STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา - ตอนที่ 44-3 ของรางวัลจากสงคราม (3)
ตอนที่ 44 ของรางวัลจากสงคราม (3)
หัวหน้าเฮ่อกวาดตามองศพที่กระจายอยู่รอบๆ แวบหนึ่ง เงียบไปอึดใจก็พูดว่า “สลายไปไม่น้อย แต่ทั้งหมดน่าจะดึงได้เกือบๆ พันลูกบาศก์!”
พันลูกบาศก์ ลูกบาศก์ที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูงยาวสิบเมตรเท่ากัน
เห็นได้ชัดว่าหนึ่งคนคงรับไม่ไหว!
แต่ปริมาณพลังลี้ลับไม่ได้คิดคำนวณกันแบบนี้ อีกทั้งสลายหายไป ทว่าควรใช้กระจกครองผลึกเหมันต์ป้องกันไม่ให้กระจายออกไปก่อนต่างหากถึงจะเป็นวิธีการคำนวณที่ถูกต้อง
ส่วนมู่เซินกลับขมวดคิ้วน้อยๆ “น้อยขนาดนี้เชียว ฆ่าจันทราทมิฬไปหนึ่งคนปกติก็ดึงพลังได้ยี่สิบถึงสี่สิบลูกบาศก์แล้ว! ประมาณสักสิบสามลูกบาศก์แล้วกัน สุริยันตรีเทียบเท่าแค่จันทราทมิฬสามสิบคนเองเหรอ”
น้อยเกินไปหรือเปล่า!
หัวหน้าเฮ่อส่ายหน้า “ไม่ได้คำนวณอย่างนี้ ยิ่งกว่านั้นคนๆ นี้สูญเสียพลังไปมาก แถมวางศพทิ้งไว้หนึ่งคืน ดึงพลังได้พันลูกบาศก์ก็ดีมากแล้ว! นี่ยังสลายไปไม่มากด้วยซ้ำนะ”
หวงอวิ๋นก็พยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะรีบพูดต่อ “สุริยะพรายคนนั้นเป็นลูกชายของอิ้งหงเยวี่ย พลังสายฟ้า! เขาก็ผลาญพลังไปไม่น้อยเช่นกัน ดึงออกมาได้หนึ่งถึงสองร้อยลูกบาศก์ก็นับว่าเยอะแล้ว”
ส่วนจันทราทมิฬสิบคนที่เหลือรวมๆ กันก็อาจจะได้สักสองสามร้อยลูกบาศก์
หลิวหลงที่อยู่ข้างๆ ลองคำนวณคร่าวๆ หากดึงได้ทั้งหมดหนึ่งพันห้าร้อยลูกบาศก์…ก็นับว่าเป็นเลขมหาศาลแล้ว!
ทีมล่าปีศาจของเขาฆ่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไปห้าคน ดึงพลังลี้ลับได้ทั้งหมดแค่หนึ่งร้อยยี่สิบลูกบาศก์
ใช้เวลาตั้งสามปีกว่า
ครั้งนี้ได้พลังลี้ลับมากกว่าเดิมสิบเท่า หากเป็นทีมล่าปีศาจแล้วอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าสามสิบปีถึงจะได้ขนาดนี้
แต่พอคิดว่าครั้งนี้กลับมีสุริยันตรีมาด้วย…ก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก
ได้แค่นี้เขายังคิดว่าน้อยไปด้วยซ้ำ!
เนื่องจากความเสี่ยงที่ได้รับไม่ใช่แค่สิบเท่าของปกติ แต่เป็นร้อยเท่าพันเท่าต่างหาก!
ไม่มีหยวนซั่ว ทุกคนต้องจบเห่หมดแน่ๆ!
หวงอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ พูดต่อ “อีกอย่างก็ได้วัตถุเหนือธรรมชาติมาด้วยหนึ่งอย่าง พลังสายฟ้าคนนั้นพกอาวุธเหนือธรรมชาติมาด้วยหนึ่งชิ้น!”
