Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง - ตอนที่ 408
บทที่ 408 : วางแผนต่อต้านเย่โม่
พวกเขาไปประชุมของเย่โม่วันนี้เช่นกัน พวกเขาทั้งหมดสนใจในยาเพิ่มลมปราณ
หากเป็นเพียงยาทั่วไปบางอย่าง พวกเขาก็จะกลัวพลังของเย่โม่และไม่กล้าเสี่ยงใดๆ แต่ยาเพิ่มลมปราณได้ทำให้พวกเขาไปสู่ความบ้าคลั่ง แม้แต่คนงี่เง่าอย่างลู่ซือที่ไม่มีวิธีฝึกตนก็สามารถได้รับยานี่ แล้วคนชั้นสูงอย่างพวกเขาจะไม่ได้รับยาได้อย่างไร
ใครๆ ก็จินตนาการได้ว่าถ้าพวกเขาสี่คนได้รับยาเพิ่มลมปราณ และทั้งหมดกลายเป็นขั้นสีเหลืองโดยมีความเป็นไปได้ที่ฟูโย่วจินจะถึงขั้นสีดำ พวกเขาจะสามารถครองโลกได้! แต่ปัญหาคือชื่อของเย่โม่นั้นยิ่งใหญ่เกินไป และนั่นก็คือพลังของเขาที่พวกเขาได้เห็น พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะเคลื่อนไหวหรือไม่
“พี่ใหญ่ เย่โม่ก็แค่คนเดียวเองและพี่ก็อยู่ขั้นสีเหลืองด้วย ถ้าเราซุ่มโจมตีเขาก็มีโอกาสสูงที่เราจะประสบความสำเร็จ” ฟูโย่วอินกล่าว เขาต้องการที่จะไปถึงขั้นสีเหลืองและไปสำรวจหลุมฝังศพโบราณอีกครั้ง
พี่สามส่ายหัว “พี่สอง พี่ใหญ่เองก็ลังเล อย่างที่เราเห็นเองวันนี้ แม้ว่าเขาจะอ่อนแอกว่าพวกเราเล็กน้อย ลีเปาย๋านั่นไม่เลวเลย แต่เย่โม่ก็ฆ่าเขาอย่างง่ายดายและไฟนั้นก็แปลกมากเช่นกัน”
ฟูยูจินพยักหน้า “น้องชายสามพูดถูก ถ้าเย่โม่ถูกโจมตีได้ง่ายๆ ตาแก่เจ้าเล่ห์เจียวเบี่ยนอี้ก็คงไม่ง่ายที่จะพูดคุยกับเขา รองเพิงหยางก็ไม่เลวร้ายไปกว่าฉัน – ทำไมเขาไม่โจมตีในครั้งนั้นละ? เพิงหยางต่อสู้กับเย่โม่ครั้งก่อนและเขาก็ไม่เทียบไม่ได้เลย นอกจากนี้นายคิดว่าองค์กรโลกาอสูรนั้นทำลายล้างได้ง่ายๆหรอ? ฉันคงไม่จำเป็นต้องอธิบายให้นายฟังถึงความหวาดกลัวขององค์กรโลกาอสูร แต่จริงๆ แล้วพวกเขาถูกทำลายโดยเย่โม่! เขาน่ากลัวเกินไป หากยาอยู่ในมือของคนอื่นฉันจะคิดพุ่งเข้าใส่โดยไม่สงสัยเลย แต่เย่โม่ นี้เขาแข็งแกร่งเกินไป” ฟูโย่วจินส่ายหัวของเขา
คนอ้วนยืนขึ้น เขาเป็นน้องคนที่สี่และเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในบรรดาสี่คน เหตุผลที่พวกเขาสามารถ มีสถานะอย่างในปัจจุบัน ก็เพราะความสัมพันธ์อย่างมากกับงานของเขา
ฟูโย่วไฮส่ายหัวของเขา “อย่าพูดถึงว่าใครถูกหรือผิด การใช้ยาเพิ่มลมปราณมันยอดเยี่ยมเกินไปสำหรับเรา ถ้าเรามีมันแม้ว่าเราจะต่อต้านนิกายลี้ลับในตำนาน เราก็อาจไม่ต้องกลัว และสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถซื้อด้วยเงินได้”
ฟูโย่วจินมองฟูโย่วไฮอย่างแปลกประหลาดและถามว่า “นายกำลังพูดว่าเราควรโจมตีหรอ?”
ฟูโย่วไฮพยักหน้า “ฉันสนับสนุนการโจมตี เหตุผลเดียวที่ว่าทำไมเราถึงอยู่ที่ตอนนี้ก็เพราะเราได้รับวิธีการฝึกฝนการต่อสู้โบราณ เราจะกลายเป็นอะไรถ้าเราได้รับยาเพิ่มลมปราณ?”
