Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 607
ด้วยความเร็วของชู่มู่ในตอนนี้ ถ้าขี่อสูรสายฟ้านิมิตราตรีตรงไปละก็ น่าจะใช้เวลาหนึ่งเดือนก็จะถึงตระกูลชู่ได้
ทว่า ชู่มู่กลับเลือกเส้นทางเขาที่ไม่มีใครกล้าใช้ในโลกจั้นหลีและโลกตะวันตก
เส้นทางเขานี้เป็นเนินเขาของภูเขาจั้นซี ที่นี่เป็นโลกอลวนมหาศาลต่างๆ เนื่องจากในภูเขามีทรัพยากรสมบูรณ์มาก ลักษณะขั้นของดวงวิญญาณต่างๆ จะสูงมาก อีกทั้งก่อตัวเป็นกลุ่ม ถ้าไม่ระวังจะเจอกับฝูงดวงวิญญาณนับร้อยพันได้
โลกอลวนจะต้องมีระดับอยู่ แบบนี้ถึงจะตอบสนองความต้องการในการฝึกของผู้คุมดวงวิญญาณในระดับที่ต่างกันได้ ส่วนภูเขานี้นับว่าเป็นพื้นที่ไม่มีการแบ่งแยกท่ามกลางโลกทั้งสองนี้ ถ้าไม่มีความสามารถมากพอ เข้ามาจะต้องตายมากกว่ารอดแน่นอน
ในเมื่อชู่มู่คิดจะตามหาวัตถุวิญญาณที่ทำให้ดวงวิญญาณของตัวเองเพิ่มขึ้นจนอยู่ในจักรพรรดิชั้นยอดได้ ภูเขาแห่งนี้มีทรัพยากรสมบูรณ์แบบนี้ เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นพื้นที่ใช้ฝึกของชู่มู่
…
ชู่มู่ต่างจากผู้คุมดวงวิญญาณอื่น ผู้คุมดวงวิญญาณที่ฝึกตนคนอื่นจะหลีกเลี่ยงการเจอฝูงดวงวิญญาณ
ชู่มู่กลับมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่มีฝูงอยู่ ถ้าจำนวนการต่อสู้ไม่ถึงพันละก็ ชู่มู่เองยังรู้สึกไม่สะใจมากพอ
อย่างไรก็ตาม โลกตะวันตกกับโลกจั้นหลีเป็นที่เล็ก ๆ ดวงวิญญาณระดับสูงมีไม่มาก ชู่มู่ย่อมใช้จำนวนของดวงวิญญาณทดแทนระดับที่ขาดไปเพื่อให้ได้การต่อสู้ที่เพียงพอ
การฝึกหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชู่มู่เองได้ผลึกวิญญาณหมวดไม้ขั้นสิบมาหนึ่งอัน ผลึกวิญญาณหมวดไม้ขั้นสิบนี้เหมาะที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้ปีศาจนักรบไม้อย่างมาก
แน่นอนว่า มีวัตถุวิญญาณแล้ว ถ้าเพิ่มความแข็งแกร่งให้ปีศาจนักรบไม้ในตอนนี้ละก็ ใช่ว่ามันจะเพิ่มระดับขึ้นได้ ต้องรอให้ผ่านไปอีกประมาณสองเดือน มิฉะนั้น ผลึกวิญญาณหมวดไม้ขั้นสิบนี้คาดว่าจะสำเร็จได้แค่ร้อยละสิบ
ในเวลาหนึ่งเดือนที่อยู่ในภูเขาแห่งนี้ ชู่มู่มักให้มังกรจำศีลน้อยลงมือจัดการสิ่งมีชีวิตลักษณะขั้นอ่อนแอบางตัว และทุกครั้งที่มังกรจำศีลต่อสู้ มั่วเย้ต้องอยู่ข้างตลอด เพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
