Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 589
ต่อให้ชู่มู่นำเกียรติขั้นสองให้เย้หวันเชิง ทว่า คนในเมืองเทียนเซี่ยต่างรู้ดี วัยหนุ่มผิดธรรมชาติชู่เฉิงตำหนักวิญญาณยังคงเป็นเจ้าของเกียรติสุดท้ายทั้งสอง
เย้หวันเชิงเองก็หน้าด้าน ไม่รู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของเขาก็เพื่อรับฟังคำสั่งเสียของอาจารย์ คนอื่นจะพูดอะไรก็ตาม เขาก็ไม่สนใจแล้ว
แน่นอนว่า เย้หวันเชิงได้ตัดสินใจแล้ว หลังจากได้คำสั่งเสียของอาจารย์ จะเริ่มฝึกอย่างหนักแล้ว โดยเฉพาะทุกครั้งที่เห็นชู่มู่ สายตาเจ็บปวดของเขา แสดงให้เห็นถึงอารมณ์อิจฉาอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้ตอนที่ตัวเองเจอชู่มู่ในวันข้างหน้าแล้วเขาดูไร้ค่าแบบนี้ ดังนั้น เขาจะสู้สักตั้ง
ชู่มู่เองก็ไม่รู้ว่า คำสั่งเสียอาจารย์ของเย้ชิงจือกับเย้หวันเชิงคืออะไร คาดว่าน่าจะเป็นสมบัติอันล้ำค่า อีกทั้งเย้หวันเชิงเองก็เคยพูดไว้ว่า แค่ได้คำสั่งเสียของอาจารย์มา ไม่แน่อีกไม่กี่ปี ชู่มู่จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแล้ว
ประโยคนี้ทำให้ชู่มู่ประหลาดใจอย่างมาก อย่างน้อยเย้หวันเชิงก็รู้ความสามารถของตัวเอง ความสามารถของคนปกติจะยิ่งห่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ นี่ทำให้ชู่มู่ไม่แน่ใจว่า เจ้าเด็กนี่พูดเพ้อเจ้อเกินจริงหรือมีที่พึ่งพาจริง ๆ
เกียรติใหญ่ทั้งสองประกาศในเวลาเดียวกัน ในวันที่สิบหลังจบด่านที่สิบ
หลังจากการแข่งขันจบลง ชู่มู่เองก็ได้พักผ่อนเต็มที่ ดวงวิญญาณอื่นก็ได้ปรับตัวแล้ว มังกรวายุอลวนได้กินดีอยู่ดีตลอดสิบวัน มีเนื้องอกออกมาบ้าง ความสามารถฟื้นกลับมาค่อนข้างไว
มีเพียงหลังจากผ่านการต่อสู้ต่อเนื่อง มั่วเย้กลับขี้เซามากขึ้น ออกมาเดินเล่นในภาวะอาวรณ์บ้าง หมอบอยู่บนไหล่ของชู่มู่ด้วยความง่วง
พฤติกรรมนี้ทำให้ชู่มู่แปลกใจ เพราะว่าหลังจากลอกคราบเป็นระดับราชัน มั่วเย้กลับขี้เกียจ ต่างจากตอนปกติที่เจ้านี่เวลาไม่มีอะไรทำจะไปก่อกวนนู่นนี่นั่น
“ผู้เฒ่าหลี เกิดอะไรขึ้น” ชู่มู่ถามขึ้น
“ปกติมาก ดวงวิญญาณระดับราชันขี้เซาหมด ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกกับเจ้าแล้ว แรงกายของดวงวิญญาณระดับราชันไม่ได้ฟื้นได้จากการพักผ่อน พลังของมันแข็งแกร่งอย่างมาก เท่ากับว่าปริมาณอาหารที่มันกินจะเยอะมาก อีกทั้งพวกมันไม่กินของธรรมดา อย่างแรก เศษวิญญาณน่าจะไม่มีประโยชน์ต่อพวกมันแล้ว”ผู้เฒ่าหลีบอก
“เศษวิญญาณไม่มีประโยชน์แล้วงั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นกินอะไร หรือว่ากินผลึกวิญญาณ” ชู่มู่เบิกตาถามขึ้น
เศษวิญญาณเป็นอาหารตลอดกาลของดวงวิญญาณ แต่ทำไมพอถึงระดับราชัน เศษวิญญาณกลับไร้ประโยชน์ และถ้าดวงวิญญาณระดับราชันกินแค่ผลึกวิญญาณ จะรับไหวได้อย่างไร !
