Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง - ตอนที่ 443
บทที่ 443 : ผลิตภัณฑ์ลายเซ็นของตระกูลเยวียน
เมื่อเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของเย่โม่ กู๋ชร่งก็พูดเสริมอย่างรวดเร็ว “เมื่อ 4 ปีก่อน เหตุการณ์อาหารเป็นพิษที่บริษัทเยวียนเป่ย พนักงาน 43 คนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังถูกจัดการโดยนายกเทศมนตรีหนิว ซึ่งตอนนั้นเป็นเพียงรองนายกเทศมนตรี”
แม้แต่เรื่องนั่นก็ถูกจัดการหรอ? ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ คุณจะต้องมีความสามารถมาก สิ่งนี้แตกต่างจากการที่เย่โม่ฆ่าในนิกายลี้ลับ ไม่ว่าจะมีกี่คนที่เสียชีวิตในนิกายลี้ลับ รัฐบาลก็ไม่สนใจ
อย่างไรก็ตาม เย่โม่จะไม่คาดหวังบางสิ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์อาหารเป็นพิษที่จะถูกปกปิดนี้
กู๋ชร่งกล่าวว่า “คนพวกนี้เป็นคนไร้บ้านที่ตระกูลเยวียนไปเจอมาจากทุกที่ ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น มันเลยไม่สำคัญมากนัก หลายคนยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย”
‘ไม่แปลกใจแหะ!’ เย่โม่คิด
เดี๋ยวสิ ถ้าตระกูลเยวียนต้องการสร้างเยวียนเป่ยจริงๆ พวกเขาก็แค่ต้องการแรงงานมากกว่า 40 คนเท่านั้นเอง ทำไมต้องเป็นคนไร้บ้านด้วยละ?
สร้างฐานที่ใต้ดินหรอ? เย่โม่เข้าใจทันที ผิวเผินแล้วตระกูลเยวียนใช้พวกเขาสร้างเยวียนเป่ย แต่แอบใช้ให้พวกเขาขุดลงไปใต้ดินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสร้างฐานใต้ดิน หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกฆ่าตายทั้งหมด นี่เปรียบได้กับวิธีการของจักรพรรดิโบราณ
“พี่เขยของแกรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง?” เย่โม่ถามต่อไปเรื่อยๆ
กู๋ชร่งตอบโดยไม่ลังเลว่า “พี่เขยของฉันเคยเป็นเลขานุการของนายกเทศมนตรี แต่ปีนี้เขากลายเป็นรองหัวหน้าตำรวจ”
นั่นไงละ! เย่โม่พยักหน้า
“พาฉันไปที่ที่แกเก็บสิ่งที่คัดลอกไว้สิ แกช่วยชีวิตตัวเองได้แล้ว” เย่โม่กล่าว บางสิ่งมันก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเขามากนัก เขาสามารถมอบให้กับซือซิวเพื่อให้เขาก้าวหน้าได้
“ครับ อะเอ่อพี่ใหญ่ เกี่ยวกับสองคนนั้นของฉัน…” กู๋ชร่งพึมพำอย่างงงงัน
เย่โม่เอ่ยชัดเจน “พวกเขายังไม่ตาย แล้วเมื่อแกกลับมา สิ่งที่แกต้องทำคือฉี่บนหน้าของพวกเขา”
กู๋ชร่งรู้ว่าเย่โม่หมายความว่าเขาต้องสาดไปมาด้วย แต่เขาไม่กล้าปฏิเสธ เขากลัวว่าเขาจะตายถ้าเขาทำไปโดนเย่โม่ (T^T)
…..
