Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง - ตอนที่ 429
บทที่ 429 : ปัญหาเมืองอสรพิษ
เมื่อได้รับโทรศัพท์ของเสี่ยวจินซรู ฝางหนานก็วิ่งออกไปทันทีที่ทำได้ เมืองอสรพิษไม่ไม่ใหญ่นัก เขาจึงมาถึงที่เกิดเหตุด้วยรถยนต์ในเวลาไม่กี่นาที
เมื่อเขาเห็นเสี่ยวจินซรูคุกเข่าลงบนพื้นและเย่โม่ที่หน้าตาดูไม่มีความสุข ฝางหนานก็รู้ทันทีว่าสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปด้วยดี มันเป็นข่าวดีที่พี่เย่กลับมา แต่เขาไม่ได้จัดการกับคนของเขาเลยเมื่อเร็วๆ นี้ พวกเขาทำอะไรบางอย่างที่ทำให้บอสใหญ่ไม่พอใจงั้นหรอ?
ก่อนที่รถจะหยุดดีนัก ฝางหนานก็กระโดดและเดินไปที่เย่โม่อย่างเคารพ “พี่เย่ พี่กลับมาแล้ว”
ในขณะที่เขาฝึกตน ฝางหนานก็ได้รู้ว่าเขาอ่อนแอแค่ไหนและเย่โม่แข็งแกร่งแค่ไหน ก่อนหน้านี้เขารู้สึกกลัวและชื่นชมเย่โม่ แต่ตอนนี้มันเป็นความเคารพและบูชา นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงทิ้งสิ่งต่างๆ และจดจ่อกับการฝึกตนตลอดเวลา
ฮวงกุยหวาดกลัวอย่างสมบูรณ์ เขาไม่กล้าแม้แต่จะเคลื่อนไหว แม้แต่พี่ใหญ่ของเสี่ยวจินซรู ฝางหนานก็ให้เกียรติชายหนุ่มคนนั้นและเขาก็คิดที่จะได้ผู้หญิงของเขา เขาอยากจะตบตัวเองจริงๆ!
ไม่นานมานี้และอยู่ที่นั่นแล้ว จังเจียหยัน ยวีเมี่ยวตั๋น หยางจิว โดยทั่วไปแล้วก็ตำแหน่งสูงๆของบริษัทลั่วเยวียเกือบทั้งหมด เมื่อนั้นฮวงกุยก็หมดหวังทั้งหมด แม้ว่าเขาจะเป็นคนโง่งี่เง่า แต่เขาก็สามารถเดาได้ว่าชายคนนั้นเป็นบอสใหญ่ในตำนานของเมืองอสรพิษ
ยวีเมี่ยวตั๋นมองเย่โมด้วยความตกใจ เธอไม่เข้าใจ แต่เธอต้องเก็บความรู้สึกไว้กับตัวเอง เธอไม่กล้าพูด เธอโทรหาเย่โม่ในตอนเช้าและมันก็น้อยกว่า 1 ชั่วโมง จนกระทั่ง เย่โม่มาถึงเมืองอสรพิษ
ถ้าเธอไม่รู้จริงๆ ว่าเย่โม่มาที่ฮ่องกงในตอนเช้า เธอจะคิดว่าเยโมอยู่ใกล้ๆ เขามาจากฮ่องกงถึงเมืองอสรพิษในอีก 1 ชั่วโมง ไม่น่าแปลกใจที่้เย่โม่จะพูดว่าเขาจะกลับมาทันที เธอตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ ถ้ายาความงามและยารักษาสุขภาพยังคงสมเหตุสมผล แต่การมาถึงที่นี่ภายใน 1 ชั่วโมงมันไม่เพียงพอ แม้ว่าเขาจะมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วแบบนี้แน่
ยวีเมี่ยวตั๋นเพิ่งรู้ว่าเธอไม่ได้รู้จักเย่โม่เลย
“ประธานเย่…”
“ประธานเย่…”
…
ทุกคนเดินมาหาเยโม่และทักทายเขา เย่โม่พยักหน้าและกล่าวว่า “โอเค ในวันนี่เราก็มาถึงจุดนี้แล้วเนื่องจากการทำงานหนักของทุกคน ฉันเชื่อว่าไม่มีใครต้องการทำลายสิ่งที่เราสร้าง แต่วันนี้เมื่อฉันกลับมา ฉันเห็นธุรกิจขยะหลอกลวงพวกนี้ ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งมาที่นี่ ถูกบังคับให้ค้าประเวณี ซึ่งเมืองอสรพิษเป็นฐานของบริษัทลั่วเยวีย ที่ซึ่งเราจะมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ถ้ำโจร ถ้าต้องการเป็นโจรก็ไสหัวไป”
