Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 619 หวาดระแวง กองหน้าราชันวิญญาณ
ตอนกลางคืน เหล่าผู้คุมดวงวิญญาณที่มีความสามารถค่อนข้างน้อยเริ่มให้ดวงวิญญาณตระกูลพืชของพวกเขากวาดล้างสนามรบ เศษวิญญาณ ผลึกวิญญาณ ผลึกอวัยวะภายใน ของเหล่านี้ที่ขุดออกจากศพของดวงวิญญาณล้วนเป็นสิ่งที่นำมาเพิ่มความแข็งแกร่งดวงวิญญาณและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี โดยเฉพาะผลึกวิญญาณ ทันทีที่เจอ เหมือนจะกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน
ผลึกวิญญาณที่เจอจากผู้นำหนึ่งร้อยห้าสิบตัวน่าจะอยู่ที่ขั้นเก้าและขั้นสิบ ถ้ามีสองเม็ดละก็มีมูลค่าหลายร้อยล้าน สำหรับตระกูลชู่แบบนี้ก็ไม่นับว่าเป็นจำนวนที่น้อยเท่าไร
นอกจากเก็บสะสมเศษวิญญาณ ผลึกวิญญาณ ผลึกอวัยวะแล้ว จำต้องกำจัดศพของสิ่งมีชีวิตด้วย มิฉะนั้น กลิ่นคาวเลือดจะลอยออกไปไกลมาก จะทำให้สิ่งมีชีวิตที่กระหายเลือดรวมตัวกันที่นี่ อาจล่อกลุ่มทั้งฝูงมาก็ได้ อย่างไรด้านตะวันตกของเมือง เป็นพื้นที่ชื้นวายุซึ่งเชื่อมต่อกับบ่อตะวันตกที่มีชนเผ่าขั้นสามอยู่!
พื้นที่ชื้นวายุเป็นบ่อน้ำเล็กๆ ภายใต้ต้นหญ้าเล็กๆ สีเขียวเหล่านั้น มักจะมีบ่อน้ำและทะเลสาบที่สะท้อนประกายดาวอยู่
พื้นที่ชื้นวายุนี้มีความชื้นค่อนข้างสูง ฝนตกได้ง่าย ดวงวิญญาณส่วนใหญ่ที่พักอยู่ที่นี่มักจะเป็นพวกสัตว์เลื้อยคลานและกลุ่มแมลงที่ชอบที่ชื้นเย็น
แสงจันทร์สาดส่องจากฟากฟ้า ก่อให้เกิดความสลัว ตอนตกดึก ทั้งพื้นที่ชื้นวายุนี้เต็มไปด้วยความเงียบอย่างประหลาด บางครั้งอาจมีเสียงกรีดร้องที่ทำลายความเงียบนี้ เกิดความรู้สึกชวนขนลุก
ลมเย็นพัดพา ด้านในพื้นที่ชื้นวายุสงบแห่งนี้ มักเห็นเงาสีดำครึ่งตัวบนได้กะทันหัน กินสิ่งมีชีวิตที่กำลังกินน้ำในคำเดียว หลังจากดิ้นรนแล้ว กลับมาเงียบอีกครั้ง
“ครั้งหน้าถ้าใครออกเงินให้ข้าเฝ้าอยู่ที่นี่ในตอนกลางคืน ต่อให้ออกเงินสองเท่าข้าก็ไม่ทำแล้ว!” บางที่ในพุ่มหญ้า เสียงนี้ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
“เดิมพื้นที่ชื้นวายุก็ไม่ใช่ที่ปลอดภัยอยู่แล้ว หรือว่าเจ้าไม่เคยได้ยินจากคนอื่นเหรอ จนถึงตอนนี้ ทั้งโลกตะวันตกของพวกเรายังไม่เคยมีใครผ่านพื้นที่ชื้นวายุแล้วเข้าไปด้านในของพื้นที่ชื้นวายุได้”เสียงผู้ชายอีกคนหนึ่งดังขึ้น