ผลึกวิญญาณขั้นเก้าเม็ดหนึ่งมีราคาหลายร้อยล้าน ผลึกวิญญาณขั้นสิบหลายสิบล้าน ส่วนมั่วเย้มีหมวดเยอะขนาดนั้น ยิ่งรับไม่ไหว ราคาของผลึกวิญญาณจะทวีคูณมาก
“หรือว่าเจ้าไม่เห็นว่า วัตถุวิญญาณขั้นสิบ สิ่งของขั้นสิบที่ว่า เจ้าจะได้มาตอนที่อยู่ในระดับจักรพรรดิแล้ว” ตอนที่ผู้เฒ่าหลีพูด มันได้ลูกเคราของตัวเองนั้นด้วย ทำท่าทีกำลังจะสั่งสอน
ประโยคนี้ของผู้เฒ่าหลีเป็นความจริง ตอนที่มั่วเย้อยู่ในจักรพรรดิขั้นกลาง ได้ใช้สิ่งของในขั้นเก้าระดับหนึ่งแล้ว คาดว่าพอถึงจักรพรรดิชั้นยอด น่าจะต้องใช้วัตถุวิญญาณขั้นสิบ สิ่งของขั้นสิบ
“ท่าทางเจ้าจะเข้าใจแล้ว ความจริงการแบ่งขั้นสิบเป็นการแบ่งของระดับที่ต่ำกว่าราชัน ขั้นสิบหมายถึงจักรพรรดิขั้นสูง จักรพรรดิชั้นยอด รวมถึงพลังของทักษะและทักษะด้วย โดยปกติจักรพรรดิขั้นสูงกับจักรพรรดิชั้นยอดจะปล่อยทักษะพลังขั้นสิบออกมาได้ อีกทั้งรวมถึงโลกอลวนก็เป็นแบบนี้ แน่นอนว่า ปกติโลกอลวนขั้นเก้ากับสิบจะมีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งถึงระดับราชันอยู่”ผู้เฒ่าหลีบอก
“ถ้าอย่างนั้นหลังจากระดับราชัน มีการแบ่งแบบอื่นอีกไหม” ชู่มู่ถามขึ้นอย่างจริงจัง
“เรื่องนี้ย่อมเป็นธรรมดา อย่างแรก ระดับราชันแข็งแกร่งกว่าระดับจักรพรรดิมากเกินไป วัตถุวิญญาณในขั้นสิบก่อนหน้านั้น แทบจะเพิ่มความแข็งแกร่งดวงวิญญาณระดับราชันได้เล็กน้อย รวมถึงวัตถุวิญญาณที่ทำให้ดวงวิญญาณเติบโตไวขึ้นเหล่านั้น ดังนั้นสิ่งที่ขายในสถานแลกเปลี่ยนและอำนาจต่าง ๆ เจ้าไม่ต้องไปดูแล้ว คัดออกได้แล้ว” ผู้เฒ่าหลีพูดอย่างผู้มากประสบการณ์
ชู่มู่จ้องเขม็งไปยังเจ้าแก่นี่แล้วพูดขึ้น “ทำไมถึงไร้ประโยชน์ ข้ามีแค่มั่วเย้เหรอ !”
“แคะ แคะ…เกือบลืมไปแล้ว ดวงวิญญาณอื่นของเจ้ายังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ความสามารถห่างกันมากเกินไปแล้ว” ผู้เฒ่าหลีพูดอย่างอึดอัด” อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยู่ในขั้นสิบ ไม่มีประโยชน์ต่อมั่วเย้มากเท่าไรแล้ว…แน่นอนว่า ผลึกวิญญาณขั้นเก้ากับขั้นสิบนำมากินเป็นข้าวได้…”
“….” ชู่มู่หน้ามืดทันที
ผลึกวิญญาณขั้นเก้ากับสิบล้วนเป็นของที่มีราคาหลายร้อยล้าน เดิมมั่วเย้ก็ชอบกิน ขี้อ้อนอยู่แล้ว ให้มันกินของพวกนี้แทนข้าว อย่างนั้นชู่มู่จะล้มละลายแล้ว !