ส่วนสุริยันตรีตรงหน้าไม่ได้พกอะไรติดตัวมาเลย
น่าเสียดายจริงๆ!
“อืม ยังถือว่าใช้ได้!”
หัวหน้าเฮ่อพยักหน้าแล้วถามต่อ “หยวนซั่วล่ะ”
“เมื่อคืนเขาพาลูกศิษย์เขาหายตัวไป…เขาก็คือผู้สืบทอดตระกูลหลี่คนนั้น!”
“ผมรู้”
หัวหน้าเฮ่อพยักหน้าพร้อมดวงตาที่วูบไหวหน่อยๆ
สักพักก็มีสุนัขตัวหนึ่งเดินนำหน้ามาปรากฏสู่สายตาของทุกคน
ผ่านไปครู่หนึ่งหยวนซั่วกับหลี่ฮ่าวก็เดินมาทางนี้อย่างช้าๆ
ครั้นหยวนซั่วเห็นคนๆ นั้นตั้งแต่ไกลก็กระซิบบอกหลี่ฮ่าวเบาๆ ว่า “เจ้าเตี้ยตรงหน้านั่น เห็นหรือยัง”
“ครับ”
“เจ้าหมอนั่นชื่อเฮ่อเหลียนชวน เป็นผู้พิทักษ์รัตติกาลประจำกองบัญชาการใหญ่ของมณฑลหยินเยวี่ย! ผู้พิทักษ์รัตติกาลประจำมณฑลหยินเยวี่ยจะมีหัวหน้าหนึ่งคนรองหัวหน้าห้าคน หัวหน้าทั้งหกล้วนเป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่งทั้งสิ้น! หมอนี่อยู่ในสามลำดับแรก! นอกจากหัวหน้าคนนั้นเขาก็ถือว่าเก่งอันดับต้นๆ ด้วย ได้ข่าวว่าในมณฑลหยินเยวี่ยอาจจะมีผู้พิทักษ์รัตติกาลระดับสุริยันตรีแค่สองคนเท่านั้น คนหนึ่งคือหัวหน้า อีกคนอาจจะเป็นเขา…ก่อนหน้านี้ยังไม่กล้ายืนยัน แต่ตอนนี้คงจะพิสูจน์ได้แล้วว่าหมอนี่คือสุริยันตรีจริงๆ!”
หลี่ฮ่าวพยักหน้ารับและดูออก
เขามองเห็นแสงสว่างนั่นมาตั้งแต่ไกล!
“อาจารย์ ผู้พิทักษ์รัตติกาลที่มณฑลหยินเยวี่ยมีสุริยันตรีแค่สองคนเองเหรอ”
“ประมาณนั้นละมั้ง”
หยวนซั่วพูดเสียงเบา “อย่าคิดว่าสุริยันตรีจะมีเยอะ…ถ้ามีเยอะจริงๆ เมื่อคืนคงไม่มีแค่ดับสวรรค์มาหรอก! ฉันเคยบอกเธอก่อนหน้านี้แล้วว่าหากฉันเข้าสู่ขอบเขตพันยุทธ์ ศัตรูอาจมีแค่สามถึงห้าคน มณฑลหยินเยวี่ยมีคนที่อยู่ลำดับสุริยันตรีแค่สามถึงห้าคนเท่านั้นแหละ!”