“ทั้งโลกตะวันตกเหรอ” เสียงของผู้ชายที่บ่นเมื่อกี้ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ
“ใช่ ทั้งโลกตะวันตก! ไม่เคยมีใครเข้าไปได้ พวกบุคคลสำคัญ เจ้าเมือง รวมถึงเจ้าโลกสูงส่งด้วย…”
“พระเจ้า ถ้าอย่างนั้นพื้นที่ชื้นวายุนี้น่ากลัวเพียงใด…ข้า…ทำไมข้ารู้สึกว่า มีบางสิ่งตรงนั้นกำลังขยับอยู่” ผู้ชายที่บ่นเกิดขนลุกขึ้นทันที
ตระกูลชู่ได้ส่งสองคนนี้มาสำรวจตอนกลางคืน พื้นที่ชื้นวายุเป็นต้นเหตุอย่างหนึ่ง ต่อให้จุดสำคัญจะอยู่ที่เนินทางใต้ พวกเขาก็ไม่อาจไว้ใจที่นี่ได้
“อย่าหลอกตัวเอง บอกมาก็มาได้อย่างไร…” ลูกหลานสำรวจอีกคนหนึ่งพูดอย่างเฉยเมย ตอนที่พูดเขาได้ยื่นหัวออกมา มองไปยังด้านในของพื้นที่ชื้นวายุ
และแล้ว พอกวาดตามองไป สีหน้าของผู้ชายคนนี้แข็งทื่อทันที!
“มีบางอย่างคลานเข้ามาจริงด้วย!” ทั้งสองคนร้องขึ้น รีบอัญเชิญดวงวิญญาณของตัวเอง
“ซ่า!!!”
กรงเล็บสองเส้นพาดผ่าน ผู้ชายที่บ่นเพิ่งอัญเชิญดวงวิญญาณแม่ทัพขั้นกลาง กลับถูกฉีกออกทันที เลือดสดสาดลงบนตัวเขา
ลูกหลานที่เข้ามาสำรวจตกใจอย่างมาก ยังไม่ทันได้หนีไป เงาดำสี่ห้าตัวพุ่งออก แต่ละตัวมีความเร็วสูงมาก ทักษะเดียวก็ฆ่าดวงวิญญาณระดับแม่ทัพของพวกเขาได้แล้ว!
“อ๊า อ๊า!!!”
เสียงร้องดังก้องกังวาน ลูกหลานทั้งสองถูกเงาดำฉีกเป็นเศษทันที
ก่อนที่ลูกหลานสองคนนี้จะถูกฆ่าตาย พวกเขาได้เห็นภาพที่ทำให้ทั้งสองคนไม่กล้าแม้แต่จะหนีไป!
สีดำมืดมัว สิ่งมีชีวิตที่มีกรงเล็บเฉียดแหลมนับพันกำลังเคลื่อนตัวท่ามกลางพื้นที่ชื้นแห่งนี้ เคลื่อนที่ไปข้างหน้าราวกับก้อนเมฆดำบนพื้น!!!
แค่สี่ห้าตัวก็ฆ่าดวงวิญญาณของระดับแม่ทัพของผู้คุมดวงวิญญาณสองคนได้ในไม่กี่วินาทีแล้ว ถ้าอย่างนั้น กองทัพที่ใหญ่โตขนาดนั้น จะเกิดหายนะที่น่ากลัวมากเพียงใด!!!
แสงจันทร์ยังคงสาดส่อง กองทัพที่เหมือนคลื่นดำท่ามกลางราตรีมืดมัวแห่งนี้ กำลังเข้าใกล้ฝูงมนุษย์ทีละนิด แต่ผู้คนนับพันหมื่นในทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง กลับไม่รู้แม้แต่น้อย…
…
…
เรือนตระกูลชู่เมืองเจ็ดสี
“มันชักจะมากเกินไปแล้ว!!!” ชู่เหอตบโต๊ะทันทีด้วยใบหน้าโกรธเคืองอย่างมาก!
