STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา - ตอนที่ 42-4 การกลับมาของจอมมารหยวนซั่ว (4)
ตอนที่ 42 การกลับมาของจอมมารหยวนซั่ว (4)
จากนั้นก็ทะยานขึ้นฟ้าลอยไปราวกับนกโบยบินได้โดยไม่คิดจะหันกลับไปมองอีก ไม่สนใจหลี่ฮ่าวและไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจอีกแล้วด้วย
ก้าวขายาวเป็นพันเมตรในระดับความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
หยวนซั่วสูญสิ้นพลังกายจนเกลี้ยงแล้ว แต่ถือโอกาสตอนที่พลังของ ‘เคล็ดวิชาดาบโลหิต’ ยังไม่หายไปทั้งหมดรีบเดินทางไปยังสนามรบของสุริยะพราย
ในเมื่อออกตัวแล้ว…ก็ฆ่าให้หมดเสีย!
ระหว่างทางเขายกดาบวาดกลางอากาศทีเดียว!
พรวด!
หัวทั้งสี่แทบจะร่วงตกพื้นในเวลาเดียวกัน
พวกหลิวหลงเห็นเขาเหมือนเห็นเซียนมารก็ไม่ปาน ทรงพลังจนไม่อยากเชื่อสายตา มีครบทั้งความรู้สึกหวาดกลัว ตกใจ ดีใจ ผวา
หยวนซั่ว!
ผู้ชายที่มีสถานะดั่งเซียนมาร!
ส่วนหยวนซั่วจะสนใจที่ไหนว่าพวกเขาคิดอย่างไร เวลานี้ผู้แข็งแกร่งพลังสายฟ้าใกล้จะหนีไปแล้ว หยวนซั่วตะโกนลั่นฟ้า “หวงอวิ๋น ขวางมันไว้ ไม่อย่างนั้น…ฉันจะฆ่าแกไปด้วย!”
ตู้ม!
ลมพายุปะทุขึ้น!
หวงอวิ๋นในตอนนี้ตื่นตระหนกไม่แพ้กัน ชนะแล้วหรือ
หยวนซั่วฆ่าปรมาจารย์เซียนดับสวรรค์แล้วเหรอ!
พระเจ้า เมืองหยิน…ไม่สิ ทั้งมณฑลหยินเยวี่ยต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่ๆ สุดยอดผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือสุริยะพรายคนหนึ่งมาตายอยู่ที่นี่ ส่วนคนที่ฆ่าเขากลับเป็นปรมาจารย์นักรบคนหนึ่งด้วย!
“ลมมา!”
เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับลมพายุฝนกระหน่ำปะทะกับสายฟ้าอย่างบ้าคลั่ง
หยวนซั่วจะมาช่วยฆ่า!
ดังนั้นเขาต้องรั้งคนนี้เอาไว้!
ผู้แข็งแกร่งพลังสายฟ้าคนนั้นเพิ่งเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงให้เห็นครั้งแรก เขากลับเป็นหนุ่มอายุไม่มากคนหนึ่ง ตอนนี้ใบหน้าซีดเซียวประมาณหนึ่งตะโกนข่มเสียงต่ำ “หวงอวิ๋น แกกล้าขวางฉันเหรอ! แกขวางฉันไว้ชาดจันทราไม่มีทางปล่อยผู้พิทักษ์รัตติกาลไว้แน่! เทียบกันแล้วผู้พิทักษ์รัตติกาลกับสามองค์กรใหญ่ยังห่างชั้นอยู่มาก แกอยากให้ชาดจันทราเปิดสงครามกับพวกแกงั้นเหรอ”
หวงอวิ๋นหัวเราะฉับพลัน “หนุ่มน้อย สามองค์กรใหญ่แข็งแกร่งจริง ผู้พิทักษ์รัตติกาลอ่อนแอก็จริง แต่…ถ้าสามองค์กรใหญ่กล้าโผล่มาก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอดกลับไปเลย! แค่เรื่องออกนอกพื้นที่สู้พวกแกไม่ได้เท่านั้น แต่ถ้ากล้าบุกมาจริงๆ…คิดว่ากองทัพทหารเรามีไว้ประดับหน้าเฉยๆ เหรอ”
หากอยู่นอกพื้นที่…คงสู้ไม่ได้จริงๆ
นี่คือเรื่องจริง เขาจนปัญญาจะหาข้อแก้ต่างแล้ว
แต่เมื่อถึงยามคับขัน สามองค์กรใหญ่กล้าบุกเมืองใหญ่จริงหรือ
อย่างมากก็ตายไปพร้อมกัน!
