STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา - ตอนที่ 6-3 เจ้าเสือดำ (3)
ตอนที่ 6 เจ้าเสือดำ (3)
‘ทำไมเจ้าเสือดำถึงเลียจี้หยกนี่นะ?’
‘รสชาติอร่อย?’
บ้าน่า!
ตอนเด็กๆ หลี่ฮ่าวเลียตั้งหลายครั้ง แน่นอนพอตอนนี้คิดขึ้นมาหลี่ฮ่าวก็ความคิดล่องลอยไปไกลอีกครั้ง จากนั้นก็ฉุกคิดขึ้นว่าตอนที่พ่อแม่ให้จี้หยกนี้คงไม่เคยถูกล้างมาก่อนเลยสินะ?
คิดไม่ถึงว่าเราเองก็เลียมันไปไม่น้อยเช่นกัน!
เช่นนั้นตอนอยู่ในมือของพ่อหรือหลังจากผ่านการสืบทอดมาตั้งหลายปี เมื่อก่อนเคยมีหมาเลียไหมนะ?
ถึงจี้หยกจะเคยถูกเลียมาก่อน…หรือไม่ก็ตามแต่มันก็สกปรกเหมือนกัน ไม่รู้ว่าถูกคนใช้ห้อยคอพกติดตัวมากี่คนแล้ว อีกอย่างตอนเด็กๆ เขาเองก็ชอบเอามาอมในปากเช่นกัน
“จะคิดถึงมันไม่ได้ พอคิดแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียดชะมัดเลย!”
หลี่ฮ่าวส่ายศีรษะ เรื่องแบบนี้ไม่ควรคิด พอคิดขึ้นมาสิ่งที่ทานเข้าไปไม่รู้ว่าน่าขยะแขยงขนาดไหน แบบนี้ทำเป็นไม่รู้เลยจะดีกว่า
“วันนี้เจ้าเสือดำดูมีปฏิกิริยาแปลกๆ แต่ก็บ่งบอกว่าจี้หยกนี้มีจุดที่แตกต่างกันออกไปจริงๆ”
ภายในใจหลี่ฮ่าวคาดเดาพลางพินิจความน่าจะเป็นไปได้แต่ละข้อ
ไม่นานหลี่ฮ่าวก็ลุกขึ้น บนมือของเขาและจี้หยกเต็มไปด้วยน้ำลายของเจ้าเสือดำ ตอนนี้ล้างก่อนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า
……
พอเดินกลับเข้ามาภายในห้อง หลี่ฮ่าวก็เดินเข้าไปล้างมือในห้องครัว จากนั้นก็เทน้ำร้อนใส่แก้วแล้วโยนจี้หยกใส่ลงแก้วไป ฆ่าเชื้อก่อนแล้วค่อยว่ากัน
เขาเตรียมตัวว่าอีกเดี๋ยวจะลองไปดูบ้านจางหย่วน จี้หยกยังต้องเอาติดตัวไปด้วย
หากไม่เอาไปด้วยเขากลัวโดนขโมย แน่นอนว่าเขากำลังสงสัยว่าจี้หยกนี้อาจจะเป็นยันต์ป้องกันตัวได้ บางทีหากเจอเงาโลหิตคงใช้ประโยชน์จากจี้หยกนี้ได้ หลี่ฮ่าวไม่กล้าทิ้งของชิ้นนี้ไว้บ้านโดยไม่เหลียวแล
ตอนที่จางหย่วนตายเมื่อปีก่อน เหตุที่เงาโลหิตไม่ได้ทำอะไรเขาเพราะจี้หยกนี้มีส่วนด้วยหรือเปล่านะ เวลานี้หลี่ฮ่าวมิอาจแน่ใจได้
ครั้นแช่ในน้ำร้อนไปได้พักหนึ่ง หลี่ฮ่าวก็หยิบจี้หยกออกมา จากนั้นก็ใช้น้ำสะอาดทำความสะอาดต่ออีกครู่หนึ่ง
ขณะเตรียมจะสาดน้ำร้อนทิ้ง ทันใดนั้นใต้ฝ่าเท้าก็มีบางอย่างเคลื่อนไหว
“โฮ่งๆ!”
เจ้าเสือดำเข้ามาอย่างนั้นเหรอ!
หลี่ฮ่าวกลัวขนของเจ้าเสือดำร่วงเกลื่อนห้องเพราะคร้านจะทำความสะอาดปกติเลยไม่ให้เจ้าเสือดำเข้ามา ส่วนเจ้าเสือดำเองก็ว่าง่ายไม่เคยเข้ามาเลยสักครั้ง ทว่าเมื่อครู่กลับเดินตามหลี่ฮ่าวเข้ามาในครัว!
