STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา - ตอนที่ 41-5 อาจารย์ศิษย์ลาจากด้วยความเศร้า (5)
ตอนที่ 41 อาจารย์ศิษย์ลาจากด้วยความเศร้า (5)
“อาจารย์ อาจารย์ว่าเจ้านั่นของผม ถ้าแทงหัวใจจะเปิดผนึกได้จริงเหรอ”
หลี่ฮ่าวนึกถึงจี้หยกกระบี่ เพราะจี้หยกไม่เคยถูกเปิดผนึกมาก่อน ก่อนหน้านี้ยังไม่เปิดผนึกยังฟันจนเงาโลหิตเผยตัวตนชัดเจนขึ้นได้ แล้วถ้าเปิดผนึกล่ะ
มันจะฟันเงาโลหิตให้ตายได้หรือเปล่านะ
ถ้าฟันเงาโลหิตตายได้ โอกาสที่อาจารย์จะเอาชนะผู้แกร่งพลังเหนือธรรมชาติคนนั้นก็จะเพิ่มขึ้นอีกหน่อย
หยวนซั่วครุ่นคิดครู่หนึ่งก็เอ่ยว่า “มีหวัง แต่ไม่ใช่ความหวังเต็มร้อย…”
พอพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของเขาก็วูบไหวแล้วมองไปทางหลี่ฮ่าว
เหมือนกำลังถามว่ามาถึงแล้วใช่ไหม
เขามองไม่เห็นเงาโลหิต แต่เขาพอจะรู้สึกได้บ้างเล็กน้อย
ส่วนหลี่ฮ่าวหน้าซีดเซียวพยักหน้าตัวแข็งทื่อ ตอนนี้ในจุดที่อยู่ห่างจากเขาข้างหน้าราวร้อยเมตร เงาโลหิตที่ตัวสูงเท่าตึกก็ทะยานลงแตะพื้นแล้ว
ตัวใหญ่อย่างไม่มีอะไรเทียบได้!
หยวนซั่วเองก็ฉีกยิ้มเกร็งๆ ทีหนึ่ง ให้ตาย…หมดคำจะพูดจริงๆ
เราเพิ่งเคยทุ่มแรงเต็มที่ครั้งแรก คงไม่จบชีวิตลงตรงนี้หรอกมั้ง
“ไสหัวไป!”
หยวนซั่วตวาดเสียงดังอีกครั้ง พวกหลิวเยี่ยนไม่พูดอะไรอีก พวกเขาเองก็เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลี่ฮ่าว
ฆ่าจันทราทมิฬคนนั้น หลี่ฮ่าวยังไม่ซีดขนาดนี้มาก่อนเลย
หลิวเยี่ยนกัดฟันแล้วลากอู๋เชาไป
ส่วนเจ้าเสือดำก็แอบอยากหนีไปเหมือนกัน แต่เห็นหลี่ฮ่าวไม่ได้ตามไปพลันก็หยุดอยู่ที่เดิม แววตาของเจ้าเสือดำเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่รู้สึกกลัวก็แฝงด้วยความคาดหวังนิดๆ
อาจจะไม่แน่ก็ได้
ไม่แน่อาจจะแทงเงาโลหิตตัวสูงตระหง่านนั่นตายก็ได้ ถึงตอนนั้น…เราจะได้ผลประโยชน์อีกมากแค่ไหน
ไม่ไปแล้วดีกว่า!
จากนั้นพวกหลิวเยี่ยนรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
พวกเขามุ่งหน้าไปดักทางหลิวหลงไว้ก่อน เผื่อหลิวหลงพลั้งเผลอหลุดเข้ามาสิถึงจะเป็นปัญหาใหญ่
ส่วนหลี่ฮ่าวกับหยวนซั่ว ตอนนี้พากันเดินเข้าไปในตู้สินค้าแล้ว
หยวนซั่วมือกำดาบขนาดใหญ่เล่มหนึ่ง เขาทำท่าเหมือนไม่เห็นสิ่งใดและไม่รู้สึกถึงสิ่งใด ตอนนี้เอาแต่พร่ำพูดว่า “หลี่ฮ่าว ตาแก่อย่างฉันไม่ไหวแล้ว หลังจากครั้งนี้ไปคงถึงคราวสิ้นสุดแล้วจริงๆ! เธอยังมีหวัง…สุริยะพรายคนนั้นใช่ว่าจะสู้หวงอวิ๋นได้…ผู้พิทักษ์รัตติกาลยังแข็งแกร่งมาก หลิวหลงก็ยังมีชีวิตอยู่ ขอเพียงจัดการคนพวกนั้นได้เธอก็จะปลอดภัยแล้ว!”
