Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง - ตอนที่ 472
บทที่ 472 : การมีส่วนร่วม
เย่โม่รู้ว่าด้วยอารมณ์ของเซียงหมิงหวัง เขาจะโกรธถ้ามีใครสงสัยว่านิกายของเขาเป็นอันดับ 1
และที่ก็จริง เซียงหมิงหวังตะโกนอย่างดุเดือดว่า “แกกล้าดียังไงห่ะ?! ถ้ำน้ำเต้าของเรามีต้นกำเนิดมาจากจุดจบของราชวงศ์ฮั่น จั่วฉือ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี! นิกายปกติจะมาเปรียบเทียบได้ยังไง!?”
ผู้อาวุโสที่อยู่ถัดจากเซียงหมิงหวังลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ประมุข แค่ต้องการพูดถึงว่านิกายของเราผ่านมานานกว่า 2000 ปี เขาไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกนิกายใดๆ เลย”
เซียงหมิงหวังดูเหมือนจะตระหนักว่าคำพูดของเขาไม่เหมาะสมและเขาจ้องมองที่เย่โม่
เย่โม่ยิ้มและพูดต่อไปว่า “แต่ตาแก่เซียง แกเพิ่งพูดว่าถ้ำน้ำเต้าของคุณนั้นถูกสร้างขึ้นเมื่อ 100 ปีก่อน แต่ตอนนี้มันเป็น 2000 ปีแล้ว นี่ไม่ใช่ว่าแกกำลังโกหกฉันและทุกๆ คนอยู่หรอกหรอ?”
“แก -” เซียงหมิงหวังชี้ไปที่เย่โม่ “ฉัน เซียงหมิงหวัง ไม่เคยโกหก แหล่งกำเนิดของถ้ำน้ำเต้าของเราพบได้เมื่อ 1800 ปีที่แล้ว แต่ฉันบอกว่าเราสร้างถ้ำเมื่อ 100 ปีก่อนมีอะไรผิดปกติห่ะ?”
เย่โม่ส่ายหัว “ฉันไม่รู้ว่ามันถูกหรือผิด แต่ฉันไม่เข้าใจ”
เซียงหมิงหวังรู้ว่าเย่โม่ตั้งใจพูดอย่างนั้นและหัวเราะด้วยความโกรธ “เอาล่ะ ฉันจะทำให้แกเข้าใจเอง 120 ปีที่แล้วบรรพบุรุษคนแรกของถ้ำน้ำเต้าของเราพบซากปรักหักพังโบราณของบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ จั่วฉือ และดังนั้นเขาจึงก่อตั้งส่วนหนึ่งที่ถ้ำน้ำเต้า นี่คือข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ผู้คนรู้ ฉันจะโกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมละ?”
ทันใดนั้นผู้อาวุโสคนอื่นๆ ของเซียงหมิงหวังก็สงสัยในบางสิ่งบางอย่าง ทำไมเย่โม่ถึงถามเรื่องนี้?
ก่อนที่เขาจะสามารถดำเนินการต่อในความคิดของพวกเขา เย่โม่ก็พูดอีกครั้ง “งั้นจั่วฉือก็ต้องผ่านสิ่งต่างๆมากมายเลยสิ ใช่มั้ย?”
เซียงหมิงหวังเยาะเย้ย “นั่นมันเรื่องของเรา!”
