STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา - ตอนที่ 46-3 ทะลวงร้อย (3)
ตอนที่ 46 ทะลวงร้อย (3)
อย่างเคล็ดวิชาดาบโลหิต หรือเคล็ดวิชาห้าปาณภูต หรือจะเป็นวิชาคายรับ…
ความจริงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่หยวนซั่วก็เรียนรู้มาจากตำราโบราณทั้งสิ้น ซึ่งตัวเขาก็ได้ทำการปรับเปลี่ยนบางส่วนให้เหมาะสมกับการฝึกปรมาจารย์นักรบในยุคปัจจุบันมากขึ้น
แต่นี่เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น!
มีอีกมากมายที่เขาคิดว่าเป็นเพียงความคิดของชาวโบราณ เป็นเพียงความคิดเพ้อฝันของชาวโบราณ
แต่พอตอนนี้ลองมองอีกที นี่มันเรื่องจริงหรอกหรือ
จนถึงตอนนี้หยวนซั่วยังมีความคิดอันยิ่งใหญ่อีกอย่าง เมื่อทำการปะติดปะต่อเนื้อหาในตำราโบราณทั้งหมดแล้วจะช่วยสร้างเส้นทางใหม่แก่วิชายุทธ์ได้หรือเปล่านะ
เนื้อหาที่บันทึกในตำราโบราณบางส่วนขาดหายไป
แต่ไม่เป็นไร!
เขาสามารถกู้มันคืนได้ทีละนิดแล้วค่อยๆ ทำการปรับแก้ไขไป เคล็ดวิชาห้าปาณภูตในทีแรกก็ไม่ได้สมบูรณ์เช่นกัน แต่ทุกอย่างเขาเป็นคนกู้กลับคืนมาด้วยตัวเอง พอตอนนี้ฝึกดูแล้วก็ดีไม่หยอก
เพียงแต่ระหว่างนี้อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย
หลี่ฮ่าวหยักหน้ารับโดยไม่คิดปฏิเสธเลย
เขาเป็นคนว่าง่ายแบบนี้มาโดยตลอด
“งั้นก็เริ่มตั้งแต่คืนนี้เลย…”
“คืนนี้ไม่ได้!”
หลี่ฮ่าวรีบตอบ “คืนนี้ผมจะดูดซับพลังลี้ลับ อาจารย์ ไม่รู้ว่าอาจารย์สังเกตบ้างหรือเปล่าว่าในบรรดาพลังลี้ลับ พลังลี้ลับมีธาตุสามารถแบ่งแยกออกจากกันได้ แยกส่วนหนึ่งออกเป็นพลังมีธาตุและอีกส่วนแยกออกเป็นพลังลี้ลับไร้ธาตุ! พลังลี้ลับไร้ธาตุช่วยเสริมสร้างร่างกายภายนอกให้แข็งแรง อันที่มีพลังธาตุช่วยเสริมสร้างอวัยวะภายในให้แข็งแกร่ง…แน่นอนว่าผมก็ยังไม่มั่นใจ แต่ก่อนหน้านี้ผมแยกพลังธาตุดินแล้วเสริมสร้างม้ามให้แข็งแรงขึ้นได้!”
หยวนซั่วชะงักน้อยๆ
เรื่องนี้เขาไม่เคยสักเกตเลยจริงๆ!
“เธอแน่ใจเหรอ”
“ครับ!”
หลี่ฮ่าวพูดอีก “แน่นอนว่าต้องใช้พลังของกระบี่เล่มเล็กเสริม ไม่งั้นก็ทำไม่ได้!”
หยวนซั่วเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ขึ้นมา พูดพึมพำว่า “พลังลี้ลับช่วยเสริมสร้างอวัยวะให้แข็งแรงได้งั้นเหรอ ปรมาจารย์นักรบในขอบเขตสิบสังหารกับทะลวงร้อยล้วนทำได้แค่สร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก กล้ามเนื้อ ยกเว้นบรรลุถึงขอบเขตพันยุทธ์ถึงจะเริ่มเปลี่ยนถ่ายเลือดแล้วค่อยย้อนกลับไปอวัยวะภายในโดยผ่านการเปลี่ยนถ่ายเลือด! แต่เป็นกระบวนการที่ยาวนานมาก!”