หลี่ฮ่าวก้มหน้าลงมองก็เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวังพร้อมแววตาที่จับจ้องถ้วยในมือของหลี่ฮ่าว
ในถ้วยเป็นน้ำที่ใช้ล้างทำความสะอาดจี้หยกเมื่อครู่
หลี่ฮ่าวผุดนึกบางอย่างขึ้นได้เลยรีบเอาถ้วยวางลงบนพื้น เจ้าเสือดำไม่สนว่าเป็นน้ำร้อนด้วยซ้ำ มันแล้วแลบลิ้นเลียน้ำนั้นอย่างบ้าคลั่ง
ถึงแม้จะถูกลวกลิ้นจนร้องเอ๋งไปหลายทีแต่มันก็ยังไม่ยอมแพ้อยู่ดี
“หืม?”
‘น้ำ…น้ำที่ใช้ทำความสะอาดจี้หยกนี่นะ?’
หลี่ฮ่าวแอบมองอยู่เงียบๆ พลางคิดคาดเดาต่างๆ นาๆ ในใจ น้ำที่ใช้ล้างทำความสะอาดฆ่าเชื้อจี้หยกมีความพิเศษอะไรอย่างนั้นเหรอ?
‘ไม่หรอกมั้ง ตอนเด็กๆ เราเองก็เลียไปไม่น้อยแต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลยนี่นา’
แน่นอนว่าพอโตแล้ว หลี่ฮ่าวย่อมไม่มีทางทำเรื่องน่าอายเช่นนี้หรอก
หลี่ฮ่าวในเวลานี้ยิ่งนึกแปลกใจยิ่งกว่าเดิม
เพราะเหมือนเขาจะจับสังเกตสิ่งผิดปกติบางอย่างได้ ทั้งๆ ที่ตามองเห็นว่าเจ้าเสือดำที่กำลังดื่มน้ำเดิมทีมีขนสีดำแห้งกร้านมอมแมม แต่ตอนนี้เหมือนว่าจะเงางามขึ้นอยู่รำไร
อีกทั้งหางของเจ้าเสือดำก็ส่ายไปมาด้วยความปิติชอบใจมากกว่าเดิม
“น้ำ น้ำที่ใช้แช่ทำความสะอาดจี้หยกนี่นะ!”
‘พลังลี้ลับ?’
‘น่าแปลก…หรือจะบอกว่านี่เป็นวิธีการที่ถูกต้อง คือใช้แช่น้ำแล้วดื่มอย่างนั้นเหรอ?’
หลี่ฮ่าวย่อตัวนั่งแล้วลูบไล้เจ้าเสือดำอีกครั้ง สัมผัสมือต่างไปจากเดิมจริงๆ!
ไม่ค่อยเหมือนเดิมแล้วจริงๆ มันลื่นมือมากกว่า ไม่ได้แข็งทื่อตำมือเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
ชั่วขณะนั้นหลี่ฮ่าวมองจี้หยกในมือทันทีเพราะรู้สึกเหมือนร้อนแผดเผาในมือรำไร หรือจะบอกว่า…พอจี้หยกแช่น้ำแล้ว ในน้ำจะมีพลังลี้ลับแฝงอยู่ด้วยอย่างนั้นเหรอ?
พลังลี้ลับที่ตนวิงวอนเฝ้าฝันอยากสัมผัสมาโดยตลอด หรือว่า…จะอยู่ในถ้วยนี้แล้ว?
“นี่…ถ้านี่เป็นความจริง นี่เราต้องอาศัยหมาตัวหนึ่งถึงจะค้นพบวิธีการใช้จี้หยกที่สืบทอดของตระกูลได้หรือนี่?”
สิ่งสำคัญก็คือกระบี่เล่มนี้เคยถูกสุนัขเลียด้วย
ถึงจะบอกว่าใช้น้ำร้อนลวกแล้วแต่หลี่ฮ่าวก็ยังนึกรังเกียจอยู่ดี แต่หากได้ผลจริง อย่าว่าแต่สุนัขเลียเลย ต่อให้… ต่อให้จะน่าขยะแขยงไปบ้างแต่หลี่ฮ่าวก็ไม่ใส่ใจเลยสักนิด
‘หรือว่ากระบี่ดาราพรายจะมีพลังลี้ลับซ่อนอยู่ เพียงแต่ปกติไร้หนทางจะดึงพลังออกมาได้เลยต้องเอาแช่น้ำเพื่อถ่ายเทพลังสู่น้ำ แบบนี้เราถึงจะดูดซับพลังเข้าไปได้หรือเปล่านะ?’
หลี่ฮ่าวขยับสมองคิดอย่างรวดเร็ว ขนของเจ้าเสือดำเงางามขึ้นมาก เห็นได้ชัดว่าของธรรมดาทั่วไปย่อมทำไม่ได้อยู่แล้ว
สิ่งที่ทำได้ย่อมต้องมีความเกี่ยวพันกับพลังลี้ลับแน่นอน
จู่ๆ เวลานี้หลี่ฮ่าวก็รู้สึกทำสีหน้าไม่ถูก หากกล่าวเช่นนี้ก็เท่ากับว่าเขาถูกสุนัขจุดประกายความคิดจนค้นพบวิธีการใช้งานกระบี่ดาราพรายที่ถูกต้องอย่างนั้นเหรอ?
เขามองเจ้าเสือดำพลางพูดอะไรไม่ออก
เวลานี้เจ้าเสือดำดื่มน้ำจนหมดพร้อมสีหน้าอิ่มเอมใจ ครั้นเห็นหลี่ฮ่าวมองมามันก็ส่ายหางไปมาอย่างมีความสุขยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งนัยน์ตายังเผยให้เห็นความหลักแหลมที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อนด้วย
“เจ้าหมาตัวนี้…รู้สึกจะสื่อสารกับคนได้แล้วจริงๆ!”
หลี่ฮ่าวแอบทึ่งในใจ ผลลัพธ์ดีขนาดนี้เชียว?
ต่อมาเขาก็มองจี้หยก ฉับพลันก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา เจ้าเสือดำดื่มได้ไม่เป็นไรแถมได้ประโยชน์กลับมาอีก แล้วตนล่ะ?
เราดื่มได้ไหมนะ?
หากเราดื่มไปแล้วจะกลายเป็นผู้มีพลังลี้ลับสามารถเคลื่อนไหวได้ว่องไวแบบนั้นหรือเปล่านะ? เพราะตอนนี้เขามีอันตรายรอบด้าน
หากตอนนี้เขามีพลังลี้ลับ สำหรับหลี่ฮ่าวแล้วมันเปรียบดั่งสิ่งเล็กๆ ที่ช่วยให้เขารอดตายได้!
ดื่มเข้าไปคงไม่ตายหรอกมั้ง?
น่าจะไม่หรอก เพราะตอนเด็กๆ เขาเองก็เคยเลียไปตั้งหลายครั้ง อีกอย่างเจ้าเสือดำเองก็เป็นเพียงสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง มันทั้งดื่มทั้งเลียก็ไม่เห็นมันตายเลยนี่นา
หากไม่เป็นพิษเป็นภัยจนทำให้เจ้าเสือดำตาย คาดว่าก็คงไม่ทำให้ตนถึงตายเช่นกัน
‘หรือจะลองดูสักตั้ง…’
ครั้นความคิดนี้แวบเข้ามา หลี่ฮ่าวก็กดมันไว้ไม่อยู่อีกต่อไป
ในเมื่อเขาใฝ่ฝันอยากมีพลัง!
การตายของพวกจางหย่วน วันนี้ถูกคนสะกดรอยตาม เงาโลหิต ผู้พิทักษ์รัตติกาล…
แต่ละอย่างฉายวาบเข้ามาในสมองทำให้หลี่ฮ่าวอยากมีพลังลี้ลับเหลือเกิน เขาคิดหาวิธีให้ได้เข้าไปทำงานในกองตรวจการณ์เพื่อใกล้ชิดกับผู้พิทักษ์รัตติกาลเลยอยากมีพลังลี้ลับไว้ใช้สอดแนมได้
เวลานี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว เช่นนั้นจะมีเหตุผลใดต้องยอมแพ้ล่ะ
‘เราอยากลอง ถึงแม้จะเป็นอะไรไปอย่างน้อยก็แค่ตาย เงาโลหิตใกล้มาเยือนแล้ว ผู้พิทักษ์รัตติกาลเองก็เชื่อใจไม่ได้ ในกองตรวจการณ์เองก็เหมือนกะชอนล่อนแป้ง ไม่มีใครใช้งานได้ ไม่มีใครที่เชื่อใจได้…เรามีอะไรที่ต้องห่วงอีก?’
ลุยเลยดีกว่า!
หลี่ฮ่าวตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
เขาตบหัวเจ้าเสือดำไปทีจนทำเอาเจ้าเสือดำที่งงงวยเกือบเป็นลมสลบไป
หลี่ฮ่าวเอ่ยเสียงเบาด้วยท่าทีเบิกบานใจว่า “หากได้ผลจริง มีประโยชน์จริง เจ้าเสือดำ วันหลังฉันไม่ขาดตกบกพร่องแกแน่ อยู่กับฉันเรื่องกินอิ่มหนำสำราญเป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลยล่ะ!
“โฮ่ง!”
เจ้าเสือดำเห่าพร้อมแววตาที่เต็มไปด้วยการรอคอยราวกับสื่อสารกันรู้เรื่องจริงๆ ตอนนี้เหมือนมันเองก็เฝ้าฝันชีวิตแสนสุขที่หลี่ฮ่าวกล่าวไว้เช่นกัน
………………………………………………………………..