Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 588
เด็กสาวทรยศเห็นมั่วเย้โจมตีอีกครั้ง ไม่หลบอีกต่อไป
เห็นได้ชัดมากว่า เธอรู้ว่าเป็นเพราะความประมาทของตัวเอง ทำให้แผนการหกปีนี้พังทลายหมด อีกทั้งคนที่ทำลายทั้งหมดนี้ กลับเป็นผู้คุมดวงวิญญาณที่ทำสัญญาวิญญาณกับตัวเองซึ่งเธอไม่เคยนึกถึงแม้แต่น้อย !
สุดท้ายเด็กสาวทรยศไม่หลบอีก แต่ดวงตาเยือกเย็นคู่นั้นยังคงจับจ้องไปยังชู่มู่ เหมือนจะจดจำหน้าตาของชู่มู่เอาไว้ ทั้งหมดนี้ก็มองออกได้ว่า ครั้งนี้เด็กสาวทรยศโกรธอย่างมากจริง ๆ !
“ซัวะ !!! ”
กรงเล็บนี้ของมั่วเย้ เล็งไปยังหัวใจของเด็กสาวทรยศโดยตรง !!!
เด็กสาวทรยศยืนอยู่ตรงนั้น ต่อให้หน้าอกถูกฉีกจนเลือดเนื้อกระจาย กลับไม่เผยท่าทีเจ็บปวดใด ๆ ออกมา ยังคงจับจ้องไปยังชู่มู่ราวกับผีร้าย
เผชิญหน้ากับการจับจ้องของเด็กสาวทรยศก่อนตาย ชู่มู่กลับไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย
…
“พระเจ้า…เจ้าชู่มู่นี่โหดเกินไปแล้ว !”
ที่ไกลออกไปจากเนินเมฆดำ ลี่ฮวังมองไปยังการต่อสู้ด้านหน้าปราสาทโบราณด้วยความตกใจ !
ลี่ฮวังเคยมองผ่านหุ่นเชิดของเด็กสาวทรยศมาก่อน ในตอนนั้นเขาสะพรึงกับลักษณะงดงามของเธออย่างมาก ผู้หญิงแบบนี้ ควรจะบูชาให้พระเจ้า แต่เจ้าชู่มู่สะกัดดาวนั้น กลับไม่คิดแม้แต่จะกะพริบตา ก็ทำให้ร่างกายของดวงวิญญาณสมบูรณ์แบบสลายไป ความสามารถอันโหดร้ายนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเทพ !
หลังจากลี่ฮวังเสียมังกรจำศีลมรกตไป ไม่ได้ล้มเลิกไป เดิมเขาคิดจะมองดูทั้งสองฝ่ายพ่ายแพ้จากที่ไกลและแล้วเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ ต่อให้เป็นผู้หญิงลึกลับคนนั้นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของดวงวิญญาณระดับราชันได้
เช่นนี้ ลี่ฮวังยิ่งไม่กล้าอยู่ที่นี่นาน เขามั่นใจได้ว่าทันทีที่ชู่มู่เจอเขา จะฆ่าเขาทิ้งอย่างไม่ลังเลแน่นอน ก่อนที่ตัวเองจะมีพลังมากพอ ลี่ฮวังจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับชู่มู่เด็ดขาด
…
เลือดสดไหลออก แต่ว่าหลังจากที่เลือดเหล่านี้ไหลไปได้ระยะหนึ่ง จะซึมเข้าดินทันที แล้วหายไปในที่สุด
ส่วนร่างของเด็กสาวทรยศ มองดูเหมือนมีเลือดมีเนื้อ แต่กลับไม่เหมือนมนุษย์เสียทีเดียว ตอนที่หลังจากมั่วเย้ฉีกร่างของเธอ เธอกลายเป็นดอกไม้สีฟ้ายักษ์ใหญ่ที่เหี่ยวเฉาอย่างช้า ๆ
ดอกไม้สีฟ้านี้เป็นร่างหลักของดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ หุ่นเชิดเด็กสาวทรยศเบิกตากว้าง ต่อให้ตายแล้วยังคงจับจ้องไปยังชู่มู่อยู่ดี
ชู่มู่เดินไปด้านหน้าศพเธอช้า ๆ ลำตัวของเธอกลายเป็นกลีบดอกไม้สีฟ้าเหี่ยวแห้งทันที แต่หัวของเธอยังอยู่ ชู่มู่ได้เดินเข้าไปเปิดผ้าปิดหน้าของเธอออก
เช่นเดียวกับที่ชู่มู่เห็นในความทรงจำตัวเอง หน้าตาเหมือนกับเด็กสาวทรยศ
แน่นอนว่า เมื่อเทียบกับเด็กสาวทรยศจริง ๆ หุ่นเชิดนี้ยังขาดไปมาก อย่างน้อยไม่มีเสน่ห์ที่ทำให้ชู่มู่คลั่งไคล้มัน เมื่อเผชิญกับศพเดินได้แบบนี้ นอกจากใบหน้าที่งดงามยิ่งแล้ว แทบไม่มีอะไรแล้ว
