Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง - ตอนที่ 458
บทที่ 458 : การแข่งขันนิกายลี้ลับ
เย่โม่ค่อนข้างแน่ใจว่าเขาเดาถูก ถ้าหอทลายกำปั้นมีปรมาจารย์แบบนี้จริงๆ เขาจะต้องพยายามแก้แค้นแน่นอน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถรู้ได้ว่าเย่โม่มีฐานอำนาจในเมืองอสรพิษ แต่เขาก็น่าจะไปที่ตระกูลเย่ปักกิ่ง
แม้ว่าเขาจะไม่ไป เขาก็จะไปที่ตระกูลจรังเจียงซวนแน่นอน แต่ถ้าเขาไม่ได้ไปหาเขาหรือตระกูลจรัง สิ่งนี่มันจะแปลก
ใครบางคนที่สามารถฆ่าจรังจรือฮุยได้ต้องเป็นอย่างน้อยระยะหลังของขั้นปฐพี ซึ่งบุคคลประเภทนี้ไม่น่าจะกลัวเขา
เย่โม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในนิกายเตี๋ยนชางมันไม่สามารถแพร่กระจายออกไปได้ อย่างมากบางคนก็อาจรู้ว่าเขาฆ่าขั้นปฐพีระดับกลางและ สมาชิกขั้นปฐพีระดับต้นของนิกายธารา
ก่อนที่เย่โม่จะออกไป เขาต้องการเผาสถานที่แห่งนี้ให้ตาย แต่เพราะสมัยก่อนมันยากที่จะสร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาได้ เขาจึงไม่ได้ทำในท้ายที่สุด
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าใครจะฆ่าจรังจรือฮุย แต่เย่โม่ยังคงโทรหาซวี่เยวียฮวาเพื่อบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อที่เธอจะได้ตื่นตัวไว้
ก่อนที่เย่โม่จะกดโทรออกไป โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
เย่โม่ขมวดคิ้ว หมายเลขปกติจะโทรหาเขาไม่ได้ เป็นใครกัน?
“ประธานครับ โทรติดแล้วครับ!” ที่ไหนสักแห่งในคฤหาสน์ระดับสูงในปักกิ่ง ผู้โทรเข้ามาคว้าโทรศัพท์ด้วยความตื่นเต้น
“อะไรนะ? ฉันมาแล้ว ฉันมาแล้ว!” เกือบจะในทันที ฮานจั่ยชินรีบไปคว้ามัน
“พี่เย่ โทรศัพท์ของนายโทรเข้าถึงยากจริงๆ ฉันบอกคนของฉันให้โทรหานายตลอดเวลา 24/7 นานกว่า 10 ชั่วโมงเลย และในที่สุดมันก็ติด ฮ่าๆ! แต่ก็นั้นแหละ มันเป็นโชคของฉันที่โทรหานายติดอะนะ” เสียงหัวเราะร่าเริงของฮานจั่ยชินดังออกมา
เย่โม่พูดไม่ออก ฮานจั่ยชินนี้มีวิธีการของเขาจริงๆ ครั้งแรกที่เขามาฮ่องกง เขาโทรไม่หยุดพักหลายวัน และทันทีที่เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา มันก็ดังทันที
“ผู้อาวุโสฮาน คราวนี้เรื่องอะไรละ?” เย่โม่ถามอย่างหมดคำพูด ตอนนี้เขายุ่งมากจนเขาไม่สามารถรับมือกับสิ่งต่างๆ ของตัวเองและฝึกตนได้จริงๆ เขาไม่ต้องการให้มีเรื่องอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว
ฮานจั่ยชินหัวเราะอย่างเชื่องช้า “เฮ่ๆ ขอโทษนะ ฉันต้องการความช่วยเหลือจากนายจริงๆ คราวนี้ นายมาปักกิ่งสักหน่อย แค่แป๊บเดียวจริงๆ ฉันคิดว่านะ อ่า-“
เย่โม่หยุดเขาอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ผู้อาวุโสฮาน มันไม่ใช่สไตล์ของคุณเลยนะที่พูดติดอ่างแบบนี้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็พูดมา”
ฮานจั่ยชินจึงพูดว่า “ฉันต้องการความช่วยเหลือจากนายอย่างยิ่งจริงๆ นะ นายมาที่ปักกิ่งได้ไหมอะ? มันคุยโทรศัพท์ลำบาก…”
เย่โม่เงียบไป 2-3 วินาทีแล้วพูดว่า “โอเค รอก่อนแล้วกัน ผมจะไปช่วงบ่ายๆ”
ฮานจั่ยชินไม่ใช่คนเลวและเขาก็ช่วยเย่โม่หลายครั้ง แม้แต่ตอนที่สวรรค์ก็กำลังหาปัญหากับเขา ฮานจั่ยชินยังคงยืนเคียงข้างเขา ตอนนี้เขาต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก เย่โม่จึงต้องช่วย
เย่โม่ต้องการไปหนิงไห่และพาน้องสาวของเขา ทังเป่ยเวยไปที่เมืองอสรพิษ และทำการฝึกตนที่นั่นสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะไปยังนิกายลี้ลับภายใน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไปปักกิ่งได้เท่านั้น
เย่โม่จึงโทรหาซวี่เยวียฮวาก่อนที่จะไปปักกิ่ง
…..