เขาเริ่มเอะใจ พลังลี้ลับไม่กลืนกินพลังภายในหรอกหรือ
แน่นอนว่าตอนดูดซับความจริงคงไม่รู้สึกอะไร แต่พอเขาครอบครองแหล่งที่มาของพลังลี้ลับ เขาถึงค้นพบว่าสิ่งนั้นสามารถกลืนกินพลังภายในได้
ทว่าตอนนี้หลี่ฮ่าวกลับบอกว่าสามารถใช้เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับอวัยวะภายในได้
งั้นก็เท่ากับว่า…มีทางลัดน่ะสิ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ
แล้วแบบนี้แตกต่างอย่างไรกับการดูดซับพลังลี้ลับโดยตรงล่ะ
คุณสมบัติของกระบี่เล่มเล็กคืออะไรกันแน่
ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเขา เขามองไปยังหลี่ฮ่าวแล้วพูดเสียงพึมพำว่า “ในขอบเขตพันยุทธ์ นอกจากพลังจิตวิญญาณแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความแข็งแรงของอวัยวะภายใน แบบนี้ถึงจะนับว่าเป็นเทพเซียนบนดินอย่างแท้จริง! ไม่งั้นต่อให้เป็นพันยุทธ์ แต่ยาพิษบางอย่างก็อาจนำไปสู่ความตายได้! อวัยวะภายในไม่แข็งแรงมากพอ กระทั่งกระดูกเส้นเอ็นผิวหนังภายนอก ต่อให้ฝึกพลังภายเฮือกหนึ่ง…ก็ยากจะสร้างความแข็งแรงให้กับอวัยวะภายในได้!”
เงียบไปพักหนึ่งก็พูดอีกครั้ง “เธอเตรียมดูดซับพลังลี้ลับเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับอวัยวะภายในเหรอ”
“ครับ ผมมีความคิดนี้!”
หลี่ฮ่าวหยักหน้า “อาจารย์ ผมคิดว่าเพียบพร้อมทั้งภายนอกและภายในบางทีอาจจะได้ผลที่ดียิ่งกว่า! และค่อนข้างจะครบสูตรมากกว่า! ไม่งั้นเกิดการปะทะกันเมื่อไรพลังภายในสะเทือนอาจจะทำลายอวัยวะภายในได้ทุกเมื่อ นี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ปรมาจารย์นักรบมากมายบาดเจ็บภายใน”
แทบไม่มีปรมาจารย์นักรบคนไหนไร้บาดแผลภายในเลย การที่ไม่มีแผลติดตัวบ่งบอกได้เพียงอย่างเดียวว่า คุณเป็นแค่ปรมาจารย์นักรบตัวปลอมไม่สันทัดการต่อสู้!
“ก็ดีเหมือนกัน!”
หยวนซั่วพยักหน้า “ถ้าเป็นไปได้ก็ต้องสร้างความแข็งแรงให้กับอวัยวะภายในด้วย! เราทำไม่ได้เพราะเราไม่มีวิธี แต่ถ้ามี…ก็ต้องรีบสร้างความแข็งแรงให้กับอวัยวะภายในก่อนที่พลังกระบี่เล่มนั้นของเธอจะหมดไป!”
“ถ้าทำสำเร็จ มันจะมีส่วนช่วยต่อเส้นทางในอนาคตเธอมากเลยนะ!”
“กลัวก็แต่ว่าพลังกระบี่จะน้อยเกินไป ไม่พอให้เธอใช้”
ส่วนของเขาเขาไม่คิดที่จะใช้ เพราะเขาสัมผัสได้ว่าหากเขาใช้ อาจจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงได้เพียงน้อยนิดพลังก็หมดแล้ว
หากเป็นเช่นนี้สู้ให้หลี่ฮ่าวใช้สร้างรากฐานแก่เขาให้ดียังจะดีเสียกว่า
“หยุดกินได้แล้ว!”
เห็นหลี่ฮ่าวยังมีอารมณ์กินข้าวต่อ หยวนซั่วก็หิ้วคอเขาขึ้นมาอย่างป่าเถื่อน กินอยู่ได้ ถ้ารู้แต่แรกว่าเธอมีธุระฉันคงไม่ให้เธอกิน!
หลี่ฮ่าวเองก็ไม่สนใจแต่เลือกที่จะทานต่อ เคี้ยวเนื้อไก่ในปากอย่างละเอียดก่อนกลืนลงท้องไปถึงพอใจ
……
บ้านหยวนซั่วมีห้องฝึกวิชายุทธ์ขนาดใหญ่
วันที่อากาศดีเขาจะฝึกวิชายุทธ์กลางลานบ้าน
แต่หากอากาศไม่ดีก็จะฝึกในบ้าน
เขาจับหลี่ฮ่าวโยนลงบนฟูก หยวนซั่วก็รีบพูดว่า “รีบๆ เริ่มได้แล้ว ดูดซับให้ฉันดูหน่อย!”
“อาจารย์!”
หลี่ฮ่าวรีบตอบ “ไม่รีบครับอาจารย์ ผมรู้สึกว่าผมใกล้จะเข้าสู่ทะลวงร้อยแล้ว แต่อะไรคือทะลวงร้อยเหรอ ทะลวงร้อยมีเอกลักษณ์เช่นไร การก้าวข้ามสู่ขอบเขตนี้มีข้อควรระวังอะไรไหมครับ”
สิ่งเหล่านี้เขาไม่รู้เลยสักอย่างเดียว!
หยวนซั่วชะงัก…สักพักถึงได้สติพลันคิดในใจ แม้ตนจะบอกตลอดว่าหลี่ฮ่าวใกล้จะเข้าสู่ทะลวงร้อยแล้ว แต่พริบตาเดียวอีกฝ่ายก็ใกล้จะเข้าสู่ทะลวงร้อยแล้วจริงๆ เขาถึงพูดอะไรไม่ออก
เขาเข้าสู่ทะลวงร้อยตอนไหนกันนะ
เริ่มฝึกวิชายุทธ์ตั้งแต่ไม่กี่ขวบ สิบกว่าปีก้าวสู่ขอบเขตสิบสังหาร ยี่สิบกว่าปีเข้าสู่ทะลวงร้อย ราวๆ สี่สิบปีถึงระดับสุดยอดของทะลวงร้อย แสดงอิทธิฤทธิ์ทั่วมณฑลหยินเยวี่ยกลายเป็นใหญ่ในโลกของปรมาจาย์นักรบ
สามสิบปีให้หลังเขาพยายามคิดหาวิธีก้าวสู่ขอบเขตพันยุทธ์มาโดยตลอด เพิ่งมาสำเร็จเอาตอนนี้
แต่หลี่ฮ่าว…
หลังจากพลังลี้ลับผงาดขึ้น พลังเหนือธรรมชาติผงาดขึ้น สำหรับปรมาจารย์นักรบแล้วความจริงก็เป็นเรื่องดี อย่างน้อยตอนนี้ก็มีพลังลี้ลับที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตนได้ง่ายขึ้น!
มีความคิดหนึ่งวาบเข้ามาในหัว พลันนึกได้ว่าตนไม่ได้สอนเรื่องเหล่านี้แก่หลี่ฮ่าวเลยรู้สึกผิดหน่อยๆ
ในฐานะผู้แข็งแกร่งพันยุทธ์ ลูกศิษย์สายตรงของตนกลับไม่รู้วิชายุทธ์เหล่านี้เลย บอกใครไปคงขายหน้าแย่!
“สิบสังหาร ทะลวงร้อย ฉันเคยบอกเธอก่อนแล้วว่าเป็นสายพลังกายบริสุทธิ์! พอมาถึงพันยุทธ์จะเริ่มเกี่ยวข้องกับชั้นจิตวิญญาณหรือก็คือพลังจิตวิญญาณที่เรามักพูดกัน! ฉะนั้นพันยุทธ์แยกแยะได้ง่ายที่สุด! ”
“ถ้าเป็นสิบสังหารจะเกิดพลังภายใน เส้นเอ็นกระดูกลั่นพร้อมกัน ซึ่งตอนนั้นจะบ่งบอกว่าเธอก้าวสู่กระบวนการเป็นปรมาจารย์นักรบอย่างแท้จริง! ส่วนพลังภายในเริ่มมาจากการฝึกวิทยายุทธ์หรือเคล็ดวิชาลับในชีวิตประจำวัน…ตอนนี้มีทางลัดเพิ่มอีกอย่างนั่นก็คือดูดซับพลังลี้ลับไร้ธาตุ เพราะจะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและช่วยเพิ่มพลังภายในของตัวเองอย่างรวดเร็ว แต่ก็อาจจะสร้างภาระที่หนักหน่วงให้แก่ร่างกาย เป็นดาบสองคม อันนี้ต้องชั่งใจเอาเอง!”
“ขั้นตอนการเป็นสิบสังหารก็คือขั้นตอนเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่พลังภายใน! พลังภายในแข็งแกร่ง ร่างกายก็จะแข็งแกร่งตามไปด้วย มันเชื่อมกัน!”
“ส่วนทะลวงร้อย…ทะลวงร้อยคือสายนักรบที่แท้จริง ในอดีตเป็นสัญลักษณ์บนสมรภูมิรบ หากฆ่ากองทัพทหารร้อยคนได้ถึงจะเรียกว่าทะลวงร้อย! แต่ยุคปัจจุบันไม่ถือสาเรื่องพวกนี้แล้ว เพราะในเมื่อไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เธอจะเจอกองทัพนับร้อยคนที่ไม่พกอาวุธปืนไฟสู้กับเธอ!”
“ฉะนั้นตอนนี้ขอบเขตก็ส่วนขอบเขต การลงสนามจริงก็ส่วนลงสนามจริง!”
หลี่ฮ่าวตั้งใจฟังและพยักหน้าไม่หยุด
“ทะลวงร้อยมีเอกลักษณ์หนึ่งคือพลังภายในแผ่ออกมา!”
หลี่ฮ่าวชะงัก แผ่ออกมาอย่างนั้นหรือ
หยวนซั่วพูดต่อ “ในร่างกายมนุษย์ ไม่ว่าพลังลี้ลับก็ดีหรือพลังภายในก็ดีล้วนมีคุณสมบัติปิดผนึก! เมื่อพลังภายในของเธอแผ่ทะลุผ่านร่างกายเพื่อปกป้องร่างกายตนเองจนกระทั่งทำร้ายศัตรู หากว่ากันตามขอบเขตแล้วเธอก็อยู่ลำดับขั้นทะลวงร้อยล่ะ!”
………………………………………………………………………….