Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง - ตอนที่ 447
บทที่ 447 : เตรียมการถ่ายทอดสด
เมื่อเย่โม่กลับไปที่ย่านเหอเฟิง มันยังเช้าตรู่อยู่ หากลี่ชุนเฉิงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากหลักฐานที่เขาให้เขาได้ เขาจะไม่รอเขา
ทันทีที่เซี่ยวเหลยมาถึง เขาจะขอให้เธอเปิดเผยต่อสาธารณะ มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างสื่อที่รายงานเรื่องนี้กับลี่ชุนเฉิงรายงานด้วยตัวเอง
หากลี่ชุนเฉิงเป็นคนแรกที่เปิดเผย ความสามารถของเขาจะได้รับการยอมรับและหลายๆ คนอาจคิดว่าเขาเป็นนายกเทศมนตรีที่ทำงานให้กับประชาชน หากสื่อรายงานก่อนและจากนั้นเขาก็ทำ ผลกระทบต่อชื่อเสียงของเขาจะน้อยลง
…
เซี่ยวเหลยเพิ่งซื้อตั๋วเครื่องบินและเธอก็รอที่จะไปที่สนามบิน เธอรู้ว่าจะมีการแถลงข่าวในกุ้ยหลินเกี่ยวกับบริษัทลั่วเยวีย หากเป็นอย่างอื่น เธอก็คงจะไปที่นั่นโดยไม่ลังเล แต่เย่โม่ได้ขอให้เธอออกไปและเธอก็ทำทุกสิ่งโดยไม่คิดอะไรเลย
เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกไร้สมรรถภาพ ถ้ามีงานแถลงข่าวเพียงไม่กี่วันต่อมา เธอก็จะสามารถได้รับข่าวได้คนแรก นอกจากนี้เธอกำลังวางแผนที่จะไปเมืองอสรพิษ และสัมภาษณ์คนบางคน ดูเหมือนว่าเธอจะไปได้หลังจากนั้นซะแล้วสิ
มีเครื่องบินค่อนข้างมากที่จะบินไปย่านเหอเฟิงจากปักกิ่ง แต่เย่โม่ก็ไม่ต้องรอนาน เขาเห็นเซี่ยวเหลยผู้แต่งตัวอย่างมืออาชีพเดินเข้ามาในบาร์
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่คิดว่าตัวเองเป็นนักข่าวในวันนั้น เธอไม่ได้นำสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสัมภาษณ์มา
มันคือ 8 โมงเช้าและมีคนไม่กี่คนในบาร์ เมื่อเซี่ยวเหลยกำลังสับสนในบาร์ ซึ่งเกือบจะว่างเปล่า แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังออกมาจากด้านหลังของเธอ “เซี่ยวเหลย ทางนี้”
ช่วงเวลาที่เซี่ยวเหลยเห็นเย่โม่ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความปิติยินดี แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเธอกำลังมาหาเย่โม่ในวันนี้ เธอก็ยังมีความสุขมากเมื่อเธอเห็นเขา เธอต้องการโทรกาเขาหลายครั้ง แต่เธอไม่รู้เบอร์ของเขา
“วันนี้ฉันมาหาคุณ แล้วต้องยอมเสียข่าวใหญ่เชียวนะ” เซี่ยวเหลยเดินขึ้นไปหาเย่โม่ราวกับว่าเธอต้องการได้รับค่าชดเชย
“มันมีความสำคัญมากที่ผู้สื่อข่าวผู้ยิ่งใหญ่เซี่ยวเรียกขานว่าข่าวใหญ่ เธอช่วยกระจายข่าวให้ฉันได้ไหม?” เย่โม่รู้สึกว่าคราวนี้เขารู้สึกสบายใจที่ได้เห็นเธอมากกว่า แต่ก่อนแม้ว่าเธอจะยังรักเขาอยู่ แต่เธอก็ไม่เคยมีสายตาเหมือนอย่างตอนนั้นอีกต่อไป เธออาจรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว
เซี่ยวเหลยยิ้ม “แน่นอน ฉันได้ยินเมื่อเช้านี้ว่า บริษัทลั่วเยวียกำลังจะมีงานแถลงข่าวเกี่ยวกับยาความงาม พวกเขาบอกว่าจะให้คำตอบที่น่าพอใจแก่ทุกคน คุณคิดว่านี่เป็นข่าวใหญ่ไหม?”
