STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา - ตอนที่ 40-5 สุริยะพราย (5)
ตอนที่ 40 สุริยะพราย (5)
หลิวเยี่ยนสูดหายใจเข้าปอดลึก พูดเสียงนิ่งว่า “ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ฝั่งลูกพี่ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง รีบเตรียมตัวเร็ว ถ้าพี่ใหญ่ยังไม่ตายต้องมาที่นี่แน่! ขนตู้สินค้าไปไว้ข้างนอก ขอแค่พี่ใหญ่เข้าไปในตู้สินค้า…ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติพวกนั้นเผลอบุกเข้าไปโดยไม่ทันระวังตัว…ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยฆ่าจันทราทมิฬอยู่ข้างในย่อมง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก!”
พลังเหนือธรรมชาติถูกกดทับเอาไว้ พอผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเหล่านั้นต้องปะทะกับปรมาจารย์นักรบ ถ้าไม่ตายสิแปลก!
ก่อนหน้านี้ถ้าไม่อยู่ในตู้สินค้า หลี่ฮ่าวคิดจะฆ่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนี้ก็คงไม่ง่ายดายขนาดนั้น พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติภายในร่างกายของอีกฝ่ายมีพลังป้องกันตัวสูง แม้แต่หลิวเยี่ยนยังยากจะทะลวงได้ หลี่ฮ่าวยิ่งยากเข้าไปใหญ่
หลี่ฮ่าวในตอนนี้ก็เรียกสติแล้วหัวเราะเสียงร่วนกล่าว “อื้ม! ผมค้นพบว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมักจะหลงตัวเองและหลอกง่าย แต่ละคนได้พลังมาได้ง่ายๆ ไม่มีพื้นฐานอะไรเลยสักนิด เป็นไปได้มากว่าพวกนี้จะไล่ตามเข้ามาด้วย!”
หากเป็นปรมาจารย์นักรบ หลี่ฮ่าวจะคิดว่าจากความเจ้าเล่ห์ของอาจารย์ตน…อะแฮ่มๆ คนแก่ที่มากประสบการณ์อย่างนั้น ความจริงหลิวหลงคงจะหลอกอีกฝ่ายได้ยาก
แต่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติล่ะ
หลี่ฮ่าวคิดจากใจจริงว่าเจ้าพวกนี้ค่อนข้างหลอกง่าย สภาวะทางจิตใจที่มักดูถูกปรมาจารย์นักรบ หากไม่หลงกลยังยาก
ตอนนี้ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องที่หลี่ฮ่าวฆ่าคนอีก
กลับเป็นเฉินเจียนที่มองหลี่ฮ่าวด้วยท่าทีน่าสงสาร จากนั้นก็มองไปทางอู๋เชาที่ยังนอนอยู่บนพื้นไม่ไกลจากตรงนี้ด้วยท่าทีเว้าวอนอยู่ประมาณหนึ่ง
เขาหวังว่าหลี่ฮ่าวจะไม่ลืมอู๋เชา
ช่วยถ่ายโอนพลังนั้นให้สักนิดเพื่อช่วยชีวิตเขาไว้ ไม่อย่างนั้นอู๋เชาต้องตายแน่ๆ ต่อให้เป็นอวิ๋นเหยาก็ยากจะกู้ชีวิตเขาไว้ได้
หลี่ฮ่าวไม่ได้พูดอะไร เขาก็ไม่ได้ลืมเรื่องนี้
เพียงแต่…หลังจากเขาถ่ายโอนพลังเข้าสู่ร่างกายอู๋เชาเล็กน้อยก็พบว่าคนๆ นี้บาดเจ็บสาหัสเกินไป เกรงว่าจะกู้ชีวิตคืนมาในเร็วๆ นี้ไม่ได้ หลี่ฮ่าวจึงไม่ได้ถ่ายโอนไปมากแต่แค่ยื้อชีวิตไว้ไม่ให้ตายก็พอ รอเสร็จจากเรื่องนี้ค่อยมารักษากันต่อ
……
ขณะเดียวกับที่พวกเขากำลังจัดเตรียมพื้นที่โกดัง
พวกหลิวหลงก็ใกล้จะมาถึงตำแหน่งโกดังแล้ว
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสิบคน หลิวหลงจู่โจมอีกฝ่ายจนฆ่าไปได้สามคน หยวนซั่วฆ่าได้หนึ่งคน กองตรวจการณ์กราดยิงฆ่าตายไปหนึ่งคน ตอนนี้ทางหลี่ฮ่าวก็ฆ่าไปอีกหนึ่งคน พริบตาเดียวกลับล้มตายกันไประนาว
เวลานี้มีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเพียงสี่คนที่ไล่ล่าหลิวหลงมาตลอดทาง…รวมถึงหยวนซั่ว
หยวนซั่วในตอนนี้ได้รวมตัวกับหลิวหลงแล้ว ใบหน้าเหี่ยวย่นดูซีดเซียว
หลิวหลงลากเขาไปด้วย กลัวเหลือเกินว่าตาเฒ่านี่จะตายกลางทาง
“ตาแก่หยวน เข้มแข็งไว้!”
