Summoning the Holy Sword - ตอนที่ 104
104 – กลุ่มสี่คน
ผลลัพธ์ในการสืบออกมาโดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน ไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากพวกเขาก่อเรื่องที่ตรงหน้าสมาคมทหารรับจ้างและมีผู้คนเป็นพยานมากมาย พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกและพยายามสืบหาต้นตอต่อ
เซเร็คปวดหัวมาก เขาอยากโน้มน้าวให้โรดส์ไปไกล่เกลี่ยกับกลุ่มเจดเทียร์ แต่เขาไม่คิดว่าโรดส์ที่เคยเป็นคนคุยด้วยง่ายๆจะเมินเฉยต่อเขา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มคนนี้ถึงเปลี่ยนไปราวกับคนละคนโดยที่ไม่มีเหตุผล
ในขณะเดียวกัน กลุ่มทหารรับจ้างเจดเทียร์สงบนิ่งอย่างไม่คาดคิด แม้ว่าทหารรับจ้างมากมายจะโกรธแค้น แต่เนื่องจากหัวหน้าของเขาได้รับบาดเจ็บและไม่ได้สติอยู่ พวกเขาจึงไม่มั่นใจในสิ่งที่ควรทำ ถ้าหัวหน้าของเขาที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขามากมาย ได้พ่ายแพ้ให้กับโรดส์ พวกเขาจะทำอะไรได้?
สำหรับโรดส์ เขาเศร้ามากที่ไม่สามารถทำการสังหารแฟรงค์ได้
เขารู้ดีว่าแฟรงค์กำลังจะทำอะไรในอนาคต ถ้าเขาสามารถกำจัดแฟรงค์ตั้งแต่ตอนนี้ ประเทศแห่งแสงจะไม่สามารถสร้างปัญหาในเมืองดีพสโตนได้อย่างน้อยอีก 1 ปี
ในเวลา 1 ปีนี้ เขาจะปรับปรุงเมืองดีพสโตนให้แข็งแกร่งเพียงพอที่จะต่อกรกับประเทศแห่งแสงได้
อย่างไรก็ตาม แผนของเขาล้มเหลว ตามสิ่งที่ชายชราวอร์คเกอร์บอกมา เขาจำเป็นต้องพักรักษาตัวเพียง เดือนเท่านั้น โรดส์รู้สึกว่ามันสั้นเกินไป
เขาได้จัดการยั่วยุให้เกิดสงครามระหว่างทั้งสองกลุ่มได้สำเร็จ ซึ่งเป็นไปตามแผน
ในความเป็นจริง เมื่อโรดส์รับรู้ว่าแฟรงค์เป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเจดเทียร์ เขาได้พยายามหาทางสร้างปัญหาขึ้น ในอนาคต เขาจึงจะโจมตีเจดเทียร์ที่พยายามพาคนของประเทศแห่งแสงเข้ามาได้ ถ้าเขาทำเรื่องนี้โดยไม่มีเหตุผล อีกฝ่ายอาจจะสงสัยในตัวโรดส์ แม้ว่าโรดส์จะรู้สิ่งที่ประเทศแห่งแสงกำลังวางแผนจะทำ แต่เขายังไม่อยากเปิดเผยให้คนอื่นได้รับรู้
โรดส์ตัดสินใจใช้วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการตั้งใจประเทศสงครามกับเจดเทียร์ สำหรับฝ่ายตรงข้ามที่เป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่ไม่ธรรมดา เขาต้องขัดขวางแผนของพวกมันโดยไม่ถูกจับได้
ถ้าประเทศแห่งแสงพบว่าโรดส์รู้แผนของพวกเขา พวกเขาจะใช้วิธีต่างๆมากมายพยายามทำให้เขาเงียบลง อย่างไรก็ตาม แต่ถ้ามันมีบางอย่างเกิดขึ้น เช่น การมีเรื่องกันระหว่างกลุ่มทหารรับจ้าง พวกเขาจะไม่เสี่ยงที่จะถูกเปิดเผยตัวพวกเขา
มันเหมือนกับการต่อสู้ระหว่างแก๊งยากูซ่า 2 แก๊ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะต่อสู้กัน ถ้ามีคนส่ง FBI หรือ CIA ไปช่วยหนึ่งในพวกเขา อีกฝ่ายหนึ่งคงสงสัยเป็นแน่
ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนบังลังก์ของเมืองโกลเด้นไม่ได้โง่ นั่นเป็นเหตุผลที่ประเทศแห่งแสงอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของเธอ
ตอนแรกโรดส์คิดหนักมาในการหาวิธียั่วยุกลุ่มเจดเทียร์โดยไม่ใช้กำลัง แต่เขาไม่เคยคิดว่าบาร์นนี่พร้อมเสิร์ฟตัวเองไว้บนจานมาให้เขาเลย
หลังจากที่ปะทะกัน โรดส์รู้สึกมั่นใจว่าเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่วุ่นวายนี้
อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่เหนือความคาดหมายของเขาคือ ทัศนคติของกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มอื่น
ปกติแล้วในกลุ่มอื่นๆจะมีการต่อสู้ในลักษณะนี้ระหว่างกลุ่มอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่น่าแปลกคือกลุ่มทหารรับจ้างมากมายเปิดเผยตัวว่าได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทหารรับจางเจดเทียร์อย่างชัดเจน
นี่ทำให้โรดส์แปลกใจมาก แต่หลังจากที่คิดเรื่องนี้ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขสทำแบบนั้น
เกือบๆจะ 2 ใน 3 ของกลุ่มทหารรับจ้าง 32 กลุ่มในเขตภาฟิวด์ได้รับความเสียหายหนักมาก อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้ เจดเทียร์ได้ใช้เงินมหาศาสและจ้างเหล่าทหารรับจ้าง มันเหมือนกับรนำเกลือไปโรยบนแผล
ถ้าเจดเทียร์เป็นเหมือนกับสตาร์ไลท์ที่กลับมาจากสันเขาแห่งความเงียบได้โดยไม่ได้รับความเสียหาย บางทีสถานะของพวกเขาอาจจะแตกต่างไปจากนี้ อย่างไรก็ตาม เจดเทียร์ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนสตาร์ไลท์ พวกเขาใช้เงินเพื่อจ้างเหล่าทหารรับจ้างซึ่งทำให้กลุ่มมากมายไม่พอใจ
ไม่ว่าใครที่ออกไป พวกเขาจะแสดงสีหน้าออกมาอย่างน่ารังเกียจ
มีการนินทามากมายเกี่ยวกับเจดเทียร์อยู่ในร้านเหล้าเพราะเนื่องจากเหล่าทหารรับจ้างต่างตกอยู่ในสภาพไม่ได้สติเพราะฤทธิ์น้ำเมา พวกเขาไม่มีทางเลือกได้แต่บ่นออกมาอย่างลับๆ ขณะที่เจดเทียร์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วกลายเป็นกลุ่มทหารรับจ้างชั้นนำ เพียงแค่จำนวนอย่างเดียว พวกเขาก็นับไม่หมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่คิดว่าสตาร์ไลท์จะปรากฎตัวขึ้นและฉีกหน้าเจดเทียร์ การออกมาในครั้งนี้ทำให้พวกเขาพึงพอใจมาก มีบางคนยินดีช่วยเก็บกวาดขยะให้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องสนใจและสนับสนุนพวกเขาจากด้านหลังพอ แม้ว่าโรดส์จะเข้าใจว่าการสนับสนุนเล็กๆน้อยๆนั้นจะดูไม่มีความหมาย แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว มันทำให้สมาคมมองเจดเทียร์ในทิศทางที่ไม่ดีมากขึ้น และนั่นเพียงพอสำหรับโรดส์ เนื่องจากพวกเขาต้องรับมือในจุดนี้เพื่อจัดการกับเจดเทียร์ในอนาคต
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้
“ที่นี่…สินะ?”