ผ่านการต่อสู้ต่อเนื่อง มังกรจำศีลน้อยเติบโตอย่างรวดเร็ว ในตอนที่ชู่มู่ออกจากภูเขาแห่งนี้ มังกรจำศีลอยู่ในขั้นแปดแล้ว
จากการคาดคะเนก่อนหน้านี้ของชู่มู่ เวลาสองเดือนจะทำให้มังกรจำศีลน้อยอยู่ในลักษณะสอง ตอนนี้เพิ่งผ่านไปแค่เดือนเดียวก็อยู่ในลักษณะหนึ่งขั้นแปดแล้ว ทำให้เห็นผลของการต่อสู้ต่อเนื่องอย่างชัดเจน
…
หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งเดือน ชู่มู่ได้เข้าสู่พื้นที่ของเมืองตะวันตกโลกตะวันตก
เมืองตะวันตกเป็นเมืองของโลกตะวันตก หลังจากที่ชู่มู่ออกจากภูเขา ได้เริ่มเก็บข่าวเกี่ยวกับตระกูลชู่
ในเมื่อตระกูลชู่ขยายกิจการไปยังโลกจั้นหลีได้ ถ้าอย่างนั้นคงไม่ได้เป็นตระกูลในเมืองขั้นแปดธรรมดาแล้ว ตอนนี้น่าจะมีชื่อเสียงไม่น้อยในเมืองชั้นสิบ
และแล้ว หลังจากที่ชู่มู่สืบข่าว ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว เมืองตะวันตกมีตระกูลชู่อยู่จริงๆ นับว่าเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งในเมืองตะวันตก ในเมืองระดับกลางของเมืองตะวันตกนี้ล้วนมีกิจการของตระกูลชู่อยู่
ส่วนคนที่จัดการกิจการในเมืองตะวันตกคือชู่หลั่งที่เคยเข้าร่วมการประลองตระกูลพร้อมกับชู่มู่ในตอนนั้น
ชู่หลั่งเป็นคนที่มองการณ์ไกล นับว่าเป็นคนที่มีความสามารถลำดับต้น ๆ ของวัยหนุ่มในตระกูล ได้ข่าวว่าความสามารถของเขาในตอนนี้นับว่าอยู่ในลำดับต้นของวัยหนุ่มเมืองตะวันตกเช่นกัน
ลักษณะขั้น และระดับของดวงวิญญาณเพิ่มขึ้นโดยการต่อสู้และการฝึกอย่างต่อเนื่องส่วนหนึ่ง อีกส่วนต้องใช้การเสริมด้วยวัตถุวิญญาณ ถ้าบอกว่ากิจการของตระกูลชู่ขยายได้ขนาดนี้แล้ว คาดว่าเหล่าวัยหนุ่มได้ทรัพยากรไม่น้อย ความสามารถย่อมเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว
กิจการของตระกูลชู่ในเมืองตะวันตกนี้คือการซื้อขายหินผลึก ผลของหินผลึกเหมือนกับผลึกวิญญาณ อีกทั้งผลึกวิญญาณมีค่ากว่าเงินทองอีก ราคาของมันจะไม่ตกด้วย
แม้ชู่มู่ไม่รู้เรื่องกิจการเท่าไร แต่พอจะเข้าใจได้ว่า ตระกูลชู่สามารถทำกิจการหินผลึกแบบนี้ได้ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเล็กๆในเมืองขั้นแปดจะเทียบได้
จากที่เห็นมา ตอนนั้นที่ให้ตระกูลย้ายถิ่นเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ในตอนนี้ ตระกูลได้ทำลายขีดจำกัดเดิม เจริญอย่างมาก
