Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง - ตอนที่ 449
บทที่ 449 : ถาม-ตอบ
เชียนฟ๋างฮันไม่ได้นึกถึงการแสดงออกที่ไม่แน่นอนของหนิวม๋านเจริง เขาเพียงพูดว่า “สำหรับเรื่องที่สองฉันจะพูดถึงมันหลังจากที่เราเสร็จสิ้นกับเรื่องแรกแล้ว ฉันมีความสุขมากที่ลี่ชุนเฉิงมาเหอเฟิงในทันที เขานำการลงทุนของบริษัทลั่วเยวียมาให้กับชานเมืองซีตง ฉันเชื่อว่าทุกคนรู้ถึงอำนาจของบริษัทลั่วเยวีย ด้วยเหตุนี้เราทุกคนจึงสามารถเห็นความทะเยอทะยานและความสามารถของนายกเทศมนตรีลี่”
ทุกคนตกใจและลี่ชุนเฉิงก็เช่นกัน นี่อะไริะ? เขาช่วยลี่ชุนเฉิงหรอ? ถ้าบริษัทลั่วเยวียทำดีเขาก็จะขอบคุณ แต่บริษัทลั่วเยวียมีปัญหาเพราะเรื่องอื้อฉาวเมื่อเร็วๆ นี้ ทำไมเขาถึงช่วยละ?
หนิวม๋านเจริงส่งเสียงไอออกมา เขารู้ว่าเขาต้องพูดก่อนที่เชียนฟ๋างฮันจะพูดจบประโยคที่สอง เขากล่าวว่า “ฉันก็มีความสุขมากที่นายกเทศมนตรีลี่นำบริษัทลั่วเยวียเข้ามา แต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วง เราไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร พวกเขาลุกขึ้นสู่ทั่วโลกในคืนเดียว นี่มันน่าสงสัยมากนะ”
“ฉันวางแผนที่จะสืบสวนอย่างเต็มที่ว่าใครเป็นคนแรกและพวกเขาก็นำเข้ามา แต่นายกเทศมนตรีลี่ก็ทำเช่นนั้นโดยไม่มีข้อควรระวังใดๆ เขาไม่มีข้อควรระวังที่เจ้าหน้าที่ของรัฐควรมี หากบริษัทลั่วเยวียสะอาด มันก็ดี แต่พวกเขานำความเดือดร้อนมาสู่ประชาชนของย่านเหอเฟิง มีผู้เสียชีวิต 6 รายและ 4 รายที่ใบหน้าเสียหาย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพวกเขาใช้ยาความงามของบริษัทลั่วเยวีย ซึ่งมี 2 กรณีในย่านเหอเฟิง”
“ฉันเสียใจมากที่สิ่งนี้เกิดขึ้น พ่อค้าใจร้ายพวกนี้เป็นเหมือนโรคระบาดสำหรับประเทศของเรา แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลของเราก็ไม่หยุดพวกเขา กลับพวกเขาเปิดประตูให้พวกเขาแทน หัวใจของฉันเจ็บปวดเมื่อฉันเห็นคนเหล่านี้ ประเทศให้คุณอยู่ที่นี่เพื่อให้คุณสร้างสถานที่ที่สงบและกลมกลืนสำหรับผู้คน ไม่ใช่เพื่อให้คุณอบอุ่นเตียงสำหรับศัตรูพืชพวกนี้ แม้ว่าฉันจะเป็นเพียงนายกเทศมนตรี แต่ฉันจะไม่อนุญาตสิ่งนี้”
หนิวม๋านเจริงนั่งลงด้วยความพึงพอใจ เขาต้องรอคำพูดของคนอื่นในที่ประชุม จากนั้นเขาก็จะค่อยๆกล่าวโทษลี่ชุนเฉิง เขาจัดครอบครัวของผู้ที่ได้รับความเสียหายให้มาที่นั่นและประท้วง ลี่ชุนเฉิงไม่มีทางจัดการกับมันได้ ทางออกเดียวคือออกจากเหอเฟิง
แปะๆๆๆ – สมาชิกหลายคนแม้แต่เชียนฟ๋างฮันปรบมือ
“นายกเทศมนตรีหนิว มันเป็นคำพูดที่ดี เราจะไม่อนุญาตให้ศัตรูพืพวกนี้เข้ามาในย่านเหอเฟิง! เราเป็นเจ้าหน้าที่ของประชาชน ถ้าเราขายคนเพื่อผลกำไรบางอย่าง เราจะแตกต่างจากสัตว์ยังไงละครับ” ฮุยชรังพูดด้วยใบหน้าแห่งความชอบธรรม
ด้วยสิ่งนี้ ก็มีสมาชิกเพิ่มอีกหลายคนสนับสนุนของพวกเขาสำหรับนายกเทศมนตรีหนิว แต่ความเชื่อมั่นของหนิวม๋านเจริงหายไปจากการแสดงออกของเขา เมื่อเขาเห็นว่ามีเพียง 5 ใน 10 คนที่อยู่ข้างๆเขา มันไม่ปกติ เขามักจะได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 8 คะแนน วันนี้มีนเกิดอะไรขึ้น?