หลี่ฮ่าวทำท่าเข้าใจ พลางเอ่ยเสียงเบาว่า “งั้นตอนนี้อาจารย์ก็อยู่ในห้าลำดับแรกแล้วน่ะสิ”
แม้อาจารย์จะไม่ได้เลื่อนลำดับไปสูงกว่านั้น แต่ฆ่าสุริยันตรีตายไปหนึ่งคน…สุริยันตรีคนอื่นๆ จะกล้าดูถูกเขาอีกหรือ
หยวนซั่วยิ้มถ่อมตัวทีหนึ่ง “อย่าพูดแบบนี้…ห้าลำดับแรกเลยเหรอ”
ว่าแล้วก็ชะงักน้อยๆ หัวเราะเสียงเบากล่าว “ต่อให้เป็นคนที่อยู่อันดับแรกแต่กล้าหือกับฉันเหรอ ฉันเคยฆ่าสุริยันตรีมาก่อนนะ พวกเขาล่ะ ฉันคิดว่าฉันอาจจะเป็นคนแรกในมณฑลหยินเยวี่ยที่ฆ่าสุริยันตรีด้วยซ้ำ! เข้าใจหรือยัง”
ขอบเขตคือขอบเขต พลังการต่อสู้ก็คือพลังการต่อสู้ สุริยันตรีคนอื่นๆ แข็งแกร่งจริงแต่ก็ใช่ว่าจะฆ่าสุริยันตรีได้ ส่วนหยวนซั่วฆ่าอย่างไรไม่ต้องถาม แค่รู้ไว้ว่าเขาเคยฆ่าก็พอ!
แค่จุดนี้สุริยันตรีคนอื่นๆ ก็ไม่กล้าท้าสู้กับเขาโดยพลการแล้ว
ระหว่างที่คุยกันก็เข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ หยวนซั่วพูดต่อขึ้นว่า “ครั้งนี้ฆ่าสุริยันตรีคนนี้ไปได้ อาจารย์ของเธอก็ทุ่มเทไปไม่น้อย ไม่รู้ว่ารางวัลแห่งชัยชนะจะคุ้มค่าที่ฉันทุ่มเทไปหรือเปล่า”
รางวัลแห่งชัยชนะ!
เฮ่อเหลียนชวนที่อยู่ไกลออกไปสายตาดูแปลกไปเล็กน้อย
พวกมู่เซินก็ได้ยินเช่นกัน ขณะนี้ต่างยืนเงียบไม่ปริเสียงใดๆ
ส่วนหวงอวิ๋นกลับทำหน้าระอาใจ เขามองไปทางเฮ่อเหลียนชวนพลางกระซิบเสียงเบา “เมื่อคืนก่อนเขาจะไปบอกไว้ว่ารางวัลแห่งชัยชนะเป็นของเขาทั้งหมด…”
เรื่องนี้…จะทำอย่างไรดีล่ะ
เฮ่อเหลียนชวนไม่พูดอะไร
หยวนซั่ว เขาคุ้นเคยดีอยู่แล้ว!
“ศาสตราจารย์หยวน!”
เขาเป็นฝ่ายทักทายก่อนแม้จะยืนอยู่ไกลกัน ยิ้มเอ่ยว่า “ยินดีกับศาสตราจารย์หยวนด้วยที่ก้าวสู่ขอบเขตพันยุทธ์ ฆ่าสุริยันตรีเป็นคนแรกของแวดวงปรมาจารย์นักรบเมืองหยิน! เซียนบนดินตัวจริง!”
“ชมกันเกินไปแล้ว!”
หยวนซั่วหัวเราะพร้อมมือประสานตรงหน้า “โชคช่วยล้วนๆ! เจ้าหมอนี่สมองไม่ดี ฉันฟันมันไปมันยังไม่ตอบโต้คืน…พวกพลังเหนือธรรมชาติอาจจะขาดแคลนประสบการณ์ต่อสู้มากไปหน่อย ฉันก็ช่วยไม่ได้ ฟันไปไม่กี่ทีก็ตายซะแล้ว! ถ้ารู้แต่แรกว่าสุริยันตรีฆ่าง่ายขนาดนี้ หลายปีก่อนตอนที่ฉันยังไม่เลื่อนขั้นน่าจะลองดูสักตั้ง ไม่แน่อาจจะฆ่าสักคนแล้วเลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแล้วก็ได้!”
