Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 580
ลานกว้างเทียนเซี่ย
“ดวงวิญญาณราชันของชู่เฉิงตัวนั้นปรากฏตัวอีกครั้งแล้ว ลี่ฮวังทั้งสามคนแทบไม่มีแรงต่อต้าน จ้าวมู่หลิงปีนหนีไป ลี่ฮวังที่มีความสามารถอยู่ในห้าอันดับแรกของขั้นหนึ่งได้ทิ้งมังกรจำศีลมรกตไว้ หนีอย่างชุลมุน !”
หลังจากที่ข่าวนี้กระจายในลานกว้างเทียนเซี่ยที่มีคนนับแสน ก็เกิดเสียงวิจารณ์ทันที
ไม่เพียงแต่เรื่องที่ผู้แข็งแกร่งขั้นหนึ่งอย่างลี่ฮวังพ่ายแพ้ แต่นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ดวงวิญญาณระดับราชันตัวนั้นเป็นของชู่มู่ !!!
“แม้แต่ลี่ฮวังยังไม่มีแรงโต้ตอบ ในขั้นหนึ่งจะมีใครรับมือชู่เฉิงตำหนักวิญญาณได้งั้นหรือ”
“มีดวงวิญญาณระดับราชัน เท่ากับว่าชู่เฉิงจะกวาดล้างขั้นหนึ่งแล้ว ! ท่าทางเขากำลังจะไปคว้าเกียรติสุดท้ายด่านที่สิบจริง ๆ !!!”
เดิมผู้คนยังสงสัยอยู่ ตอนนี้ทุกคนเชื่อแล้ว วัยหนุ่มคนนี้กำลังท้าสู้กับวัยหนุ่มในการประลองฟ้าดินทุกคน !!!
ว่าแต่ มีดวงวิญญาณระดับราชัน ใครจะทนอยู่ในเกียรติสุดท้ายขั้นสองอันคับแคบ!เขาย่อมมุ่งหน้าเพื่อดวงวิญญาณราชันวัยอ่อนของเกียรติสุดท้ายด่านที่สิบนี้แน่นอน !!!
“ต้องห้ามเอาไว้ ต้องห้ามเจ้านี่เข้าร่วมการประลอง !!!”
“พาดวงวิญญาณระดับราชันเข้าไปแข่ง นี่เป็นการฝ่าฝืนกฎของการประลองฟ้าดินชัด ๆ !”
ผู้คนที่สนับสนุนชู่มู่ได้ร้องด้วยความดีใจ คนที่ต่อต้านชู่มู่ พวกเขาไม่กล้าโทษชู่มู่ กลับร้องขอให้ฝ่ายจัดการประลองห้ามการแข่งขันนี้ !
วัยหนุ่มที่มีระดับราชันปรากฏตัวขึ้น ดวงวิญญาณระดับราชันตัวอ่อนในด่านที่สิบเท่ากับเป็นการให้เขาตรง ๆ
ถ้าอย่างนั้น ถ้าไม่เกิดเรื่องเกินคาดไว้ เขาจะมีดวงวิญญาณระดับราชันสองตัวแล้ว !
พวกเจ้าโลก เจ้าตำหนัก เจ้าวัง ผู้ที่อยู่ในระดับสิบ พวกเขามีดวงวิญญาณระดับราชันแค่ตัวเดียว ชู่มู่มีดวงวิญญาณระดับราชันถึงสองตัว!เกินไปแล้ว !!!
ที่สำคัญที่สุดคือ เจ้านี่ยังเป็นสมาชิกขั้นสาม เท่ากับว่าเขายังมีโอกาสเข้าร่วมการประลองฟ้าดินครั้งที่สองอีก ถ้าไม่ห้ามให้เขาเข้าร่วมละก็ เจ้านี่อาจมีราชันถึงสามตัว นี่ยังเป็นการจำลองเหตุการณ์ที่ชู่มู่ไม่ได้ดวงวิญญาณระดับราชันด้วยตัวเอง !
มีดวงวิญญาณระดับราชันสามตัวก่อนอายุสามสิบปี เกรงว่านี่คงเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ !
“เกรงว่าชู่เฉิงจะถูกสั่งห้ามเข้าการแข่งขันจริง ๆ” ซ่างเหิงส่ายหัว
หลายปีก่อน โอรสของตำหนักวิญญาณถูกสั่งห้ามเข้าร่วมการประลองฟ้าดิน และแล้วหลังจากนั้นไม่นาน มีวัยหนุ่มฝืนกฎธรรมชาติคนหนึ่งในตำหนักวิญญาณอีก ยากที่จะหนีคำสั่งห้ามเข้าร่วมการประลอง !
“นักวิญญาณเฒ่าเต๋อ ชู่เฉิงจะถูกสั่งห้ามเข้าร่วมการประลองจริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นที่เขาเข้าไปในด่านที่สิบก็ไม่มีความหมายแล้วไม่ใช่เหรอ จะไม่ได้ดวงวิญญาณระดับราชันตัวอ่อนนั้นแล้วงั้นหรือ” ถิงหลันถามขึ้น
“เรื่องนี้จะถูกสั่งห้ามเข้าการประลองนั้น เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว ทว่า น่าจะเป็นการแข่งขันหกปีหลังจากนี้ รางวัลที่ได้ในครั้งนี้ยังมีผลอยู่ มีท่านอาวุโสคนหนึ่งของพวกเราอยู่ที่นี่ ถ้าชู่มู่ได้เกียรติสุดท้ายด่านที่สิบจริง ๆ ถ้าฝ่ายจัดการประลองไม่ให้ละก็ ท่านอาวุโสของพวกเราจะจัดการเอง” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อบอก
“แบบนี้ก็ดี อ้อ แล้วก็ เย้ชิงจือเป็นอย่างไรบ้างแล้ว” ถิงหลันรีบถามขึ้น
ไม่กี่วันก่อนเย้ชิงจือถูกส่งกลับมาเพราะต้องพิษอันร้ายแรง ผู้คนเห็นหมด เป็นห่วงเธออย่างมาก
นักวิญญาณเฒ่าเต๋อเองก็เป็นนักวิญญาณเหมือนกัน ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า “ต้องขึ้นอยู่กับตัวเธอแล้วละ”
เรื่องที่ขึ้นอยู่กับตัวเธอนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านอาวุโสจะตามหาผลึกเครื่องในดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ในเวลาสิบวันนี้ได้หรือไม่ แม้นักวิญญาณเฒ่าเต๋อได้ติดประกาศราคาสูงรับซื้อผลึกอวัยวะภายในระดับราชันหมวดรักษาแล้ว แต่ของแบบนี้มักต้องใช้เวลาเป็นเดือนถึงจะรับซื้อได้ เวลาสิบวันเร่งรีบเกินไป
…
เมืองอมตะ เจดีย์ป่ามรณะ
ก้อนเมฆสีดำนี้เหมือนอารมณ์ของมังกรวายุอลวน ก่อนหน้านี้ดุเดือดอย่างมาก เป็นความหงุดหงิดของมังกรวายุอลวน ส่วนตอนนี้ เมฆดำนี้ได้สงบแล้ว ลอยอยู่เหนือเมืองอมตะ อารมณ์ของมังกรวายุอลวนสงบลงมากแล้ว
เดิมกลุ่มมังกรเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาสูงอยู่แล้ว พวกมันใส่ใจการสืบทอดสายเลือดอย่างมาก
ขณะเดียวกัน พวกมันสามารถได้กลิ่นการสืบทอดสายเลือดของมนุษย์ได้เช่นกัน
หลังจากที่สัญญาวิญญาณของมังกรวายุอลวนกับชู่เทียนหมังขาดจากกัน ความทรงจำทั้งหมดได้หายไป แต่ไม่ได้ลืมจนหมด หลังจากที่ชู่มู่สงบอารมณ์ของมังกรวายุอลวนได้แล้ว มันได้กลิ่นสายเลือดของเจ้าของตัวเองอยู่ในตัวชู่มู่ และมั่นใจว่า ชู่มู่คือผู้สืบทอดของชู่เทียนหมัง
ต่อให้มังกรวายุอลวนจะดุร้ายเพียงใด แต่ยังมีสติอยู่ นี่ทำให้ชู่มู่สบายใจเล็กน้อย
แต่ว่าทุกครั้งที่เห็นร่างผอมบางของมังกรวายุอลวน อีกทั้งลำตัวที่เน่าเปื่อยอย่างรุนแรงของมัน ทำให้ชู่มู่ปวดใจอย่างมาก
ตอนต่อสู้ก่อนหน้านี้ มังกรวายุอลวนได้ควบคุมลมสลาย ชู่มู่ไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของมัน แต่ในตอนนี้ ชู่มู่ได้เห็นธาตุแท้ของมังกรวายุอลวนแล้ว
ขนาดตัวของมังกรวายุอลวนไม่ใหญ่เท่ามังกรจำศีลมรกต ความสูงของมันไม่ถึงสิบเมตร
ทรงพลังที่ว่า ไม่ปรากฏในตัวมังกรวายุอลวนนี้อีกแล้ว ร่างของมันผอมบางอย่างมาก ร่างที่เหมือนสายลมของมันกลับดูเหมือนคนแก่ชรา !