เด็กสาวเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่งดงามของเธอเผยให้เห็นสีหน้าไม่สู้ดี เธอกำชุดคลุมแน่นและมองไปที่บ้านหลังใหญ่ตรงหน้าเธอ ถัดจากเธอเป็นเด็กหนุ่มที่ถูกปกคลุมไปด้วยชุดคลุมกำลังลูบหัวของเด็กสาวอย่างอ่อนโยน
“อืม….อืมมม”
แม้ว่าเธอจะพยักหน้า สีหน้าของเธอไม่ได้ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย ดูจากสภาพภายนอกแล้ว เด็กหนุ่มข้างเธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น จากนั้นเขามองไปยังพรรคพวกของเขาอีก 2 คน เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านั้นก็กังวลเช่นกัน
คนทั้งสี่นี้มีอายุไล่เลี่ยกันและพวกเขากำลังสวมชุดคลุมของทหารรับจ้าง ชายหนุ่มและหญิงสาวตรงหน้าดูคล้ายกับพี่น้องกัน พี่ชายแบกธนูไม้เก่าและห้อยมีดบิน 5-6 เล่มไว้ที่เอว ชุดคลุมสีเขียวถูกคลุมไปที่หัวและร่างกายของเขา เหลือไว้เพียงคางที่เผยออกมา ดูเหมือนกับเรนเจอร์เป็นอย่างมาก ขณะที่เด็กสาวด้านข้างแต่งกายคล้ายกับเขา เธอไม่ได้มีบรรยากาศเรนเจอร์เหมือนพี่ชาย
เธอจับมือของเขาแน่นและมองไปรอบๆ เธอทำตัวคล้ายกับเด็กที่เพิ่งหนีออกจากบ้านมา
คนอื่นๆด้านหลังอีก 2 คนเป็นนักดาบที่สวมชุดเกราะหนัก ขณะที่อีกคนเป็นโชรที่กำลังหาวอยู่และคุกเข่าอยู่บนพื้น
แม้ว่าแต่ละคนจะมีสีหน้าแตกต่างกัน แต่พวกเขาทั้งหมดต่างมองไปยังคฤหาสน์เก่าตรงหน้าของพวกเขา
ผู้มาใหม่ทั้ง 4 คนอยากเข้าร่วมกับสตาร์ไลท์ ก่อนหน้านี้ พวกเขาเป็นคนของมาร์คไวท์และเป็นผู้ติดตามของแอน
ในขณะนั้น ทั้งสี่คนรู้สึกสับสนอย่างมาก
มาร์คไวท์เป็นกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มแรกของพวกเขา ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์การผจญภัยมาก่อน นั่นทำให้พวกเขาตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างและเป็นแอนที่คอยช่วยพวกเขาและพาพวกเขามาสมัคร จากนั้นพวกเขาได้ใช้ชีวิตในฐานะทหารรับจ้างเรื่อยมา ในตอนแรกพวกเขาคิดมาหลายวันก่อนที่จะมาลงเอยแบบนี้ พวกเขานั้นประหลาดใจมากที่หัวหน้าเก่าได้ตายลงแบบฉับพลันและสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา การต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าทำให้แอนอึดอัดจและสับสน นั่นทำให้พวกเขากังวลเกี่ยวกับเธอ แต่ในฐานะผู้มาใหม่ พวกเขาไม่มีสิทธิ์มาพูดเกี่ยวกับความเห็นของพวกเขา พวกเขาจึงได้แต่ดูว่ากลุ่มของเขาจะปล่อยแอนไปแบบไหน
ต่อมาเมื่อการแย่งชิงจบลง หัวหน้าคนใหม่ถูกแต่งตั้งขึ้นและเริ่มเก็บกวาดคนของหัวหน้าคนก่อนและไล่พวกเขาไปอยู่กับกลุ่มทหารรับจ้างอื่น นี่รวมถึงทั้งสี่คนที่มาอยู่ด้านหน้าประตูในตอนนี้
ในที่สุดพวกเขาได้คุยกับชายชราวอร์คเกอร์ เนื่องจากพวกเขาอยู่ที่มาร์คไวท์ได้ไม่นาน พวกเขาจึงตัดสินใจมาตามแอน
แต่ทว่าพวกเขาไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเราเข้าร่วมกับสตาร์ไลท์ พวกเขาพบว่ามีเรื่องเกิดขึ้นเกี่ยวกับสตาร์ไลท์ ในขณะที่บางส่วนเป็นเรื่องที่ดี เช่นการฆ่าทหารรับจ้างของเจดเทียร์ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่ธรรมดา แต่แล้วถ้าหัวหน้าคนใหม่ของพวกเขาเป็นคนโหดร้ายและทารุณล่ะ?