“…”
อึดอัด!
หวงอวิ๋นไม่รู้ว่าเฮ่อเหลียนชวนอึดอัดหรือไม่ แต่เขาน่ะอึดอัดมาก
ทว่าเหมือนจะถกเถียงเรื่องนี้กับปรมาจารย์นักรบพันยุทธ์ที่ฆ่าสุริยันตรีไม่ได้
เฮ่อเหลียนชวนกลับไม่ใส่ใจ ยิ้มเอ่ยว่า “นั่นสิ ศาสตราจารย์หยวนฝึกวิชายุทธ์มาหลายสิบปี เคยเป็นใหญ่ตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีก่อน พวกเราเป็นแค่คนรุ่นเด็กอาวุโสน้อยกว่า ถ้าพูดถึงประสบการณ์ย่อมสู้ศาสตราจารย์ไม่ได้อยู่แล้ว”
เอ็งพูดถูก แต่เอ็งก็แก่มากแล้ว!
พูดเรื่องพวกนี้ทำไมกัน!
ตอนยังไม่เลื่อนขั้นคนๆ นี้ไม่ได้แสดงท่าทีเหิมเกริมขนาดนี้ พอเลื่อนขั้น…แม้แต่สุริยันตรียังกล้าเถียง
หยวนซั่วก็ไม่มีอารมณ์ต่อปากต่อคำกับเขา หัวเราะทีหนึ่งก็หันไปมองหลี่ฮ่าว “ไป ไปเก็บพลังลี้ลับพวกนั้นที่ลุงหวงช่วยเก็บให้เธอมา แล้วเก็บข้าวของที่ควรเก็บซะ ครั้งนี้เราขาดทุนกันเยอะ ต้องหาอะไรมาชดเชยบ้าง!”
ว่าแล้วก็หันไปมองหลิวหลง “กระบี่ของศิษย์ฉันล่ะ”
หลิวหลงไม่พูดอะไรแค่ดึงกระบี่เล่มเล็กๆ ออกมา เฮ่อเหลียนชวนที่ยืนข้างๆ ดวงตาวูบไหว กระบี่ตระกูลหลี่หรือ
ก่อนหน้านี้เขายังไม่รู้ว่าจะอยู่ในมือของหลิวหลง
ไม่อย่างนั้นคงขอดูสักหน่อย
เสียดายตอนนี้หยวนซั่วอยู่นี่ด้วย เขาก็พูดอะไรไม่ได้
หลี่ฮ่าวเดินไปรับกระบี่มา ถามเสียงเบาว่า “ลูกพี่ คนอื่นๆ ล่ะ”
ตอนนี้มีเพียงหลิวหลงอยู่ตรงนี้ พวกหลิวเยี่ยนไม่อยู่
“รักษาแผล! อู๋เชาบาดเจ็บไม่เบา คนอื่นๆ ก็มีแผลตามเนื้อตัวกันหมด อวิ๋นเหยากำลังรักษาตัวให้พวกเขาอยู่”
หลี่ฮ่าวหยักหน้ารับ
จากนั้นก็มองผู้เฒ่าท่านนั้นหรือลุงหวงที่หยวนซั่วเอ่ยถึง สื่อความหมายชัดเจนมากว่า…รบกวนช่วยเก็บพลังลี้ลับให้ผมที เจ้านี่คนทั่วไปเก็บไม่ได้
หวงอวิ๋นทำท่าอึดอัดใจหน่อยๆ พลางมองไปทางเฮ่อเหลียนชวนอีกที
เฮ่อเหลียนชวนกลับไม่พูดอะไร ยามที่สุริยันตรีมีชีวิตอยู่นั้นมีคุณค่ามาก แต่เมื่อตายไป…ก็เท่านั้นแหละ!
ไม่มีใครคาดหวังจะเอาพลังลี้ลับจากการฆ่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ นอกจากคนอย่างหลิวหลง
……………………………………………………………