ในบรรดาลูกหลานตระกูลชู่ ชู่เหอพูดน้อยที่สุด อีกทั้งเป็นคนที่อ่อนโยนที่สุด น้อยครั้งที่จะทำให้เขาโกรธแบบนี้ได้!
คืนนี้ สมาชิกส่วนในของตระกูลชู่ได้ประชุมกันเอง คนที่เข้าร่วมมีเพียงสมาชิกสายตรงของตระกูลชู่เท่านั้น
“ทุกคน ต้องขออภัย แม้ข้าพอเดาได้ว่า ครั้งนี้ที่ประตูเมืองหลัวส่งผู้แข็งแกร่งมา ไม่ธรรมดาแบบนั้น แต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะยื่นข้อเสนอไร้มารยาทแบบนี้ได้ ข้าพาหายนะมาสู่ตระกูลเอง” ชู่เทียนฉีพูดกับคนทั้งหมดอย่างรู้สึกผิด
ท่านอาห้าของชู่มู่ ชู่เทียนฉีจัดการกิจการของตระกูลในที่อื่นตลอด เขาคอยรักษาความสัมพันธ์ต่างๆ ให้ตระกูล ชู่เทียนฉีเองเป็นคนติดต่อคนของประตูเมืองหลัว…
“น้องห้า ไม่โทษเจ้า” ชู่เทียนเหิงพูดเสียงเบา
“หึ หลังจากช่วยพวกเราต้านทานภัยแร้งได้ พวกเขาจะกุมอำนาจเมืองเจ็ดสี ตระกูลชู่พวกเราอยู่ใต้อำนาจของพวกเขา ช่วยพวกเขาจัดการ ตั้งใจแย่งเมืองของพวกเราไม่ว่า ยังจะให้พวกเราทำงานเพื่อพวกเขาด้วย ล้อเล่นบ้าอะไรกัน!”ชู่เทียนหลิงยิ่งทนไม่ไหว !
เมื่อไม่กี่วันก่อน หลัวชิวฟงของประตูเมืองหลัวได้พูดถึงเรื่องนี้ ตอนนั้นชู่เทียนหลิงโกรธเคืองอย่างมาก และแล้วในคืนนี้ หลัวชิวฟงได้พูดอย่างชัดเจน ไม่เพียงแต่เยาะเย้ยความอ่อนแอของตระกูลชู่ อีกทั้งยังปนด้วยการข่มขู่ด้วย บอกให้ตระกูลชู่อย่าเอาแต่ใจ ขัดคำสั่งของประตูเมืองหลัว อย่าคิดจะอยู่อย่างสบายใจโลกตะวันตกนี้และรอบๆ นี้ด้วย!