“พอปลอดภัยเธอก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป…และไม่ต้องอยู่เมืองหยินอีกแล้ว!”
หยวนซั่วกำชับศิษย์ตัวเองเหมือนตัวเองใกล้จะลงโลงเต็มที
ส่วนหลี่ฮ่าวกลับทำหน้าเศร้าโศก “อาจารย์…อาจารย์จะไม่เป็นไร ผมรู้ว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติรักษาบาดแผลได้ คนพวกนั้นใช้พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติรักษาอาจารย์ได้ ผมเชื่อว่าอาจารย์จะไม่เป็นไร!”
“เด็กน้อย…เพ้อฝันซะจริง!”
“แค่กๆ…”
หยวนซั่วเริ่มไออีกระลอกและมีเลือดไหลออกมาตรงมุมปากพลางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ชีวิตของฉัน สิ่งที่เสียใจมากที่สุดก็คือไม่ได้เข้าสู่ขอบเขตพันยุทธ์เลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติให้สะท้านโลก…ไม่อย่างนั้น ลำพังแค่สุริยะพรายคนเดียวจะสู้ฉันได้เหรอ”
ยามนี้เขาหายใจหอบหนัก ทำท่าเหมือนรู้สึกแย่จับใจ เขาจับไหล่หลี่ฮ่าวแล้วหายใจแรงๆ กล่าว “ฉันถ่ายทอดวิชาคายรับห้าปาณภูตให้เธอ…เธอจำให้ดีละ! นี่เป็นรากฐานสำคัญ…เป็นความรู้ที่ฉันเรียบเรียงจากการอ่านตำราโบราณมานับไม่ถ้วน… ”
วินาทีนี้นอกตู้สินค้า เหนือหัวเงาโลหิตมีร่างหนึ่งลอยลงมาเงียบๆ
จากนั้นเสียงจากตู้สินค้าก็ดังแว่วเข้าหู
วิชาคายรับห้าปาณภูต!
วินาทีนี้ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือสุริยะพรายก็ชะงักตัวเล็กน้อย เดิมทีคิดจะบุกเข้าไปจับหลี่ฮ่าวแล้วเผาหมอนั่นให้ตาย ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับเก็บพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไม่ขยับตัวแต่อย่างใด
วิชาคายรับห้าปาณภูตของหยวนซั่ว!
ไม่รู้ว่ามีคนจับจ้องต้องการมากมายเท่าไร แต่ตาแก่นี่กลับไม่เคยปล่อยให้เล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย คืนนี้หยวนซั่วจะต้องตายแล้ว ลูกศิษย์ของเขาก็ต้องตายไปด้วย ถ้าเกิดวิชาขาดการสืบทอด…เกรงว่าวิชาคายรับห้าปาณภูตจะถึงคราวดับสูญอย่างแท้จริงแล้ว!
‘บางที…อาจจะฆ่าหลี่ฮ่าว แล้วจับตัวหยวนซั่วไปได้ล่ะ’
ตอนนี้มีความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวของคนที่อยู่เหนือหัวเงาโลหิต
สมบัติมักทำให้ใจคนหวั่นไหว แต่สมบัติทั่วๆ ไปไม่สามารถทำให้ใจเขาหวั่นไหวได้ ทว่า…วิชาคายรับห้าปาณภูตกลับทำได้!
สิ่งที่หยวนซั่วดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้มากที่สุดนั้นไม่ใช่พลังปรมาจารย์นักรบของเขา ปรมาจารย์นักรบถึงจุดจบแล้ว สิ่งที่น่าสนใจในตัวเขามากในเวลานี้คือ ตำราโบราณนับไม่ถ้วนที่อยู่ในหัวของเขา ตาแก่นี่ได้ทำลายตำราโบราณไปนับไม่ถ้วนเช่นกัน!
เพื่อป้องกันตัว ไม่รู้ว่าหยวนซั่วทำลายตำราโบราณไปตั้งเท่าไร และเก็บมันไว้ในหัวของตัวเอง!
ร่างนั้นปรากฏตัวเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกตู้สินค้าอย่างเงียบๆ
หยวนซั่วกับหลี่ฮ่าวไม่รับรู้อะไรด้วยเลย!