แต่เนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือก หลังจากที่ถูกไล่ออกมาจากมาร์คไวท์และกังวลเกี่ยวกับแอน พวกเขาจึงทำได้เพียงออกมาเผชิญกับโชคชะตา
เมื่อพวกเขาทั้งสี่มาถึงทางเข้า ทหารรับจ้างผมแดงเดินออกมา เธอมองไปยังพวกเขาทั้งสี่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม มือขวาของเธอจับไปที่ดาบและขวางทางของพวกเขาเอาไว้
“พวกคุณเป็นใคร? แล้วมาทำอะไรที่ฐานบัญชาการของสตาร์ไลท์?”
“เอ่ออออ….”
ชอว์น่าแก่กว่าพวกเขาเพียงไม่กี่ปี แต่เนื่องจากเธอเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างมาก่อน พลังอำนาจที่ออกมาจากเสียงของเธอยังคงมีอยู่ ไม่ต้องพูดถึงคนที่กำลังอยู่ตรงหน้าเธอ พวกเขาเป็นมือใหม่ที่มีประสบการณ์ได้เพียง 1 ปีเท่านั้น
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาที่แหลมคมของชอว์น่า เด็กสาวที่สวมชุดคลุมรีบหลบไปด้านหลังพี่ชายทันที พี่ชายของเธอไอเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้น
“ขอโทษนะครับ คุณผู้หญิง แต่พวกเราเป็น–”
“คุณคือชอว์น่า หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเรดฮอว์คไม่ใช่เหรอ!?”
ก่อนหน้าที่เขาจะพูดจบ เรนเจอร์คนนั้นอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเธอเห็นชอว์น่า
“พวกคุณเป็น….”
ชอว์หน้ามองพวกเขาด้วยความสงสัยและถามออกมา
“พวกเราเป็นผู้ติดตามเก่าของแอนครับ พวกเรามาที่นี่เพื่อ…”
“อ่า เป็นพวกคุณนี่เอง”
ชอว์น่าพยักหน้าหลังจากที่ได้รับการยืนยันตัวตน เธอวางมือที่กำลังจับไปที่ดาบลงและหันหน้าไปทางคฤหาสน์
“ตามฉันมา”
ภายใต้การนำของชอว์น่าทั้งสี่คนได้เข้ามายังคฤหาสน์และ ด้วยการตกแต่งภายในของคฤหาสน์ทำให้พวกเขาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
เหตุผลที่กลุ่มทหารรับจ้างของโรดส์โด่งดังเป็นเพราะว่าฐานบัญชาการของพวกเขาเป็นบ้านผีสิงแห่งตระกูลไซริลเก่า ด้วยชื่อนี้ บ้านหลังนี้โด่งดังในเรื่อง ‘ผีๆ’
นี่เป็นเหตุผลที่ทั้งสี่คิดว่าบ้านน่าจะเก่าและผุผุง แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นด้านในกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใบแมงมุมหรือเฟอร์นิเจอร์เก่าๆเลย สิ่งที่พวกเขาเห็นมีเพียงโซฟาที่ดูนุ่มสบายและสนามหลังบ้านที่ดูสะอาดสะอ้าน มันอาจจะไม่ได้ดูหรูหรา แต่อย่างน้อยมันก็เรียบร้อย ไม่มีใครเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้จะเคยเป็นบ้านผีสิงในตำนานที่โด่งดังเป็นอย่างมาก
“คุณชอว์น่าครับ”
เมื่อมองไปยังสายผมแดง เรนเจอร์หนุ่มลังเลก่อนจะถามขึ้นมา
“ทำไม…คุณถึงมาอยู่สตาร์ไลท์เหรอครับ?”
