมตีเต็มกำลังสี่ครั้งถึงจะทำให้จั้นเย้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ในตอนที่แตกหักงอกใหม่ครั้งที่สอง ความสามารถของจั้นเย้เพิ่มขึ้นจนถึงลักษณะสิบ ในตอนนี้ การโจมตีของจั้นเย้ก่ออันตรายกับมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ได้ระดับหนึ่งแล้ว !
เห็นความสามารถของจั้นเย้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ฉิงเย้เองก็อยู่ในความตกใจตลอด เพราะเขาไม่คิดว่า ความสามารถของจั้นเย้ตัวนี้จะเพิ่มขึ้นไวขนาดนี้ !
การต่อสู้ดำเนินไม่นานเท่าไร เดิมมั่วเย้ตัวนี้ที่ห่างกันสี่ขั้นเริ่มมีความสามารถเทียบเท่ามั่วเย้ราชวงศ์ของเขาแล้ว !
“โฮร่ โฮร่ !!!”
จั้นเย้หายใจหอบ ส่งเสียงคำรามไปยังฉิงเย้ !
เสียงคำรามของจั้นเย้นี้ ทำให้สีหน้าของฉิงเย้แย่กว่าเดิม
ฉิงเย้เองก็อยู่กับมั่วเย้ราชวงศ์เป็นเวลานานแล้ว เขาเข้าใจภาษาของมั่วเย้อยู่บ้าง เสียงคำรามของจั้นเย้ในตอนนี้กำลังดูถูกมั่วเย้ราชวงศ์อันภูมิใจของเขาอยู่ !
“ความสามารถจั้นเย้ของชู่มู่เพิ่มขึ้นไวมาก !” หลังจากที่เย้หวันเชิงเห็นการต่อสู้ตรงนี้แล้ว ถึงพบว่า จั้นเย้อยู่ในลักษณะสิบแล้ว !
องค์หญิงจิ่งโหลวที่กำลังสั่งการต่อสู้ดวงวิญญาณของตัวเองได้สังเกตเห็นดวงวิญญาณตัวนี้เช่นกัน
ความสามารถของจั้นเย้ที่แตกหักงอกใหม่เพียงสามครั้งก็อยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบแล้ว ตามความสามารถของมั่นที่เพิ่มขึ้น หมวดต่าง ๆ ของจั้นเย้จะแข็งแกร่งขึ้นด้วย การต่อสู้ยิ่งดำเนินนานเท่าไร ความสามารถของมันจะเพิ่มมากขึ้นด้วย !
ในตอนนี้ องค์หญิงจิ่งโหลงเข้าใจแล้วว่า เหตุใดตอนที่จั้นเย้ตัวนี้ตกลงไปในเหวตะขาบถึงมีชีวิตรอดมาได้ ความสามารถที่เพิ่มขึ้นมหาศาลแบบนี้ เกรงว่ามีเพียงตะขาบหมื่นขาถึงจะฆ่ามันให้ตายได้ !
…
และแล้ว ความสามารถของจั้นเย้เพิ่มขึ้นไวกว่าปกติมาก นี่เป็นเพราะความมุ่งมั่นในการต่อสู้อันเยือกเย็นและความโกรธเคืองที่สุดของจั้นเย้ !!!
พลังจิตของจั้นเย้อ่อนกว่าชู่มู่ที่เป็นเจ้าวิญญาณเจ็ดร่ายมาก ดังนั้น ในผนึกแห่งนี้ จั้นเย้แทบไม่สามารถเชื่อมจิตกับชู่มู่ได้…
ชู่มู่อาจตายแล้วก็ได้ ! นี่เป็นสาเหตุความโกรธเคืองในใจของจั้นเย้ !
สำหรับจั้นเย้แล้ว เขาจะไม่ลืมสัญญาที่ชู่มู่บอกจะไม่ให้มันถูกทอดทิ้งอีก และมนุษย์ที่อยากได้ตัวเขาตรงหน้าคนนี้ไม่มีวันเข้าใจความสำคัญของชู่มู่ที่อยู่ในใจของจั้นเย้ได้ !
จั้นเย้จะไม่แสดงอารมณ์ของตัวเองออกมา
แต่ว่าเขากลับเปลี่ยนความเศร้าโศกและความโกรธในใจของตัวเองให้เป็นพลังในการต่อสู้ !!!
สิ่งที่มันจะทำไม่ได้มีเพียงเอาชนะมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์น่าสมเพชตัวนี้อย่างเดียว สิ่งที่มันจะทำคือ ฆ่าฉิงเย้ ฆ่าดวงวิญญาณทั้งหมดที่เขามี !!!