“ประธานเย่ นี่เป็นความผิดของฉันเอง….” จรังเจียหยันเดินไปข้างหน้าแล้วพูดออกมา แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินข่าวนี้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดจริงจังกับมัน เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะจบลงด้วยการที่บอสใหญ่ถูกข่มขู่เช่นกัน
“พี่ใหญ่ นี่เป็นความผิดของฉันในการบริหารจัดการเอง หลังจากที่ประธานจรังให้ฉันดูแลการจัดการความปลอดภัยของเมืองอสรพิษ ฉันก็ให้อำนาจแก่คนของฉันเพื่อฝึกตน ฉันไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนไปในสถานการณ์ของความหืนกระหายแบบนี้ ฉันจะจัดการกับเรื่องนี้ทันทีครับ” ฝางหนานกล่าว
เย่โม่โบกมือ “นี่เป็นความรับผิดชอบของนายแน่นอน แต่นายไม่จำเป็นต้องจัดการกับมัน หยางจิวจะรับผิดชอบเรื่องนี้ในตอนนี้ และนายจะทำงานให้เขาสักพัก”
เย่โม่ได้มอบตำแหน่งให้เขาและมอบมันให้กับหยางจิวด้วยคำพูดเดียว แม้ว่าฝางหนานจะเป็นกังวล แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร เย่โม่ปล่อยให้เขาทำงานภายใต้หยางจิว ซึ่งหมายความว่าเขาคาดหวังว่าเขาจะทำได้ดีขึ้นในอนาคตเพื่อชดเชย
พวกเขารู้จักเย่โม่มาตั้งแต่เริ่มแรก แต่สิ่งนี้ถูกทำลายเพราะคนของเขา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฝางหนานจึงจ้องมองที่เสี่ยวจินซรู ซึ่งยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น หากเสี่ยวจินซรูไม่ได้เป็นหนึ่งในคนที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเขาเขาจะวางแผนฆ่าเขาทิ้งซะ
“หยางจิว สัญญาว่าจะทำภารกิจของบอสใหญ่ให้สำเร็จครับ” หยางจิวสัญญาอย่างรวดเร็วหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด
เย่โม่กล่าวอย่างชัดแจ้งว่า “นายจะต้องรับผิดชอบในการทำความสะอาดเมืองอสรพิษในตอนนี้ เรายังต้องหารือว่าจะการจัดการเมืองอสรพิษในอนาคตให้เป็นยังไง ภารกิจของนายสำหรับ 2-3 วันนี้คือการสำรวจโรงแรม ร้านค้าและบาร์ในเมืองอสรพิษ นำโรงแรมและศูนย์รวมความบันเทิงกลับมา ฆ่าคนที่ไม่เห็นด้วยซะ”
คำพูดที่เยือกเย็นและโดดเด่นของเย่โม่ทำให้ทุกคนสั่นไหว ฆ่าถ้าคนที่ไม่เห็นด้วย? หากมีการพูดที่อื่นรัฐบาลจะติดตามคุณ แต่นั่นคือที่เมืองอสรพิษดินแดนของเย่โม่
“เย่โม่…” แม้แต่หนิงชิงเซวียก็คิดว่าคำของเย่โม่นั้นไม่เหมาะสม แม้ว่าเธอจะเคยมาที่เมืองอสรพิษครั้งหนึ่ง แต่เธอก็ยังไม่เจอกับผลกระทบอะไร เธอเพิ่งเรียกชื่อเขาครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก ในเมื่อเย่โม่ทำแบบนั้น เขาจะต้องมีเหตุผลที่ดีแน่
แน่นอน เย่โม่มีเหตุผลของเขา จากผู้ที่สามารถครองอำนาจได้ เขาก็เหมาะสมที่สุด เขาไม่ต้องการให้เมืองอสรพิษเป็นสถานที่ซึ่งอำนาจปกครองเหนือสิ่งอื่นใด เนื่องจากเขาวางแผนที่จะสร้างบ้านของเขา เขาจึงต้องควบคุมพลังของมัน ไม่มีประเด็นในการพยายามให้เหตุผลกับคนเหล่านี้ เมื่อเขาสามารถควบคุมเมืองอสรพิษได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นเขาก็จะสร้างกฎหมาย