ชู่มู่มาถึงถนนใจกลางเมือง พบตึกร้านหินผลึกสี่ชั้นอย่างรวดเร็ว
ชู่มู่เดินเข้าไปในร้าน พนักงานร้านวิ่งเข้ามาอย่างเป็นมิตร พูดขึ้นอย่างคล่องแคล่วว่า
“ยินดีต้อนรับคุณลูกค้า ร้านของเรามีหินผลึกหมวดต่างๆ มากมาย ชั้นหนึ่งเป็นหินผลึกขั้นหนึ่งถึงสอง ชั้นสองเป็นหินผลึกขั้นสามถึงสี่ ชั้นสามเป็นหินผลึกขั้นห้าถึงหก ชั้นสี่…ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการหินผลึกระดับใด ในด้านราคา รับรองได้ว่าจะต้องเป็นที่พึงพอใจของคุณลูกค้าแน่นอน…”
“เจ้าของร้านของพวกเจ้าคือชู่หลั่งใช่หรือไม่” ชู่มู่ถามขึ้นตรง ๆ
ของที่อยู่ในขั้นสิบ ไม่เป็นที่สนใจของชู่มู่ในตอนนี้แล้ว นอกจากจะมีเป็นจำนวนมาก
“ขอรับ คุณชายชู่ตอนนี้อยู่ชั้นสี่ คุณลูกค้ามีธุระต้องการเจรจากับคุณชายชู่หรือไม่ ถ้ามีละก็ ข้าน้อยจะรีบไปรายงานเดี๋ยวนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่น ขอให้คุณลูกค้ารอสักครู่” พนักงานตัวน้อยพูดดีเหมือนกัน
แน่นอนว่า โดยหลักแล้วพนักงานเห็นจิ้งจอกเก้าหางตัวน้อยที่งดงามสูงส่งที่หมอบอยู่บนไหล่ของชู่มู่ ดวงวิญญาณแบบนี้แค่มองก็รู้ว่า น่าจะมีราคาแพงมาก คาดว่าคนนี้ต้องเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งแน่นอน
ชู่มู่คิดเล็กน้อย เหมือนว่าหลังจากที่ตัวเองทำการฆ่าล้างในภูเขา ได้ผลึกวิญญาณ หินผลึกมาไม้น้อย จัดการได้พอดี
“ข้ามีผลึกวิญญาณ หินผลึกนับพันชิ้นต้องจัดการ พาข้าขึ้นไปเถอะ” ชู่มู่พูดนิ่ง ๆ
พนักงานตัวน้อยได้ยินอึ้งเล็กน้อย” พันชิ้นเหรอ”
พนักงานย่อมไม่กล้าถามมากเกินไป รีบพาชู่มู่ขึ้นไปชั้นสี่ แอบคิดในใจ ลูกค้ารายใหญ่มาแล้ว !
ชู่มู่เดินขึ้นบันได ตอนที่ถึงชั้นสาม ร่ายวิญญาณของเขาได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง
“เฮ้อ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ตอนแรกข้าไม่เห็นด้วยแล้วที่จะให้ตระกูลของเราไปอยู่ที่เมืองเจ็ดสี ทั้งเมืองตะวันตกนี้จะมีใครไม่รู้บ้างว่าที่นั่นมีภัยแร้งอะไรนั่นทุกเมื่อ ตระกูลของเราใช้เงินไปกับการป้องกันพวกนั้นมามากแค่ไหนแล้ว แม้จะได้กำไรสูง แต่เสี่ยงเกินไปจริง ๆ …”
“ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ตระกูลของพวกเราเติบโตได้ไวขนาดนี้ ก็เป็นเพราะทรัพยากรของเมืองเจ็ดสี ตอนนี้เกิดปัญหาแล้ว ต้องจัดการให้ได้” เสียงของชายอีกคนหนึ่งดังขึ้น