ส่วนเด็กสาวทรยศที่แท้จริง ใบหน้างดงามของเธอมีเสน่ห์ของความบริสุทธิ์อยู่ จุดนี้กลับตรงกันข้ามกับหุ่นเชิดหน้าตายแบบนี้ ชู่มู่ก็รู้ว่า ต่อให้ตอนนี้ตัวเขาไปแก้แค้นกับเด็กสาวทรยศ ก็เกรงว่าแค่คาถาเสน่ห์อันเดียวของตัวเอง ก็ทำให้เขาลืมการแก้แค้นแล้ว
หลังจากชู่มู่เปิดผ้าปิดหน้าไม่นาน ใบหน้าของหุ่นเชิดเด็กสาวเริ่มเลือนลาง สุดท้ายได้กลายเป็นกลีบดอกไม้ที่แห้งเหี่ยว หายไปในดินอย่างช้า ๆ
หลังจากศพของเด็กสาวทรยศหายไป ชู่มู่จงใจเหยียบบนตัวมันอย่างไม่เกรงใจ
น้อยคนที่จะทำให้ชู่มู่โกรธได้ แต่ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ทำให้ชู่มู่โกรธเคืองอย่างมากคนหนึ่ง ต่อให้เธอตายลงแล้วชู่มู่ก็จะไม่เกรงใจเธอ !
…
มีร่องรอยของหลักฐานที่หนึ่งสักที ตอนนี้ในใจของชู่มู่เริ่มจับต้นชนปลายได้แล้ว ขณะเดียวกัน ความคาดหวังที่จะแข็งแกร่งขึ้นรุนแรงมากยิ่งขึ้น !
ความสามารถของหุ่นเชิดตัวเดียวก็ถึงระดับราชันแล้ว ถ้าอย่างนั้น ตัวเด็กสาวทรยศจะต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน คิดจะให้เธอจำยอม ชู่มู่จำต้องแข็งแกร่งกว่าเธอ ไม่เพียงแต่ในด้านร่ายวิญญาณ ความสามารถของดวงวิญญาณก็ต้องเกินกว่าเธอให้ได้ !
สัญญาวิญญาณของชู่มู่ในตอนนี้มีสิบสองอันแล้ว ถ้าทำให้เด็กสาวทรยศจำยอมได้ ชู่มู่แทบไม่สนใจพื้นที่สัญญาวิญญาณสองอันที่ถูกเด็กสาวทรยศครอบครองเอาไว้ เพราะหลังจากที่เธอจำยอมแล้ว ชู่มู่จะเก็บเธอเข้าช่องว่างดวงวิญญาณแล้วไม่อัญเชิญออกมาอีก ส่วนหนึ่งก็เพื่อคุมขังเด็กสาวทรยศเอาไว้ อีกส่วนก็เพื่อตามหาญาณที่หนึ่งของตัวเอง
“มั่วเย้ มีผลึกเครื่องในไหม” ชู่มู่ถามขึ้น
ชู่มู่กังวลว่า หุ่นเชิดนี้สร้างจากกลีบดอกไม้ของดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าอย่างนั้นหุ่นเชิดจะไม่มีผลึกเครื่องในแน่นอน เป็นแค่ของตายเท่านั้น
ที่โชคดีคือ แม้จะเป็นหุ่นเชิด กลับเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ กรงเล็บของมั่วเย้มีผลึกเครื่องในดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์อันหนึ่งอยู่
ชู่มู่ดีใจ รีบทำความสะอาด เก็บผลึกเครื่องในดอกไม้ศักดิ์สิทธินี้เข้าช่องว่างดวงวิญญาณของตัวเอง
แบบนี้ จะช่วยเย้ชิงจือได้แล้ว ชู่มู่เองก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก
“ว่าแต่ ถ้าหุ่นเชิดนี้เป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง ถ้าอย่างนั้นร่างจริงของเด็กสาวทรยศคืออะไรกัน” ในไม่ช้า เกิดคำถามอีกอย่างขึ้นในใจชู่มู่ทันที
ชู่มู่จำได้ว่า ตอนที่ทำสัญญาวิญญาณกับเด็กสาวทรยศ เธอปรากฏตัวท่ามกลางดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าจริง ๆ แต่หลังจากที่นักวิญญาณเฒ่าเต๋อพิสูจน์จากกลีบดอกไม้ที่เน่าเปื่อยนั้น นั่นเหมือนจะไม่ใช่ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งมีชีวิตนิรนาม….
“ระดับตระกูลของดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์เป็นระดับราชัน ถ้าอย่างนั้นเด็กสาวทรยศก็ต้องเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการเพิ่มความแข็งแกร่งแล้ว ไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีระดับสูงกว่าดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังไม่เกินระดับราชันแน่นอน”ชู่มู่เริ่มประเมินความสามารถของเด็กสาวทรยศ
ถ้าเด็กสาวทรยศเกินกว่าระดับราชันละก็ คงไม่ต้องทุ่มเทขนาดนี้แล้ว ดังนั้นชู่มู่คิดว่าเธอมีโอกาสที่จะเป็นระดับราชันขั้นสูงไม่ก็ระดับราชันชั้นยอดมากกว่า
“ช่างเถอะ ไม่คิดแล้ว ตั้งใจเพิ่มความสามารถดีที่สุด” ชู่มู่ไม่คาดเดาอีก
มั่วเย้อยู่ในระดับราชันแล้ว อีกสองปีมังกรจำศีลน้อยจะอยู่ในระดับราชันได้เช่นกัน บวกกับดวงวิญญาณตัวอ่อนของเกียรติขั้นสิบ จะเป็นราชันอีกตัว รูปแบบทั้งหมดนี้ดีอย่างมาก !
นึกถึงมังกรจำศีลน้อย ชู่มู่นึกขึ้นได้ว่าบนตัวเด็กสาวทรยศยังมีบ่อน้ำอมตะทันที !
ในตอนนี้ ชู่มู่รีบตามหาแหวนช่องว่างที่อยู่ข้างศพของเด็กสาวทรยศ
และแล้ว แหวนช่องว่างตกอยู่บนพื้น อีกทั้งยังมีเลือดของเด็กสาวทรยศติดอยู่ ชู่มู่รีบเก็บมันขึ้นมา
ของในแหวนช่องว่างของเด็กสาวทรยศมีไม่มากเท่าไร ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ชู่มู่ไม่เคยเห็น กลับเต็มด้วยพลังวิญญาณเม็ดเล็ก ที่มองดูคล้ายกับผลึกวิญญาณ
ชู่มู่ไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร แต่ก็เก็บเข้าแหวนช่องว่างของตัวเองหมด คาดว่าในเมื่อเด็กสาวทรยศเก็บไว้ น่าจะมีราคาไม่น้อย
“ฮะฮะ นี่น่าจะเป็นบ่อน้ำอมตะแล้ว !” ชู่มู่หัวเราะออกมา และแล้วได้เจอขวดที่มีของเหลวสีน้ำเงินในแหวนช่องว่างเด็กสาวทรยศแล้ว
ชู่มู่อยู่กับเย้ชิงจือช่วงหนึ่งแล้ว จึงรู้จักการประเมินราคาของยาจากขวดยาที่บรรจุ ขวดยานี้มองดูก็รู้ว่า เป็นยาขั้นสิบ เย้ชิงจือเองก็มีไม่กี่อัน
ถ้าในขวดยานี้ไม่ใช่น้ำอมตะ ชู่มู่จะเหยียบบนก้านดอกไม้แห้งเหี่ยวของเด็กสาวทรยศอีก !