“ชู่มู่ เจ้าเดาถูกแล้ว เจ้าพวกเศษสวะพวกนี้ ไม่ได้มาเพื่อกำจัดภัยแร้งชัดๆ!” ชู่เทียนหลิงพูดต่อ
ความสามารถของประตูเมืองหลัวกว้างขวางมาก ปกคลุมเขตโลกหลายแห่งทางด้านตะวันตก พวกเขาไม่มีทางสนใจความเป็นอยู่ของตระกูลชู่เล็กๆ นี้ อีกทั้งยังส่งผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิชั้นยอดมา เชื่อมโยงกับปัญหาแหล่งวิญญาณ จะรู้ได้ว่าพวกเขามาเพื่อแย่งชิงแหล่งทรัพยากร
ชู่มู่ก็รู้ดี ถ้าตอนนี้ตัวเองต้องการแหล่งวิญญาณเพื่อเลี้ยงดวงวิญญาณราชันละก็ จะต้องแย่งชิงกับอำนาจที่มีทรัพยากรสมบูรณ์อยู่แล้ว จะเกิดความขัดแย้งกับอำนาจใหญ่อยู่บ้าง
“ท่านอาสอง วันนี้หลัวถงคนนั้นหลุดปากกับข้า เหมือนความสามารถของผู้ใหญ่เหล่านั้นของพวกเขาจะไม่ธรรมดาอย่างที่เข้าใจ” ชู่อีซุ่ยพูดขึ้นเสียงเบา
เดิม ความสามารถของประตูเมืองหลัวยิ่งแข็งแกร่ง ส่งผลกระทบต่อเมืองเจ็ดสียิ่งน้อย เป็นเรื่องที่น่าดีใจ แต่หมาป่าประตูเมืองหลัวฝูงนี้เหมือนจะมาเพื่อกลืนกินตระกูลชู่ ต่อให้เสียเมืองพื้นที่ไป ก็ต้องได้เมืองเจ็ดสีนี้มา ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ตระกูลชู่จะปล่อยเมืองนี้ไป ไม่เป็นแรงงานให้กับประตูเมืองหลัวพวกนี้แล้ว
“อีซุ่ย เจ้าลองหลอกให้เจ้านั่นพูดออกมา เพื่อให้รู้ความสามารถของพวกเขา” ชู่เทียนหลิงบอก เขารู้ว่าชู่อีซุ่ยฉลาดตั้งแต่เด็ก เจ้าหลัวถงอย่าคิดจะเอาเปรียบเธอได้
“อ่อ ได้…” ชู่อีซุ่ยพยักหน้า
ชู่มู่ไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่เริ่ม ตลอดที่ผ่านมาเขายังแปลกใจที่ในเมื่อคนของประตูเมืองหลัวจะมาตามหาแหล่งวิญญาณ ส่งผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิชั้นยอดแค่คนเดียวมา เหมือนจะไม่พอ ที่แท้ เจ้าพวกนี้ได้ซ่อนความสามารถเอาไว้
อีกทั้งชู่มู่ยังจินตนาการใบหน้าของหลัวชิวฟงกับหลัวชิวเซิงได้ จะต้องมองมาที่ตระกูลชู่ด้วยใบหน้าประหม่า แอบเยาะเย้ยความโง่เขลาของตระกูลชู่ ตัวเขาแค่เผยความสามารถออกมาเล็กน้อยส่วนหนึ่งก็ทำให้ตระกูลเล็กๆ นี้พูดไม่ออกได้
โชคดีที่ชู่มู่ก็อดทนไว้ได้ ไม่เผยความสามารถของตัวเองออกมาง่ายดาย มิฉะนั้น พวกคนของประตูเมืองหลัวจะต้องแอบวางแผนจัดการตัวเองหรือขอกำลังเสริมแน่นอน ถึงตอนนั้นชู่มู่จะจัดการพวกเขาลำบากมากขึ้นแล้ว
“แล้วก็ ผู้ช่วยของซุนหยวนมาถึงแล้ว ชู่อิง ความสามารถของพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง” ชู่เทียนเหิงถามขึ้น
“ข้า…ข้าก็ไม่รู้ เดิมซุนหยวนบอกจะส่งขุนนางประจำตระกูลมา แต่คนที่มากลับเป็นผู้คุมวงวิญญาณวัยหนุ่มคนหนึ่งกับลูกน้องหลายคน ซุนหยวนนอบน้อมต่อวัยหนุ่มคนนั้นอย่างมาก รวมถึงผู้คุมดวงวิญญาณพวกนั้นเป็นลูกน้องของวัยหนุ่ม เรียกพวกเขาว่ารุ่นพี่อะไรนั่น” ชู่อิงบอก