ที่ทำให้ชู่มู่ตกใจคือ บนตัวมันมีพลังมืดที่กำลังกัดกร่อนอยู่ ทำให้ผิวของมังกรวายุอลวนเน่าเปื่อยบ้างแล้ว !
ในเวลาที่ผ่านมา ชู่เทียนหมังมักพูดถึงความงดงามกล้าหาญของมังกรวายุอลวนให้ชู่มู่ฟังตลอด ทำให้ชู่มู่เกิดความหลงใหลต่อมังกรวายุอลวนเป็นพิเศษ
แต่มังกรวายุอลวนในตอนนี้ต่างจากที่คิดไว้อย่างมาก
นี่ไม่ใช่เพราะชู่เทียนหมังบรรยายมากเกินไป แต่เป็นเพราะการผนึกของเจดีย์ป่ามรณะแห่งนี้ ทำให้มังกรวายุอลวนที่แข็งแรงกลายเป็นแบบนี้
ที่โชคดีคือ จากการต่อสู้ในเมื่อสักครู ทำให้เห็นว่าเวลาสิบกว่าปีนี้ ไม่ทำให้มังกรวายุอลวนตัวนี้สูญเสียความมุ่งมั่นในการต่อสู้ !
“ชู่มู่ เจดีย์ป่ามรณะนี้เป็นผนึกลงโทษแห่งหนึ่ง ในนั้นมีพลังมืดแฝงอยู่ จะกัดกร่อนอายุขัยของสิ่งมีชีวิตที่ถูกผนึกเอาไว้ โดยปกติผนึกเป็นแค่การคุมขัง ดวงวิญญาณที่ผนึกไว้จะหลับเรื่อย ๆ จะไม่กลายเป็นแบบนี้ มีคนจงใจวางยาพิษในผนึกนี้ หลังจากยี่สิบปี อายุขัยของมังกรวายุอลวนจะหมดลง…” องค์หญิงจิ่งโหลวพูดกับชู่มู่เสียงเบา
ชู่มู่ได้ยินจากองค์หญิงจิ่งโหลวว่า เวลาคุมขังของมังกรวายุอลวนคือยี่สิบปี ถ้าอย่างนั้นเท่ากับว่าหลังจากยี่สิบปี มังกรวายุอลวนจะถูกปล่อยออกมา
แต่ว่า ผนึกมืดนี้ เท่ากับเป็นการฆ่ามังกรวายุอลวนตัวนี้ก่อนที่จะปล่อยมันออกมา ทำไมชู่มู่จะไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงนี้ !
“เทียนทิงองค์กรวิญญาณ !” ชู่มู่กำหมัดแน่น ความแค้นสะสมในใจของชู่มู่
จะต้องมีสักวัน หลังจากมีความสามารถมากพอ ชู่มู่จะฆ่าประธารสี่ที่นั่งคนนี้อย่างไม่ลังเล !
