STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา - ตอนที่ 48-5 มังกรอำพราง (5)
ตอนที่ 48 มังกรอำพราง (5)
อาจารย์ลูกศิษย์สองคนวิ่งแจ้นไปทุกหนแห่งตลอดทั้งคืน จนกลางดึกก็ได้เงาโลหิตมาครบเจ็ดตัวและเหลือหนึ่งตัวไว้ให้อาจารย์ โดยหลี่ฮ่าวเอามาเจ็ดตัว
คืนนี้หลี่ฮ่าวก็ยังไม่มีเวลาไปเรียน
คืนนี้หยวนซั่วเองก็ไม่มีเวลาสอน เขาเอาเงาโลหิตเข้าไปในห้องหนังสือเตรียมศึกษาวิจัย
ส่วนหลี่ฮ่าวก็ไม่รีบร้อนที่จะดูดซับพลังเงาโลหิตในคืนนี้ เขายังเหลือพลังสายฟ้ากับลมอยู่อีกหนึ่งลูกบาศก์ หลี่ฮ่าวอยากลองสักหน่อยว่าพลังธาตุสองชนิดนี้จะมีข้อดีอะไรต่อเขาบ้าง
พลังลี้ลับหนึ่งลูกบาศก์น้อยมาก แต่ลองดูก่อนแล้วกัน
พลังห้าสายต่ออวัยวะภายในห้าชนิด พลังสายฟ้ากับลมตรงกับอวัยวะอะไรนะ
ไม่นานหลี่ฮ่าวก็เริ่มดูดซับพลังสายฟ้าก่อน
พลังสายฟ้าหนึ่งลูกบาศก์เข้าสู่ร่างกาย หลี่ฮ่าวยังไม่รีบใช้พลังกระบี่ช่วยปรับความสมดุลของมัน แต่ปล่อยให้พลังสายฟ้าปะทะอยู่ภายใน สมแล้วที่พลังธาตุสายฟ้าขึ้นชื่อว่าเป็นพลังที่ทำลายล้างสูงและกระแทกรุนแรงที่สุด
ในบรรดาพลังทั้งหมดที่หลี่ฮ่าวเคยพบเจอมา หากพูดถึงเรื่องพลังกระแทกสงสัยจะเป็นพลังจากมีดที่รุนแรงกว่าหน่อย ส่วนชนิดอื่นๆ ยังห่างชั้นอยู่มาก
ทว่าต่อให้พลังกระแทกรุนแรง แต่หลี่ฮ่าวลองสัมผัสดูแล้วกลับพบว่าข้อดีต่อการปรับเปลี่ยนร่างกายก็ไม่ต่างจากพลังลี้ลับชนิดอื่นมาก ผลลัพธ์พอๆ กัน
เมื่อกระตุ้นพลังภายในทีหนึ่งก็เริ่มปล่อยมันออกมา ทว่าไม่อาจกระตุ้นกลอนล็อกพลังเหนือธรรมชาติให้ออกมาได้
เห็นได้ชัดว่าหลี่ฮ่าวไม่เหมาะกับพลังสายฟ้านัก
เพราะไม่สามารถกระตุ้นเขาให้กลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้
หลี่ฮ่าวก็ไม่คิดที่จะสนใจ หากลูกบาศก์เดียวกลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้คงง่ายเกินไปหน่อยแล้ว
เขาดึงพลังจี้หยกกระบี่ออกมา ปรับแรงกระแทกของพลังสายฟ้าอย่างรวดเร็ว สักพักพลังดั้งเดิมที่ปะปนด้วยพลังสายฟ้าก็พลุ่งพล่านไปทั้งร่าง ผ่านไปสักพักพลังนี้ก็ค่อยๆ หลอมรวมไปอยู่ในกระดูกอย่างเงียบๆ
หลี่ฮ่าวชะงักเล็กน้อย…กระดูกหรือ
วินาทีถัดมาความรู้สึกเสียวซ่านแผ่กระจาย เหมือนถูกไฟช็อตเบาๆ พร้อมความรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว
“อ๊าก!”