กู๋ชร่งไม่ได้อยู่ที่ไกลจากที่หมาย ดังนั้น 20 นาทีต่อมา เย่โม่และลวี่อิงอิงก็กำลังนำดิสก์เก็บข้อมูลออกจากสถานที่ของกู๋ชร่ง หลังจากยืนยันข้อมูลแล้ว เย่โม่ก็ขี้เกียจจะยุ่งกับกู๋ชร่งอีก เขาจึงออกไปพร้อมกับลวี่อิงอิงโดยไม่ได้รักษามือให้
เย่โม่เชื่อว่ากู๋ชร่งจะไม่มีความกล้าพอที่จะทำสิ่งนี้ หากพูดออกมา สิ่งนี้จะไม่ดีสำหรับเขาและสำหรับพี่เขยของเขา
“มาคุยกันที่บ้านของฉันไหมคะ?” ลวี่อิงอิงมองเย่โม่อย่างคาดหวัง
“แน่นอน” เย่โม่ต้องการรู้ว่า ลวี่อิงอิงได้รับดอกหญ้าสีครามของเธอจากที่ไหน ถ้ามีมากขนาดนั้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับแหล่งเพาะปลูกอีกต่อไป เขาจะสามารถเข้าสู่ขั้นตติยรวมลมปราณได้โดยไม่มีปัญหา
…
สถานที่ของลวี่อิงอิงไม่ไกลจากบาร์มากนัก เธอเช่าบ้าน 1 ห้องนอนอยู่แถวนั้น
มันเป็นอาคารเก่า ดังนั้นเมื่อเย่โม่มาถึงก็มีเพียงชายชราที่นอนหลับทำหน้าที่เป็นยามและไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ในตึกทั้งตึก แม้แต่ไฟถนนก็เป็นสีเหลืองสลัว
ลวี่อิงอิงอาศัยอยู่บนชั้น 3 เมื่อเย่โม่เข้าห้องหลังจากเธอ เขาก็พบว่าแสงไฟก็ไม่ดีมากนัก โชคดีที่พวกเขาอยู่บนชั้น 3 ถ้ามันเป็นชั้น 1 หรือชั้น 2 มันคงจะมีกลิ่นเหม็นอับเหมือนกัน
เย่โม่นั่งลงในห้องนั่งเล่น ขณะที่ลวี่อิงอิงเทเครื่องดื่มให้เขา เย่โม่บอกได้เลยว่าเครื่องดื่มนั้นมีดอกหญ้าสีคราม แต่มันก็น่าเสียดายที่เย่โม่ไม่ได้ใช้ เพราะสมุนไพรไม่มีแม้แต่ดอกเดียว
แม้ว่าเย่โม่จะผิดหวัง เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าตั้งแต่ที่ลวี่อิงอิงพาเขามาที่นี่ มันต้องเป็นเพราะดอกหญ้าสีคราม ไม่จำเป็นต้องให้เขาถามอะไร ก่อนที่ลวี่อิงอิงจะเริ่มพูด
ลวี่อิงอิงก็เทของตัวเองและนั่งลงเผชิญหน้ากับเย่โม่ จากนั้นเธอก็ถามอย่างงงงันว่า “คุณก็รู้ว่ามันเป็นสมุนไพร งั้นคุณก็เป็นผู้ฝึกตนด้วยรึเปล่าคะ?”
เย่โม่คิดอยู่ครู่หนึ่ง คำว่า ‘ผู้ฝึกตน’ เป็นคำที่คลุมเครือมาก การทำทักษะต่อสู้โบราณคือการฝึกตน ความจริง (จิตวิญญาณลมปราณ) ก็เป็นการฝึกตนเช่นกัน เมื่อเธอถามคำถามด้วยวิธีนี้ หมายความว่าเธอไม่เข้าใจการฝึกตน
เย่โม่ไม่ได้อธิบายความแตกต่างและพยักหน้า “ใช่ผมเป็น”
ลวี่อิงอิงได้ยินคำตอบนี้และแทบสำลักเครื่องดื่มของเธอ ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนและคุกเข่าต่อหน้าเย่โม่
เย่โมรู้สึกแปลกๆ ลวี่อิงอิงขอร้องด้วยเสียงที่กรีดร้องว่า “ช่วยฉันด้วยเถอะคะ เชียนเปย”
เย่โม่ขมวดคิ้วและพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ถ้ามีอะไรที่คุณต้องการถาม ก็นั่งลงและพูดเถอะ ผมมีบางอย่างที่จะถามคุณเช่นกัน แต่ถ้าคุณคุกเข่าต่อไปก็ขอโทษด้วยนะ แต่ผมจะกลับละ”
ลวี่อิงอิงลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและนั่งลงบนที่นั่งของเธอ เธอเช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า “ครอบครัวของฉันมาจากหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลในเมืองจิง แต่พ่อแม่ของฉันไม่เคยอยู่ที่นั่น ฉันเคยอยู่กับน้องชายและปู่ของฉัน ปู่ของฉันพยายามเป็นหมอการแพทย์แผนจีน เพราะอาจารย์ของเขาได้สอนและได้รับสูตรและวิธีการเพาะสมุนไพร”
วิธีการเพาะสมุนไพร? เย่โม่คิดถึงดอกหญ้าสีครามทันที แต่นั่นต้องการจิตวิญญาณลมปราณจำนวนหนึ่งเพื่อความอยู่รอด แม้แต่ในป่ามันก็ต้องเติบโตในสถานที่ที่มีจิตวิญญาณลมปราณ แม้ว่าเขาจะบอกได้ว่าสมุนไพรของลวี่อิงอิงยังไม่ได้มีดอกไม้ แต่ถ้าเธอปลูกเองมันก็น่าประหลาดใจพอแล้ว
ลวี่อิงอิงกล่าวต่อ “สูตรนี้เป็นเซรั่มป้องกันหัวใจและต้องใช้สมุนไพรหลาย 10 ชนิด ซึ่งซับซ้อนมากที่จะทำ ดอกหญ้าสีครามเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลัก เมื่อ 4 ปีที่แล้วชายอายุ 50 ปีและ 40 ปีมาหาปู่เพื่อซื้อเซรั่ม คุณปู่ปฏิเสธแต่สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็คือพวกเขาจะใจร้ายมาก พวกเขาฆ่าปู่ของฉัน ฆ่าน้องชายและเอาสูตรบรรพบุรุษของเราไป”
เย่โม่ถอนหายใจ ลวี่อิงอิงค่อนข้างน่าสงสาร
ลวี่อิงอิงกัดฟัน ขณะที่พูดต่อ “การเห่าของสุนัขทำให้ผู้คนในหมู่บ้านรู้และกลัว ทั้งสองออกไปเมื่อฉันกลับมา เห็นได้ชัดว่าปู่ของฉันไม่จะทำ ก่อนที่เขาจะตาย เขาบอกฉันลักษณะของพวกนั้นและบอกฉันว่าถ้าฉันพบใครที่รู้จักดอกหญ้าสีคราม ฉันสามารถขอความช่วยเหลือจากคนๆนั้นได้”
“เขาบอกว่าหากไม่พบใครสักคนที่รู้เรื่องนี้ ฉันจะต้องไม่พยายามแก้แค้น คนเหล่านั้นไม่รู้ว่าสูตรนี้ไม่มีส่วนผสมหลักคือดอกหญ้าสีคราม แม้ว่ามันจะยังคงทำงานได้โดยปราศจากมัน แต่มันก็มีศักยภาพน้อยกว่ามาก”
“ทำไมต้องเป็นคนที่รู้จักดอกหญ้าสีครามละ?” เย่โม่ถามอย่างไม่รู้ตัว
ลวี่อิงอิงสงบลงจากสภาพที่ตื่นเต้น และอธิบายว่า “เพราะอาจารย์ที่ให้สูตรของคุณปู่ของฉันเป็นผู้ฝึกตน และเขาบอกว่ามีเพียงผู้ฝึกตนเท่านั้นที่จะรู้เกี่ยวกับดอกหญ้าสีคราม”
ลวี่อิงอิงมองตาเย่โม่หนึ่งครั้งก่อนพูดต่อ ” 3 ปีที่ผ่านมา เซรั่มป้องกันหัวใจของบริษัทเยวียนเป่ยเข้าสู่ตลาดและกลายเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำของพวกเขา ในที่สุดฉันก็พบว่ามันเป็นตระกูลเยวียนที่ขโมยไป ฉันเลือกที่จะอยู่ใกล้เหอเฟิง ในแถบที่ใกล้กับตระกูลเยวียน โฆษณาไวน์ดอกหญ้าสีคราม ฉันต้องการดึงดูดคนที่รู้จักดอกหญ้าสีครามและหาวิธีฆ่าเยวียนจรือร่ง”
“แต่ใน 3 ปีนี้ฉันไม่ได้พบใครเลย และฉันไม่มีโอกาสฆ่าเยวียนจรือร่ง ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังของฉัน ฉันได้พบคุณ คุณปู่ของฉันบอกว่าถ้าฉันพบผู้ฝึกตนที่รู้เกี่ยวกับดอกหญ้าสีคราม ฉันอาจให้วิธีการเพาะปลูกและขอให้เขาแก้แค้นให้กับเราได้”
หลังจากพูดสิ่งนี้ ลวี่อิงอิงก็เดินไปที่ห้องและเอาบางอย่างที่มีรูปร่างของจานออกมา “นี่คือการปลูกดอกหญ้าสีคราม คุณจะต้องปลูกเมล็ดในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศบริสุทธิ์และใส่จานถัดจากเมล็ด หลังจากนั้นสมุนไพรก็จะมีชีวิต”