ชู่มู่สูดหายใจเข้า ลูบลำตัวที่ผอมแห้งของมังกรวายุอลวน ไม่รู้ทำไม เห็นดวงวิญญาณของชู่เทียนหมังกลายเป็นแบบนี้ ชู่มู่รู้สึกว่า ได้เห็นความเศร้าโศกของท่านพ่อตัวเองด้วย เจ็บใจอย่างมาก
“โซ โซ โซ !!!”
ทันใดนั้น พื้นดินเมืองอมตะเริ่มสั่นสะเทือน !
ชู่มู่กับองค์หญิงจิ่งโหลวต่างเงยหน้าขึ้น แต่พวกเขาได้เห็นภาพที่สะเทือนใจอย่างมาก !
การแปรเปลี่ยนอันประหลาด !!!
บางที่ในเมืองอมตะ แสงเลือดบางอย่างพุ่งขึ้นฟ้า สะท้อนขึ้น ทำให้ฟ้าสีดำนั้นกลายเป็นสีแดงเลือด !!!
ต่อให้ชู่มู่กับองค์หญิงจิ่งโหลวห่างจากมันไกลมาก แต่หลังจากเห็นฉากสีเลือดนี้ต่างรู้สึกสั่นไปทั้งวิญญาณ !
นั่นเป็นพลังที่แข็งแกร่งมากเพียงใด ถึงทำให้ฟ้าทั้งผืนกลายเป็นสีแดงได้ !!!
“ชู่มู่ นั่น…นั่นเหมือนจะ…เหมือนจะเป็นทิศทางของแท่นบูชาอสูรเลือด !” องค์หญิงจิ่งโหลวตกใจอย่างมาก ผ่านไปเนิ่นนานถึงพูดขึ้น
ก่อนหน้านี้ชู่มูกับองค์หญิงจิ่งโหลวสัมผัสได้ถึงพื้นดินของเมืองอมตะที่สั่นสะเทือนแล้ว เดิมไม่ใส่ใจเท่าไร จนถึงตอนที่แสงเลือดนี้พุ่งขึ้นฟ้า ถึงทำให้พวกเขารู้ว่า บริเวณแท่นบูชาเลือดอสูรมีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าปรากฏตัวขึ้น !!!
“ฮวาลาลา !!!”
ท่ามกลางแสงเลือดนั้น สายฟ้าสีม่วงผ่าลงกะทันหัน !!!
สายฟ้าที่ผ่ากลางฟ้านั้นดูหนาแน่นอย่างมาก ถ้ามองในระยะใกล้ คงจะน่ากลัวอย่างยิ่ง !!!
“นั่น…นั่นเป็นสายฟ้าขุมนรกระดับห้า อีกทั้งเป็นสายฟ้าขุมนรกขั้นสูง…” องค์หญิงจิ่งโหลวยังตกใจอยู่ กลับทำการประเมินได้อย่างแม่นยำ
ชู่มู่อยู่ในความตกใจเช่นกัน ไม่คิดว่า ในเมืองอมตะแห่งนี้จะมีพลังรุนแรงแบบนี้อยู่ !!!
ต่อให้พลังทั้งสองชนิดจะปรากฏแค่ชั่วคราว แต่ความสะเทือนใจของมันกลับยากที่จะบรรยายด้วยคำพูดได้ !
ไม่เพียงแต่ชู่มู่กับองค์หญิงจิ่งโหลวเท่านั้น พวกผู้เข้าแข่งขั้นขั้นหนึ่งและสองในเมืองอมตะต่างสะเทือนด้วยพลังมหาศาลนี้เช่นกัน !
…
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร องค์หญิงจิ่งโหลวถึงค่อย ๆ สงบสติได้
เธอมองไปยังชู่มู่ที่ยังคงจับจ้องไปยังสุดขอบฟ้า ลังเลว่า จะพูดเรื่องนี้ออกมาหรือไม่
“ชู่มู่…” ในที่สุด องค์หญิงจิ่งโหลวยังคงพูดออกมา
เมื่อชู่มู่ได้สติกลับมา ก็มองไปยังองค์หญิงจิ่งโหลว
“ทั้งเมืองเทียนเซี่ย มีดวงวิญญาณตัวเดียวที่มีผลึกพลังสายฟ้าขุมนรกขั้นห้านี้ คือราชันภูตสายฟ้า…” องค์หญิงจิ่งโหลวจงใจหยุดเล็กน้อย มองไปยังชู่มู่ เห็นชู่มู่เผยความสงสัยออกมา เธอลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่ยังคงพูดต่อว่า “และคนที่มีราชันภูตสายฟ้านี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น”
ชู่มู่เป็นคนที่ชาญฉลาดมีไหวพริบ จะไม่เข้าใจสิ่งที่องค์หญิงจิ่งโหลวจะบอกได้อย่างไร
“เจ้าบอกว่า ดวงวิญญาณราชันที่ปล่อยสายฟ้านี้ออกมาเป็นของเทียนทิงงั้นหรือ” ชู่มู่ถามขึ้น
“อืม เทียนทิงมีราชันขั้นสูง ราชันภูตสายฟ้านี้เป็นดวงวิญญาณหลักของเขา” องค์หญิงจิ่งโหลวพูดขึ้นเสียงเบา
ประธานที่นั่งทั้งสี่ นอกจากราชาของเมืองเทียนเซี่ยแล้ว มีแค่เทียนทิงองค์กรวิญญาณที่มีความสามารถแข็งแกร่งแบบนี้!!สิ่งมีชีวิตแข็งแกร่งที่ใช้สายฟ้าโจมตีแสงเลือดนั้นคือราชันภูตสายฟ้าของเทียนทิง !
“ราชันขั้นสูง…” ชู่มู่เสียสติหลุดเล็กน้อย
มั่วเย้เป็นราชันขั้นต่ำ จากที่รู้จากผู้เฒ่าหลี ระหว่างราชันขั้นต่ำกับขั้นสูงห่างกันอย่างมาก ที่สำคัญที่สุดคือ เทียนทิงไม่ได้มีราชันขั้นสูงแค่ตัวเดียว
“มีคนคาดการณ์ไว้ว่า ในเวลาสิบปี ความสามารถของเทียนทิงจะไม่เพิ่มมากเท่าไร ข้าคิดว่า สิบปีหลังจากนี้เจ้าจะฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย…” องค์หญิงจิ่งโหลวบอก
ความจริงองค์หญิงจิ่งโหลวคาดหวังในตัวชู่มู่อย่างมาก ด้านหนึ่งเป็นเพราะมีมั่วเย้แปรเปลี่ยนตระกูลต่อเนื่องอยู่ อีกด้านหนึ่งเป็นเพราะตัวชู่มู่เองเป็นผู้แข็งแกร่งที่องค์หญิงจิ่งโหลวนับถือ
ชู่มู่ในอายุเท่านี้ในตอนนี้ได้ข้ามผ่านระดับราชันที่ผู้คุมดวงวิญญาณมากมายไม่สามารถข้ามไปได้ ก่อนอายุสามสิบ ยังมีเวลาเติบโตอีกมาก องค์หญิงจิ่งโหลวเดาว่า ในเวลาสิบปีนี้ ชู่มู่จะฆ่าประธานแห่งที่นั่งทั้งสี่ของเมืองเทียนเซี่ยนี้ได้แน่นอน !
“สิบปีงั้นหรือ” ชู่มู่พึมพำ
เขาไม่คิดว่า ตัวเองต้องใช้เวลานานขนาดนั้น !
ไม่เพียงแต่เพราะภาวะครึ่งมาร ชู่มู่เชื่อว่า ไม่ถึงสิบปี ดวงวิญญาณหลักของตัวเองจะอยู่ในราชันขั้นสูงได้ ส่วนดวงวิญญาณอื่นจะไม่ต่างกันมากเท่าไร !
ถึงตอนนั้น ชู่มู่จะคืนความยุติธรรมให้ท่านพ่อของตัวเองและมังกรวายุอลวนที่ทนทุกข์ทรมานในผนึกนี้ให้หมด !
————————————————————————