เย่โม่รู้สึกงุนงงและพูดอย่างไม่รู้ตัว “ทำไมฉันไม่รู้ละ?” เขาคิดทันทีว่าเป็นความคิดของยวีเมี่ยวตั๋น เธอคงไม่อยากปล่อยบริษัทเยวียนเปยไปง่ายๆ แต่นั่นเป็นสิ่งที่ดี มันสามารถรองรับรายงานของเซี่ยวเหลยได้
เซี่ยวเหลยปิดปากเธอขณะที่หัวเราะ “ฉันเพิ่งได้รับข่าวเมื่อเช้านี้เอง คุณไม่ได้อยู่ในวงการสื่อ คุณจะรู้ได้ยังไง?”
เมื่อเห็นว่ารอยยิ้มของเย่โม่เป็นเรื่องแปลกๆ เซี่ยวเหลยจึงหยุด
“ฉันเป็นประธานของบริษัทลั่วเยวีย เธอไม่คิดว่าฉันควรรู้เรื่องนี้ก่อนใครหรอ?” เย่โม่ยิ้ม
เซี่ยวเหลยกรอกตาไปมา “ตลกดีนะ บอกฉันว่าสิวันนี้คุณต้องการอะไรจากฉัน? คุณเป็นคนช่วยชีวิตของฉัน แค่คำเดียวและฉันก็มาจากปักกิ่งถึงย่านเหอเฟิงเชียวนะ คุณคิดว่าไงละ?”
เย่โม่พยักหน้า “น่าเชื่อถือมาก แต่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะพูดคุยกัน ไปที่ห้องพักเถอะ ฉันจะ -“
“อะไรนะ? ห้องหรอ?” รอยยิ้มของเซี่ยวเหลยลดลง เธอไม่คิดว่าเย่โม่เป็นคนแบบนั้น พวกเขาไม่ได้สนิทกันและพวกเขาจะไปเปิดห้องพักที่โรงแรมด้วยกันเนี้ยนะ นี้มันไร้สาระเกินไปมั้ย? แม้ว่าเธอจะมีความประทับใจที่ดีกับเย่โม่ แต่เขาก็แต่งงานแล้ว และแม้ว่าเขาจะไม่ได้แต่งงาน พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้ในเร็วๆนี้ด้วย (มโนวววววววว)
เย่โม่เห็นสีหน้าของเซี่ยวเหลย และรู้ว่าเธอเข้าใจผิด เขาพูดอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นนะ ฉันกำลังจองห้องพักเพราะบางสิ่งมันไม่สามารถพูดได้ในที่สาธารณะ ฉันบอกเธอว่าฉันรวบรวมหลักฐานบางอย่างใช่มั้ย? ฉันต้องการให้เธอช่วยฉันกระจายมัน (-_-)”
เซี่ยวเหลยอายทันที เธอกำลังคิดอะไรอยู่เนี้ย มันน่าอายเกินไป!