“เพราะว่าเรดฮอว์คได้ถูกยุบไปแล้วน่ะสิ”
ชอว์น่ายักไหล่และตอบคำถามของเรนเจอร์หนุ่ม แม้ว่าเธอจะตอบอย่างสบายๆ แต่ยังคงมีประกายความเศร้าแฝงอยู่ด้วย เพราะว่านั่นเป็นกลุ่มทหารรับจ้างทที่เธอทุ่มเทเลือดเนื้อ หยาดเหงื่อและน้ำตาไปกับมัน ตอนนี้มันได้จากไปแล้ว เธอจึงรู้สึกเศร้าสร้อย
ทั้งสี่ครอดรู้สึกเศร้าในน้ำเสียงของเธอไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงหยุดถาม เด็กสาวลอบมองพี่ชายตัวเองอย่างลับๆ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังต่อว่าพี่ชายของเธอเพราะเรื่องที่ควรพูดและไม่ควรพูด หลังจากที่เห็นน้องสาวของตน เรนเจอร์หนุ่มส่ายศีรษะ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องทันที
“คุณชอว์น่าครับ หัวหน้าของสตาร์ไลท์เป็นคนแบบไหนเหรอครับ?”
ชอว์น่าหยุดเดิน ทั้งสี่คนที่กำลังตามหลังเธอต้องหยุดไปด้วย พวกเขามองไปยังหญิงสาวผมแดงอย่างสงสัยและรอให้เธอพูด หลังจากนั้นชอว์น่าหันกลับมา แต่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคิด เธอกำลังยิ้ม!! นั่นหมายความว่าอะไรกัน?
“อืมม….การอธิบายคุณโรดส์นั้นเป็นเรื่องยาก นั่นเป็นเพราะฉันเพิ่งมาอยู่กับเขาได้ไม่นาน แต่ฉันให้คำแนะนำให้พวกคุณได้อย่างหนึ่ง”
“โปรดบอกมาได้เลยครับ”
ทั้งสี่เริ่มกังวลขึ้นมาทันที
“ข้อแรก คุณโรดส์มีอายุเท่าๆกับพวกเรา แต่อย่าได้ดูถูกเขาไป เขาสามารถพึ่งพาได้จริงๆ…แล้วจดไว้เลยนะเขายิ้มยากและอีกเรื่องหนึ่ง ไม่พูดอะไรเกี่ยวกับใบหน้าของเขาต่อหน้าเขา….นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก–เป็นเรื่องสำคัญที่สามารถตัดสินชีวิตของพวกคุณได้เลย”
“…..”
ทั้งสี่อดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมาเลย แม้แต่รอยยิ้มของโจรก็เริ่มหายไปอย่างช้าๆ
เด๋กสาวที่ซ่อนตัวอยู่หลังพี่ชายอดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า หน้าของเขามันแก่กว่าหรือว่าอ่อนกว่า ผู้หญิงสนใจเรื่องรูปร่างภายนอกอยู่ตลอดเวลา
“มันไม่ใช่แบบนั้น”
ชอว์น่ายิ้มออกมาอย่างขมขื่นและโบกมือ หลังจากที่คิดได้ครู่หนึ่ง เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ทุกคนฟังอย่างไร
“ยังไงก็เถอะ….ฉันหวังว่าพวกคุณทุกคนจะจำเรื่องพวกนี้ไว้นะ เขาเป็นผู้ชาย อย่าเข้าใจผิดจากการมองของพวกคุณ”
หลังจากที่พูดจบ ชอว์น่าเปิดประตู
“เข้าไปสิ คุณโรดส์กำลังรออยู่”