ผู้คนเริ่มเข้าใจแล้วในสิ่งที่เย่โม่พยายามจะพูด แต่เซียงหมิงหวังก็ตื่นเต้นเกินกว่าจะตระหนักได้
เย่โม่แสยะยิ้ม งั้นเรื่องมันก็เป็นแบบนี้เอง นิกายลี้ลับทั้งหมดต้องเกิดขึ้นจากสิ่งที่ผ่านไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างวิธีการฝึกตนด้วยตนเอง
“โอเค ตอนนี้ฉันได้ยินคำพูดของประมุขเซียงแล้ว ฉันรู้สึกละอายใจอย่างมากและชื่นชมความซื่อตรงของเขา เขาพูดถูก ผู้ที่พบซากโบราณของเชียนเปยควรแบ่งปันกับทุกคน เป็นเรื่องดีที่ฉันไม่เข้าใจสายเกินไป หรือไม่งั้นฉันก็คงจะรู้สึกละอายใจเกินไปที่จะเผชิญหน้ากับเพื่อนจอมยุทธ์ชาวจีนของฉัน”
เย่โม่ยืนขึ้นและป้องมือของเขา “ฉันได้แจกกริชและยาไปแล้ว แต่จริงๆ แล้วฉันก็มีมรดกน้อยมากน้อยกว่าถ้ำน้ำเต้าซะอีก ตอนนี้ประมุขเซียงกล่าวว่าถ้ำน้ำเต้าได้ผ่านมา 2,000 ปี เขาจะต้องแบ่งปันสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ากับทุกคนได้แน่ ฉันตื่นเต้นที่จะเห็นตัวเองจัง และเคารพอย่างสุดซึ้งจริงๆ ฉันเชื่อว่าทุกคนที่นี่รู้สึกเหมือนกันนะ”
จากนั้น เย่โม่ก็มองที่เซียงหมิงหวัง และพูดว่า “ประมุขเซียง ตอนนี้ถึงตาคุณแล้วที่จะบริจาคสิ่งที่คุณสืบทอดมา ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะได้สิ่งต่างๆ จากประมุขเซียง แต่ตอนนี้คุณควรกตัญญูนะ ^^”
“แก! เย่โม่ แกอยากเล่นกับฉันมากสินะ แกคิดว่าดาบของฉันมันไม่คมรึไง!” เซียงหมิงหวังตระหนักถึงสิ่งที่เย่โม่กำลังทำอยู่ และดึงดาบของเขาออกมาอีกครั้ง
เย่โม่ยืนขึ้นและจ้องมองอย่างเย็นชาที่เซียงหมิงหวัง และกล่าวว่า “ก็ที่ประมุขเซียงพูดก็คือการหมายถึงคนอื่นๆ ต้องมีส่วนร่วมในมรดกของพวกเขานิ แต่คุณจะต้องเก็บไว้เองหรอ? ตรรกะอะไรไม่ทราบ? ฉันจะถามทุกคนที่นี่ ให้เป็นพยาน ถ้าทุกคนคิดว่ายังไงกับสิ่งที่ประมุขเซียงมีอยู่ และเขาจะเก็บไว้เอง แต่สิ่งที่ฉันได้รับ ฉันควรให้กับทุกคน งั้นฉันก็จะไม่มีอะไรจะพูดแล้วละ”
ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เย่โม่หมายถึง แต่ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูด
เย่โม่หัวเราะ “ในเมื่อไม่มีใครพูดอะไรเลย มันก็หมายความว่าประมุขเซียงก็ควรมีส่วนร่วมในมรดกของคุณเช่นกัน?”
ใบหน้าของเซียงหมิงหวังเป็นสีเขียว เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะโยนก้อนหินไป แล้วมันจะมาบดขยี้ที่เท้าของเขาเอง ไอ้สางเลว มันเจ้าเล่ห์มาก! เซียงหมิงหวังคิดในใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ปล่อยเย่โม่ไปเด็ดขาด!
เมื่อเห็นใบหน้าของเซียงหมิงหวังโดยไม่ต้องค้นหาคำพูดใดๆ ที่เหมาะสมที่สุด ฉากนั้นก็เงียบอย่างประหลาด ไม่มีใครอยากคุยในเวลานี้ เย่โม่บังคับให้เซียงหมิงหวังเข้าจนมุม
ชายที่นั่งถัดจากเซียงหมิงหวังกระซิบคำไม่กี่คำในหูของเขา และการแสดงออกของเซียงหมิงหวังก็สงบลง
เขามองเย่โม่อย่างกระทันหันและหยิบกระเป๋าที่อยู่ติดกับเขาออกมา และพูดว่า “แกพูดถูก เราควรมีส่วนร่วม เเราตัดสินใจแล้วว่าจะนำทุกสิ่งที่เราต้องการแลกเปลี่ยนออกมา แต่แกละ สามารถนำสิ่งอื่นออกมาได้ไหม?”