ถึงแม้เย่โม่จะไม่รู้ว่าทำไมฮานจั่ยชินถึงต้องการเขา แต่เย่โม่ก็รู้ว่าฮานจั่ยชินรู้ว่าอะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เขาจะไม่รบกวนเขาด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แม้ว่าเขาจะช่วยเขาก็ตาม
ฮานจั่ยชินไม่ได้คาดหวังว่าเย่โม่จะมาอย่างรวดเร็ว เขาเพิ่งจะโทรไปเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อน แต่เย่โม่อยู่ในบ้านของเขาแล้ว สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจคือทุกครั้งที่เย่โม่มา พวกบอดี้การ์ดของเขาดูเหมือนจะเป็นเพียงการแสดงไปเลย
“นายเคาะประตูไม่ได้เหรอ?”
“คุณมีความสัมพันธ์อะไรในเวลากลางวันรึไง (- -)” เย่โม่ถามอย่างงงงัน และเริ่มจ้องฮานจั่ยชินขึ้นลง
“มีปัญหาอะไร!” ใบหน้าของฮานจั่ยชินเปลี่ยนไปเป็นสีดำ เขาเป็นนายพลสูงสุด แต่ตอนนี้เขาถูกตั้งคำถามว่าเขามีความสัมพันธ์ตอนกลางวันแสกๆ!
“ก็นะ ในเมื่อคุณไม่ได้ทำและเนื่องจากคุณเป็นคนที่โทรหาผม ทำไมต้องใส่ใจกับท่าทางที่ซับซ้อนบางอย่างด้วยละเนอะ บอกผมสิทำไมคุณถึงโทรหาให้ผมมาที่นี่วันนี้?”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ฮานจั่ยชินก็ยิ้มอย่างแจ่มใส มันทำให้เย่โม่สงสัยว่าเขาเป็นนักแสดงหรือเปล่า
“หยันเออร์ ไปช่วยชงชามาให้พี่เย่ทีสิ เอาชาชั้นดี West Lake Dragon Well ที่ตาแก่นั่นให้มาครั้งล่าสุดนะ” ฮานจั่ยชินรีบดึงเก้าอี้ให้เย่โม่นั่งทันที
เย่โม่นั่งลงแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสฮาน ไม่ต้องห่วงเรื่องชาตอนนี้หรอก บอกผมก่อนว่าทำไมต้องการตัวผม คุณรู้ไหมว่าผมยุ่งมากๆ ในช่วงนี้ ผมเพิ่งไปที่มณฑลเสฉวนก่อนมาเองนะ”
ใบหน้าของฮานจั่ยชินเปลี่ยนไปเป็นสีดำ เย่โม่กำลังพูดเรื่องไร้สาระ เวลา 1 ชั่วโมงจากมณฑลเสฉวนถึงปักกิ่ง? เขาหลอกใครห่ะ? แม้ว่าเย่โม่จะออกเดินทางด้วยเครื่องบินมันก็ใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมงด้วยซ้ำ
แต่ฮานจั่ยชินจะไม่เปิดเผยความคิดเหล่านี้ออกมา ดังนั้นเขาจึงพูดพร้อมกับยิ้มว่า “พี่เย่ รู้ไหมว่าสิ่งที่ฉันมีคือหลานสาวหยานหยานที่แสนเลอค่าของฉัน ในครั้งนี้ฉันต้องการให้นายช่วยเธอสักหน่อยนะ”
“พี่เย่ ได้โปรดดื่มชาสักหน่อยสิ” ฮานจั่ยชินนำถ้วยมังกรชาอุ่นๆ มาให้ และกลิ่นของมันก็ดีจริงๆ
เย่โม่มองที่ฮานหยันอย่างประหลาดใจและพูดว่า “พี่ฮาน หลานสาวของคุณก็ดูดีมากเลยนิ เธอต้องการความช่วยเหลือเรื่องอะไร?”
ฮานหยันได้ยินเรื่องนี้และดูเหมือนจะต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดก็ไม่ได้พูดออกมา ในอดีตเธอจะไม่สนใจคำพูดของเย่โม่ แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก
ฮานจั่ยชินถอนหายใจและพูดว่า “ฉันแน่ใจแล้ว พี่เย่ นายรู้เรื่องนิกายลี้ลับ แต่นายเคยได้ยินเกี่ยวกับการแข่งขันนิกายลี้ลับไหม?”
การแข่งขันนิกายลี้ลับ? เย่โม่ได้ยินเรื่องนี้มากกว่า 1 ครั้ง มันจะมีขึ้นทุกๆ 3 ปี ครั้งสุดท้ายที่เขาพบโม่คัง เขาบอกว่ามันเปลี่ยนสถานที่ทุกๆ 5 ปี และสถานที่นั้นเปลี่ยนไปเป็นเมือง สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับฮานหยันหรอ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่โมจึงพูดอย่างไม่รู้ตัวว่า “แน่นอนฉันรู้ แต่มันไม่ได้ผ่านไปแล้วเหรอ?”