“องค์หญิง นี่ใช่น้ำอมตะ…” ชู่มู่กำลังจะให้องค์หญิงจิ่งโหลวประเมิน
และแล้ว ตอนที่ชู่มู่หันไป นอกจากมังกรวายุอลวนที่กำลังฆ่าล้างกับอสูรเหวและสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าตัวอื่นแล้ว กลับไม่เห็นเงาขององค์หญิง
ชู่มู่ตกใจทันที ตลอดที่ผ่านมาชู่มู่สงสัยว่าองค์หญิงจิ่งโหลวเข้ามาในเมืองอมตะนี้มีจุดประสงค์อะไร และเธอหายตัวไปกะทันหันในตอนนี้ น่าจะเข้าไปในปราสาทโบราณนี้แล้ว
“ปีศาจขาว เจ้าอยู่ที่นี่คอยจัดการสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้ากับมังกรวายุอลวน ข้าเข้าไปดู” ชู่มู่ไม่ทันได้ตรวจดูสมบัติของเด็กสาวทรยศ หลังจากทิ้งปีศาจขาวไว้ ได้เดินมุ่งหน้าไปปราสาทโบราณ
หลังจากที่มั่วเย้ฆ่าจักรพรรดิขั้นสูงสี่ตัวและจักรพรรดิชั้นยอดตัวหนึ่งแล้ว ได้รีบตามมาข้างชู่มู่ มุ่งหน้าไปยังปราสาทโบราณ
พึ่งก้าวเข้าไปในปราสาทโบราณ ชู่มู่สัมผัสถึงบรรยากาศชวนขนลุกทันที เช่นเดียวกับตอนที่ตัวเองได้เจอกับกลิ่นไอที่ดวงวิญญาณหมวดผีปล่อยออกมา
ดวงวิญญาณหมวดผีเป็นที่พบเห็นได้ค่อนข้างยาก ไม่พูดถึงหมวดผี ชู่มู่เองไม่ค่อยได้เจอกับสิ่งมีชีวิตตระกูลวิญญาณแห่งความตาย คาดว่าในปราสาทโบราณนี้น่าจะเคยเป็นที่อยู่ของดวงวิญญาณหมวดผี แต่ตอนนี้ถูกทำความสะอาดไปแล้ว
“ชู่มู่” เสียงอ่อนโยนดังขึ้นจากด้านในปราสาทโบราณทันที
“องค์หญิง เจ้าทำอะไรที่นี่” ชู่มู่เห็นองค์หญิงจิ่งโหลวที่สวมชุดสีฟ้าทันที
องค์หญิงจิ่งโหลวไม่ตอบ แต่สังเกตพื้นของห้องโถงปราสาทโบราณตลอด อีกทั้งยังใช้จมูกดมเป็นครั้งคราว แล้วครุ่นคิดต่อ
“องค์หญิง” ชู่มู่ตั้งใจถามขึ้นอีกรอบ รู้สึกว่าท่าทีแบบนี้ขององค์หญิงจิ่งโหลวประหลาดมาก
ตอนนี้องค์หญิงจิ่งโหลวถึงเงยหน้ามองชู่มู่ ดวงตางดงามคู่นั้นจับจ้องไปยังชู่มู่ สายตาของเธอเผยให้เห็นความผิดหวังและเศร้าหมอง ทำให้ชู่มู่ทำตัวไม่ถูก
“วางใจได้ เรื่องนี้จะไม่เป็นเรื่องร้ายสำหรับเจ้า ข้าแค่อยากได้สิ่งที่ข้าอยากได้เท่านั้น” องค์หญิงจิ่งโหลวพูดเสียงเบา
ชู่มู่มองไปยังองค์หญิงจิ่งโหลว พบว่าเธอมีท่าทีเสียใจ ยิ่งเกิดความสงสัยในใจ
“เจ้าอยากได้สิ่งเดียวกับผู้หญิงคนนั้นงั้นหรือ” ชู่มู่ถามขึ้น
เด็กสาวทรยศตั้งใจมาปราสาทโบราณแห่งนี้ องค์หญิงจิ่งโหลววิ่งมาที่นี่ในตอนที่ชู่มู่รับมือกับเด็กสาวทรยศ คาดว่าในปราสาทโบราณนี้จะต้องมีของที่คุ้มกับความอยากได้ของพวกเธอ อีกทั้งไม่ใช่สิ่งของธรรมดาแน่นอน
“ก่อนหน้านี้ข้าไม่มั่นใจ ตอนนี้มั่นใจได้แล้ว แต่จุดเริ่มต้นของพวกเราต่างกัน โปรดอภัยให้กับข้าที่ไม่สามารถบอกความจริงกับเจ้า เพราะเรื่องนี้สำคัญกับข้ามาก อีกทั้งไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับเจ้า…” องค์หญิงจิ่งโหลวพูดอย่างจริงใจ
“แล้วเจ้าคิดจะอยู่ที่นี่ต่อ หรือออกจากที่นี่” ชู่มู่ถามขึ้น
ชู่มู่ในตอนนี้ใจร้อนเรื่องเย้ชิงจืออย่างมาก สิ่งที่ควรได้มาก็ได้มาแล้ว ชู่มู่จะจากไปทันที ส่วนสิ่งที่องค์หญิงจิ่งโหลวกับเด็กสาวทรยศอยากได้เหมือนกัน ชู่มู่อยากรู้ก็จริง แต่ในเมื่อองค์หญิงจิ่งโหลวไม่บอกเขาก็ทำอะไรไม่ได้
“ไปเถอะ ข้าทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว” องค์หญิงจิ่งโหลวพูดด้วยอารมณ์ที่เศร้าหมอง
ชู่มู่พยักหน้า ไม่เดาสิ่งที่อยู่ในใจเธออีก พาองค์หญิงจิ่งโหลวออกจากปราสาทโบราณ
หลังจากออกจากปราสาทโบราณแล้ว มังกรวายุอลวนยังคงฆ่าล้างกับเหล่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าอย่างสุดกำลัง เห็นได้ชัดว่า การต่อสู้ก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นที่สะใจของมังกรวายุอลวน
ชู่มู่ให้มั่วเย้ฆ่าอสูรเหวสองตัวนั้น คว้าผลึกเครื่องในของมัน ฉีกยิ้มออกมาทันที
เกียรติสุดท้ายด่านที่สิบเป็นของตัวเองแล้ว ตัวเขามีดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันตัวหนึ่งแล้ว !