สัมผัสจิตวิญญาณของเย่โม่ได้สแกนกระเป๋านี้แล้ว เขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ถ้ำน้ำเต้ากำลังจะแลกเปลี่ยน เป้าหมายของเขาคือการให้ตาแก่ลงโลงนี้เอากระเป๋าใบนี้ออกมมา และตอนนี้มันก็สำเร็จ
จากนั้นเย่โม่มองไปที่กระเป๋าข้างๆ เขาและคว้ามันอย่างหวุดหวิด “ฉันซื้อขายทุกอย่างแล้ว มีเพียงหม้อที่เหลืออยู่ในกระเป๋าของฉัน”
หลังจากพูดอย่างนี้แล้ว เย่โม่ก็ ‘ตั้งใจ’ ปล่อยให้ทุกคนได้ยินเสียงอาวุธปะทะกัน เซียงหมิงหวังแสยะยิ้ม “บางทีผู้คนอาจจะชอบห้มอพวกนั้นนะ หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกส่งต่อจากบรรพบุรุษของเรา แล้วเราจะนำทุกอย่างที่เรามีมาวางบนโต๊ะเพื่อแลกเปลี่ยนกับทุกคนที่นี่”
แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการแลกเปลี่ยน แต่เซียงหมิงหวังรู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะให้เย่โม่แลกเปลี่ยนอาวุธและยาทั้งหมดในกระเป๋าของเขา เขาจะไม่เชื่อว่าเย่โม่จะแบกหม้อหนึ่งใบมาที่นี่ เว้นแต่มันเป็นเด็กบ้า เมื่อมองดูใบหน้าที่เยือกเย็นของเย่โม่ เขาก็รู้ว่ามีอาวุธและยาเม็ดเหล่านั้นอยู่ภายใน
ใบหน้าของเย่โม่ดูมีปัญหา แต่หันไปหาหวังเลิ๋นชรัน “นี้หวัง ฉันไม่ต้องพูดถึงประวัติตระกูลหวังของคุณ ฉันก็แน่ใจว่าทุกคนรู้เรื่องนี้แล้ว คุณจะไม่ไปมีส่วนร่วมในทักษะการต่อสู้โบราณของจีนอย่างฉัน และประมุขเซียงใช่ไหม?”
เย่โม่กำลังขู่เข็ญ ที่จริงเขาไม่รู้ว่าตระกูลหวังได้รับมรดกจากซากปรักหักพังโราณด้วยหรือไม่
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของหวังเลิ๋นชรันก็เปลี่ยนไป เขายังมีสิ่งของเหลืออยู่ 2/3 ในกระเป๋าที่ยังไม่ได้แลกกับสิ่งที่เขาต้องการ เขาจะสูญเสียมากถ้าเขาเอามันออกมาทั้งหมด
เซียงหมิงหวังมั่นใจว่าเย่โม่ไม่ต้องการทำสิ่งใดเลย ดังนั้นเขาจึงพูดกับหวังเลิ๋นชรัน “พี่หวัง บางทีกริชหนึ่งก็อาจคุ้มค่ากับทุกอย่างนะ”
หวังเลิ๋นชรันเข้าใจความคิดของเซียงหมิงหวังทันทีและตระหนักว่าต้องใช้ 1 กริชและยาเม็ดเดียวเพื่อรับคืนทุกอย่างและอื่นๆบ้าง เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็เอากระเป๋าไปวางบนโต๊ะ
ใบหน้าของเย่โม่ดูแย่ยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เต็มใจ เขาเอามือของเขาใส่ในกระเป๋าราวกับว่าอยากจะซ่อนอะไรบางอย่าง แต่เสียงอาวุธก็ดังขึ้นและยังไม่มีอะไรอื่นอีก ทุกคนมองไปที่เขา ซึ่งมันไม่มีกลอุบายที่เขาสามารถเล่นตุกติกได้
ทุกคนต่างก็มองเย่โม่ว่าเขาเป็นตัวตลก
หวังเลิ๋นชรันล้างลำคอของเขาและพูดว่า “เราเอาของของเราออกไปแล้ว แต่ถ้ามีใครสักคนที่จะขึ้นราคาสินค้าของพวกเขาและไม่ยอมให้ใครซื้อ มันจะไม่ทำให้คำก่อนหน้านี้ของเราทั้งหมดไม่มีค่าอะไรเลยเหรอ?”
เย่โม่ยืนขึ้นทันที “มันเป็นทรัพย์สินของคุณเอง ดังนั้นคุณก็ต้องตัดสินใจเรื่องราคา”
“ไม่ นั่นจะทำให้การสนทนาทั้งหมดของเราไร้ค่า ฉันคิดว่าราคาควรจะเป็น -“
“ควรจะเป็นอะไร? ทำไมคุณไม่เพียงแค่พูดว่ามันฟรีละ? ใครก็ตามที่ต้องการมัน สามารถรับไปได้เลย” เย่โม่แสยะยิ้ม
“ตกลง เราจะทำอย่างนั้น! เนื่องจากมันมีไว้สำหรับการพัฒนาทักษะการต่อสู้โบราณของจีน เราควรสนับสนุนมันอย่างสมบูรณ์แบบ มันจะไม่นับเป็นการสนับสนุนหากไม่ฟรี” หวังเลิ๋นชรันพูดออกมา