หลิวหลงรู้สึกร้อนใจหน่อยๆ เขาไม่รู้ว่าพวกหลี่ฮ่าวเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตาแก่หยวนอาจจะตายเป็นคนแรกของค่ำคืนนี้ก็ได้
“วางใจเถอะ…ยังทนได้อีกหน่อย…”
หยวนซั่วหายใจหอบมองไปด้านหลัง ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสี่คนกำลังไล่ล่าพวกเขาอย่างบ้าคลั่งอยู่ด้านหลัง
ส่วนหยวนซั่วกวาดตามองสี่คนนั้นแวบหนึ่ง ความจริงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาแอบสัมผัสพลังอีกอันอยู่เงียบๆ สว่างไสวดั่งแสงสุริยา!
‘มีสุริยะพรายแค่คนเดียวเหรอ’
หยวนซั่วคิดในใจ ถ้ามีสุริยะพรายแค่คนเดียว ภารกิจในค่ำคืนนี้ เจ้าพวกนั้นต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน
เพราะเท่าที่เขารู้มาทางฝั่งผู้พิทักษ์รัตติกาลก็มีสุริยะพรายเช่นกัน
ต่อให้เขาไม่ออกแรงเต็มที่ ครั้งนี้เจ้าพวกนี้ก็ใช่ว่าจะสำเร็จ
“สุริยะคนเดียว จันทราทมิฬสิบคน…แล้วก็ปรมาจารย์นักรบอีกไม่น้อย…ให้เกียรติหลี่ฮ่าวมากแล้ว!”
หากว่าตามเรื่องความสามารถ ใช้ทีมแบบนี้มาต่อกรกับหยวนซั่ว หลิวหลง ผู้พิทักษ์รัตติกาลหรือกองตรวจการณ์ก็เพียงพอแล้ว หลี่ฮ่าวไม่ต้องสนใจเลยก็ได้
แต่วางแผนอยู่หลายปี รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องที่จะฆ่าหลี่ฮ่าวในครั้งนี้ความแตกแล้วกลับยังส่งตัวสุริยะพรายมาเฝ้าแค่คนเดียวหรือ
ถ้าเป็นสามองค์กรใหญ่ลงมือจริงคงไม่ง่ายขนาดนั้นแน่!
“เลือกระหว่างไม่ลงมือ หรือถ้าลงมือก็ต้องฆ่าตัวโหดๆ หน่อย เพื่อให้อีกฝ่ายเสียหายมหาศาล!”
พลังขั้นสูงเสียหายถึงจะเป็นเหตุผลที่ให้อีกฝ่ายยอมรามือ ไม่อย่างนั้นสุริยะพรายตายไปหนึ่งคนก็ใช่ว่าอีกฝ่ายจะกลัวและอาจจะทำการจู่โจมเรื่อยๆ ก็ได้
สุริยะพรายเก่งก็จริง แต่ทั้งมณฑลหยินเยวี่ยก็มีอยู่หลายสิบคน
พลังระดับนี้เสียหายแค่หนึ่งคน ระดับอย่างสามองค์กรใหญ่ใช่ว่าจะกลัวจริงๆ สักหน่อย
แต่หยวนซั่วเลือกที่รอต่อไป!
ต่อให้อีกฝ่ายส่งตัวผู้แข็งแกร่งมาก็ใช่ว่าจะปรากฏตัวตั้งแต่แรก หากผู้แข็งแกร่งจะปรากฏตัวย่อมต้องรอบคอบสักหน่อย ต้องรอให้มั่นใจว่าไม่มีกับดักถึงยอมออกมา ไม่อย่างนั้นก็ต้องระวังผู้พิทักษ์รัตติกาลจะวางกับดักทำร้ายพวกเขา
‘คนด้านหลัง ผู้พิทักษ์รัตติกาลรับมือไปแล้วกัน! สุริยะพรายของผู้พิทักษ์รัตติกาลยังออกมาแล้ว ถ้ายังมีผู้แข็งแกร่งจริงคงต้องรอให้มั่นใจว่าไม่มีกับดักถึงจะปรากฏตัว!’
หยวนซั่วลอบตัดสินในใจ ส่วนทางหลี่ฮ่าว…หลี่ฮ่าวคงไม่ตายในเร็วๆ นี้ คนพวกนี้ไม่ฆ่าหลี่ฮ่าวง่ายๆ หรอก ต้องรอเวลา
ดังนั้นนี่ถึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนใจเกินไป อย่างไรเสียหลี่ฮ่าวก็ไม่ตาย
ส่วนคนอื่นๆ หยวนซั่วก็ไม่ได้ใจอ่อนขนาดนั้น หากต้องตายการลอบฆ่าตัวฉกาจได้สำเร็จมักเป็นเรื่องที่คุ้มค่า
……
ระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายกำลังไล่ล่ากัน
คนที่อยู่ด้านหลังห่างออกไปอีก
หวังหมิงถูกคนแก่คนหนึ่งฉุดแขนบินทะยานอยู่กลางอากาศ
หวังหมิงทำท่าร้อนใจประมาณหนึ่ง “ผู้เฒ่าหวง ยังไม่ลงมือเหรอ”
หยวนซั่วกับหลิวหลงเหมือนจะต้านไม่ไหวแล้ว!