ตอนที่พูด ทั้งสองเหมือนจะได้ยินเสียงเดิน หยุดพูดทันที
เดินขึ้นมาชั้นสี่ ชู่มู่เห็นชู่หลั่งที่สวมชุดสีเขียวทันที ชู่หลั่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ ด้านข้างมีเสือปีกตัวหนึ่งที่กำลังนอนหลับอยู่ น่าจะอยู่ที่ลักษณะแปดเก้า
ด้านข้างชู่หลั่งคือผู้ชายที่มีอายุมากกว่าหน่อยคนหนึ่ง ชู่มู่จำชื่อของชายคนนี้ไม่ได้ แต่น่าจะเป็นลูกหลานรองเช่นเดียวกับชู่หลั่ง
“สหายท่านนี้…” ชู่หลั่งลุกขึ้น สายตาจับจ้องไปยังชู่มู่ กำลังจะพูดตามมารยาท กลับพบว่าชายหนุ่มชุดขาวรูปงามคนนี้ที่คุ้นเคยอย่างมาก
ชู่มู่ฉีกยิ้มออกมา ในตอนที่เข้ามาในเมืองตะวันตก ชู่มู่ได้ให้ผู้เฒ่าหลีเปลี่ยนใบหน้าของตัวเองให้กลับมาเหมือนเดิมแล้ว แม้จะผ่านไปหลายปี แต่ชู่หลั่งไม่มีทางลืมใบหน้าของชู่มู่ได้
และแล้ว ตอนแรกชู่หลั่งยังสงสัยอยู่ แต่หลังจากนั้น ใบหน้าของเขาเผยความตกใจ และความดีใจออกมา !
“ชู่มู่ เจ้าคือชู่มู่ !” ชู่หลั่งร้องด้วยความตกใจ รีบก้าวมาข้างหน้า !
“ข้าเอง ชู่หลั่ง ไม่เจอกันนานมากแล้ว” ชู่มู่เดินเข้าไป เข้ากอดกับชู่หลั่งแน่น
“เจ้าจริงด้วย ข้า…ข้า…” ชู่หลั่งเองก็ตื่นเต้นจนไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร
หลังจากสลายตระกูลหยางในตอนนั้น ชู่มู่ได้เสนอให้ย้ายตระกูล หลังจากนั้นคนของตระกูลไม่เคยเห็นชู่มู่อีก
เดิมชู่หลั่งที่คิดว่าชู่มู่ที่บินสูงขึ้น ไปไกลขึ้นเรื่อยๆ จะไม่กลับมาตระกูลเล็กๆ นี้อีก ไม่คิดว่า ชู่มู่จะกลับมาจริงๆ นี่ทำให้ชู่หลั่งทั้งดีใจทั้งตื่นเต้น
หลังจากทักทายแล้ว ชู่หลั่งเองได้รีบแนะนำวัยหนุ่มที่อยู่ด้านข้างให้ชู่มู่รู้จัก
วัยหนุ่มคนนี้ชื่อชู่เซิ่งฮวา เป็นลูกหลานรอง หลังจากย้ายมาในเมืองตะวันตก เขาทำงานเป็นอย่างดี ตอนนี้เป็นผู้ช่วยของชู่หลั่ง คอยช่วยเหลือกิจการหินผลึกของชู่หลั่งในเมืองตะวันตกนี้
“ชู่หลั่ง เมื่อครู่เจ้าบอกว่า ต้นเหตุหายนะเมืองเจ็ดสีคืออะไร” ชู่มู่พูดเรื่องจริงจังทันที
“อ๊า ข้ากำลังจะบอก” ชู่หลั่งตบหัวตัวเอง ในตอนนี้จึงเหล่าปัญหาที่ตระกูลชู่กำลังพบเจอให้ชู่มู่ฟัง
ที่แท้ หลังจากที่ตระกูลชู่ย้ายมา ได้เลือกเมืองเจ็ดสีเป็นที่ตั้งของตระกูล
เมืองเจ็ดสีเป็นเมืองขั้นเก้า ในด้านทรัพยากร พื้นที่ ความสัมพันธ์ดีกว่าเมืองหวั่งหลัวมาก และเมืองตะวันตกยังต้องซื้อทรัพยากรหายากจากที่นี่
เป็นเพราะเมืองแห่งนี้ ทำให้ตระกูลชู่เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ
และแล้ว เมืองนี้มีปัญหาใหญ่อยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ มักจะเกิดภัยแร้ง
ภัยแร้งที่ว่า ไม่ใช่การขาดแคลนอาหาร แต่เป็นภัยแร้งงที่ดวงวิญญาณจำนวนมหาศาลทำการกวาดล้าง ทำลายเมืองของมนุษย์ เข้าครอบครองแหล่งทรัพยากรของมนุษย์
ปรากฏการณ์ภัยแร้งนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเมืองเจ็ดสีเต็มไปด้วยหายนะต่าง ๆ อยู่แล้ว จะเกิดการปล้นชิงหลานปี
ในตอนนี้ ตระกูลชู่เพิ่งพัฒนาได้ไม่กี่ปี ก็ได้เจอกับภัยแร้งครั้งใหญ่ ถ้าไม่สามารถต้านทานไว้ได้ จะเสียศูนย์อย่างมากแน่นอน
“นายท่าน ถ้าเมืองเจ็ดสีละก็ ตรงนั้นใกล้กับแหล่งวิญญาณที่ข้าบอกอย่างมาก ที่เกิดภัยแร้งบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นเพราะการมีอยู่ของแหล่งวิญญาณนี้” เสียงของผู้เฒ่าหลีดังขึ้นในหัวของชู่มู่
แหล่งวิญญาณที่ผู้เฒ่าหลีบอกกับชู่มู่ลุกลับอย่างมาก อีกทั้งปริมาณที่ผลิตของมันมีเยอะมากในแต่ละครั้ง จากนี้ไปจะมีรายรับมหาศาลในแต่ละเดือนแน่ !
ทรัพยากรโลกตะวันตกขาดแคลนอย่างมาก หนึ่งเดือนก็ได้แค่หนึ่งร้อยวิญญาณ
แต่ผู้เฒ่าหลีบอกว่า แหล่งวิญญาณนั้นอยู่มาหลายปีแล้ว เกรงว่าการผลิตแต่ละครั้งจะได้วิญญาณนับพัน ปริมาณการผลิตในแต่ละเดือนหลังจากนี้ก็จะไม่น้อยลง ถ้าครองแหล่งวิญญาณนั้นได้ละก็ แล้วบริหารให้ดี ต่อให้ชู่มู่นั่งอยู่ในบ้านก็ไม่ต้องกังวลว่า จะเลี้ยงดวงวิญญาณระดับราชันไม่ไหว
เขตโลกทุกแห่ง จะมีแหล่งที่เพิ่มความแข็งแกร่งระดับราชันอย่างจำกัด ปัญหาราชันของภูตพันวายุจัดการแล้ว ปีศาจนักรบไม้ก็เพิ่มความแข็งแกร่งด้วยผลึกวิญญาณหมวดไม้ราชันเม็ดนั้นได้
แต่ชู่มู่ยังมีเย้ ภูตเวหาน้ำแข็ง ราชันผีหินผา มารนิรยขาวอีก ดวงวิญญาณพวกนี้ต้องให้ถึงระดับราชัน และสิ่งเดียวที่เพิ่มความแข็งแกร่งพวกมันได้ก็คือวัตถุวิญญาณ
วัตถุวิญญาณระดับราชันน้อยยิ่งกว่าน้อย ชู่มู่แทบไม่สามารถหาเจอได้ ทำได้แค่เก็บวิญญาณในปริมาณมาก
วิญญาณเทียบได้กับเงินตราระดับราชัน ถ้าชู่มู่มีพวกมันจะทำการแลกเปลี่ยนกับราชันวิญญาณอื่นได้ ดังนั้น ชู่มู่จำต้องเก็บวิญญาณที่เลี้ยงดวงวิญญาณของตัวเองให้เพียงพอ ขณะเดียวกัน ก็ต้องหาวิญญาณที่มากพอเพื่อแลกวัตถุวิญญาณเพิ่มความแข็งแกร่งด้วย