หยวนซั่วยังคงพูดสั่งเสียอยู่ ขณะที่หลี่ฮ่าวทุกข์ทรมานใจจนไม่เป็นตัวของตัวเอง ก้มหน้าจนน้ำตาจวนเจียนจะไหลออกมาแล้ว
“อาจารย์ วิชาคายรับห้าปาณภูต ผมจะรักษามันไว้อย่างดีเลยครับ!”
หยวนซั่วไอออกมาเป็นเลือด “อืม งั้นก็ดี ไม่ใช่แค่นี้…ฉันยังมีสมบัติอีกมากมายทิ้งไว้ให้เธอ…รวมถึงแผนที่โบราณสถานบางส่วน คนอื่นไม่รู้แต่ฉันจะบอกเธอไว้…เธออย่าไปบอกใคร! นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เธอผงาดขึ้นได้ ถ้าได้มันมาก็ไม่ยากที่เธอจะอยู่เหนือสุริยะพราย…อารยธรรมโบราณแข็งแกร่งเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้!”
“อาจารย์ หยุดพูดเถอะครับ!”
หลี่ฮ่าวเจ็บปวดเหลือเกิน หยุดพูดสักที ถ้าพูดอีกอีกฝ่ายคงอดใจไม่ไหวเข้ามาจับตัวอาจารย์ไปแล้ว
“มะ…ไม่เป็นไร…ฉันอยู่จุดสูงสุดของทะลวงร้อย ยังทนได้อีกหน่อย…”
สองอาจารย์ลูกศิษย์ล่ำลากัน พลันหยวนซั่วก็ลดเสียงเบาลง “เอาหน้ามานี่ ฉันกลัวมีคนแอบฟัง…”
หลี่ฮ่าวเงี่ยหูเข้าไปใกล้
ร่างนั้นมองหยวนซั่วแวบหนึ่งจากด้านนอกตู้สินค้า ทว่าเห็นเพียงปากเขากำลังขยับแต่กลับไม่มีเสียงสักนิด
พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติก็แทรกเข้าไปไม่ได้ เพราะนี่ทำจากกระจกครอบผลึกเหมันต์
เขาครุ่นคิดชั่วครู่ จากนั้นเงาโลหิตร่างสูงใหญ่ก็ถูกเขาโบกมือสั่งให้หดขนาดตัวลงเท่าร่างมนุษย์ทั่วไปแล้วทะลุผ่านกระจกครอบผลึกเหมันต์เข้าไปในตู้สินค้าโดยตรง
เขาไม่สะดวกที่จะดักฟัง แต่ให้เงาโลหิตดักฟังก็ได้ผลเหมือนกัน
ฟังให้จบค่อยฆ่าทิ้ง!
ตนจะได้ไม่ต้องบีบเค้นหยวนซั่วอีก ถึงทำแบบนั้นก็ใช่ว่าจะได้ความลับนั้นมา
ตอนนี้หลี่ฮ่าวตาแดงก่ำพยักหน้า
หยวนซั่วเผยยิ้มพึงพอใจ เข้าใจแล้ว เงาโลหิตเข้ามาแล้ว!
แต่เจ้าหมอนี่…ทนไหวหรือเปล่า
ช่างเถอะ อีกฝ่ายไม่ถึงกับฆ่าเธอตอนนี้หรอก
ทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของฉัน พวกมีพลังเหนือธรรมชาติหน้าโง่ ความลับของฉันจะปล่อยให้พวกแกล่วงรู้ง่ายๆ ได้อย่างไร
ตอนนี้อาจารย์ลูกศิษย์ทั้งคู่ต่างทำหน้าเศร้าสลด!
“อาจาย์…รักษาตัวด้วย…”
“เสี่ยวฮ่าว ปกป้องตัวเองให้ดีนะ…”
อาจารย์ลูกศิษย์ทำท่าจะร้องไห้!
ร่างที่อยู่นอกตู้สินค้าเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาประมาณหนึ่ง จะตายก็รีบๆ ตายแล้วบอกความลับมาได้แล้ว!
ตอนนี้เพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจของหยวนซั่ว เขาจึงกดพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติให้อยู่ในจุดต่ำสุดเพราะกลัวจะถูกหยวนซั่วสัมผัสได้ ความคิดที่เดิมทีเตรียมจะสั่งสายฟ้าฟาดในคราวเดียวแล้วจัดการเก็บกวาดศัตรูก็สลายหายไปอย่างสิ้นเชิง
รีบพูดมาเร็วๆ เถอะ ฉันรอจนใกล้จะหมดความอดทนแล้วนะ!
…………………………………………………………