เชียนฟ๋างฮันยิ้มและพูดว่า “นายกเทศมนตรีหนิว ถูกต้องแล้วละที่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ได้ทำงานเพื่อคนควรกลับบ้านและใช้ชีวิตเหมือนหนู นายกเทศมนตรีลี่ คุณมีอะไรจะพูดไหมครับ?”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ลี่ชุนเฉิงก็ยิ้ม เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเชียนฟ๋างฮันไม่ใช่แค่หุ่นเชิด ถ้าเขาไม่ทำอะไร เขาคนนั้นก็จะทำอะไรไม่ช้าก็เร็ว
ลี่ชุนเฉิงยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ก่อนที่ฉันจะพูดอะไร ฉันจะลงรายการบันทึกสั้นๆ”
…
แม้ว่าเหตุผลที่เซี่ยวเหลยมาถึงก็เพราะเธอต้องการที่จะกินอาหารกับเย่โม่ และแม้กระทั่งออกไปข้างนอกและเที่ยวเล่นด้วยกัน แต่หลังจากได้ยินเรื่องนี้เธอก็รู้ว่าข่าวชิ้นนี้เป็นโอกาสที่จะมีความหมายมากสำหรับเธอและช่องของเธอ
อาหารมื้อเย็นต้องเลื่อนออกไป ลำดับความสำคัญคือการทำให้ช่องของเธอส่งคนไป เธอเชื่อใจเย่โม่ ถ้าเขาบอกว่านายกเทศมนตรีลี่จะยอมให้สัมภาษณ์ เขาก็จะทำ
เย่โม่ไม่มีเวลากินอะไรกับเธอเลย เขาต้องไปดูตระกูลเยวียน แม้ว่าเขาจะทำงานของเขาได้แล้ว แต่หากตระกูลเยวียนค้นพบบางสิ่งบางอย่างและหนีไปในทันที มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะพบพวกเขา
…..
ในหุบเขากุ้ยหลิน งานแถลงข่าวเริ่มต้นเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น แม้จะมีการแจ้งให้ทราบสั้นๆ แต่ก็มีนักข่าวนับร้อยอยู่ที่นั่น แต่ส่วนใหญ่มาจากปักกิ่ง
“ทุกคนคะ ฉันเชื่อว่าเนื่องจากอิทธิพลของบริษัทลั่วเยวีย ทุกคนตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แม้ว่าบริษัทลั่วเยวียของเราจะไม่กล้าพูดถึงว่าเรามีเกียรติ แต่ทุกคนได้เห็นการมีส่วนร่วมกับผู้คนในโลกนี้ พวกเขาใช้วิธีการทุกอย่างเพื่อทำร้ายและบ่อนทำลายบริษัทของเรา” ยวีเมี่ยวตั๋นกล่าวอย่างง่ายดาย
“ประธานยวีครับ คุณหมายถึงว่าเรื่องอื้อฉาวเรื่องยาความงามและสุขภาพเป็นเพราะ บริษัทลั่วเยวียถูกโจมตีหรอครับ?” ผู้สื่อข่าวถาม
ยวีเมี่ยวตั๋นยิ้มและพูดอย่างมั่นใจ “จริงๆ แล้วนั่นคือสิ่งที่ฉันหมายถึงคะ”
ไม่มีใครคาดว่ายวีเมี่ยวตั๋นจะตอบแบบนั้น มันเป็นคำตอบที่คลุมเครือ
นักข่าวรายนี้ตกใจมาก หากเขารู้ว่ายวีเมี่ยวตั๋นจะพูดแบบนี้ เขาจะถามคำถามต่อไปแล้ว ใครอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้กัน? แต่ความสับสนของเขาทำให้เขาเสียโอกาส
ผู้สื่อข่าวที่อายุมากในวัย 30 ของเธอยืนขึ้น “ประธานยวีคะ ตามที่ฉันรู้ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทของคุณทำให้คน 6 คนเสียชีวิตและทำลายใบหน้าของคนอื่นอีก 4 คน ซึ่งดูเหมือนว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นด้วย คุณได้พยายามรับผิดชอบต่อพวกเขาบ้างรึเปล่าคะ?”