ทั้งสองฝ่ายต่างถ่วงดุลอำนาจกันและกันเท่านั้น!
“ไอ้สารเลว…ปล่อยฉันไป…หวงอวิ๋น ปล่อยฉันไป ชาดจันทราจะให้พลังลี้ลับพวกแกสามพัน…ไม่สิ หนึ่งหมื่นลูกบาศก์เลย!”
หวงอวิ๋นหวั่นไหวในทีแรก แต่แล้วก็โจมตีรัวๆ โดยไม่พูดอะไร!
อย่าพูดบ้าๆ!
หยวนซั่ว เจ้าหมอนั่นมาแล้ว!
ผู้เหี้ยมโหดเมื่อยี่สิบปีก่อน บัดนี้กลับก้าวข้ามไปอยู่ขอบเขตพันยุทธ์…ไม่สิ บางทีอาจจะเกินกว่าพันยุทธ์ไปแล้ว เขาแค่คิดก็รู้สึกกลัวแล้ว
ฉันไม่กล้าปล่อยแกไปหรอก!
ไม่อย่างนั้นหมอนี่ต้องกล้าฆ่าเขาจริงๆ แน่นอน
จากที่ผู้พิทักษ์รัตติกาลได้ร่วมงานกับเขามาหลายปีก็เสียเปรียบไปไม่น้อย แถมยังอยู่ในสถานการณ์ที่อีกฝ่ายเป็นแค่ทะลวงร้อยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นถึงพันยุทธ์แล้วหรืออาจจะเหนือกกว่านั้น…เขาหวงอวิ๋นไม่กล้ามีเรื่องกับพี่ใหญ่ในอดีตคนนี้หรอก!
ขณะนั้นเองหยวนซั่วก็มาถึงแล้ว!
ราวกับเซียนมาร!
ฟันดาบลงไปจนแสงดาบปราณโลหิตสว่างวาบกลางอากาศ เมื่อดาบฟันลงไปสายฟ้าก็แหลกละเอียด!
ชายพลังสายฟ้าคนนั้นตะโกนด้วยความโกรธ “หยวนซั่ว! ปล่อยฉันไป ถ้าฆ่าฉันแกต้องตายแน่ๆ พ่อของฉันคือ…”
“อิ้งหงเยวี่ยเหรอ”
หยวนซั่วหัวเราะเสียงเย็น “หนุ่มน้อย แกยังอ่อนหัดเกินไปหน่อย! พ่อของแก ผู้นำชาดจันทรา ฉันรู้จัก! เมื่อยี่สิบปีก่อนเขาก็เป็นปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยเหมือนกัน เคยถูกฉันต่อยหมัดเดียวจนต้องคุกเข่าร้องขอชีวิต! หลายปีมานี้คนที่ฉันคอยหลบหน้าก็คือมัน ไม่อย่างนั้นคงออกไปจากมณฑลหยินเยวี่ยตั้งนานแล้ว! เราสองคนมีความแค้นต่อกันมาก! อย่างแกแค่มองก็เหมือนแกะสลักมาจากแม่พิมพ์เดียวกันกับไอ้เวรนั่นไม่มีผิด ไม่คิดว่าลูกชายของเขาจะมาด้วยตัวเองซะได้!”
หวงอวิ๋นสีหน้าเปลี่ยนไป!
ลูกของอิ้งหงเยวี่ยหรือ
หยวนซั่วยกดาบขึ้นอีกครั้งแล้วฟันศีรษะของอีกฝ่ายจนแตกร้าวพร้อมยิ้มมุมปาก “เจ้าโง่! พ่อของแกอยากจะฆ่าฉันจนจับตาดูฉันมาหลายสิบปี ฉันก็ยังไม่ตายไม่ใช่เหรอ ฆ่าแกไป…แล้วเขาจะทำอะไรได้ล่ะ ทำลายผู้พิทักษ์รัตติกาลให้ได้ก่อนค่อยว่าเถอะ!”
“…”
หวงอวิ๋นหมดคำจะพูด
ฟังที่พูดสิ…ความแค้นในวันวานของพวกแก ถึงจะมีความแค้นต่อกันแต่นั่นเป็นเพียงความแค้นเมื่อนานมาแล้ว หน็อยแน่ แก…แกฆ่าลูกชายของเขาไปตอนนี้ก็เหมือนสร้างความแค้นขึ้นใหม่ไม่ใช่เหรอ
หยวนซั่วทะยานขึ้นฟ้าโบยบินเหมือนนกอีกครั้งโดยไม่คิดจะหันกลับมาอีก เสียงดังแว่วมาไกล “ของปฏิกรรมสงครามทั้งหมดเป็นของฉัน! ฉันไปดูลูกศิษย์ของฉัน ของทุกอย่างส่งไปที่บ้านตระกูลหยวนที่กู่ย่วน นอกจากว่า…แกหวงอวิ๋นก็อยากโดนฉันฟันเหมือนกัน!”