“ถ้าอย่างนั้นต้องให้ราชันกินอะไรถึงจะเหมาะสม” ชู่มู่ถามขึ้น
“มีสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณ ความจริงวิญญาณมีหลายรูปแบบ ผลึกเครื่องใน เศษวิญญาณ ผลึกวิญญาณที่ผ่านการสลายจากธรรมชาติ แล้วกลายเป็นผลึกพลังงานที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าชนิดหนึ่ง ผลึกพลังแบบนี้มีขายในตลาดเหมือนกัน ราคาไม่ต่างจากผลึกวิญญาณขั้นเก้ากับสิบเท่าไร…”
“วิญญาณมีอย่างจำกัด พูดได้ว่า ในเขตโลกที่ค่อนข้างเล็ก จะมีแหล่งผลิตวิญญาณแค่หนึ่งจุด อีกทั้งอาจทำให้ดวงวิญญาณราชันไม่หิวเท่านั้น” ผู้เฒ่าหลีบอก
“ถ้าวิญญาณไม่พอ ก็กินผลึกวิญญาณแทน…” ชู่มู่ถามต่อ
“ผลึกวิญญาณขั้นเก้ากับสิบกินได้ แต่วิธีนี้เป็นแผนสำรอง ผลึกวิญญาณขั้นเก้ากับสิบเน้นไปทางพลังงาน พูดได้ว่าเหมือนหมันโถที่ทำให้อิ่มถึงอิ่มมากได้ แต่สารอาหารที่ดูดซึมได้จากในนั้นกลับไม่มาก กินเป็นครั้งเป็นคราวไม่เป็นอะไร แต่ถ้ากินเยอะแล้ว จะทำให้พลังของดวงวิญญาณราชันลดลง และดวงวิญญาณราชันแบบนี้ นับว่าเป็นพวกที่แก่แล้ว หรือถ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจะรักษาไม่หาย” ผู้เฒ่าหลีบอก
พลังของผลึกวิญญาณขั้นเก้ากับสิบไม่ใช่ไม่พอ แต่ไม่เหมาะกับนำมาเป็นอาหาร
“หลังจากถึงระดับราชันแล้ว กฎธรรมชาตินี้ยิ่งเผยให้เห็นมากขึ้น หนึ่งในสาเหตุที่สำคัญที่สุดก็เป็นเพราะการแย่งชิงวิญญาณนี้ ส่วนการแลกเปลี่ยนระหว่างราชันวิญญาณ น่าจะนำวิญญาณเป็นสื่อการแลกเปลี่ยน เพราะสิ่งนี้ไม่มีทางที่จะราคาตก ไม่มีดวงวิญญาณราชันตัวใดไม่ต้องกินข้าว” ผู้เฒ่าหลีบอก
“ทำไมเป็นแบบนี้ ดวงวิญญาณราชันกลับมีปัญหาเรื่องอาหารมากขึ้น” ชู่มู่พูดอย่างตกใจ
ดวงวิญญาณระดับราชันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านบนสุดของห่วงโซ่อาหาร เหล่าดวงวิญญาณตัวเล็กในป่ากลับจัดการเรื่องอาหารได้ไม่ยาก แต่ดวงวิญญาณระดับราชันกลับต้องกังวลเรื่องอาหาร
ผู้เฒ่าหลีเองก็ส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “กฎของดวงวิญญาณเป็นไปอย่างยุติธรรม สิ่งที่เห็นชัดมากที่สุดคือ ดวงวิญญาณอ่อนแอกินอะไรก็อยู่รอดได้ แต่ดวงวิญญาณราชันกลับไม่ใช่แบบนั้น”
“กฎนี้ทำให้ดวงวิญญาณราชันส่วนใหญ่ครองความเป็นใหญ่ในภูเขาบางแห่ง หรือโลกอลวนของพวกเจ้านั่นเอง”
“อย่างแรก โลกอลวนที่มีดวงวิญญาณระดับราชันอยู่ จะต้องมีทรัพยากรวิญญาณที่สมบูรณ์ ก่อนหน้านี้ข้าบอกแล้ว วิญญาณเกิดจากแหล่งธรรมชาติมากมายของผลึกธาตุ ผลึกเครื่องใน เศษวิญญาณ ผลึกวิญญาณ ผลึกหินต่าง ๆรวมกัน อีกทั้งโอกาสที่จะพบเจอมีไม่มาก เช่นนี้ ระบบนิเวศของโลกอลวนหนึ่งยิ่งสมบูรณ์ยิ่งใหญ่มากเท่าไร โอกาสที่จะมีวิญญาณก็จะมากขึ้นเท่านั้น ปกติดวงวิญญาณราชันจะครอบครองพื้นที่มหาศาล ทำให้กลุ่มดวงวิญญาณอื่นจำยอม แล้วให้กลุ่มเหล่านี้มอบอาหาร และวิญญาณมาให้”