ยวีเมี่ยวตั๋นจ้องมองนักข่าวและกล่าวอย่างชัดเจนว่า “เหตุผลที่บริษัทของเราสามารถผลิตยาความงามและยาสุขภาพได้ เป็นเพราะมันมีอำนาจในการจัดการกับสิ่งต่างๆ เราจะไม่กล่าวโทษคนอื่น ฉันเห็นว่าผิวของคุณดูนุ่มนวลดีนิคะ ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าคุณมีผิวที่ดีเช่นนี้หรือว่าคุณใช้ยาความงามของเรากันน่า? ถ้าใช่ฉันขอถามนะคะ ทำไมคุณไม่ตายและใบหน้าคุณไม่เละละ?”
คำตอบที่คมชัดของยวีเมี่ยวตั๋น ทำให้ทุกคนหัวเราะ
ใบหน้าของนักข่าวเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอเปล่งเสียงของเธอดังขึ้นแล้วถามว่า “ประธานยวีคะ ถ้าทุกคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณมีผลข้างเคียง งั้นโลกนี้ก็คงเกิดความสับสนวุ่นวายแล้วละคะ นอกจากนี้ใครจะรู้ว่าเมื่อไรที่มันจะออกอาการ? แม้แต่มะเร็งก็ยังอยู่เฉยๆ ฉันถามว่า ประธานยวีกำลังตำหนิคนอื่นหรือไม่ ทำไมคุณหลีกเลี่ยงคำถามนี้หรอคะ? หรือคุณจะบอกเราว่าใครเป็นคนวางกรอบบริษัทของคุณ?”
ผู้สื่อข่าวตอบกลับอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น
“นั่นหมายความว่าคุณสงสัยว่ายาของเราผิดหรือเปล่าคะ?” ยวีเมี่ยวตั๋นถาม
ยวีเมี่ยวตั๋นพูดด้วยสีหน้าแปลกๆ “ฉันขอถามหน่อย เมื่อไหร่หรอคะที่คุณรู้เรื่องนี้? คุณมาจากช่องไหนไม่ทราบคะ?”
“เรานักข่าวต้องระวังคนอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ บริษัทลั่วเยวียได้เปิดเผยและฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณไม่จำเป็นต้องถามฉันว่าฉันมาจากช่องไหน ฉันสามารถบอกคุณได้ตรงๆเลยว่าฉันเป็นนักข่าวกลางคืนเหอเฟิง ลู่ชุยหยาง ฉันไม่กลัวการแก้แค้นของคุณหรอคะ” น้ำเสียงของเธอก็ตื่นเต้นมากราวกับว่า บริษัทลั่วเยวียกำลังจะแก้แค้นเธอ
ยวีเมี่ยวตั๋นยิ้มเยาะเย้ย “นักข่าวลู่ชุยหยางคะ ในเมื่อคุณตั้งแต่เมื่อวานว่ายาความงามของเรามีปัญหา แล้วทำไมเมื่อเช้านี้คุณถึงใช้มันละคะ?”
“คุณ- ไร้สาระน่า ฉันไม่ได้-” ใบหน้าของลู่ชุยหยาง กลายเป็นสีแดงอย่างสมบูรณ์
ยวีเมี่ยวตั๋นพูดอย่างเย็นชา “ฉันเป็นประธานของการผลิตยาความงาม ฉันจะไม่รู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของฉันได้ยังไง? หลังจากทานยาความงามอล้วภายใน 6 ชั่วโมงควรมีรอยแดงจางๆ บนผิวรอบคอ เพิ่มความน่าดึงดูดใจของผู้หญิง มันชัดเจนมากสำหรับคุณและเห็นได้ชัดว่าใช้เวลาน้อยกว่า 4 ชั่วโมง หากคุณไม่เชื่อฉัน เราสามารถทดสอบได้เดี๋ยวนี้เลย”
ทันทีที่ทุกคนมองลู่ชุยหยาง ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เธอพูดอะไรไม่ออกแล้ว