หวงอวิ๋นหน้าถอดสี
แล้วไม่พูดอะไรอีก
คนน่ากลัว!
พอฝีมือการต่อสู้มาถึงขั้นนี้ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว
เขาอดถามไม่ได้ “แก…อยู่ในขอบเขตอะไรกันแน่”
พันยุทธ์หรือ
แต่พันยุทธ์ฆ่าปรมาจารย์เซียนดับสวรรค์ได้หรือ
เมื่อกี้ฆ่าลูกชายของอิ้งหงเยวี่ยง่ายเหมือนหั่นผัก มันน่ากลัวเกินไปแล้ว
“ขั้นสุดยอดของพันยุทธ์เท่านั้นเอง!”
คำพูดของหยวนซั่วดังแว่วมาแต่ไกล แต่กลับสร้างความตกตะลึงแก่ทุกคนในที่นี้
ขั้นสุดยอดของพันยุทธ์!
……
จากนั้นหยวนซั่วก็กลับไปฝั่งโกดัง จากนั้นก็พบว่าโกดังเหลือเพียงซากปรักหักพัง
เขามองหลี่ฮ่าวที่ยังเลือดไหลไม่หยุดแวบหนึ่ง จากนั้นก็คว้าตัวหลี่ฮ่าวมาในคราวเดียวแล้วแฝงตัวเข้าไปในความมืดทันที ใบหน้าแดงระเรื่อหน่อยๆ วินาทีถัดมาก็เลือดพุ่งออกจากปากพลันก็ระเหยเป็นไอ
“ฉันก็ทนไม่ไหวแล้ว…ทำไมเธอต้องมามีปัญหาเอาตอนนี้ด้วย…”
เขารู้สึกได้ว่าจี้หยกกระบี่ของหลี่ฮ่าวกำลังถ่ายโอนพลังงาน ตอนนี้เขาจึงแย่งไปไม่ได้ ตนจำต้องอาศัยพลังเล็กๆ น้อยๆ เพื่อซ่อมแซมอวัยวะภายในที่แหลกละเอียด
เขาครุ่นคิด ดูท่าครั้งนี้ออกจะเสแสร้งเกินจริงไปหน่อยแล้ว!
ขั้นสุดยอดของพันยุทธ์อะไรกันล่ะ…เขายังไม่ถึงขั้นนั้นจริงๆ หรอก
แค่เกือบๆ ละนะ
ประเด็นคืออาการบาดเจ็บสาหัสเกินไป ถ้ามาช้าอีกก้าวเขาคงรักษาภาพพจน์ยอดฝีมือตัวฉกาจไว้ไม่ได้แน่ แต่คงกระอักเลือดไปก่อนแหง
“แค่กๆ…”
เสียงไอดังขึ้นไม่หยุด ครั้งนี้เขาไอจริงๆ
คราวนี้หยวนซั่วไม่ใช่แค่หน้าซีดหน่อยๆ แต่หน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษแผ่นขาว
เขาคว้าตัวหลี่ฮ่าวดำดินหนีอย่างรวดเร็ว
ชิ่งหนีก่อนดีกว่า!
ไม่อย่างนั้นถ้ามีคนมาอีก หรือว่าเจ้าโง่หวงอวิ๋นนั่นมีใจจะลองเชิงตนหรือคิดจะฆ่าตน เขาคงต้านทานไม่ไหวแน่
‘หนีก่อน ซ่อนตัวก่อน…รอไม่มีอะไรแล้วค่อยออกมา!’
หยวนซั่วคิดในใจพานนึกถึงฉากที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ นึกถึงวินาทีที่ปลดกลอนล็อกเหนือธรรมชาติได้ ทว่าสายตาก็แปลกไป
ความฝันที่กลายเป็นพลังเหนือธรรมชาติของฉันแตกสลายไปแล้ว
กลอนล็อกเหนือธรรมชาติอะไรกันล่ะ!
นั่นไม่ใช่เส้นทางสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติแต่เป็นระบบป้องกันตัว ให้ตาย พลังเหนือธรรมชาติคืออะไรกันแน่
ทอดทิ้งพลังภายในที่ตนพยายามสั่งสมมาเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังเหนือธรรมชาติ…เป็นวิธีที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย!