“แต่น้องสี่ นายไม่รู้จักพลังของเย่โม่! ไม่เพียงแต่เขาจะทำลายล้างองค์กรโลกาอสูร แก๊งค์น่านชิงและแก๊งค์เมทัลริเวอร์ ก็พ่ายแพ้ด้วยมือของเขาเหมือนกันทั้งหมด” ฟูโย่วซันหน้านิ่ว
ฟูโย่วไฮเย้ยหยัน “แน่นอนว่าเราจะโจมตี แต่กุญแจสำคัญคือวิธีที่เราจะโจมตีต่างหาก ถ้าเขามีพลังอำนาจจริง แก๊งค์น่านชิงคงตายไปนานแล้ว และไม่ได้เป็นเจ้าเหนือหัวแห่งคาบสมุทรไซน่า นอกจากนี้ องค์กรโลกาอสูรก็เป็นเช่นนั้น ‘แกร่ง’ แต่นั่นก็เป็นเรื่องของการลอบสังหาร พวกมันคือมือสังหารแม้แต่นักฆ่าธรรมดาก็สามารถสังหารขั้นสีเหลืองได้ เย่โม่แข็งแกร่ง ฉันไม่เคยบอกว่าเขาไม่ใช่ ไฟของเขามีความสามารถในการฆ่าแน่นอน แต่ทำไมเขาถึงใช้มันเพื่อทำให้เรากลัว ถ้าเขาแข็งแกร่งจนถึงจุดที่จะฆ่าเราเพียงแค่ยกมือขึ้นก็ได้แล้ว เขาต้องการให้เรากลัวเขาหรือเปล่า?”
ฟูโย่วไฮมองพี่ชายของเขาแล้วพูดว่า “ฉันสงสัยว่าไฟลูกนั้นของเขาเกี่ยวข้องกับทักษะชั้นสูง พี่ใหญ่ขอถามหน่อย ถ้าพี่มีอาวุธปืน พี่จะตบและเผาลีเปาย๋าถึงตายได้ไหม?”
“แน่นอน…ฉันทำได้” ฟูโย่วจินตอบอย่างไม่รู้ตัว
ฟูโย่วไฮพยักหน้า “ใช่แล้ว ฉันคิดว่าเย่โม่ควรจะอยู่ในขั้นสีดำ เรารู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะไปถึงหนังสือเล่มนี้ บอกสิว่าถ้าพี่สามารถไปถึงขั้นสีดำได้ใน 50 ปีอายุ? หรือเท่าไหร่? ดังนั้นเราจะถือว่าเขาเป็นอัจฉริยะ แต่แน่นอนเขาอยู่ในขั้นสีดำ”
“แต่พี่น้องสี่ ฉันได้ยินมาว่าผู้ฝึกเต๋าแห่งแก๊งค์เมทัลริเวอร์ตายด้วยมือของเขา ผู้ฝึกเต๋าอยู่ในขั้นสีดำนะ” ฟูโย่วซันแสดงความคิดเห็น
ฟูโย่วไฮพูดอย่างมั่นใจ “อย่าพูดถึงว่า ผู้ฝึกเต๋าเป็นขั้นสีดำดีกว่าเลย แม้ว่าเขาจะเป็น เย่โม่ก็ไม่ได้เข้าโจมตีเขานิใช่ไหม? นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องการสังหารเย่โม่ เราไม่สามารถสู้กับเขาตัวต่อตัวได้ เราไม่สู้กับเขาไม่ได้ เราต้องการวิธีพิเศษ – เพื่อฆ่าในการโจมตีครั้งเดียว! ยาเพิ่มลมปราณนี้มีค่าพอที่จะเสี่ยง”
ฟูโย่วอินกล่าวว่า “ฉันเห็นด้วยกับน้องสี่ การวิเคราะห์ของเขาดีมาก”
เห็นได้ชัดว่าฟูโย่วจินเชื่อมั่นและถามว่า “น้องสี่แผนนี้คืออะไร?”
ฟูโย่วไฮยิ้ม “ฉันคิดว่าเราควรให้เขากินยาของเขานะ”
“อธิบายสิ” ฟูโย่วอินกล่าว
ฟูโย่วไฮ ดูโหดร้ายบนใบหน้าของเขา “เราจะทำให้ใครบางคนสร้างระเบิดขนาดใหญ่ บางทีอาจเป็นคนที่ก่อความไม่สงบ ฉันได้ยินมาว่ามีองค์กรหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถทำระเบิดด้วยเลเซอร์ได้เป็นสิบหรือแม้กระทั่งมีประสิทธิภาพมากกว่าระเบิดทั่วไปหลายร้อยเท่า แต่ – มันมีราคาแพง ถึงอย่างนั้นฉันก็เชื่อว่าเมื่อเทียบกับยาเพิ่มลมปราณแล้ว เงินไม่มีความหมายอะไรเลย”
เมื่อเห็นว่าคนอื่นไม่พูดขึ้น ฟูโย่วไฮก็กล่าวต่อ “แน่นอนเราต้องเลือกสถานที่ที่ดีเพื่อที่เราจะได้ฆ่าเขาได้ในครั้งเดียว”
“โอเค เรามาเจรจากันว่าเราจะทำตามแผนได้อย่างไร มันน่าเสียดายที่เราไม่มีระเบิดพิเศษอะไรพร้อม ถ้าเราทำคืนนี้มันจะเป็นจังหวะที่ดีที่สุด เย่โม่ส่งเราออกมา แต่เขาเก็บแม่ม่ายดำสุดเซ็กซี่ไว้ บางทีพวกเขาอาจจะทำางอย่างอะนะ…ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะเป็นขั้นสีเหลือง มันช่างน่าละอายเหลือเกิน” ฟูโย่วอิน แสดงความคิดเห็นด้วยความผิดหวัง
ฟูโย่วจินส่ายหัว “น้องสอง เรากำลังพูดถึงเรื่องร้ายแรงที่นี่นะ สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตของเรา เย่โม่จะไม่เก็บแม่ม่ายดำไว้เพื่อเซ็กส์จริงๆหรอก แล้วบางทีเขาอาจไปจากฮ่องกงแล้วด้วย”
“พี่ใหญ่พูดถูก ถ้าเย่โม่เป็นคนแบบนั้น เราก็ไม่จำเป็นต้องระวังมากนัก แต่ถ้าพี่สองต้องการแม่ม่ายดำมันเป็นเรื่องง่ายจริงๆ แม้ว่าเธอจะถึงขั้นดำเราก็ยังสามารถจับเธอได้ อย่างไรก็ตามเราไม่ควรลองก่อนที่จะมีเย่โม่ ฉันคิดว่าเหตุผลที่ทำให้เย่โม่เก็บเธอนั้นเป็นเพราะความสามารถในการรวบรวมสติปัญญาของเธอ” ฟูโย่วไฮเตือน
ฟูโย่วอินหัวเราะอย่างเชื่องช้า “มันเป็นแค่เรื่องตลกอะนะ”
…
ซวี่เยวียฮวาก็ลังเลเช่นกัน เธอกำลังพิจารณาว่าเธอควรจะติดตามเย่โม่หรือไม่
เย่โม่กล่าวอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการให้เธอทำงานให้เขา ซวี่เยวียฮวาเชื่อว่าแม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยก็ตาม เย่โม่ก็จะไม่พูดอีกครั้งและทำใจ แต่เธอก็มีความลำบากเช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเธอมาจากตระกูลที่ถูกทำลาย มีเพียงเธอเท่านั้นที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ในตระกูลของเธอ
พ่อของเธอให้วิธีการฝึกตนแก่เธอและใช้เวลาเกือบ 20 ปีกว่าที่เธอจะบังเอิญเข้าสู่ขั้นสีเหลืองระดับกลาง เธอรู้ว่าด้วยความก้าวหน้าแบบนั้น เธอจะไม่สามารถแก้แค้นได้ตลอดชีวิต เธอคิดว่าตั้งแต่เย่โม่ได้ก่อตั้งบริษัทขนาดใหญ่ดังกล่าวได้ เชื่อมโยงกับผู้มีชื่อเสียงระดับสูงของฮ่องกงและทำลายล้างองค์กรโลกาอสูร นั่นหมายความว่าเขามีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่
หากเธอมีส่วนร่วมในนั้น เธอจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เธอคุ้นเคยกับชีวิตปัจจุบันของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่มีความหวังที่จะแก้แค้น แต่เธอก็รู้สึกว่าชีวิตในปัจจุบันของเธอนั้นสงบสุข แม้ว่าเธอจะอยู่ในสังคมมาเฟีย แต่เธอก็ไม่เคยต่อสู้และฆ่า เธอทำธุรกิจที่เหมาะสม ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ได้ติดต่อกับคนร้าย
เหตุผลที่เธอถูกเรียกว่าแม่ม่ายดำนั้นเป็นเพราะแก๊งค์ขนาดกลางต้องการพาเธอเข้ามาและยึดกิจการทั้งหมดของเธอ ในระหว่างความขัดแย้งที่ตามมา เธอพังทั้งแก๊ง เช่นนั้นชื่อของเธอก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน นั่นเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครในโลกใต้ดินกล้าทำอะไรกับเธอ เธอคิดว่าชีวิตจะดีขึ้นกว่าแต่ก่อน
แต่เธอเข้าใจว่าถ้าเธอไม่ได้ติดตามเย่โม่ ชีวิตของเธอก็จะเป็นเช่นนั้น จะไม่มีความคืบหน้า เธอคิดมากและท้ายที่สุดก็ตัดสินใจที่จะลองดู และดูว่าเย่โม่เป็นคนทะเยอทะยานที่เธอคิดว่าเขาเป็นหรือไม่
ทันทีที่เธอกลับมาที่โรงแรม มันก็กลับกลายเป็นว่ามีบางคนรอเธออยู่