“ผ่านไปแล้ว? ใครพูดอย่างนั้น?” ฮานหยันมองไปที่เย่โม่อย่างแปลกประหลาด
เย่โม่เกาจมูกของเขาอย่างงุ่มง่าม “ไม่รู้สิ ฉันคงได้ยินผิดมั้ง”
“ฉันรู้ว่านายจะรู้เกี่ยวกับมัน” ฮานจั่ยชินปรบมือและหัวเราะ
ฮานจั่ยชินกล่าวต่อว่า “ฮานหยันเป็นตัวแทนของนิกายเธอในทัวร์นาเมนต์นี้ และฉันต้องการให้นายช่วย”
“คุณต้องการให้ผมสอนเธอหรอ?” เย่โม่มองฮานหยันอย่างศึกษา พลังของเธอต่ำเกินไป ขั้นตติยสีเหลือง มาตรฐานนี้ต่ำจังนะ?
ฮานจั่ยชินลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้นแล้วพูดว่า “ถ้านายสามารถสอนเธอได้ มันจะดีมากเลยละ!”
เย่โม่โบกมืออย่างช่วยไม่ได้ทันที “ฉันฝึกทักษะต่างๆ ให้เธอ เพราะงั้นไม่มีประเด็นในการสอนอะไร บอกฉันสิ ฉันจะช่วยได้ยังไง”
แม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับฮานจั่ยชินจะไม่เลว แต่เขาก็ไม่ได้ทานยาเพิ่มลมปราณจำนวนมาก ดังนั้นถ้าฮานจั่ยชินพูดถึงตัวเขาเอง เขาจะไม่ใช้มัน
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ฮานจั่ยชินก็รู้สึกผิดหวัง แต่ใบหน้านั้นก็จางหายไปทันที เขากล่าวอย่างกระตือรือร้น “นิกายของหยันเออร์ ชื่อว่านิกายกวงฮั่น มันเป็นนิกายที่เล็กมากแม้ว่ามันจะเป็นนิกายลี้ลับภายนอก แต่ก็จัดอยู่ที่ด้านล่างสุด นิกายของเธอสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ทุกๆ 3 ครั้งเท่านั้น ซึ่งก็คือ 9 ปี ตอนนี้มันเป็นเวลา 5 ปีในระหว่างการแข่งขันทุกครั้ง นิกายกวงฮั่นสามารถมาได้ทุกๆ 2 ครั้ง ในแต่ละครั้งพวกเขามีตำแหน่งเดียวเท่านั้น”
เย่โม่ขมวดคิ้ว “ถ้ามันมีอคติแล้วทำไมต้องไป?”
ฮานหยันยิ้มอย่างขมขื่น “เพราะรางวัลมันดีมาก ในแต่ละครั้งหากคุณสามารถเข้าสู่ 30 อันดับสูงสุดได้ คุณจะได้รับยาขั้นสีดำ และรางวัล 500 ล้านรางวัลสำหรับ 10 อันดับแรกที่ชนะ และวิธีฝึกตนขั้นปฐพีอยู่ด้านบนสุด 3 อันดับแรกที่สามารถเข้าสู่บ่อน้ำจิตวิญญาณเพื่อฝึกตนเป็นเวลา 3 เดือนได้มีการกล่าวว่า 1 เดือนในนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่า 1 ปี นอกนอกจากนี้ทุกคนได้รับยาเพื่อไปถึงขั้นปฐพี นี่ไม่ใช่แม้แต่สิ่งที่สำคัญ! สิ่งสำคัญคือรางวัลลับที่ว่า 30 อันดับแรกล้วนมีโอกาสได้รับ”
เย่โม่คิด ‘นั่นอาจจะเป็นจิตวิญญาณดีรึเปล่า?’ ถ้าเป็นเช่นนั้น ไม่ว่านิกายลี้ลับจะทรงพลังขนาดไหน เขาก็จะทำเพื่อตัวเอง ส่วนรางวัลอื่นๆ เย่โม่ไม่สนใจ
“ความจริงแล้ว สิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดคือยาขั้นสีดำที่มีคุณภาพสูง ฉันไม่ได้หวัง 10 อันดับแรกหรอก” ฮานหยันพูดออกมา
“ถ้างั้นทำไมเธอไม่ไปแข่งขันละ ฉันจะช่วยอะไรเธอได้?” เย่โม่ถามอย่างแปลกใจ
ฮานหยันพูดด้วยความอับอาย “เพราะในช่วงระยะเวลาการแข่งขันมีการฆ่าบ่อยครั้งก่อนการแข่ง ดังนั้นแต่ละนิกายจะส่งหัวหน้าไว้ปกป้องผู้เข้าแข่งขัน เราไม่มีปรมาจารย์ในนิกายของเราและอาจารย์ของฉันก็ยังคงฟื้นตัวจากความล้มเหลวในการเข้าถึงขั้นปฐพีอยู่…”
“เพราะงั้นเธอเลยต้องการให้ฉันปกป้องเธองั้นสิ?” เย่โม่ถาม