ดูภายนอกเหมือนจะแข็งแกร่ง แต่ภายในกลับกลวงโบ๋
การผงาดขึ้นของพลังเหนือธรรมชาติอาจจะมีปัญหาบางอย่างซ่อนอยู่!
“แค่กๆ…”
หยวนซั่วกระอักเลือดออกมา เขาคิดจะระเหยมันทิ้งแต่กลับพบว่ากองเลือดหายไปในพริบตา มองอีกที…กลับพบว่าด้านข้างมีสุนัขตัวหนึ่งกลืนเลือดของเขาไปแล้ว
หยวนซั่วจำสุนัขตัวนี้ได้ มันเป็นสุนัขของหลี่ฮ่าว
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “แกก็จะเป็นมารด้วยเหรอ กลืนเลือดของฉัน กลืนเลือดของหลี่ฮ่าว…หมาที่เคยลิ้มรสเลือดมนุษย์ ถ้าเสพติดมันเข้า…ก็จะเป็นภัยในภายภาคหน้า!”
เขามีใจจะฆ่าสุนัขตัวนี้ทิ้ง!
ใช่แล้ว เพราะสุนัขตัวนี้กลืนเลือดของเขาไป!
ยามที่กำลังจะลงมืออยู่ๆ เจ้าเสือดำก็คายเลือดของเขาออกมาอย่างนึกรังเกียจ ทำท่าเหมือนขยะแขยงหน่อยๆ มองมายังหยวนซั่วด้วยสายตารังเกียจนิดๆ เลือดนี้…น่าสะอิดสะเอียนซะจริง!
หยวนซั่วชะงัก มองเจ้าเสือดำทีหนึ่งก่อนระเบิดหัวเราะขึ้นในฉับพลัน “ที่แท้ก็เพื่อพลังนี่เอง…จมูกแกไวจริงๆ!”
เลือดของหลี่ฮ่าวปะปนด้วยพลังพิเศษบางอย่าง
สุนัขตัวนี้ไม่ใช่เพราะเสพติดเลือด แต่เพื่อกลืนพลังที่แฝงอยู่ในเลือดเท่านั้น
“ช่างเถอะ!”
นี่เป็นสุนัขของหลี่ฮ่าว เขาก็คร้านจะไปยุ่งเช่นกัน ก่อนจะหายตัวไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
เขาไม่สนเรื่องพวกนี้แล้ว หนีก่อนดีกว่า หนีไปให้ไกล
ซ่อนตัวหลายๆ วันก่อนค่อยว่ากันอีกที อีกอย่างมีสุนัขตัวนี้คอยติดตามก็ดี ถ้าไม่กี่วันหลังจากนี้ออกมาไม่ได้ อาหารหมดก็ฆ่ากินเนื้อของมันเสีย มีวัตถุดิบเคลื่อนที่แบบนี้ไม่ต้องเปลืองแรงตัวเองด้วย
เจ้าเสือดำไม่รู้ความคิดเขา ตอนนี้กำลังตามหลังอยู่ต้อยๆ
……
ส่วนการจากไปของพวกหยวนซั่วได้สร้างความฮือฮาอย่างมาก
ชั่วขณะนั้นข่าวก็หลุดออกไปหลากหลายช่องทาง โดยพยายามส่งไปยังสถานที่ต่างๆ
สงครามนองเลือด ณ เมืองหยิน!
ปรมาจารย์เซียนดับสวรรค์พ่ายแพ้ ลูกชายของอิ้งหงเยวี่ยผู้นำชาดจันทราถูกฆ่า ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับจันทราทมิฬนับสิบตายเกลี้ยง รวมถึงปรมาจารย์นักรบรวมถึงทะลวงร้อยก็ตายเรียบเช่นกัน
ส่วนตัวการหลักทุกอย่างนี้ก็คือหยวนซั่ว!
จอมมารแก่ที่อวดเบ่งไปทั่วทั้งมณฑลหยินเยวี่ยเมื่อยี่สิบปีก่อน!
บัดนี้จอมมารคนนี้กลับเลื่อนขั้นเป็นสุดยอดระดับพันยุทธ์แล้วสังหารปรมาจารย์เซียนดับสวรรค์ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปจากมณฑลหยินเยวี่ยสู่พื้นที่เขตอื่นๆ
ตลอดเวลายี่สิบปีที่ผ่านมาของมณฑลหยินเยวี่ยเพิ่งเคยมีผู้แข็งแกร่งเหนือขั้นสุริยะพรายสิ้นชีพอยู่ที่นี่เป็นครั้งแรก
เกิดความฮือฮาไปทั่วในพริบตาเดียว!
เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้วจริงๆ!
……………………………………………………………..