ผู้เฒ่าที่ถูกท้วงเช่นนั้นกลับไม่ได้พูดอะไร แค่เหลียวมองรอบๆ อย่างเงียบเชียบ ครู่หนึ่งถึงพูดขึ้นช้าๆ ว่า “ยังไม่ถึง!”
ยังไม่ถึงหรือ
หวังหมิงยังคิดไม่ตก จากนั้นเขาก็ถูกโยนออกไป ก่อนที่เสียงคนแก่จะดังแว่วมาข้างหู “ไปหาหูฮ่าว หลี่เมิ่ง ร่วมมือกับพวกหลิวหลงฆ่าเจ้าพวกนั้นซะ!”
หวังหมิงยังไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ ก็มีเสียงฟ้าร้องดังก้องกังวานรอบตัว!
“หวงอวิ๋น ผู้พิทักษ์รัตติกาลส่งตัวสุริยะพรายมาด้วยจริงๆ เห็นทีพวกแกคงลืมบาดแผลเก่าไปซะแล้ว!”
ทันใดนั้นรอบด้านก็เกิดเสียงฟ้าร้อง จากนั้นก็มีร่างราวกับเทพเจ้าแห่งสายฟ้าปรากฏอยู่บนฟ้า
ผู้เฒ่าที่ถูกเรียกขานกันว่าหวงอวิ๋นของฝั่งผู้พิทักษ์รัตติกาล ทำหน้าหนักอึ้งประมาณหนึ่ง “ตระกูลใหญ่แห่งเมืองหยิน…เห็นทียังมีความลับบางส่วนที่เรายังขุดคุ้ยไม่เจอ พวกแกกลับส่งสุริยะพรายสายฟ้ามา!”
เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ถนัดด้านการรบที่สุด!
ผู้แข็งแกร่งสุริยะพรายราวกับเทพเจ้าแห่งสายฟ้าคนนั้นหัวเราะทีหนึ่ง “สู้ต่างฝ่ายต่างถอยกันคนละก้าวดีกว่า ฉันขอแค่ตัวหลี่ฮ่าว คนอื่นๆ รวมถึงหยวนซั่วกับหลิวหลง แกพาตัวไปได้…ไม่อย่างนั้น วันนี้ผู้พิทักษ์รัตติกาลอาจจะสูญเสียสุริยะพรายไปหนึ่งคน!”
หวงอวิ๋นไม่พูดอะไร
มีเพียงความเงียบ
ครั้งนี้ผู้พิทักษ์รัตติกาลได้คิดหาทุกวิถีทางแล้ว โดยให้เขารีบเดินทางมายังเมืองหยิน ผู้แข็งแกร่งขั้นสุริยะพรายคนหนึ่ง เดิมคิดว่าอยู่เหนือความคาดหมายของอีกฝ่ายแล้ว แต่ปรากฏว่า…ก็ยังตกเป็นรองอยู่ดี
ในสามองค์กรใหญ่ อีกฝ่ายมาจากองค์กรไหนกันแน่นะ
เขารู้ว่าตนอาจสู้คนๆ นี้ไม่ได้ แม้จะอยู่ในขั้นสุริยะพรายเช่นกัน แต่พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติของตนไม่ได้แน่นหนาเท่าอีกฝ่าย แถมอีกฝ่ายยังมีพลังสายฟ้าอีกต่างหาก
วินาทีนี้หวงอวิ๋นรู้สึกหมดแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ พลางพูดเสียงนิ่งว่า “ทำไมถึงต้องฝืนกฎธรรมชาติ พลังเหนือธรรมชาติผงาดขึ้นพวกแกก็ลืมไปว่าตัวเองก็เคยเป็นคนธรรมดามาก่อนเหรอ!”
“แกไม่เข้าใจ!”
ผู้แข็งแกร่งราวกับเทพเจ้าแห่งสายฟ้าคนนั้นไม่สนว่าเขาจะพูดอะไร หัวเราะทีหนึ่งก่อนจะเกิดสายฟ้าบนท้องฟ้า!
สงครามระหว่างสุริยะพรายก็ปะทุขึ้นกลางที่ราบแห้งแล้งแห่งนี้ในพริบตา
เป็นการปะทะระหว่างสายฟ้ากับลมพายุ!
ในขณะนี้เมืองหยินเล็กๆ แห่งนี้ได้เกิดสงครามระหว่างสุริยะพรายที่ยากจะพบเห็นได้ทั่วไปปะทุขึ้นแล้ว
…………………………………………………………………………