พอผู้เฒ่าหลีพูดแบบนี้ ชู่มู่เข้าใจดวงวิญญาณราชันขึ้นมาบ้างแล้ว
แต่ว่าชู่มู่ประหลาดใจมาก หรือว่าระหว่างดวงวิญญาณราชันจะไม่เกิดการต่อสู้บ่อยครั้งเหรอ มีเพียงการต่อสู้ถึงจะเพิ่มความสามารถ แข็งแกร่งมากขึ้นได้
ในตอนนี้ชู่มู่ได้บอกความสงสัยของตัวเองออกมา
“ดวงวิญญาณราชันก็คือราชัน เป็นเจ้าแห่งเมือง นอกจากจะเกิดการแย่งชิงพื้นที่รุนแรง โดยปกติดวงวิญญาณราชันจะไม่ลงมือ อย่างไรก็ตาม ต่อให้เป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์มากเพียงใด ก็จะไม่มีราชันตัวใดบอกว่า ทรัพยากรวิญญาณของตัวเองมีมากพอ อีกทั้ง ยิ่งความสามารถแข็งแกร่ง ยิ่งต้องการวิญญาณมากเท่านั้น และการต่อสู้แต่ละครั้ง ต้องใช้แรงกายอย่างมาก ต่อให้แรงกายของดวงวิญญาณราชันมากกว่าดวงวิญญาณอื่นมาก แต่เจ้าคิดดู ถ้าเผชิญหน้ากับศัตรูนับไม่ถ้วน ต่อให้เป็นดวงวิญญาณราชันก็จะหมดลงได้เช่นกัน….พวกมันแข็งแกร่งมาก ขณะเดียวกัน กลับไม่เปลืองแรงกายเพื่อการต่อสู้ที่ไร้ความหมาย อีกทั้งไม่ยอมที่จะได้รับบาดเจ็บ เพราะทันทีที่ได้รับบาดเจ็บ ราชันตัวอื่นอาจอาศัยโอกาสนี้เข้ามายึดพื้นที่ แย่งแหล่งทรัพยากร”
ตอนที่ผู้เฒ่าหลีพูด ชู่มู่ก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
“แน่นอนว่า ถ้ามีผู้คุมดวงวิญญาณละก็ ทั้งหมดนี้จะไม่เหมือนกัน มนุษย์ได้ก่อเป็นระบบการแลกเปลี่ยนที่ใหญ่มาก ถ้าราชันวิญญาณมีเงินละก็ จะซื้อวิญญาณได้ อีกทั้งมนุษย์จะคิดวิธีสร้างและเจอวิญญาณได้ง่ายขึ้นด้วย เช่นนี้ดวงวิญญาณราชันที่ทำสัญญาวิญญาณกับมนุษย์จะต่อสู้บ่อยขึ้น…”
“แต่ว่าต่อให้เป็นดวงวิญญาณราชันแบบนี้ก็อาจทำลายการเงินของผู้คุมดวงวิญญาณได้ อีกทั้งมีผู้คุมดวงวิญญาณบางคนรับภาระนี้ไม่ไหว จำต้องปล่อยดวงวิญญาณราชันไปในที่สุด ดังนั้น นายท่านเจ้าต้องทำใจให้ดี สิ่งที่เรียกว่าวิญญาณ ราคาแพงมากจริง ๆ อีกทั้งหายากมาก” ผู้เฒ่าหลีบอก
“แล้วก็ทำไมคนที่มีดวงวิญญาณราชันมักจะได้ตำแหน่งเร็วขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เจ้าโลก ความจริงเจ้าโลกเป็นพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ทรัพยากรวิญญาณจะถูกเจ้าโลกดักไว้หมดอยู่แล้ว เมื่อผ่านการดักไว้แบบนี้ เจ้าโลกมั่นใจได้ว่า ตัวเขาจะเลี้ยงดวงวิญญาณระดับราชันได้แน่นอน นายท่านในตอนนี้ยังไม่รู้ว่า ดวงวิญญาณระดับราชันกินได้ขนาดไหน ผ่านไปสักพักเจ้าจะรู้…แล้วก็ มังกรจำศีลน้อยของท่าน…กินเก่งมากเช่นกัน”
ชู่มู่ยิ้มแบบฝืน ๆ ท่าทางหลังจากนี้ตัวเองต้องหาเงินให้ดวงวิญญาณระดับราชันของตัวเองอย่างบ้าคลั่งแล้ว
สิ่งเดียวที่โชคดีคือ แหวนช่องว่างของเด็กสาวทรยศ ที่มีสิ่งที่คล้ายกับผลึกวิญญาณแต่ก็ไม่ใช่ นั้นคือวิญญาณนั่นเอง วิญญาณเหล่านี้พอจะเป็นปริมาณอาหารของมั่วเย้ได้สองเดือน