“อู อู อู”
มั่วเย้ได้กลายร่างเป็นภาวะอาวรณ์ กระโดดขึ้นไหล่ของชู่มู่
เห็นได้ชัดว่า ผ่านการต่อสู้เป็นเวลานานขนาดนี้ มั่วเย้ก็เหนื่อยแล้ว จึงหมอบบนตัวชู่มู่อย่างเหนื่อยล้า
ชู่มู่ลูบบนตัวของมัน เพื่อความปลอดภัย ชู่มู่ไม่รีบเก็บมั่วเย้กลับเข้าช่องว่างดวงวิญญาณ ให้มันหมอบนอนอยู่บนไหล่ของตัวเอง
ชู่มู่ยังมีแหวนจับวิญญาณอยู่ ไม่กลัวว่าจะพามังกรวายุอลวนออกไปไม่ได้ แน่นอนว่า เส้นทางระหว่างกลับค่อนข้างไกล จำต้องให้มังกรวายุอลวนลากพวกเขาก่อน
“กลับกันเถอะ” ชู่มู่เองก็กังวลว่า จะเกิดเรื่องกับเย้ชิงจือ ไม่กล้ารอช้า เก็บผลึกของดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์กับผลึกของอสูรเหว รวมถึงน้ำอมตะกับแหวนช่องหว่างของหุ่นเชิดเด็กสาวทรยศด้วย
คาดว่าน้ำอมตะนี้จะทำให้มังกรจำศีลน้อยเพิ่มขึ้นจนอยู่ในลักษณะสิบในเวลาสองปีได้ ชู่มู่ตื่นเต้นอย่างมาก อดใจไม่ไหวที่จะเห็นมังกรจำศีลน้อยเติบโตอย่างรวดเร็ว !
…
…
เมืองว่านเซี่ยง เรือนหลันหมิง
ผู้หญิงวัยกลางคนใบหน้างดงามคนหนึ่งลอยผ่านทางเดินอย่างช้า ๆ ทำให้พวกคนทำดอกไม้ที่อยู่ด้านล่างเบิกตามองตาม วิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง
คนรับใช้ของที่นี่ต่างรู้ดี ในเรือนหลันหมิงมีผู้หญิงที่มีตำแหน่งสองคนอาศัยอยู่ คนหนึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคน อีกคนเป็นเด็กสาววัยอ่อน ปกติเด็กสาวจะไม่ออกไปข้างนอก น้อยคนที่จะพบเห็น ส่วนเด็กสาวคนนี้กลับเดินไปมาบ่อยครั้ง ท่าทีของเธองดงามอย่างมาก มักทำให้เหล่าคนรับใช้หวั่นไหว
ในตอนนี้ เห็นผู้หญิงวัยกลางคนเดินผ่าน เหล่าช่างทำดอกไม้ได้ลืมงานที่ทำอยู่ มองจนสติหลุด จนกระทั่งผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้าไปในห้องนอนชั้นสอง ช่างทำดอกไม้ถึงได้สติกลับมา
“เห้ย ได้เห็นแวบหนึ่งตอนกลางวัน ตอนกลางคืนจะอย่าคิดที่จะหลับฝันดีได้…” ช่างทำดอกไม้ที่แก่ที่สุดพูดขึ้น
“ใช่ไหม แม้แต่ภรรยาของข้ายังบอกว่า ช่วงนี้ข้าสติหลุด” ช่างทำดอกไม้อายุประมาณสามสิบปีพูดขึ้น
“ข้าว่า พวกเจ้าอย่าแม้แต่จะคิด ก่อนหน้านี้ข้าเห็นเธอเข้าไปในแท่นช้างเอราวัณ ไม่ต้องให้ข้าพูดแล้ว คนที่เข้าไปในนั้นได้ ได้ข่าวว่าล้วนเป็นคนที่อยู่ในระดับราชันวิญญาณ พวกเราเป็นแค่ศิษย์วิญญาณกับนักรบวิญญาณที่เลี้ยงดวงวิญญาณหมวดดอกไม้หมวดหญ้าตระกูลพืช ไม่มีสิทธิ์พูดกับเธอแม้แต่น้อย !” ช่างทำดอกไม้แก่ที่สุดคนนั้นพูดขึ้น