หลี่ฮ่าวร้องครางเสียงเบาก่อนประตูห้องฝึกวิชายุทธ์จะถูกเปิดออกในพริบตา
หยวนซั่วมองหลี่ฮ่าวแวบหนึ่ง พอเห็นเขาทำหน้าดื่มด่ำครางเสียงก็ขมวดคิ้วน้อยๆ มองเขาแวบหนึ่งพลางเอ่ยเสียงนิ่ง “วัยรุ่น ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะ! แต่เธอฝึกวิชายุทธ์บ้านอาจารย์ ก็อย่าคิดเรื่องต่ำตมในห้องฝึกสิ! กลางคืนดึกดื่นไม่หลับไม่นอนแต่ก็ไม่ฝึก คิดแต่เรื่องเหลวไหล…ถ้าเธอต้องการขนาดนั้น…เธอก็หาวิธีจัดการเอาเอง!”
“เปล่านะ อาจารย์ ผม…”
“พอแล้ว ไม่ต้องอธิบาย!”
หยวนซั่วโบกมือปัด “ฉันก็ผ่านวัยนั้นมาก่อน ฉันเข้าใจ! คนฝึกวิชายุทธ์เลือดในตัวร้อนรุ่ม มีความต้องการด้านนี้มากกว่าคนทั่วไป แต่สิ่งที่ฉันทึ่งในตัวเธอก็คือเธอไม่ต้องใช้ของนอกกายช่วยแต่กลับรู้สึกถึงมันได้…ยอดมนุษย์จริงๆ!”
ว่าแล้วก็ทำท่าอึ้งทึ่งหน่อยๆ ทั้งส่ายศีรษะอีกทีแล้วพูดว่า “ช่างเถอะ ตลอดหลายปีมานี้ของฉัน ความจริงก็เตรียมของดีๆ ไว้เหมือนกัน…เดี๋ยวเธอไปเอาที่ห้องหนังสือเองนะ แถวที่สามของห้องหนังสือเป็นหนังสือประเภทนั้นหมด ดีกว่าเธอจินตนาการเอง หนุ่มน้อย ยอดมนุษย์จริงๆ นะ!”
“เปล่านะอาจารย์ ผมกำลังฝึกอยู่!”
“เข้าใจ!”
หยวนซั่วพยักหน้าตอบ “ตอนนั้นฉันก็พูดอย่างนี้เหมือนกัน อาจารย์ของอาจารย์ก็จับได้คาหนังคาเขา ฉันก็บอกไปว่าฉันกำลังฝึกเหมือนกัน ข้ออ้างเหมือนกันเปี๊ยบ”
พูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกไป
ข้ออ้างเดิมๆ!
ตอนที่ฉันยังหนุ่มก็เคยโกหกอาจารย์แบบนี้เหมือนกัน เด็กผู้ชายน่ะ พอถูกจับได้คาหนังคาเขาย่อมรู้สึกอับอายขายหน้าและต่อให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมรับแน่นอน นั่นเป็นเรื่องปกติ
หลี่ฮ่าวตาโตอ้าปากค้าง
ไม่นานก็ส่ายหน้าอย่างพูดไม่ออก อาจารย์นี่จริงๆ เลย…หมดคำจะพูดแล้ว เขากำลังฝึกอยู่จริงๆ คิดอะไรอยู่น่ะ
‘พลังธาตุสายฟ้ามีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกเหรอ’
หลี่ฮ่าวในตอนนี้คร้านจะพูดอีก สักวันอาจารย์จะต้องเข้าใจ ตอนนี้เขาชักจะตื่นเต้นขึ้นมาบ้างแล้ว พลังธาตุลมล่ะ
ลองต่อแล้วกัน!
ครั้งนี้เขารีบดูดซับพลังธาตุลมเข้าไป พลังกระแทกของลมไม่รุนแรงเท่าพลังธาตุสายฟ้า แต่พอเข้าสู่ร่างกายไปกลับทำให้หลี่ฮ่าวรู้สึกเหมือนกำลังโบยบิน
มีความรู้สึกกำลังล่องลอย!
เขาลองใช้พลังจี้หยกกระบี่ปรับความสมดุลดู
ครั้งนี้พลังธาตุลมถูกดึงออกมาไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างอีกครั้ง ผ่านไปสักพักหลี่ฮ่าวก็ลองสังเกตอย่างดี คอยสัมผัสอย่างละเอียด…แต่กลับไม่รู้สึกอะไร
ทว่าเขากลับรู้สึกได้รางๆ ว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป
เขาลุกขึ้นลองอีกครั้ง หลี่ฮ่าวแววตาสั่นไหวเล็กน้อย ‘พลังลม…เหมือนจะทำให้ตัวเราเบาขึ้นนิดหนึ่ง!’
ใช่แล้ว ส่วนพลังหลอมเข้าไปในส่วนไหนของร่างกายหลี่ฮ่าวไม่ทันสังเกต
แต่จากความรู้สึกในตอนนี้เดาว่าอาจจะหลอมเข้าไปในเนื้อกาย ไม่ได้มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมบำรุง แต่ทำให้ตัวเบาขึ้น
‘ถ้าอย่างนี้เราก็พัฒนาได้เร็วมาก!’
ปรมาจารย์นักรบ วัดกันที่ความเร็ว พลัง และความแข็งแรงของร่างกาย
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแก่นแท้!
พลังธาตุลมอาจจะหลอมเข้าในเนื้อกายช่วยให้ตนตัวเบาขึ้นดุจนกตัวหนึ่ง บางทีอาจจะเป็นความรู้สึกนี้
เขารีบใช้วิชาหายใจและเริ่มใช้เคล็ดวิชาวิหค!
เคล็ดวิชาวิหคหรือวิชาตัวเบาที่แท้จริงของห้าปาณภูต
หลี่ฮ่าวเหวี่ยงแขนสองข้างทำท่าเหมือนนกกระพือปีก เมื่อก่อนพอเขาทำท่านี้จะเหมือนแม่ไก่ตีปีก แต่ครั้งนี้หลี่ฮ่าวรู้สึกถึงบางอย่าง…ตัวเบามากขึ้น แค่ขยับท่าเล็กน้อยเขาก็เคลื่อนไปด้านหน้าระยะหนึ่งแล้ว
หลี่ฮ่าวดวงตาลุกวาว!
พลังธาตุลมดีเลย ถ้าดูดซับเข้าไปเยอะๆ ปรับเปลี่ยนร่างกายให้ดีขึ้น บางทีวันหนึ่งตนอาจจะบินได้จริงๆ เช่นนี้เมื่อเจอผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่บินได้ตนก็รับมือได้แล้ว
“สายฟ้าซ่อมกระดูก ลมช่วยให้ตัวเบา พลังธาตุห้าสายบำรุงอวัยวะภายในทั้งห้า…”
หลี่ฮ่าวเกิดความรู้สึกอย่างหนึ่งว่าหากตนแข็งแกร่งขึ้นในสายปรมาจารย์นักรบเมื่อไร บางทีอาจจะเก่งรอบด้านมากกว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ มีจุดอ่อนน้อยลงและจุดแข็งเพิ่มขึ้น อย่างน้อยก็ไม่เหมือนพลังธาตุไฟที่วันฝนตกก็พลังลดฮวบลงแบบนั้น!
คืนนี้หลี่ฮ่าวตื่นเต้นมาก เขาใช้เคล็ดวิชาวิหคไม่หยุด กระทั่งวิ่งชนนู้นนี้จนหัวปูดโปนไปหมด
หยวนซั่วที่อยู่ห้องข้างๆ ส่ายศีรษะไม่หยุด
เจ้าเด็กโง่ เคล็ดวิชาวิหคไม่ใช่วิชาที่เธอจะใช้ได้จริงๆ
เคล็ดวิชาวิหค ในสถานการณ์ทั่วไปแล้วต้องไปถึงขั้นทะลวงร้อยระดับสมบูรณ์ถึงจะพอใช้งานได้ แถมต้องใช้ร่วมกับพลังจิตด้วย ทว่าผลลัพธ์กลับไม่ดีไปกว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเลย อาจพอจะกระโดดข้ามไปในระยะหลายร้อยเมตรได้แต่ต้องรีบทะยานตัวเอาเท้าแตะพื้นอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าถ้าหลี่ฮ่าวอยากเรียนเขาก็คร้านจะห้าม
คืนนี้หยวนซั่วนอนไม่หลับ เขาเองก็ไม่ได้รักการนอนเท่าไร เขาเลยอ่านหนังสือแถวที่สามบนชั้นหนังสือทั้งคืน พานนึกถึงว่าพรุ่งนี้อาจจะถูกหลี่ฮ่าวหอบกลับไปหมดเขาก็แอบรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง
พักใหญ่ก็ดึงหนังสือเล่มเก่าที่กระดาษเริ่มเหลืองออกมาจากชั้นที่สามแล้วนำไปซ่อนไว้อีกจุดหนึ่ง จากนั้นถึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
ที่เหลือก็ให้ลูกศิษย์ตัวเองแล้วกัน!
เล่มนี้เป็นเล่มที่ตนอ่านมาตั้งแต่ยังหนุ่ม ทำใจให้ไม่ลงจริงๆ
………………………………………………………………………………………