“ซุนหยวนช่วยตระกูลชู่พวกเราให้ได้กิจการเรือเขตโลกทั้งสองมาอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเผยเรื่องที่ว่าตระกูลชู่ของพวกเราจะพัฒนาต่อไปได้หรือไม่ เขาไม่ธรรมดาอย่างที่เขาบอกแน่นอน” ชู่เทียนเหิงบอก
“ซุนหยวนเป็นเจ้าวิญญาณสี่ร่ายคนหนึ่ง ร่ายวิญญาณแบบนี้นับว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ของเขตโลกทั้งสองแล้ว คาดว่าจะต้องเป็นบุคคลระดับคุณชายของอำนาจบางอย่าง” ชู่มู่พูดนิ่งๆ
ในเมืองเทียนเซี่ย วัยหนุ่มเจ้าวิญญาณสี่ร่ายน้อยยิ่งกว่าน้อย มาถึงระดับนี้ได้ ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ชู่มู่เดาไว้ตั้งนานแล้ว
“เจ้าวิญญาณสี่ร่าย!!!” ชู่อิงร้องขึ้น
จากที่ชู่อิงเห็น วัยหนุ่มที่อยู่ในระดับเจ้าวิญญาณได้ เก่งกาจอย่างมากแล้ว ยิ่งไม่ถึงพูดถึงเจ้าวิญญาณสี่ร่ายแล้ว! เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า ซุนหยวนปิดได้อย่างมิดชิดแบบนี้
“ซุนหยวนน่าจะไม่เป็นโทษต่อพวกเรา คนที่เขาเรียกมา ก็ไม่แน่แล้ว” ชู่มู่บอก
ชู่มู่เคยเห็นคนที่ซุนหยวนส่งมา ชู่มู่เคยเห็นวัยหนุ่มคนนั้น เป็นเจ้าวิญญาณหกร่ายคนหนึ่ง นับว่าสูงจนน่าตกใจ มิน่าซุนหยวนถึงนอบน้อมแบบนั้น
ส่วนลูกน้องสามคนที่วัยหนุ่มพามา ชู่มู่ยังมองไม่ออก แต่ความสามารถของพวกเขาไม่เบาแน่นอน ส่วนเรื่องมาเพื่ออะไร ชู่มู่ยังไม่รู้ชัดแจ้ง
“นายท่าน เมืองเจ็ดสีเล็กๆ แห่งนี้ กลับมีผู้แข็งแกร่งมาจากไหนไม่รู้เยอะแยะ ไม่ต้องบอก ร้อยละเก้าสิบมาเพื่อแหล่งวิญญาณนี้ น่าจะเป็นกองหน้าที่ราชันวิญญาณพวกนั้นส่งมา ช่วงนี้มีภัยแร้งต่อเนื่อง ขณะที่ชนเผ่าขั้นหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามายังพื้นที่ของมนุษย์ พื้นที่ด้านในเผยให้เห็นทั้งหมด น่าจะมีข่าวแหล่งวิญญาณตรงนั้นกระจายออกไปแล้ว ทำให้ราชันวิญญาณพวกนั้นเกิดความสนใจ”ผู้เฒ่าหลีบอก
แหล่งวิญญาณหนึ่งล่อหมาป่าได้เยอะขนาดนี้ ท่าทางแหล่งวิญญาณราชันนี้เป็นที่แย่งชิงจริงด้วย
“หนึ่งพันวิญญาณ น่าจะสร้างราชันสิบในร้อยได้และเอาไว้เลี้ยงราชันตอนไม่ต่อสู้สามปี แหล่งวิญญาณนั้นมีวิญญาณนับพันต่อครั้ง อีกทั้งมากกว่านั้น หลังจากนั้นจะมีวิญญาณนับร้อยในแต่ละเดือน มีความหมายมากเพียงใด นายท่านน่าจะรู้ดี ห้ามให้มันตกอยู่ในมือคนอื่นเด็ดขาด”
เดิมแหล่งวิญญาณน้อยมากอยู่แล้ว ชู่มู่ยังต้องเลี้ยงดูราชันฝูงใหญ่ โดยเฉพาะปัญหาของมังกรจำศีลน้อย ไม่ว่าอย่างไร ชู่มู่ก็จะไม่ปล่อยให้อำนาจอื่นแย่งไป!
————————————————————-