ก่อนหน้านั้น เขาสามารถใช้การฆ่าเพื่อแก้ปัญหาเท่านั้น
บางครั้ง คำพูดของเย่โม่ทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามันง่ายที่จะพูดคุยกับเขา แต่แล้วพวกเขาก็ตระหนักว่าในบางช่วงเวลามันไม่ง่ายเลยที่จะพูดคุยกับเขา และในช่วงเวลาเหล่านั้นเขาน่ากลัวมาก
เย่โม่มองไปที่หยางจิว ผู้ซึ่งตื่นเต้นและพูดว่า “อย่าปล่อยให้ตัวเองได้รับอิทธิพลจากธุรกิจหลอกลวงพวกนั้น สำหรับคนที่พยายามควบคุมเมืองอสรพิษ ให้ฆ่าพวกเขาทั้งหมด หากพวกเขามีการฆ่าที่นี่หรือข่มขืนผู้หญิง ไม่จำเป็นต้องรายงาน แต่ถ้านายทำอะไรที่คนก่อนหน้านายทำ และใช้อำนาจหาผลประโยชน์ส่วนตัว คนต่อไปที่จะไม่มีหัวก็คือนาย”
“ครับ” หยางจิวตัวสั่น
เขาเข้าใจว่ามันโอเคที่จะผ่อนปรนกับเพื่อน แต่ความสัมพันธ์เหล่านี้ไม่สามารถนำเข้าสู่การบริหารเมืองได้ นั่นจะทำให้เมืองแย่ลงและแย่ลง
ฮวงกุยเริ่มเหงื่อออก เขาฆ่าคนจำนวนมากและข่มขืนผู้หญิงมากกว่า 10 คน หากพวกเขาทำตามคำสั่งของเย่โม่ เขาจะตายแน่นอน
ทันใดนั้น เสี่ยวจินซรูก็ชี้ไปที่ฮวงกุย และสองคนที่อยู่ข้างหลังเขาและพูดว่า “สามคนนี้ฆ่าคนตาย และฉันก็รู้ว่าพวกเขาข่มขืนผู้หญิงที่มาเมืองอสรพิษด้วยครับ”
“หึๆ ฉันเองก็รู้เรื่องนี้ด้วยแหละน่า แต่บอสใหญ่ไม่ได้สั่งมาก่อนหน้านี่” หยางจิวหัวเราะอย่างน่าขนลุก ก่อนที่พวกเขาจะตอบโต้ ทั้งสามก็ลงไปนอนที่พื้นแล้ว นอกเหนือจากเย่โม่แล้ว แม้แต่จังเจียหยันก็ต้องดูว่าหยางจิวทำอะไร เขาเป็นฆาตกรอันดับ 1 ของโลก
เย่โม่มองไปที่เสี่ยวจินซรูอย่างเย็นชา ซึ่งอยู่บนพื้น ถ้ามันไม่ใช่เพราะฝางหนาน เขาจะต้องโยนบอลไฟใส่เขาไปแล้ว
“หยางจิวและฝางหนาน พาคนของนายไปเริ่มทำงานซะ ส่วนที่เหลือตามฉันมาประชุม”
เย่โม่รู้ว่าอันตรายของเมืองอสรพิษไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่เขาได้เห็นเท่านั้น อันตรายที่แท้จริงนั้นมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่แม้แต่เขาจะสามารถจัดการกับอันตรายเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย
…
เมื่อเย่โม่พูดจบเสร็จสิ้น ยวีเมี่ยวตั๋นและคนอื่นๆ ก็กลับไปที่สำนักงานใหญ่บริษัทลั่วเยวีย ซึ่งเย่หลิง รีบมาทันที เธอเพิ่งได้รับข่าวการกลับมาของพี่ชายของเธอ ดังนั้นเธอจึงหยุดทำงานเรื่องยาที่เธอทำอยู่ และวิ่งออกไป
เธอจับแขนของเย่โม่ แล้วเห็นหนิงชิงเซวีย เธอรีบวิ่งไปที่หนิงชิงเซวีย และคว้าแขนของเธออย่างร่าเริง “พี่สะใภ้ชิงเซวียกลับมาแล้ว! สุดยอดไปเลย พี่ชายของฉันเป็นห่วงพี่จริงๆนะ”
ถึงแม้ว่าเย่โม่จะไม่เคยพูด แต่เย่หลิงก็รู้ว่าหนิงชิงเซวียมีความสำคัญต่อเขามาก แม้ว่าเธอจะไม่ชอบหนิงชิงเซวีย แต่ในเมื่อพี่ชายของเธอชอบชิงเซวีย แต่เธอจะดูถูกเธอได้ยังไง?