“คุณมีเรื่องของนายกเทศมนตรีหนิวจริงๆ -” เซี่ยวเหลยหยุดด้วยจิตใต้สำนึก เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถพูดแบบนั้นได้กลางถนน
เย่โม่พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร
เซี่ยวเหลยรู้สึกว่าเย่โม่กำลังพูดความจริง อย่างน้อยเธอก็บอกได้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น
“คุณ – คุณเป็นประธานของบริษัทลั่วเยวียจริงๆ หรอ?” เซี่ยวเหลยเพิ่งจำคำพูดของเย่โม่ได้และการแสดงออกของเธอก็แข็งทื่อไป
เย่โม่พยักหน้า “ที่จริงแล้วฉันเป็นประธานของบริษัทลั่วเยวียนะ ไม่ต้องกังวลว่ามันจะไม่เป็นอุปสรรคต่องานของเธอหรอกนะ งานแถลงข่าวที่บริษัทลั่วเยวียก็เป็นการบันทึกเสียงเดียวกันนั้นแหละ”
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในห้องพักย่านเหอเฟิง เซี่ยวเหลยตกตะลึงกับทรัพยากรของเย่โม่ เขาให้ชุดการบันทึกวิดีโอที่ชัดเจนและสมบูรณ์แบบให้กับเธอ ซึ่งแต่ละอันจะก่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองเลยละ
ที่จริงแล้วเย่โม่เป็นใครกันแน่? เธอไม่สามารถเข้าใจได้อีกต่อไป บริษัทลั่วเยวียเป็นบริษัทของเขาจริงๆ พวกเขาเพิ่งถูกโจมตีและเขาก็มีหลักฐานเพียงพอที่จะหมายหัวและจบชีวิตศัตรูของเขาแล้ว….เขามีพลังมากเกินไป
เมื่อเห็นเซี่ยวเหลยไม่พูดอะไร เย่โม่คิดว่าเธอกลัวเกินกว่าที่จะเปิดเผยข่าวพวกนี้และพูดว่า “อันที่จริงฉันไม่รู้ว่าบริษัทของฉันกำลังจัดงานแถลงข่าว ถ้าฉันรู้ ฉันจะไม่เชิญเธอมา ฉันแค่กลัวว่าถ้าสิ่งนี้ได้รับการเปิดเผยในหุบเขากุ้ยหลิน มันจะไม่มีอิทธิพลเท่ากับการทำในปักกิ่งนะ”
“ฉันจะทำมัน ฉันจะแจ้งผู้คนจากชาแนลทันทีเพื่อมาที่ย่านเหอเฟิง ฉันจะทำรายงานพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้” เซี่ยวเหลยรู้ทันทีว่าข่าวเหล่านี้มีค่ามากเพียงใด หากช่องข่าวของเธอเป็นช่องแรกที่รายงานสด ความนิยมของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“แต่ -” เซี่ยวเหลยลังเล มันเป็นเรื่องดีที่จะรายงานบริษัทเยวียนเป่ยที่ล้อมกรอบบริษัทลั่วเยวีย แต่สำหรับกรณีของหนิวม๋านเจริง มันไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้อย่างง่ายดาย เธอรู้ว่ามันเป็นหนึ่งในข้อห้ามในอุตสาหกรรม
เย่โม่สามารถบอกได้ว่าเซี่ยวเหลยกังวลแค่เพียงมองหน้าเธอเท่านั้น เขายิ้มและพูดว่า “รายงานตามที่เธอต้องการเลย ไม่ต้องกังวลนี่จะตีพิมพ์ในวุฒิสภาเหอเฟิง ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับอะไรเลยไม่มีใครกล้าพูดอะไร ถ้าเธอโชคดี เธออาจจะได้สัมภาษณ์ผู้นำของย่านเหอเฟิงและถ่ายทอดสดด้วยนะ”
“ตกลง ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันก็ไม่มีอะไรต้องกังวล” เซี่ยวเหลยมองเย่โม่ เธอรู้ว่าเย่โม่หมายความว่าเขาได้ให้หลักฐานแก่ศัตรูทางการเมืองของหนิวม๋านเจริงด้ยเช่นกัน
เย่โม่กล่าวอีกครั้งว่า “น่าจะมีคนไปสำรวจฐานการวิจัยใต้ดินของตระกูลเยวียนนะ หากทีมภาพของเธอสามารถทำได้ทันเวลา บางทีเธออาจจะได้ถ่ายทอดสดที่นั่นด้วยนะ ^^”
หากเยวียนจรือร่งรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลของการท้าทายบริษัทลั่วเยวีย บางทีเขาอาจไม่กล้าเลยก็ได้ แม้ว่าเขาจะมี 100 ชีวิตก็ตาม