เหล่าช่างทำดอกไม้คนอื่นแสดงสีหน้าตกใจออกมา ระดับราชันวิญญาณ นั่นเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมจริง ๆ
ว่าแต่ ผู้แข็งแกร่งที่มาเมืองว่านเซี่ยงนี้มีเยอะจนนับไม่ถ้วน ถ้าไม่ได้เป็นเพราะพวกเขามีความสามารถพิเศษ หาเลี้ยงได้บ้าง คงยากที่จะมีชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไปได้
ห้องชั้นสอง
ผู้หญิงวัยกลางคนระดับราชันวิญญาณดันประตูห้องออกช้า ๆ แต่ในไม่ช้า เธอได้เห็นภาพที่ทำให้เธอประหลาดใจทันที
ห้องนี้ใหญ่มากหรูหรามาก เต็มไปด้วยเครื่องประดับราคาแพงมากมาย อีกทั้งบางอย่างได้สร้างจากผลึกวิญญาณราคาแพงยิ่ง ไม่ได้เป็นแค่เครื่องประดับธรรมดาแล้ว เป็นการเผยให้เห็นความมั่งคั่งอย่างหนึ่งแล้ว !
และแล้ว สิ่งของราคาแพงในตอนนี้กลับถูกกระแทกจนแหลก ห้องนอนนี้อนาถอย่างมาก ไม่มีสิ่งใดยังสมบูรณ์อยู่
ผลึกวิญญาณขั้นสิบ ผลึกธาตุที่ส่องประกายสีสันออกมา ไข่มุกวิญญาณเปลวไฟที่ทำให้ดวงวิญญาณมีพลังของผลึกขั้นสี่ได้ทันที อีกทั้งยังมีเครื่องประดับที่แกะสลักจากผลึกเครื่องในมากมายของดวงวิญญาณระดับราชัน…
ตอนนี้กลับแตกสลายหมด ไร้ซึ่งราคา !
“คุณท่าน นี่คืออะไร” หญิงงามวัยกลางคนเดินไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างเตียงลำพัง ถามขึ้นด้วยความหวาดหวั่น
ด้วยความเข้าใจของหญิงงามวัยกลางคน เรื่องใดก็ไม่สามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเธอได้ และเป็นเพราะจุดนี้ ทำให้หญิงงามไม่เข้าใจหญิงสาวที่งดงามตรงหน้าคนนี้ได้
แต่ท่าทีของวันนี้ เธอกลับเหมือนเด็กสาวธรรมดา เหวี่ยงสิ่งของทั้งหมดในห้องจนแตกสลายหมด หญิงงามวัยกลางคนแอบตกใจ เรื่องอะไรกันแน่ที่ทำให้หญิงสาวลึกลับที่มีความแน่นิ่งมากกว่าคนปกติโกรธเคืองได้ขนาดนี้
“เรื่องเมืองเทียนเซี่ยจบแล้ว” หญิงสาวหันกลับมาช้า ๆ หลังจากที่เธอระบายแล้ว สงบลงบ้าง แต่ยังคงเห็นความโกรธจากนัยตน์าของเธอได้บ้าง ยากที่จะปกปิด
“มิน่า…” หญิงงามวัยกลางคนพยักหน้า
หญิงสาวส่งเสียงเยือกเย็น ถ้าล้มเหลวเพราะเรื่องอื่น เธอจะไม่โกรธขนาดนี้ แต่เป็นเพราะการปรากฏตัวของชู่มู่แท้ ๆ รวมถึงคำพูดของชู่มู่ ทำให้เธอควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ !
“เจ้าส่งคนไปเมืองเทียนเซี่ย ตามหาคนที่ชื่อชู่เฉิง ชู่มู่ แล้วรายงานเรื่องทั้งหมดให้ข้า” หญิงสาวพูดขึ้น
“คนนี้เองที่ทำให้คุณท่านโมโห ให้ข้าจัดการเขาไหม” หญิงงามวัยกลางคนถามลองเชิง
“ไม่ต้อง ไปเก็บข่าวเกี่ยวกับเขา แล้วบอกกับข้า” หญิงสาวบอก
หลังจากที่เธอผ่านเรื่องนี้ ชู่มู่จะเก็บตัวผิดปกติแน่นอน การตามหาเขาเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย ยิ่งกว่านั้นยังมีคนของตำหนักวิญญาณปกป้องเขาอยู่ ต่อให้ส่งคนไปก็ทำอะไรไม่ได้
“ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ว่าแต่…ท่านควรจะเปลี่ยนชุดหน่อยไหม แม้ท่านเกิดมางดงาม แต่ถ้าไปเจอซวงเซียงละก็ จะทำให้พวกเขาเกิดความกังวลได้” หญิงวัยกลางคนพูดขึ้น
“อืม เจ้ารอข้าข้างนอกสักครู่” หญิงงามพยายามปรับอารมณ์ของตัวเอง และแล้วนึกถึงคำพูดของชู่มู่ แผนการหกปีของตัวเองกลับล้มเหลวไม่เป็นท่าแบบนี้ เธอกัดฟันแน่น แอบคิดในใจ “ชู่มู่ ข้ารอเจ้าอยู่ที่เมืองว่านเซี่ยง ! ถึงตอนนั้นจะให้เจ้าได้เห็นพลังที่แท้จริง !”
…
…
ลานกว้างเทียนเซี่ย
ข่าวที่ชู่มู่กำลังเดินทางกลับได้ส่งจากดวงวิญญาณรับสารไปยังผู้คนอย่างรวดเร็ว
แม้ทุกคนจะไม่เห็นว่า ชู่มู่ได้เกียรติสุดท้ายด่านที่สิบอย่างไร แต่ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่า ชู่มู่ได้สมบัติมากมายกลับมาแน่นอน !
การมีอยู่ของดวงวิญญาณระดับราชัน ใครจะห้ามฝีเท้าของชู่มู่ได้ !
“เกียรติสุดท้ายขั้นสอง เกียรติสุดท้ายขั้นหนึ่งเป็นของชู่มู่หมด นี่น่าจะเป็นผู้เข้าเข่งขันชิงคู่คนแรกในรอบหลายรอยปีเลยใช่หรือไม่”
“จริง ๆ เลย คว้าเกียรติสุดท้ายด่านที่สิบ รางวัลด่านที่เก้าแทบไม่มีความหมาย เกียรติสุดท้ายของด่านที่เก้าเป็นดวงวิญญาณจักรพรรดิขั้นสูงตัวหนึ่ง บวกกับวัตถุวิญญาณ ส่วนเกียรติสุดท้ายด่านที่สิบได้ดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันตัวหนึ่ง !!!”
“คาดไม่ถึงจริง ๆ ผลสุดท้ายของการประลองฟ้าดินจะเป็นแบบนี้ คาดว่าเจ้าตำหนักของตำหนักวิญญาณ และพวกผู้อาวุโสยิ้มจนหุบยิ้มไม่ได้แล้ว มีผู้แข็งแกร่งมากความสามารถอีกคน คาดว่าอีกไม่กี่ปี มารนิรยจะล้าหลังแล้ว”
ผู้คนต่างรู้ดี คนที่มีดวงวิญญาณระดับราชันมีจำกัดอย่างมาก อย่าเห็นว่าในรุ่นวัยหนุ่มมีจักรพรรดิชั้นยอดมากมาย แต่นอกจากรุ่นวัยหนุ่มแล้ว ผู้แข็งแกร่งมากมายในอำนาจต่าง ๆ มีดวงวิญญาณจักรพรรดิชั้นยอดไม่น้อยเช่นกัน
และแล้ว จักรพรรดิชั้นยอดกับราชันเป็นช่องว่างที่ยากจะข้ามไปได้
ด้วยสาเหตุสามประการ หนึ่ง คือร่ายวิญญาณของตัวเขาเองไม่สามารถเข้าสู่ระดับราชันวิญญาณได้ สอง คือ ดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันล้ำค่าอย่างมาก ถ้าปรากฏตัวในที่ใดตัวหนึ่ง คาดว่าจะมีผู้แข็งแกร่งระดับราชันวิญญาณมุ่งหน้าจากทุกทิศทางแน่นอน เจ้าวิญญาณที่ไม่มีดวงวิญญาณระดับราชันอย่างพวกเขาแทบไม่สามารถจับได้
สาม คือประสิทธิภาพดวงวิญญาณของพวกเขามีจำกัด สำหรับผู้คุมดวงวิญญาณบางคนแล้ว สามารถทำให้ดวงวิญญาณอยู่ในลักษณะสิบได้ก็ไม่ง่ายแล้ว คิดจะเพิ่มความแข็งแกร่งจนอยุ่ในระดับราชันยากยิ่งกว่ายาก ไม่ใช่ใคร ๆ ที่จะโปรยเงินหลายหมื่น หลายล้านเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งดวงวิญญาณอย่างชู่มู่ได้ !
อีกทั้ง ถ้าประเมินขั้นต่ำ ราคาของดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันจะมีค่าหนึ่งล้านล้าน อีกทั้งในตอนที่ต้องให้อาหาร ปรับการฝึก ซื้อวัตถุวิญญาณต่าง ๆ เพิ่มความแข็งแกร่งดวงวิญญาณ รวมถึงในภาวะที่ดวงวิญญาณเกิดตายลง จะมีเจ้าวิญญาณกี่คนที่เก็บเงินไปซื้อดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันได้
ที่สำคัญที่สุดคือ หนึ่งล้านล้านจะซื้อดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันได้หรือไม่ยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันแทบจะถูกควบคุมด้วยอำนาจต่างๆ ไม่มีทางที่จะรั่วไหลออกมาได้
ส่วนดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันที่จับในป่า ยิ่งกว่าฝันอีก จะมีดวงวิญญาณระดับราชันตัวใดไม่มีพื้นที่ของตัวเอง ในพื้นที่นี้มีลูกน้องนับหมื่นเฝ้าดูอยู่ไม่ใช่เหรอ
ดังนั้นอย่าว่าแต่เจ้าวิญญาณที่ไปจับดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชัน ราชันวิญญาณยังไม่กล้าไปจับ !!!
เส้นทางเพิ่มความแข็งแกร่งยากที่จะก้าวเข้าไปได้ วัตถุวิญญาณที่เพิ่มความแข็งแกร่งจักรพรรดิชั้นยอดให้อยู่ในระดับราชันได้อย่างแท้จริง ไม่มีทางที่จะวางขายในรายการห้องโถงอย่างวัตถุวิญญาณเหล่านั้นแน่นอน วัตถุวิญญาณเหล่านี้น้อยยิ่งกว่าน้อยเช่นเดียวกับดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชัน !
ในภาวะที่ขาดดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันแบบนี้ ชู่เฉิงตำหนักวิญญาณกลับมีดวงวิญญาณระดับราชันสองตัว สำหรับใครก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่ตาแดงอย่างมาก แดงจนเขียวได้ !
แน่นอนว่า ถ้าผู้คนรู้ว่า ชู่มู่มีดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันตัวที่สามอย่างมังกรจำศีลน้อยละก็ ไม่รู้จะมีคนที่ติดอยู่ในจักรพรรดิชั้นยอดกี่คนที่กระอักเลือด !
…
เจ้าตัวชู่มู่อารมณ์ดีอย่างมาก เพราะผลึกดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่นำกลับมาได้ระงับพิษสำเร็จ สิ่งเดียวที่เสียดายคือ สารพิษบนหน้าของเย้ชิงจือไม่หายไป เย้ชิงจือเองบอกว่า สามารถรักษาได้ทีหลัง ชู่มู่เองก็สบายใจได้
ไม่กี่วันต่อจากนั้น ชู่มู่อยู่ข้างเย้ชิงจือตลอด เป็นเรื่องที่เห็นได้ยากว่า ชู่มู่ไม่ไปฝึกอย่างบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่า ต้องพิษของเย้ชิงจือครั้งนี้ ทำให้ชู่มู่รู้ถึงความสำคัญของเย้ชิงจือ
สารพิษบนหน้าของเย้ชิงจือยังไม่หายไป หลบ ๆ ซ่อน ๆ ชู่มู่ตลอด กลัวว่าชู่มู่จะเห็นท่าทีน่าเกลียดของตัวเอง
“อีกไม่กี่วันจะเป็นการมอบเกียรติแล้ว” ชู่มู่ไม่คิดจะคว้าเกียรติสองอันนี้อย่างโจ่งแจ้งเกินไป
ดังนั้น เขาคิดจะนำเกียรติสุดท้ายขั้นสองให้เย้หวันเชิง อย่างไรก็ตามเย้หวันเชิงต้องการคำสั่งเสียในเกียรติขั้นสองอยู่แล้ว
ส่วนรางวัลดวงวิญญาณตัวอ่อนจักรพรรดิขั้นสูง ชู่มู่ไม่สนใจแม้แต่น้อย รอให้ฝ่ายจัดการประลองมอบดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชันก็พอ !