“อะ ขอบคุณนะเย่หลิง ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะอยู่ในเมืองอสรพิษด้วย” หนิงชิงเซวียคิดถึงน้องสาวอีกคนของเย่โม่ทันที ทังเป่ยเวย มีบางสิ่งที่เย่โม่ไม่มีเวลาบอกเธอ ดังนั้นเธอยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเชื่อว่าทังเป่ยเวยคือคนที่เย่โม่ชอบเช่นเดียวกับเธอ แม้ว่าหนิงชิงเซวียจะเดาได้ แต่เธอก็ไม่ได้ถาม เธอรู้ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เย่โม่จะหาเวลาบอกเธอเอง เธอจึงไม่กังวล
“พี่ชิงเซวีย ทำไมพี่ไม่ลองอยู่ที่เมืองอสรพิษต่อสักหน่อยละ มันมีสถานที่ดีๆด้วยนะ” เย่หลิงใช้ชีวิตอยู่ในเมืองอสรพิษมาระยะหนึ่ง แล้วได้พัฒนาคามผูกพัน แต่เธอรู้ว่าหนิงชิงเซวียมีบริษัทของตัวเอง และอาจจะกลับไปที่รัฐยวี่
เธอไม่ได้คาดหวังว่าหนิงชิงเซวียจะยิ้มพริ้มและพูดว่า “เอาสิ ฉันจะเอาของกลับมาจากเมืองหนิงไห่ แล้วจากนั้นฉันจะเริ่มอยู่ที่นี่นะ”
“จริงเหรอ? นี่มันเยี่ยมมากเลย!” เย่โม่พูด… ซึ่งเย่หลิงได้ลืมพี่ชายของเธอไปเรียบร้อยแล้ว
หนิงชิงเซวียคิดว่าถึงแม้ครอบครัวของเธอจะมีบริษัท แต่ตอนนี่เธอแต่งงานกับเย่โม่ ดังนั้นเธอจึงควรเริ่มช่วยเย่โม่ในเมืองอสรพิษ
เอ๋อฮู่และลู่เซี่ยวเจิ่นเองก็มาทักทายเย่โม่ด้วย เมื่อคนที่คุ้นเคยเหล่านี้มาทักทายเขา เย่โม่ก็รู้สึกมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนเมืองอสรพิษให้เป็นสถานที่ที่ซึ่งคนเหล่านี้จะปลอดภัย
“ประธานจรัง รวมคนเข้าห้องประชุมก่อน เย่หลิงและชิงเซวียเองก็ไปที่ห้องประชุมก่อนเถอะ พี่ยวีพาฉันไปดูกัวฉีและฟางเหว่ยที” เย่โม่ไม่ลืมพวกเขา แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงฆ่านายทหาร แต่ถ้าพวกเขาถูกวางกับดัก เขาจะช่วยพวกเขา เย่โม่นั้นได้ยอมรับในตัวกัวฉีแล้ว เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก